คาถาบูชาดวงชะตา นี้มีที่มาจาก คาถาพิชัยสงคราม หรือ ดวงพิชัยสงคราม ที่แปลให้เข้าใจได้ง่ายว่า “ดวงชนะศึก” เป็นคาถาเปลี่ยนดวงชะตา หรือบางคนก็เรียกว่า คาถาพลิกดวงชะตา เพราะเชื่อกันว่ามีอำนาจพระพุทธคุณ ช่วยให้เรื่องร้ายกลายเป็นดี ป้องกันเคราะห์ร้าย ภัยอันตรายต่าง ๆ ได้ ทุกคนน่าจะเคยได้ยินชื่อพระคาถาบูชาดวงชะตากันมาบ้างแล้ว แต่วันนี้เรามาศึกษาตำนานที่มา และคาถาบูชาดวงชะตา ของเก่าที่ถูกต้องกันดีกว่า
หัวข้อต่างๆ ของบทความนี้
การบูชาดวงชะตา ดวงพิชัยสงคราม คืออะไร
การบูชาดวงชะตา หรือที่มีที่มาจาก ดวงพิชัยสงคราม คือการเขียนยันต์ดวงเพื่อผูกดวงชะตา ใช้แก้ดวงชะตาจากร้ายให้กลายเป็นดี เสริมพลังให้แก่ดวงชะตาของผู้ที่ผูกดวง ซึ่งมีการคำนวน อินทภาส บาทจันทร์ คำนวนคัมภีร์สุริยยาตร์ และคำนวนมหาจักรตรีโลกศาสตร์ โดยการทำดวงพิชัยต้องลงคาถากำกับธาตุทั้ง 4 และอาการหัวใจ 32 ในยันต์ดวงพิชัยสงครามเพื่อบูชาดวงชะตา อีกทั้งยังมีพิธีปลุกเสกเลขยันต์ตามสูตรเฉพาะของพิธีการบูชาดวงชะตา
ตำนานคาถาบูชาดวงชะตา (คาถาพิชัยสงคราม)
คาถาบูชาดวงชะตา เป็นคาถาที่สมเด็จพระพนรัตน์ วัดป่าแก้ว เคยถวายสมเด็จพระนเรศวรก่อนออกศึก และยังเป็นคาถาเดียวกับคาถาบูชาดวงชะตาของ หลวงพ่อเดิม พุทธสโร วัดหนองโพ จังหวัดนครสวรรค์ และ หลวงปู่โง่น โสรโย วัดพระพุทธบาทเขารวก จังหวัดพิจิตรอีกด้วย
มีตำนานเล่าขานกันว่า เมื่อครั้งนานมาแล้วในช่วงที่บ้านเมืองย่ำแย่ ข้าวยากหมากแพง ฝนไม่ตกตามฤดูกาล ประชาชนได้รับความเดือดร้อน อดอยากจนถึงต้องปล้นกันเอง ในขณะนั้นเป็นฝ่ายข้าศึกก็เล็งเห็นว่าเป็นโอกาสที่เหมาะสมที่จะยึดครองเมืองได้ง่ายจึงเคลื่อนกำลังมาประชิดเมือง ส่งผลให้ประชาชนพลเมืองต่างหวั่นกลัว หลายฝ่ายลงความเห็นกันว่าควรจะยอมแพ้แก่ข้าศึกเสียดีกว่าเพื่อที่จะรักษาชีวิตของประชาชนเอาไว้ แต่แล้วทางฝ่ายทหารต่างลงความเห็นกันและยอมเสียสละชีวิตเพื่อปกป้องบ้านเมือง ด้วยกำลังคนและอาวุธที่ด้อยกว่าข้าศึกทำให้ทหารหมดกำลังใจและเกือบจะพ่ายแพ้ให้แก่ข้าศึก
องค์พระประมุขเห็นดังนั้นจึงให้โหรจัดทำดวงชาติให้แก่แม่ทัพนายกองที่จะต้องปกป้องบ้านเมืองทุกคนเพื่อเป็นขวัญและกำลังใจ และรักษาบูชาไว้ในพระนคร ซึ่งถือว่าศักดิ์สิทธิ์และเป็นของสูงคู่ควรบูชาไว้แต่เฉพาะพระมหากษัตริย์
แต่แล้วสิ่งที่ไม่มีใครคาดคิดก็ปรากฎ ทั้งท้องฟ้าและอากาศเกิดความวิปริตขึ้น ทั้งพายุและฝนกระหน่ำลงอย่างไม่ลืมหูลืมตา ติดต่อกันเป็นเวลา 3 วัน 3 คืนจนน้ำท่วมสูงถึงลำคอ จนเมื่อพายุและฝนสงบลง ภาพที่เห็นคือทหารของข้าศึกได้หนีกลับไปกันหมด บ้างก็ถูกลมพายุและกระแสน้ำพัดพาไป ทั้งช้าง ม้า และเหล่าทหารก็เสียชีวิตกันเป็นจำนวนมาก ที่ยังมีชีวิตอยู่ก็ไม่มีกะจิตกะใจจะรบเอาชนะต่อไปแล้ว
จากเหตุการณ์ปฏิหาริย์ในครั้งนั้น ทำให้เป็นที่เชื่อกันว่าเป็นอานุภาพแห่งการปฏิบัติบูชาดวงชะตาที่คำนวณบรรจุไว้ในมหายันต์พุทธมนต์ ส่งผลให้บ้านเมืองรอดพ้นจากเงื้อมมือของข้าศึกมาได้อย่างหวุดหวิดและถือเป็นปาฏิหาริย์ครั้งใหญ่ที่ช่วยให้เหล่าทหารได้ชัยชนะมาอย่างน่าอัศจรรย์ พระมหากษัตริย์จึงได้ทรงถือเอาเหตุมงคลครั้งนั้นมาพระราชทานนามแก่ดวงชะตานี้ว่า “ดวงพิชัยสงคราม”
