เที่ยวชมความงามช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสี ญี่ปุ่น ที่ใคร ๆ ก็ไม่อยากพลาดชม สิ่งที่สำคัญที่สุดคือช่วงเวลาและฤดูกาล จะได้สัมผัสประสบการณ์ชมใบไม้เปลี่ยนสี ญี่ปุ่นแบบไม่มีเฟล วันนี้เราเลยมาแนะนำ10 จุดไฮไลท์ที่ต้องแวะชมใบไม้เปลี่ยนสี ญี่ปุ่นที่มีชื่อเสียง ภาพสวย บรรยากาศดี กิจกรรมแน่น ทัศนียภาพระดับล้านมาฝากกัน
หัวข้อต่างๆ ของบทความนี้
1. Kamikochi National Park (จ.นากาโนะ)
ช่วงใบไม้เปลี่ยนสี: กันยายน-พฤศจิกายน
cr. shutterstock.com
คามิโคจิ เป็นดินแดนแห่งสายน้ำท่ามกลางหุบเขา ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติ ได้รับการขนานนามว่าเป็น ‘สวิสเซอร์แลนด์แห่งประเทศญี่ปุ่น’ เพราะมีแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สวยงามเกินคำบรรยาย ต้นไม้ใบหญ้าจะเริ่มเปลี่ยนเป็นสีเขียวสดพร้อมกับอุณหภูมิที่อบอุ่นขึ้น เรียกได้ว่าใครเป็นสายลุยเดินป่าอยู่แล้ว แนะนำจัดทริปไปที่นี่เลย คุ้มยิ่งกว่าคุ้ม!
- เวลาทำการ: เปิดเป็นช่วงคือ ตั้งแต่วันที่ 17 เมษายน – 15 พฤศจิกายน ของทุกปี ที่นี่มีช่วงปิดอุทยานเพื่อเป็นการให้ธรรมชาติได้ฟื้นฟู
- ค่าเข้าชม: มีค่าเดินทางขึ้นอยู่กับเส้นทางการขึ้น (เนื่องจากไม่อนุญาตให้ขับรถส่วนตัวเข้าไป เพื่อเป็นการลดมลพิษ)
2. Shirakawa-go (จ.กิฟุ)
ช่วงใบไม้เปลี่ยนสี: ปลายตุลาคม – กลางพฤศจิกายน
cr. shutterstock.com
หมู่บ้านชิราคาวาโกะ ในช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสี ญี่ปุ่น บรรยากาศจะเต็มไปด้วยใบไม้เปลี่ยนสีเป็นสีเหลือง-สีน้ำตาลที่สวยงามจนได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก เนื่องจากเป็นพื้นที่ท่ามกลางภูเขา อากาศจะเย็นลง แต่ไม่หนาวจัด ในพื้นที่หมู่บ้านนี้ยังมีคนอยู่จริง ๆ แต่ก็มีบ้านหลายหลังที่ใช้จัดแสดงสำหรับนักท่องเที่ยว ไฮไลท์คือการเที่ยวชมตามจุดต่าง ๆ ของหมู่บ้าน เรียนรู้วิถีชาวนาของคนท้องที่ มีศาลเจ้า โฮมสเตย์ ร้านค้า ร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึก
- เวลาทำการ: ขึ้นอยู่กับบ้านที่เลือกเที่ยวชมในพื้นที่หมู่บ้านชิราคาวาโกะ
- ค่าเข้าชม: ขึ้นอยู่กับบ้านที่เลือกเที่ยวชมในพื้นที่หมู่บ้านชิราคาวาโกะ
3. Minoh Park (จ.โอซาก้า)
ช่วงใบไม้เปลี่ยนสี: ปลายพฤศจิกายน – ต้นธันวาคม
cr. shutterstock.com
น้ำตกมิโน 1 ใน 100 น้ำตกที่ดีที่สุดในญี่ปุ่น เป็นอีกหนึ่งจุดแลนด์มาร์กที่เที่ยวใบไม้เปลี่ยนสี ญี่ปุ่น ห่างจากเมืองโอซาก้าเพียง 40 นาทีเท่านั้น การเดินชมใบเมเปิ้ลที่กำลังเปลี่ยนสีอย่างสวยงามทั้งแดง ส้ม เขียว เหลือง สลับกันไปตลอดทาง รวมทั้งมีน้ำตกและลำธารเลียบทางเดิน ทำให้รู้สึกสดชื่นเหมือนได้พักใจ ใครที่อยากไปแบบ One Day Trip แนะนำเลย!
- เวลาทำการ: น้ำตก เปิดตลอดเวลา / ร้านค้า เปิดช่วง 11:00 – 17:00 น.
