Categories: Cars

สำรวจข้อดีข้อเสียของรถยนต์ไฟฟ้า มาแรง แต่ดีจริงมั้ย?

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา รถยนต์ไฟฟ้า (EV) ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมากในไทย เพราะรถยนต์ไฟฟ้าได้นำเสนอทางเลือกนอกเหนือจากรถยนต์ที่ใช้น้ำมันแบบดั้งเดิม แม้ว่ารถยนต์ไฟฟ้าจะมีข้อได้เปรียบมากมาย ทั้งประหยัดค่าน้ำมันเพราะชาร์จไฟถูกกว่า หรือเป็นการรักษ์โลกเพราะไม่ใช้น้ำมันซึ่งรู้กันว่าทำให้โลกร้อน แต่ก็ยังมาพร้อมกับความท้าทายและคำถามที่หลายคนสงสัยด้วย เช่น รถยนต์ไฟฟ้ามีกี่ประเภท การทำความเข้าใจข้อดีข้อเสียของรถยนต์ไฟฟ้า ข้อดีของรถไฟฟ้าคืออะไร ข้อเสียของรถไฟฟ้ามีมากแค่ไหน เหล่านี้ถือเป็นสิ่งสำคัญสำหรับทุกคนที่กำลังพิจารณาเปลี่ยนมาใช้รถยนต์ไฟฟ้าหรือรถ EV นั่นเอง

หัวข้อต่างๆ ของบทความนี้

รถยนต์ไฟฟ้า หรือ รถ EV คืออะไร

รถยนต์ EV หรือรถยนต์ไฟฟ้าเป็นรถยนต์ที่ใช้พลังงานไฟฟ้าเป็นหลัก เป็นส่วนหนึ่ง หรือทั้งหมดโดยเก็บไว้ในแบตเตอรี่แบบชาร์จไฟได้ ต่างจากรถยนต์ที่ใช้น้ำมันเบนซินแบบดั้งเดิมซึ่งต้องใช้เครื่องยนต์สันดาปภายใน รถยนต์ไฟฟ้าใช้มอเตอร์ไฟฟ้าในการขับเคลื่อนล้อ รถยนต์ไฟฟ้ามีข้อดีหลายประการ รวมถึงการปล่อยมลพิษที่ลดลง ต้นทุนเชื้อเพลิงที่ลดลง และการทำงานที่เงียบกว่า มีหลายประเภท ซึ่งแต่ละประเภทมีลักษณะและความสามารถต่างกัน ในขณะที่เทคโนโลยีก้าวหน้าอย่างต่อเนื่อง พูดได้เลยว่ารถไฟฟ้ากำลังติดเทรนด์ ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ ในฐานะทางเลือกที่ประหยัดและยั่งยืนเมื่อเทียบกับรถยนต์เบนซินแบบดั้งเดิม


รถยนต์ไฟฟ้ามีกี่ประเภท

ยานพาหนะไฟฟ้า รถ EV หรือ รถไฟฟ้าในปัจจุบันมีหลายประเภท มีทั้งแบบใช้ไฟฟ้าล้วนหรือใช้ไฟฟ้าสลับน้ำมันเชื้อเพลิงแบบปกติได้ ได้แก่

1. รถไฟฟ้าแบตเตอรี่ (BEV)

ยานพาหนะเหล่านี้ใช้พลังงานไฟฟ้าเพียงอย่างเดียวที่เก็บไว้ในชุดแบตเตอรี่ ไม่มีเครื่องยนต์สันดาปภายในและไม่ปล่อยไอเสียจากท่อไอเสียเป็นศูนย์

2. รถยนต์ไฟฟ้าไฮบริดปลั๊กอิน (PHEV)

PHEV ผสมผสานเครื่องยนต์สันดาปภายในเข้ากับมอเตอร์ไฟฟ้าและชุดแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ สามารถทำงานด้วยพลังงานไฟฟ้าเพียงอย่างเดียวในช่วงที่จำกัดก่อนที่จะเปลี่ยนไปใช้พลังงานเบนซิน

3. รถยนต์ไฟฟ้าไฮบริด (HEV)

HEV ใช้ทั้งเครื่องยนต์สันดาปภายในและมอเตอร์ไฟฟ้าเพื่อขับเคลื่อนยานพาหนะ อย่างไรก็ตาม ไม่สามารถเสียบปลั๊กเพื่อชาร์จได้ และอาศัยการเบรกแบบจ่ายพลังงานใหม่เพื่อชาร์จแบตเตอรี่


