ถ้าพูดถึงแท็บเล็ตยอดนิยมที่ผู้คนใช้กันมากมายนั้นก็คงจะหนีไม่พ้น iPad เพราะด้วยฟังก์ชั่นการใช้งานต่าง ๆ รวมถึงแอปฯ ที่ตอบโจทย์และครอบคลุมการใช้งานอย่างมาก แต่บางรุ่นหรือแท็บเล็ตออกใหม่ราคาก็สูงไปสักหน่อยและเกินกว่าความจำเป็น ซึ่งเราอาจจะไม่จำเป็นต้องซื้อ iPad ราคาสูงเพื่อให้ได้แท็บเล็ตที่ดีที่สุดสำหรับความต้องการของคุณ เพราะยังมียี่ห้อและรุ่นอื่น ๆ ที่น่าซื้อน่าใช้ ไม่ว่าคุณจะเป็นแฟน Apple หรือ Android ก็ตาม เรามีtablet ราคาถูก สเปคดี 2023 มาแนะนำกัน ว่าซื้อรุ่นไหนดีที่คุ้มค่าคุ้มราคาที่สุด
หัวข้อต่างๆ ของบทความนี้
เคล็ดลับ 5 ข้อในการเลือกซื้อแท็บเล็ตราคาถูก สเปคดี 2023 ให้เหมาะสม
ปัจจุบันมีแท็บเล็ตหลายรุ่นให้เลือกใช้จากผู้ผลิตอย่างน้อยหลายสิบราย และแม้ว่าตัวเลือกทั้งหมดนี้จะเป็นตัวเลือกที่ดี แต่ก็ทำให้การเลือกแท็บเล็ตที่เหมาะสมดูเหมือนเป็นงานยาก ด้วยแท็บเล็ตจำนวนมากในท้องตลาด แน่นอนว่าต้องมีหนึ่งรุ่นที่เหมาะกับความต้องการและงบประมาณของคุณ แต่เราจะค้นหาแท็บเล็ตที่เหมาะกับตัวเองที่สุดได้อย่างไร มาดูเคล็ดลับ 5 ข้อในการเลือกแท็บเล็ตที่เหมาะสมกัน
1. พิจารณาราคา
นอกจากควรกำหนดงบประมาณสำหรับแท็บเล็ตที่ต้องการแล้ว การพิจารณาราคากับความคุ้มค่าก็สำคัญ เพราะแท็บเล็ตราคาสูงแม้ว่าจะสเปคสูงตาม แต่นั่นอาจเกินความต้องการในการใช้งานของเรา ลองเลือกรุ่นที่เหมาะสมตามงบแล้วดูจากประสิทธิภาพและความสามารถของรุ่นที่ใกล้เคียงกัน เพราะมีแท็บเล็ต 2023 รุ่นไหนดีราคาถูกให้เลือกมากมาย อย่าลืมพิจารณาในเรื่องของระยะเวลาในการรับประกันสินค้า รวมถึงสิ่งที่ได้รับการคุ้มครองและสิ่งใดที่ไม่ครอบคลุม เพื่อให้ได้แท็บเล็ตที่แม้จะราคาถูกแต่ก็คุ้มค่าที่สุด
2. เปรียบเทียบขนาดและรูปลักษณ์
แม้ว่าคุณจะวางแผนที่จะซื้อแท็บเล็ตทางออนไลน์ แต่เราแนะนำให้ไปที่ Store หรือร้านค้าปลีกอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ เพื่อดูแท็บเล็ตที่คุณกำลังพิจารณาให้ละเอียดยิ่งขึ้น และก่อนไปเลือกซื้อควรมีตัวเลือกในใจว่าต้องการแท็บเล็ตจอใหญ่ หรือต้องการแท็บเล็ตขนาดเล็กที่ใส่ลงในกระเป๋าเป้ หรือกระเป๋าทำงานได้อย่างง่ายดาย รวมถึงต้องการอุปกรณ์ที่ทนทานเล็กน้อยเพื่อนำไปใช้ทำงานนอกสถานที่ หรือต้องการแท็บเล็ตที่บางและเบาที่สุดเท่าที่จะทำได้ ซึ่งหน้าจอแท็บเล็ตขนาดเล็กมีขนาดตั้งแต่ 7 นิ้วถึงประมาณ 10 นิ้ว และมีน้ำหนักแตกต่างกันไป ลองเปรียบเทียบขนาดจอและน้ำหนักตัวเครื่อง และเลือกให้เหมาะกับกิจกรรมและการใช้งานของคุณ
3. เปรียบเทียบแอปฯ และระบบปฏิบัติการ