- ค่าเข้าชม: ไม่มีค่าเข้าชม
4. Kiyomizu-dera Temple (จ.เกียวโต)
ช่วงใบไม้เปลี่ยนสี: ปลายพฤศจิกายน – ต้นธันวาคม
cr. shutterstock.com
วัดคิโยมิซุ หรือ วัดน้ำใส หนึ่งในวัดที่มีชื่อเสียงที่สุดของเกียวโต ใครที่มาขอพรที่นี่เชื่อว่าจะช่วยปัดเป่าสิ่งไม่ดีออกไป ตามความหมายของชื่อวัด ซึ่งแนะนำให้ไปช่วงฤดูใบไม้ร่วง เพราะในทุก ๆ ปีวัดจะเปิดให้เข้าชมไฟประดับยามค่ำคืนอยู่ 3 ครั้งด้วยกัน (ต่างกันออกไปในแต่ละปี) เปิดให้ทุกคนได้มาชมความงดงามของวิวที่อยู่ท่ามกลางใบไม้เปลี่ยนสีที่สวยงาม สามารถติดตามดูรายละเอียดกิจกรรมต่าง ๆ ได้เว็บไซต์ทางการที่ Kiyomizu-dera Temple
- เวลาทำการ: เปิดทุกวัน ช่วงใบไม้เปลี่ยนสี เวลา 06.00 – 21.30 น. (เข้าวัดได้ถึง 21.00 น.)
- ค่าเข้าชม: ผู้ใหญ่ 400 เยน (≈94 บาท) / เด็ก 200 เยน (≈47 บาท)
5. Momiji Kairo (จ.ยามานาชิ)
ช่วงใบไม้เปลี่ยนสี: ปลายตุลาคม – ปลายพฤศจิกายน
cr. shutterstock.com
นึกถึงจุดแวะชมใบไม้แดง ญี่ปุ่น ที่อยู่ไม่ห่างจากตัวเมืองโตเกียวมากนัก ต้องมีโมมิจิ ไคโรอยู่ในลิสต์แน่นอน เพราะเป็นอุโมงค์ใบเมเปิ้ล ที่จะเปลี่ยนเป็นสีแดง สีส้ม ร่วงหล่นตามพื้น ปกคลุมทางน้ำสายเก่า กลายเป็นสถานที่เช็กอินยอดฮิตที่สวยที่สุดในแถบภูเขาฟูจิเลย! มีการจัดเทศกาลประจำปีในช่วงต้นเดือนพฤศจิกายน-ปลายเดือนพฤศจิกายน และมี Light up ประดับค่ำคืนให้เดินชมบรรยากาศกันอีกด้วย โรแมนติกตะโกน!
- เวลาทำการ: 24 ชม. (Light Up ตั้งแต่ตะวันตกดินจนถึง 22.00 น.)
- ค่าเข้าชม: ไม่มีค่าเข้าชม
6. Meiji Jingu Gaien Park (จ.โตเกียว)
ช่วงใบไม้เปลี่ยนสี: ปลายพฤศจิกายน – ต้นธันวาคม
cr. shutterstock.com
ถนนต้นแปะก๊วยสีเหลืองอร่ามกว่า 140 ต้น เป็นจุดใบไม้เปลี่ยนสี ญี่ปุ่นใจกลางโตเกียวที่ขึ้นชื่อทั้งในหมู่ชาวญี่ปุ่นและนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ไฮไลท์เด็ดคือช่วงใบไม้ร่วง ที่พร้อมใจเปลี่ยนสีเหลืองตลอดทางเดินกว่า 300 เมตร ใครไปช่วงเวลากลางคืนก็ไม่ต้องห่วง เพราะเขาเปิดไลท์อัพให้ผู้คนได้ชมความงดงามนี้เช่นกัน
- เวลาทำการ: 24 ชม.
- ค่าเข้าชม: ไม่มีค่าเข้าชม
7. Osaka Castle (จ.โอซาก้า)
ช่วงใบไม้เปลี่ยนสี: ต้นพฤศจิกายน – ต้นธันวาคม
cr. shutterstock.com
ปราสาทโอซาก้า อีกหนึ่งจุดชมใบไม้เปลี่ยนสี ญี่ปุ่นอันดับต้น ๆ ของโอซาก้า ล้อมรอบด้วยสวยสาธารณะ มีพื้นที่กว้างขวาง ธรรมชาติสวยงามละลานตาด้วยใบสีเหลืองส้มของต้นแปะก๊วย ต้นเมเปิล และต้นเซลโคทั่วทั้งบริเวณ ด้านในปราสาทมีพิพิธภัณฑ์เต็มไปด้วยหลักฐานทางประวัติศาสตร์กว่า 10,000 ชิ้น ให้เราเดินชมความขลัง เหมือนได้หลุดเข้าไปในยุคประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น
- เวลาทำการ: 9:00 – 17:00 น.