5 ข้อดีของรถไฟฟ้า

ข้อดีของรถยนต์ไฟฟ้านั้นมีมากมาย เราจะแบ่งข้อดีของรถไฟฟ้าออกเป็น 5 หัวข้อย่อยด้วยกัน ดังนี้

1. ประโยชน์ต่อสิ่งแวดล้อม

หนึ่งในข้อได้เปรียบที่สำคัญที่สุดของ EV คือผลกระทบเชิงบวกต่อสิ่งแวดล้อม รถยนต์ไฟฟ้าจะช่วยลดมลพิษทางอากาศและการปล่อยก๊าซเรือนกระจกด้วยการกำจัดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากท่อไอเสียที่มีหากใช้รถกับน้ำมันแบบดั้งเดิมที่เราคุ้นเคย ซึ่งการลดมลพิษด้วยการใช้รถไฟฟ้านี้จะช่วยต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและปรับปรุงคุณภาพอากาศของโลกไม่ให้ร้อนและแปรปรวนไปมากกว่านี้

2. ประหยัดต้นทุน

ข้อดีของรถไฟฟ้าที่เป็นที่นิยมมากที่สุดข้อหนึ่งก็คือ รถยนต์ไฟฟ้าจะมีความคุ้มค่าในการใช้งานมากกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับรถยนต์ที่ใช้น้ำมันเบนซินหรือน้ำมันดีเซลในระยะยาว แม้ว่าราคาซื้อครั้งแรกอาจสูงกว่า แต่เจ้าของรถ EV ก็สามารถประหยัดเงินค่าน้ำมันและค่าบำรุงรักษาได้ ค่าไฟฟ้ามักจะถูกกว่าน้ำมันเบนซิน และรถยนต์ไฟฟ้ามีชิ้นส่วนที่เคลื่อนไหวน้อยกว่า ส่งผลให้ค่าบำรุงรักษา ค่าซ่อม ต่างๆ ลดลง

3. ประสิทธิภาพการใช้พลังงานดีกว่า

มอเตอร์ไฟฟ้าประหยัดพลังงานมากกว่าเครื่องยนต์สันดาปภายใน โดยแปลงพลังงานจากโครงข่ายไฟฟ้าเป็นเปอร์เซ็นต์ที่สูงกว่าเพื่อขับเคลื่อนยานพาหนะ ประสิทธิภาพนี้ส่งผลให้มีระยะทางที่ดีขึ้นและลดการใช้พลังงานต่อไมล์ที่เดินทาง

4. ทำงานเงียบ

ข้อดีของรถไฟฟ้าที่คุณอาจคาดไม่ถึงก็คือ รถยนต์ไฟฟ้ามีเสียงที่เงียบกว่ารถยนต์ทั่วไปอย่างเห็นได้ชัด มอบประสบการณ์การขับขี่ที่นุ่มนวลและเงียบยิ่งขึ้น เนื่องจากมอเตอร์ไฟฟ้าผลิตเสียงรบกวนน้อยกว่าเครื่องยนต์สันดาปภายในซึ่งมีชิ้นส่วนที่เคลื่อนไหวจำนวนมากและสร้างเสียงผ่านกระบวนการเผาไหม้ คุณลักษณะนี้มีข้อได้เปรียบอย่างยิ่งในเขตเมืองซึ่งมลภาวะทางเสียงมีมาก

5. ขับสนุก ออกตัวไวและเร่งแรงในตอนต้น

รถยนต์ไฟฟ้ามีความเป็นเลิศในด้านอัตราเร่งเนื่องจากมีการส่งแรงบิดทันที เมื่อคุณเหยียบคันเร่ง รถไฟฟ้าจะตอบสนองโดยการออกตัวทันที เนื่องจากมอเตอร์ไฟฟ้าสามารถให้แรงบิดสูงสุดจากการหยุดนิ่งโดยไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนเกียร์ ในทางตรงกันข้าม รถที่ใช้น้ำมันแบบดั้งเดิมอาจมีความล่าช้าเล็กน้อยเมื่อเครื่องยนต์เพิ่มความเร็วและเปลี่ยนเกียร์ โดยเฉพาะในระบบเกียร์อัตโนมัติ แม้ว่ารถยนต์ที่ใช้แก๊สสมรรถนะสูงบางคันสามารถเทียบเคียงกับรถยนต์ไฟฟ้าในเรื่องอัตราเร่งได้ แต่โดยรวมแล้ว EV มีชื่อเสียงในด้านอัตราเร่งที่รวดเร็วและตอบสนองได้ดี ทำให้รู้สึกเร็วกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับรถยนต์ที่ใช้น้ำมันหลายๆ รุ่น