สิ่งแรกที่ต้องทำคือเลือกว่าระบบปฏิบัติการใดที่เหมาะกับคุณ ไม่ว่าจะเป็น Android, Windows หรือ Apple iOS โดยทั่วไป ถ้าคุณต้องการทำงานให้เสร็จบนแท็บเล็ตของคุณ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการสร้างหรือจัดการเอกสารและสเปรดชีต แท็บเล็ต Windows อาจเป็นตัวเลือกที่เหมาะสม แม้ว่าคุณจะสามารถอ่านเอกสาร Word บน iPad ได้อย่างง่ายดาย แต่ก็ต้องซื้อแอปฯ เพิ่มเพื่อทำการแก้ไขไฟล์เอกสาร ในขณะที่แท็บเล็ตที่ใช้ Android 3.0 สามารถจัดการไฟล์ Office ด้วยความช่วยเหลือของแอปฯ ที่ต้องซื้อ เช่น Documents To Go 3.0 ซึ่งให้ผู้ใช้สร้าง ดู และแก้ไขเอกสาร Word, สเปรดชีต Excel และงานนำเสนอ PowerPoint ได้ ในขณะที่ iPad ยังคงเป็นที่ชื่นชอบสำหรับการเล่นเกมและมัลติมีเดีย แม้ว่าแท็บเล็ต Android อย่างซัมซุงแท็ปจะตอบสนองได้ดี และมีความละเอียดหน้าจอที่สูงกว่า iPad รวมถึงมีความเร็วในการประมวลผล แต่สิ่งหนึ่งที่ Apple เป็นผู้นำที่ไม่อาจโต้แย้งได้คือร้านแอปฯ ซึ่งมีแอปฯ มากกว่า 140,000 แอปฯ สำหรับ iPad หากคุณต้องการใช้แอปฯ หรือโปรแกรมบางอย่างในการใช้งานที่จำเป็นสำหรับที่ทำงานหรือโรงเรียน iPad อาจเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด
4. เปรียบเทียบคุณสมบัติ
เมื่อคุณตัดสินใจเลือกใช้ระบบปฏิบัติการแล้ว การเปรียบเทียบคุณสมบัติและคุณลักษณะต่าง ๆ ที่ต้องการในแท็บเล็ตก็จะง่ายขึ้น หากเลือกใช้แท็บเล็ต Android หรือ Windows ต้องเปรียบเทียบคุณลักษณะต่าง ๆ ของแต่ละยี่ห้อ เพื่อดูว่าแท็บเล็ตแต่ละรุ่นทำงานได้ดีแค่ไหน ดูข้อมูลจำเพาะ เช่น อายุการใช้งานแบตเตอรี่ การเข้าถึง Wi-Fi ความจุพื้นที่จัดเก็บ และความเร็วในการประมวลผล ตลอดจนคุณสมบัติพิเศษ เช่น กล้องและอุปกรณ์เสริมต่าง ๆ
5. พิจารณาถึงการใช้งาน
หากสิ่งที่คุณอยากทำบนแท็บเล็ตคือท่องเว็บ เช็คอีเมล หรือดูภาพยนตร์และเนื้อหาสตรีมมิ่งอื่น ๆ แท็บเล็ตแทบทุกรุ่นก็สามารถทำงานได้ แต่เมื่อต้องการการใช้งานที่เฉพาะเจาะจงมากขึ้น อาจต้องพิจารณาให้ละเอียดถี่ถ้วนถึงแต่ละรุ่นและยี่ห้อ ไม่ว่าจะต้องการแท็บเล็ตไว้เพื่อการทำงาน เรียนหนังสือ หรือใช้ทั่วไปก็ตาม สิ่งเหล่านี้สามารถช่วยให้เรากำหนดทุกอย่างตั้งแต่ระบบปฏิบัติการที่ดีที่สุดไปจนถึงขนาดหน้าจอที่เหมาะสม ดังนั้น ให้เริ่มต้นด้วยการทำลิสต์รายการงานและกิจกรรมที่สำคัญในการใช้งานแท็บเล็ต แล้วมาคำนึงถึงลำดับความสำคัญเหล่านั้นผ่านคุณสมบัติต่าง ๆ ของแท็บเล็ตแต่ละรุ่น เพื่อให้เราเลือกได้ง่ายขึ้น
วิธีทดสอบแท็บเล็ต