นับตั้งแต่นั้นมา ดวงพิชัยสงคราม หรือการบูชาดวงก็กลายเป็นสิ่งที่หลายคนปรารถนา เสาะหามาเพื่อบูชาเพื่อส่งเสริมและเป็นศิริมงคลแก่ตนเอง เพราะมีความเชื่อกันว่ามีอิทธิผลทั้งเมตตามหานิยมและช่วยป้องกันอันตรายต่าง ๆ เสริมดวงเสริมพลังให้แก่ผู้ที่บูชาได้
ประสบการณ์คาถาบูชาดวงชะตา
เชื่อกันว่าคาถาบูชาดวงชะตามีอำนาจพระพุทธคุณพลิกดวงชะตา เสริมดวงชะตาให้ก้าวหน้าในตำแหน่งหน้าที่การงาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งอาชีพจำพวก ข้าราชการ ตำรวจ ทหาร ให้พบแต่ความเจริญก้าวหน้า รุ่งเรือง เสริมบารมี อำนาจ วาสนา แคล้วคลาดจากเรื่องร้าย ทำธุรกิจก็จะประสบความสำเร็จ หากมีเรื่องต้องขึ้นโรงขึ้นศาลก็ช่วยได้ คู่คดีจะแพ้ภัยตนเอง
ได้มีข้าราชการคนหนึ่งได้เล่าประสบการณ์เกี่ยวกับคาถาบูชาดวงชะตาไว้ว่า ตนมักพลาดหวังกับตำแหน่งหน้าที่การงานที่คาดหวังไว้อยู่เป็นเวลาหลายปีมาก แต่เมื่อมีโอกาสได้ทำดวงพิชัยสงครามและหมั่นสวดมนต์ ภาวนาถือศีลบวชชีพราหมณ์ โดยตนได้สวดคาถาบูชาดวงชะตาอย่างเคร่งคัด จนกระทั่งหนึ่งปีหลังจากนั้นก็ได้เลื่อนตำแหน่งขึ้น
*ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับวิจารณญาณส่วนบุคคลด้วย
วิธีสวดคาถาบูชาดวงชะตา เพื่อเสริมดวงชะตา
เพื่อเสริมดวงชะตา ให้ทำการผูกดวงชะตาของตน โดยมีวิธีการดังต่อไปนี้
- เขียนชื่อและนามสกุลไว้ใต้ดวงชะตา หรือดวงที่เรียกว่า “ดวงพิชัยสงคราม”
- เอาดวงชะตาบรรจุ หรือวางตั้งไว้ข้างฐานพระพุทธรูป (โดยห้ามวางใต้ฐานพระเด็ดขาด เพราะจะทำให้ดวงชะตาเหมือนถูกกดทับ)
- ควรวางให้ต่ำกว่าพระพุทธรูปองค์อื่น (ห้ามวางสูงหรือเสมอ)
- วางไว้ในที่ที่สมควรเช่น หิ้งพระ หรือ โต๊ะหมู่บูชา (ห้ามวางหน้าห้องน้ำหรือในห้องนอน)
- เมื่อจะบูชาดวงชะตาจึงกล่าวคาถาบูชาดวงชะตา ดังต่อไปนี้
คาถาบูชาดวงชะตา หลวงพ่อเดิม (ของเก่า)
(ท่องนะโม 3 จบ)
นะโม เม สัพพะเทวานัง
สัพพะคะระหะ จะ เทวานัง
สุริยัญจะ ปะมุญจะถะ
สะสิ ภุมโม จะ เทวานัง
วุโธ ลาภัง ภะวิสสะติ
ชีโว สุกะโร จะ มะหาลาภัง
โสโร ราหูเกตุ จะ มะหาลาภัง
สัพพะ ภะยัง วินาสสันติ
สัพพะทุกขัง วินาสสันติ
สัพพะโรคัง วินาสสันติ
ลักขะณา อะหัง วันทามิ สัพพะทา
สัพเพเทวา มัง ปาละยันตุ สัพพะทา
เอเตนะ มังคะละเตเชนะ สัพพะโสตถี ภะวันตุ เมฯ
จำนวนครั้งที่สวดพระคาถาบูชาดวงชะตา ให้สวดตามกำลังวัน คือ วันจันทร์ สวด 15 จบ วันอังคาร สวด 8 จบ วันพุธ สวด 17 จบ วันพฤหัสบดี สวด 14 จบ วันศุกร์ สวด 21 จบ วันเสาร์ สวด 10 จบ วันอาทิตย์สวด 6 จบ
หากใครยังไม่ได้บรรจุดวงชะตา ก็สามารถสวดบทคาถาบูชาดวงชะตาได้เพื่อเป็นการเพิ่มพลังให้กับดวงชะตาของเรา ช่วยผ่อนหนักให้กลายเป็นเบาได้ ถือเป็นที่พึ่งทางใจอย่างหนึ่ง หากเราหมั่นสวดมนต์ ถือศีล เจริญภาวนาสมาธิเป็นประจำ จะช่วยให้เรารู้สึกดีมีกำลังใจได้ เพราะคนที่คิดดีทำดีก็จะมีแรงดึงดูดแต่สิ่งที่ดี ๆ เข้ามาแน่นอน
ข้อมูลจาก teeneemodoo.com