5 ข้อเสียของรถไฟฟ้า

ข้อเสียของรถ EV หรือ ข้อเสียของรถยนต์ไฟฟ้าก็มีเช่นกัน และเป็นข้อจำกัดที่คนขับและเจ้าของรถควรรู้ก่อนซื้อเพื่อจะเตรียมทรัพยากรไม่ว่าจะเป็น การดูแล เงิน สิ่งของ หรือการวางแผน เพื่อทำให้การขับขี่และดูแลรักษารถเป็นไปได้โดยง่ายและปลอดภัยที่สุด

1. ระยะวิ่งจำกัด

แม้ว่าช่วงระยะทางการขับขี่ของรถยนต์ไฟฟ้าจะมีการปรับปรุงในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา แต่ยังคงเป็นข้อกังวลสำหรับผู้บริโภคบางราย โดยทั่วไปรถยนต์ไฟฟ้าจะมีระยะการขับขี่ที่สั้นกว่าเมื่อเทียบกับรถยนต์ที่ใช้น้ำมันเบนซิน ซึ่งสามารถจำกัดประโยชน์ใช้สอยสำหรับการเดินทางระยะไกล โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ที่มีสถานีชาร์จที่จำกัด ระยะวิ่งของรถยนต์ไฟฟ้า อาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ เช่น รุ่นของรถยนต์ ความจุของแบตเตอรี่ สภาพการขับขี่ และพฤติกรรมการขับขี่ โดยเฉลี่ยแล้ว รถยนต์ไฟฟ้าสมัยใหม่มักวิ่งได้ประมาณ 320 ถึง 480 กิโลเมตร ต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง

2. โครงสร้างพื้นฐานในการชาร์จไฟ

ความพร้อมใช้งานของสถานีชาร์จยังคงเป็นความท้าทายในหลายพื้นที่ ถือว่าเป็นข้อเสียของรถไฟฟ้าหลักข้อนึงก็ว่าได้ โดยเฉพาะในระหว่างการเดินทางไกล ทำให้เจ้าของรถ EV ต้องวางแผนการชาร์จรถยนต์ในทุกๆวัน หรือสำรวจสถานีและวางแผนการชาร์จไฟให้ดีก่อนการเดินทางไกล แม้ว่าสถานีชาร์จไฟสำหรับรถ EV จะขยายตัวออกไปที่หลายปั๊มแล้ว แต่อาจไม่ครอบคลุมเท่ากับเครือข่ายปั๊มน้ำมันแบบเดิมในหลายพื้นที่

3. ใช้เวลาชาร์จนาน

ข้อเสียใหญ่อีกข้อของรถไฟฟ้าคือ การชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าใช้เวลานานกว่าการเติมน้ำมันรถยนต์เบนซินอย่างมาก แม้ว่าจะมีตัวเลือกการชาร์จแบบเร็ว แต่ก็อาจต้องใช้เวลาตั้งแต่หลายนาทีไปจนถึงหลายชั่วโมงในการชาร์จ EV ให้เต็ม ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับขนาดแบตเตอรี่และความเร็วในการชาร์จ โดยเฉลี่ยแล้ว การชาร์จ EV จากว่างเปล่าจนเต็มอาจใช้เวลาประมาณ 4 ถึง 12 ชั่วโมงเลยทีเดียว ซึ่งมากกว่าการเติมน้ำมันเบนซิลหรือดีเซลที่คงใช้เวลาประมาณ 5-10 นาทีเท่านั้น

4. ค่าใช้จ่ายแรกเริ่ม

แม้ว่ารถยนต์ไฟฟ้าจะช่วยประหยัดต้นทุนในระยะยาว แต่ราคาซื้อเริ่มแรกอาจสูงกว่ารถยนต์ที่ใช้น้ำมันเบนซินบางรุ่นที่เทียบเคียงได้ ค่าใช้จ่ายแรกเริ่มที่สูงขึ้นนี้อาจทำให้ผู้บริโภคบางรายไม่อยากเลือกซื้อรถ EV

5. ค่าใช้จ่ายแฝง

ข้อเสียของรถไฟฟ้าที่คุณควรรับรู้และเตรียมตัวเตรียมใจอีกข้อคือ เนื่องจากรถไฟฟ้า EV แม้จะมีเครื่องยนต์น้อยกว่า แต่เจ้าของรถอาจต้องเจอค่าใช้จ่ายแฝงที่ราคาผันผวนได้ เช่น ค่าติดตั้งสถานีชาร์จไฟที่บ้าน ค่าประกัน ค่าซ่อมรถหรืออะไหล่รถไฟฟ้า EV และ ค่าเปลี่ยนแบตเตอรี่ในอนาคต


รถยนต์ไฟฟ้าเหมาะกับใคร?