- ค่าเข้าชม: การเดินเที่ยวรอบ ๆ ปราสาทโอซาก้าฟรี / ชมด้านในปราสาท ผู้ใหญ่ 600 เยน (≈142 บาท) นักเรียนมัธยมศึกษาและน้อยกว่าฟรี
8. Senjojiki Cirque (จ.นากาโน่)
ช่วงใบไม้เปลี่ยนสี: ปลายกันยายน – ตุลาคม
cr. shutterstock.com
สัมผัสประสบการณ์ที่เซนโจจิคิกลางหุบเขาเซ็นทรัลแอลป์ บนยอดเขาเต็มไปด้วยหิมะ เป็นที่โปรดปรานของนักปีนเขา ในช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสี ญี่ปุ่นของที่นี่ เรียกได้ว่าเป็นสวรรค์แห่งธรรมชาติที่แท้จริง เพราะ Cirque หรือวงแหวน เต็มไปด้วยดอกไม้นานาพันธุ์ กลายเป็นพรมหลากสีที่ผสมผสานกับใบไม้สีแดงของต้นไม้บนภูเขา หากมาแค่ชมวิวที่นี่มีกระเช้าลอยฟ้าให้ขึ้นเพื่อเสพทัศนียภาพสวย ๆ ได้แบบพาโนราม่า
- เวลาทำการ: 24 ชม. (อาจหยุดทำการขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ)
- ค่าเข้าชม: ไม่มีค่าเข้าชม (กระเช้าลอยฟ้าไป-กลับ: ผู้ใหญ่ 2260 เยน / เด็ก 1130 เยน)
9. Jozankei Onsen (จ.ฮอกไกโด)
ช่วงใบไม้เปลี่ยนสี: ปลายกันยายน – ปลายตุลาคม
cr. shutterstock.com
แช่น้ำพุร้อนที่หมู่บ้านเล็ก ๆ กลางหุบเขา ตั้งอยู่ในบริเวณอุทยานแห่งชาติชิโกะซุ โทยะ เดินทางง่าย อยู่ไม่ไกลจากตัวเมืองซัปโปโร แต่เดิมน้ำพุร้อนของที่นี่ได้ถูกใช้เป็นสถานที่บำบัดอาการเจ็บไข้ได้ป่วยของผู้คนในยุคก่อน มีชื่อเสียงมานับร้อยปี และได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งในแหล่งน้ำพุร้อนจากผืนป่าที่ดีที่สุดในประเทศญี่ปุ่น ยิ่งในช่วงใบไม้เปลี่ยนสี ญี่ปุ่นที่นี่สวยสะกดตามากขึ้นไปอีก
- เวลาทำการ: มิถุนายน – ตุลาคม: 08:00 – 17:30 น. / พฤศจิกายน – พฤษภาคม: 09:00 – 17:00 น.
- ค่าเข้าชม: ไม่มีค่าเข้าชม
10. Bandai Azuma Skyline (จ.ฟุคุชิมะ)
ช่วงใบไม้เปลี่ยนสี: ปลายกันยายน – ปลายตุลาคม
cr. shutterstock.com
บันไดอาซุมะ สกายไลน์ เส้นทางชมวิวที่มีความยาวถึง 29 กิโลเมตร เป็นถนนเส้นชมวิวภูเขาสายสำคัญของฟุกุชิมะที่ได้รับเลือกให้เป็น 1 ใน 100 สถานที่ควรค่าแก่การเดินทางมาชมใบไม้เปลี่ยนสี ญี่ปุ่น การเดินทางท่ามกลางทิวทัศน์ภูเขาสีเขียวขจีไล่สีส้มแดงไปตามทางเรื่อย ๆ ทำให้เราเพลิดเพลินตลอดทาง ฮีลใจสุด ๆ
- เวลาทำการ: เปิดให้ชมตั้งแต่ปลายเดือน เม.ย. – ต้นเดือน พ.ย. เวลา 7.00 – 17.00 น.
- ค่าเข้าชม: ไม่มีค่าเข้าชม
ใครมีแพลนไปเสพบรรยากาศดี ๆ ชมสีสันของใบไม้เปลี่ยนสี ญี่ปุ่น ท่ามกลางบรรยากาศที่สวยสะกด แนะนำรีบวางแผนล่วงหน้าจองที่พัก จองตั๋วเครื่องบินได้เลย ใครอยากจองได้ราคาดี ๆ มีส่วนลดให้ใช้ จองได้ที่ Shopee E-Service พร้อมขั้นตอนการจองตั๋วเครื่องบิน Shopee E-Service โกทูแจแปนทั้งที่ก็อย่าลืมหาลิสต์ของฝากจากญี่ปุ่นยอดนิยม ที่ต้องซื้อ ของขึ้นชื่อที่นั่น เช่น คุ้กกี้ Shiroi Koibito ผงโรยข้าว แผ่นมาส์กหน้า โฟมล้างหน้าถ่านภูเขาไฟญี่ปุ่นฮาโกเน่ จะฝากตัวเอง เพื่อน ๆ คนรัก หรือครอบครัว รับรองว่าคนรับถูกใจอย่างแน่นอน!