ตั้งแต่ iPad Pro ที่แพงที่สุดในตลาด ไปจนถึงแท็บเล็ตราคาประหยัด การให้ความสำคัญกับการทดสอบแท็บเล็ตเป็นสิ่งสำคัญ นั่นเป็นเพราะว่าแท็บเล็ตที่ดีที่สุดในปัจจุบันไม่ใช่อุปกรณ์แบบมิติเดียว แต่เป็นคอมพิวเตอร์ทรงพลังที่ใช้งานได้หลากหลาย และผู้ใช้จำนวนมากขึ้นที่ซื้อแท็บเล็ตเหล่านี้เพื่อใช้เป็นอุปกรณ์คอมพิวเตอร์หลัก เราจึงควรทดสอบแท็บเล็ตด้วยว่าตรงตามเกณฑ์ที่ระบุไว้หรือไม่ ดังนี้
1. ดูคุณภาพรวมถึงอุปกรณ์เสริมที่มาพร้อมในกล่อง
ตรวจสอบดูว่าแท็บเล็ตมีอะไรบ้างในแง่ของฮาร์ดแวร์ ซึ่งรวมถึงหน้าจอและส่วนประกอบภายใน ส่วนในแง่ขององค์ประกอบหลัก ควรทดสอบในเรื่องของ CPU, GPU, RAM, ความจุของแท็บเล็ต และความจุของแบตเตอรี่ อายุการใช้งานแบตเตอรี่ เราสามารถใช้เวลา 6 ชั่วโมง 41 นาทีในการสตรีมวิดีโอความละเอียดสูงผ่าน Wi-Fi ที่ความสว่างเต็มที่ และควรใช้งานแบตเตอรี่ต่อเนื่องได้อย่างน้อย 10-11 ชั่วโมง อย่าลืมดูด้วยว่าอุปกรณ์เสริมนั้นได้มาครบหรือไม่
2. เปรียบเทียบแท็บเล็ตและดูว่ามันทำงานอย่างไรในชีวิตจริง
ลองสตรีมวิดีโอ เล่นเกม แก้ไขรูปภาพ ท่องอินเทอร์เน็ต ทำงาน และอื่น ๆ ในระหว่างการใช้งาน และเปิดหน้าต่างหลายสิบหน้าต่าง เพื่อดูว่าการทำงานหลายอย่างพร้อมกันทำงานได้ดีเพียงใด และแท็บเล็ตสามารถสลับไปมาระหว่างแอปฯ ต่าง ๆ ได้ง่ายดายแค่ไหน สามารถเรียกใช้แอปฯ ที่สร้างสรรค์และเป็นมืออาชีพได้โดยไม่มีปัญหา นอกจากนี้ควรสัมผัสวัสดุและน้ำหนักของตัวเครื่องด้วยว่าเหมาะแก่การพกพาหรือไม่
3. ทดสอบระบบปฏิบัติการและซอฟต์แวร์ของแท็บเล็ต
สิ่งเหล่านี้เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้แท็บเล็ตแต่ละรุ่นมีประสิทธิภาพแตกต่างกัน เช่นเดียวกับคุณสมบัติที่เพิ่มขีดความสามารถในวงกว้าง หากเราทำการทดสอบเครื่องแล้วและได้คะแนนสูง ก็จะถือว่านั่นอาจเป็นแท็บเล็ตที่ดีที่สุดและเหมาะสมที่สุดสำหรับเรา
6 รุ่นแท็บเล็ตราคาถูก สเปคดี 2023 มีไว้ใช้คุ้มค่าแน่นอน
1. Apple iPad 10.2
ถ้าคุณยังต้องการ iPad เป็นตัวเลือกแรก แท็บเล็ตราคาถูกที่จะแนะนำคือ iPad 10.2 หรือในทางเทคนิคก็คือ iPad 8 เป็นแท็บเล็ตราคาประหยัดที่ดีที่สุดเพราะมีความคุ้มค่าคุ้มราคา รวมถึง iPad gen 7 ราคา ที่ถูกและเป็นวิวัฒนาการของรุ่นก่อน ๆ มีข้อมูลจำเพาะบางอย่างเหมือนกัน มีอายุการใช้งานแบตเตอรี่ 10 ชั่วโมงเท่ากัน กับความจุแบตเตอรี่ 8827 mAh มาพร้อมชิป Apple A12 Bionic ให้ประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้น 40% และประสิทธิภาพกราฟิกเป็นสองเท่า ขนาดหน้าจอ 10.2 นิ้ว ความละเอียด 1620 x 2160 พิกเซล พื้นที่เก็บข้อมูล 32GB และ 128GB น้ำหนักเบาเพียง 495 กรัม นอกจากนี้รุ่นนี้ยังใช้งานได้กับ Apple Pencil รุ่นแรก และยังรองรับ Smart Keyboard อีกด้วย ถ้าถามว่าแท็บเล็ต 2023 รุ่นไหนดีราคาถูกก็ต้องบอกว่ารุ่นนี้เลย เพราะทั้งราคาสบายกระเป๋าและยังคุ้มค่าอีกด้วย