รถยนต์ไฟฟ้าเหมาะสำหรับหลายคน ได้แก่

  • ชาวเมือง คนกรุง: รถยนต์ไฟฟ้าเหมาะอย่างยิ่งสำหรับสภาพแวดล้อมในเมืองที่มีระยะทางขับขี่สั้นกว่า และมีโครงสร้างพื้นฐานในการชาร์จพร้อมใช้งานมากกว่า
  • คนที่มีระยะการเดินทางที่สั้นและค่อนข้างแน่นอน: ไม่ว่าจะอยู่ในเมืองหรือนอกเมือง บุคคลที่มีรูปแบบการเดินทางที่คาดการณ์ได้ภายในระยะ รถยนต์ไฟฟ้า EV วิ่งไปกลับถึงได้สบายๆ หรือระหว่างทางมีสถานีชาร์จที่แน่นอน สามารถเลือกใช้รถ EV เพื่อประหยัดต้นทุนด้านเชื้อเพลิงและการบำรุงรักษาได้อย่างมาก
  • นักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม: ผู้ที่กังวลเกี่ยวกับการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และลดมลพิษทางอากาศอาจเลือกยานพาหนะไฟฟ้าเพื่อประโยชน์ต่อสิ่งแวดล้อม

สิ่งที่ต้องพิจารณาก่อนซื้อรถยนต์ไฟฟ้า

ระยะขับขี่

ประเมินพฤติกรรมการขับขี่ของคุณและพิจารณาว่าระยะของรถยนต์ไฟฟ้าตรงตามความต้องการของคุณหรือไม่

โครงสร้างพื้นฐานการชาร์จ

พิจารณาความพร้อมใช้งานของสถานีชาร์จในพื้นที่ของคุณและตามเส้นทางการเดินทางทั่วไปของคุณ

ค่าใช้จ่าย

เปรียบเทียบค่าใช้จ่ายล่วงหน้า การประหยัดเชื้อเพลิง และสิ่งจูงใจหรือส่วนลดที่เป็นไปได้สำหรับยานพาหนะไฟฟ้าในภูมิภาคของคุณ เช่น ส่วนลดหรือการยกเว้นภาษีจากภาครัฐไทย

การชาร์จที่บ้าน

ตรวจสอบว่าคุณสามารถเข้าถึงตำแหน่งชาร์จเฉพาะที่บ้าน เช่น โรงรถ เพื่ออำนวยความสะดวกในการชาร์จข้ามคืนหรือไม่ หรือหากคุณอยู่คอนโด คอนโดของคุณอาจจะมีตำแหน่งจอดรถเพื่อชาร์จไฟก็ได้ แต่มีพื้นที่เพียงพอต่อจำนวนคนในคอนโดมากน้อยเพียงใด อย่าลืมคิดเผื่อว่าถ้าทุกคนซื้อรถไฟฟ้าและต้องการใช้ที่ชาร์จของคอนโดเพิ่ม คุณจะมีทางและที่ชาร์จไฟสำรองหรือไม่ ด้วย


สิ่งที่ควรมีก่อนซื้อรถยนต์ไฟฟ้า

  1. สถานีชาร์จที่บ้าน: การติดตั้งสถานีชาร์จระดับ 2 ที่บ้านสามารถให้การชาร์จที่สะดวกและรวดเร็วกว่าเมื่อเทียบกับการใช้ปลั๊กไฟมาตรฐานระดับ 1
  2. ความเข้าใจเกี่ยวกับตัวเลือกการชาร์จ: ทำความเข้าใจว่ารถยนต์ไฟฟ้ามีกี่ประเภท ประเภทที่คุณเลือกใช้การชาร์จแบบไหน นานเท่าไหร่ ทำความคุ้นเคยกับตู้ชาร์จ ขั้วต่อและเครือข่ายการชาร์จประเภทต่างๆ เพื่อชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าของคุณอย่างมีประสิทธิภาพ
  3. ความอดทน: การปรับเปลี่ยนเวลาในการชาร์จที่ยาวนานขึ้นและการวางแผนเส้นทางรอบสถานีชาร์จอาจต้องใช้ความอดทน โดยเฉพาะในช่วงระยะเวลาการเปลี่ยนแปลงในช่วงแรก

สิ่งที่ต้องทำหลังจากได้รับรถยนต์ไฟฟ้า

  • วางแผนจุดชาร์จ: วางแผนการเดินทางของคุณเพื่อให้แน่ใจว่าคุณสามารถเข้าถึงสถานีชาร์จตามเส้นทางได้ โดยเฉพาะสำหรับการเดินทางระยะไกล
  • ปรับตัวกับการขับรถ EV: ฝึกนิสัยการขับขี่ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เช่น การเร่งความเร็วและการเบรกอย่างนุ่มนวล เพื่อเพิ่มระยะการเดินทางของรถยนต์ไฟฟ้าของคุณให้สูงสุด
  • อัพเดทข้อมูลอยู่เสมอ: ติดตามข่าวสารล่าสุดเกี่ยวกับความก้าวหน้าของเทคโนโลยีรถยนต์ไฟฟ้า รถยนต์ไฟฟ้ามีกี่ประเภทแล้ว รวมถึงการปรับปรุงเทคโนโลยีแบตเตอรี่และโครงสร้างพื้นฐานการชาร์จ โดยเฉพาะในพื้นที่ใกล้บ้านหรือที่ๆคุณผ่านบ่อยๆ

โดยสรุป รถยนต์ไฟฟ้ามีข้อดีหลายประการ เช่น ข้อดีของรถไฟฟ้าที่เป็นประโยชน์ต่อสิ่งแวดล้อม การประหยัดต้นทุน และประสิทธิภาพการใช้พลังงาน อย่างไรก็ตาม ข้อเสียของรถไฟฟ้าอย่างเช่น ความท้าทายต่างๆ เช่น ระยะที่จำกัด โครงสร้างพื้นฐานในการชาร์จ และค่าใช้จ่ายอื่นๆยังคงมีอยู่ การทำความเข้าใจรถยนต์ไฟฟ้าประเภทต่างๆ ความเหมาะสมสำหรับผู้บริโภคที่หลากหลาย และปัจจัยที่ต้องพิจารณาก่อนซื้อ EV ถือเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการตัดสินใจอย่างรอบรู้เกี่ยวกับการเปลี่ยนไปใช้รถไฟฟ้า และถ้าใครกำลังสนใจว่า รถยนต์ไฟฟ้ามินิ ราคาแค่หลักหมื่น ขับง่าย ราคาดีสุดๆ ก็ไปอ่านต่อที่ Shopee Blog กันได้เลย!

Cr. – Pros and Cons of Electric Vehicles – Edmunds

Shopee TH

Share
Published by
Shopee TH

Recent Posts

แนะนำ 15 รองเท้า Mary Jane ยี่ห้อไหนดี พร้อมเทคนิคเลือก

รองเท้า Mary Jane เป็นหนึ่งในสไตล์รองเท้าตามฉบับผู้ดีอังกฤษ ด้วยสายคาดที่เป็นเอกลักษณ์ รูปทรงคล้ายรองเท้านักเรียนผู้หญิง สวมสะดวก ใส่สบาย ลงตัวเป็นคัทชูที่โดดเด่น เต็มไปด้วยเสน่ห์ จนกลายเป็นรองเท้าแฟชั่นที่อยู่เหนือกาลเวลา ไม่ว่าผ่านเวลาไปนานสักแค่ไหน ‘รองเท้า Mary Jane’…