ราคาเริ่มต้นที่ : 10,900 บาท
2. Apple iPad Air
อีกหนึ่งแท็บเล็ตราคาถูก สเปคดี 2023 ต้องรุ่นนี้เลย Apple iPad Air แท็บเล็ตที่ดีที่สุดสำหรับคนส่วนใหญ่ มาพร้อมคุณสมบัติเดียวกันมากมายจาก iPad Pro ที่มีราคาแพงกว่า เช่น ขอบจอบาง ไม่มีปุ่มโฮม USB-C สำหรับชาร์จ และรองรับ Apple Pencil 2 นอกจากนี้ยังเพิ่มประสิทธิภาพที่คล้ายกันด้วยชิป A14 Bionic ทำให้การตัดต่อวิดีโอและรูปภาพขนาดใหญ่ราบรื่น มาพร้อมหน้าจอ LCD ขนาด 10.9 นิ้ว ความละเอียด 2360 x 1640 พิกเซล จอแสดงผลให้ประสบการณ์การวาดภาพที่เป็นธรรมชาติมากขึ้น เนื่องจากมีระยะห่างระหว่างกระจกกับพิกเซลน้อยกว่า มีพื้นที่เก็บข้อมูล 64GB และ 256GB น้ำหนักตัวเครื่อง 458 กรัม เบาและมีสไตล์ หากคุณกำลังมองหาแท็บเล็ตจอใหญ่ไม่มาก ที่ใช้งานแบบรอบด้านได้อย่างยอดเยี่ยมในราคาระดับกลาง ก็ต้องรุ่นนี้เลย
ราคาเริ่มต้นที่ : 19,900 บาท
3. Samsung Galaxy Tab S6 Lite
Samsung Galaxy Tab S6 Lite เป็นแท็บเล็ตราคาถูก สเปคดี 2023 รุ่นราคาประหยัดของ Samsung ด้วยการออกแบบที่บางและโฉบเฉี่ยวเหมือนกับ Apple iPad มาพร้อมหน้าจอขนาด 10.4 นิ้ว ความละเอียด 2000 x 1200 พิกเซล มีปากกา S Pen สำหรับการจดบันทึกที่ง่ายดาย การเชื่อมต่อ USB-C และคุณภาพงานสร้างระดับพรีเมี่ยม S6 Lite ยังให้การใช้งานแบตเตอรี่ที่น่าประทับใจยาวนานถึง 13 ชั่วโมง กับความจุ 7,040 mAh ใช้ชิปเซ็ต Exynos 9611 และระบบปฏิบัติการ Android 10 มีพื้นที่เก็บข้อมูล 64GB ตัวเครื่องน้ำหนักเบาเพียง 459 กรัม รุ่นนี้จัดว่าเป็นซัมซุงแท็ปหนึ่งในแท็บเล็ต Android ที่ดีที่สุด
ราคาเริ่มต้นที่ : 11,990 บาท
4. Samsung Galaxy Tab A7
หากคุณต้องการแท็บเล็ต 2023 รุ่นไหนดีราคาถูก Galaxy Tab A7 อาจเหมาะกับความต้องการของคุณ ตั้งแต่จอแสดงผลขนาด 10.4 นิ้ว ความละเอียด 2000 x 1200 พิกเซล ไปจนถึงชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 662 ที่รวดเร็ว และระบบปฏิบัติการ Android 10 ทำให้ Galaxy Tab A7 ของ Samsung เป็นหนึ่งในซัมซุงแท็ปที่ดีที่สุดที่มาในราคาจับต้องได้ แม้ว่ารุ่นนี้จะไม่มี S Pen แต่ประสิทธิภาพอันทรงพลังและเสียงเซอร์ราวด์ Dolby Atmos ก็ทำให้รุ่นนี้น่าสนใจ ทั้งยังมีพื้นที่เก็บข้อมูล 32GB ที่สามารถเพิ่มได้มากถึง 1TB แท็บเล็ตราคาประหยัดของ Samsung รุ่นนี้อัดแน่นไปด้วยแบตเตอรี่ขนาด 7,040 mAh ที่ใช้งานได้นานถึง 15 ชั่วโมง และมีน้ำหนักตัวเครื่อง 476 กรัม
ราคาเริ่มต้นที่ : 8,490 บาท
5. Lenovo Tab M10 REL