5 days ago

เคล็ดลับ วิธีทากันแดดที่ถูกต้องเพื่อการปกป้องผิวที่แท้จริงและสูงสุด

ครีมกันแดดคือเครื่องมือปกป้องผิวของคุณจากอันตรายจากรังสียูวีได้ดีที่สุด อย่างไรก็ตาม คุณคิดว่าที่ทาอยู่คือทาถูกหรือยัง? ที่ทาครีมกันแดดอยู่เพียงพอหรือไม่? รู้หรือไม่ว่าผลการวิจัยบอกว่าคนส่วนใหญ่ทาครีมกันแดดไม่พอ? การทาครีมกันแดดอย่างถูกต้องเป็นกุญแจสำคัญสู่ประสิทธิภาพการปกป้องผิวที่แท้จริงจากแสงแดด ในบทความนี้ เราจะแชร์เคล็ดลับวิธีทากันแดดที่ถูกต้องแบบครอบคลุมทุกสิ่งที่คุณจำเป็นต้องรู้ เช่น เวลาที่ควรทากันแดด ปริมาณครีมกันแดด ทาครีมกันแดดก่อนหรือหลังครีมบํารุง หรือ ควรทากันแดดทุกกี่ชั่วโมง เพื่อให้ได้การทาครีมกันแดดที่ถูกต้องและเหมาะสม…

6 days ago

รวมลิสต์เบอร์ฉุกเฉิน ควรเซฟติดมือถือให้อุ่นใจทุกสถานการณ์

ใครที่มีแผนกำลังเดินทางไปต่างจังหวัด หรือใช้ชีวิตประจำวันบนท้องถนน อยากจะแนะนำให้เซฟเบอร์โทรฉุกเฉินต่างๆ ไว้ติดมือถือเพราะสถานการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้นเมื่อใดก็ได้ การเตรียมตัวรับมือไว้ก่อนจะช่วยคลี่คลายสถานการณ์ต่าง ๆ จากหนักกลายเป็นเบาได้ หากได้รับการช่วยเหลือที่รวดเร็วทำให้มีความปลอดภัยทั้งต่อชีวิตและทรัพย์สินมากขึ้นซึ่งวันนี้ช้อปปี้ได้รวบรวมลิสต์เบอร์มือถือสำคัญ ๆ ไว้ให้ชาวแอพส้มของเราได้เซฟเก็บไว้อุ่นใจทุกการเดินทางซึ่งจะมีเบอร์ฉุกเฉินไหนบ้าง ไปเริ่มกันเลย!  Cr: freepik ทำไมถึงควรมีเบอร์ฉุกเฉินติดมือถือ  เบอร์ฉุกเฉิน…

6 days ago

ทําความสะอาดเบาะรถยนต์ด้วยตัวเอง ทำอย่างไร ทำตามได้เลยไม่ยาก

การดูแลเบาะรถยนต์ถือเป็นสิ่งสำคัญในการรักษารูปลักษณ์และยืดอายุการใช้งานของรถ เบาะรถยนต์มีหลายประเภท แต่ละประเภทต้องมีวิธีการดูแลรักษาที่แตกต่างกัน คำแนะนำในการทําความสะอาดเบาะรถยนต์และดูแลรถของคุณให้สะอาดและน่านั่งตามวัสดุ และ ตามคราบที่เกิดขึ้น มีดังนี้ เปิดวิธีทําความสะอาดเบาะรถยนต์ เบาะแบบต่างๆ Cr. Unsplash ### 1. วิธีทําความสะอาดเบาะผ้า รถยนต์…

1 week ago

เปิดแหล่งและวิธีทำ QR Code ร้านค้า ฟรี ทำที่ไหนอย่างไร

ทุกวันนี้ทุกคนคงเคยเห็น QR Code มาแล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่ง QR Code ร้านค้าที่เราเห็นและแสกนจ่ายกันอยู่ทุกวัน แต่ความจริงแล้ว QR Code มาจากไหน มีประวัติอย่างไร ทำงานยังไง และถ้าเราเป็นร้านค้า…

1 week ago

รวมฤกษ์บวช 2567 สำหรับเตรียมตัวบวชเพื่อพ่อแม่ และตนเอง

Credit : Freepik การบวชนั้น ถือเป็นธรรมเนียมและข้อปฏิบัติอย่างหนึ่งของพุทธศาสนิกชนในประเทศไทย ที่มีความเชื่อกันว่า ครั้งหนึ่งลูกผู้ชายควรที่จะบวชเพื่อทดแทนบุญคุณของบุพการีที่เลี้ยงดูเรามาตั้งแต่เด็ก จึงกลายมาเป็นธรรมเนียมที่ผู้ชายนั้นจะบวชในช่วงอายุ 20-25 ปีเพื่อทดแทนบุญคุณให้กับพ่อแม่หรือผู้ปกครองนั่นเอง โดยการบวชนั้น ก็มีการยกเอาเรื่องของฤกษ์ยามมาเป็นสิ่งสำคัญด้วยเช่นกัน ดังนั้น ในบทความนี้ Shopee…

1 week ago