แม้ว่าแท็บเล็ตจากแบรนด์ Lenovo อาจจะไม่เร็วเท่า Samsung หรือ Apple แต่ถ้านึกถึงแท็บเล็ต Android ราคาถูก Lenovo Tab M10 HD REL ก็ตอบโจทย์ มาพร้อมชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 450 และระบบปฏิบัติการ Android 9 ให้พลังกับจอแสดงผล HD ขนาด 10.1 นิ้วที่คมชัด และความละเอียดภาพ 1200 x 1920 พิกเซล พร้อมพื้นที่เก็บข้อมูลที่ 32GB และเพิ่มการ์ดหน่วยความจำได้สูงสุด 128GB และแบตเตอรี่ 7,000 mAh สามารถใช้งาน Bluetooth 4.2 เพื่อเพิ่มหูฟังและอุปกรณ์ต่อพ่วงที่ชื่นชอบ และลำโพง Dolby Atmos ของ Lenovo จะช่วยเติมเต็มประสบการณ์ด้านมัลติมีเดียได้เป็นอย่างดี มีน้ำหนักตัวเครื่อง 520 กรัม
ราคาเริ่มต้นที่ : 6,990 บาท
6. Amazon Fire HD 8 Plus
แท็บเล็ตตระกูล Amazon Fire เป็นหนึ่งในแท็บเล็ต 2023 รุ่นไหนดีราคาถูก เพราะมาพร้อมราคาที่ไม่แพง แต่ก็มีประสิทธิภาพที่น่าชื่นชม เป็นตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุดในรายการแท็บเล็ต Android ราคาถูกทั้งหมด สำหรับรุ่นนี้ให้จอแสดงผล HD ขนาด 8 นิ้ว และความละเอียดจอ 880 x 1280 พิกเซล ซึ่งขับเคลื่อนโดยชิปเซ็ต Quad-core MT8168 ของ MediaTek The Plus และระบบปฏิบัติการ Fire OS 7 นอกจากนี้ยังมีพื้นที่จัดเก็บข้อมูล 32GB และ 64GB และขยายได้สูงสุด 1TB แม้ว่า Amazon Fire HD 8 Plus ยังไม่ใช่แท็บเล็ตที่เร็วที่สุด แต่ก็มีราคาที่ถูกมาก สามารถรองรับการชาร์จแบบไร้สายได้ แบตเตอรี่ใช้งานได้สูงสุด 12 ชั่วโมง น้ำหนักตัวเครื่อง 355 กรัม
ราคาเริ่มต้นที่ : 3,500 บาท
เลือกแท็บเล็ตสุดคุ้ม ราคาประหยัดได้แล้ว จะรออะไรไปซื้อเลย
แท็บเล็ตในท้องตลาดนั้นมีให้เลือกมากมายหลายรุ่น และตอบโจทย์การใช้งานที่แตกต่างกันออกไป ไม่ว่าจะแท็บเล็ตจอใหญ่เพื่อการใช้งานได้อย่างสะดวก หรือแท็บเล็ตจอเล็กที่เหมาะในการพกพา และก็มีราคาที่ต่างกัน รวมถึงดีไซน์ คุณสมบัติต่าง ๆ และประสิทธิภาพในการใช้งาน ล้วนแล้วแต่เป็นตัวกำหนดราคาเครื่องนั้น ๆ การจะเลือกซื้อแท็บเล็ตนอกจากจะพิจารณาในเรื่องของความเหมาะสมในการใช้แล้ว ยังต้องพิจารณาจากความคุ้มค่าด้วย เพราะแท็บเล็ตหลายรุ่นที่ราคาถูกก็สามารถใช้งานได้ดีแบบที่ไม่ต้องจ่ายแพง ใครที่มีงบประมาณจำกัดแต่ต้องการแท็บเล็ตคุณภาพดีที่ตอบโจทย์การใช้งานได้จริง ลองเลือกจากแท็บเล็ตราคาถูก สเปคดี 2023 ทั้ง 6 รุ่นที่เราแนะนำไป อย่าลืมว่าแม้ว่าแท็บเล็ตเหล่านี้จะมีราคาถูก แต่จุดประสงค์และประสิทธิภาพในการใช้งานก็สำคัญ หากแท็บเล็ตราคาถูกยังมีสเปคและความต้องการไม่ตอบโจทย์เรา อาจเพิ่มงบประมาณอีกนิดเพื่อไปรุ่นที่ใช่มากกว่าก็จะดีที่สุดสำหรับผู้ใช้นั่นเอง