นอกจากการออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอ ที่จะช่วยให้เราดึงไขมันส่วนเกินออกมาใช้แล้ว การออกกำลังแบบเวทเทรนนิ่ง ยังช่วยให้ส่วนต่าง ๆ ของร่างกายเกิดความกระชับมากยิ่งขึ้น วันนี้เราจะมาแนะนำวิธีลดต้นแขนด้วยท่าออกกำลังกายที่สามารถทำได้ง่าย ๆ ที่บ้าน ด้วยอุปกรณ์ออกกำลังกายเพียงไม่กี่ชิ้น ไปดูกันว่ามีท่าไหนบ้าง
หัวข้อต่างๆ ของบทความนี้
ท่าลดต้นแขนท่าแรก ใช้อุปกรณ์เป็นดัมเบลน้ำหนักเบา เริ่มโดยยืนตรงบนเท้าทั้งสองข้าง เปิดเข่าเล็กน้อย แขนทั้งสองทิ้งลงข้างลำตัวถือดัมเบลไว้ โดยหันฝ่ามือเข้าข้างใน หลังจากนั้นค่อย ๆ งอข้อศอกเล็กน้อยพร้อมยกแขนขึ้นข้างลำตัวจนดัมเบลอยู่ในระดับเดียวกับไหล่ โดยที่ฝ่ามือขนานกับพื้น ทำทั้งหมด 8 – 12 ครั้ง ต่อเซ็ต
วิธีลดต้นแขนด้วยท่า Push-Ups นอกจากจะได้บริหารแขนแล้ว ยังรวมถึงส่วนอื่น ๆ ด้วย สามารถทำบนพื้นที่บ้าน หรือหาเสื่อโยคะมารองก่อนก็ได้ เริ่มต้นโดยการนอนคว่ำ วางมือไว้สองข้างบนพื้นให้กว้างกว่าความกว้างองช่วงไหล่เล็กน้อย แล้วค่อย ๆ ดันตัวเองขึ้นจนแขนตึง ทิ้งน้ำหนักตัวที่แขนและข้อเท้า หลังจากนั้นงอข้อศอกแล้วค่อย ๆ ลดอกและตัวลงไปขนาดกับพื้น ห่างจากพื้นประมาณ 10 – 15 เซนติเมตร ระหว่างทำพยายามให้หลังแลขาเหยียดตรง แต่สำหรับใครที่เพิ่งเริ่มต้น สามารถใช้ทางเลือกในการออกกำลังกายลดต้นแขนด้วยท่า Push-Ups คือ การวางเขาไว้ที่พื้น และใช้แขนดันตัวขึ้นลง ทำทั้งหมด 8 – 12 ครั้งต่อเซ็ต
สำหรับวิธีลดต้นแขนด้วยท่า Overhead Extension จะใช้อุปกรณ์เป็นดัมเบลที่มีน้ำหนักมากกว่าท่าแรก ช่วยกระชับหลังแขน บริหารไหล่ และหลังช่วงบน เริ่มต้นโดยการยืนบนเท้าทั้งสองข้าง กางขาให้กว้างกว่าสะโพกเล็กน้อย เพื่อให้ยืนได้อย่างถนัด จับดับเบลด้วบมือทั้งสองข้าง ยกแขนขึ้นเหนือศีรษะ หย่อนดัมเบลไปด้านหลังโดยที่มือทั้งสองข้างยังจับอยู่ที่ดับเบล ซึ่งดัมเบลจะอยู่ในแนวตั้ง ศอกตั้งตรงข้างหู ก่อนจะค่อย ๆ ใช้มือทั้งสองข้างยกดัมเบลขึ้นเหนือศีรษะ และค่อบย ๆ ปล่อยลงไปด้านหลัง ทำซ้ำ 8 – 12 ครั้งต่อเซ็ต
เป็นท่าออกกำลังกายลดต้นแขนที่เบสิกมาก ๆ โดยใช้อุปกรณ์เพียงดัมเบลอย่างเดียว วิธีลดต้นแขนด้วยการออกกำลังกาย ทำให้กระชับบริเวณช่วงแขนด้านใน เริ่มต้นโดยการยืนตรงกางขาเท่าช่วงไหล่ ถือดัมเบลอยู่ในมือข้างใดข้างหนึ่งในลักษณะหงายมือขึ้น เลือกน้ำหนักที่ไม่เบาเกินไปสำหรับตัวเอง แล้วให้งอแขนเข้าหาไหล่ทีละข้าง ก่อนจะค่อย ๆ เอามือลงในระดับที่แขนขนานกับพื้น สามารถทำพร้อมกันทั้งสองแขนได้เช่นกัน เซ็ตละ 8 – 12 ครั้งต่อแขนหนึ่งข้าง
วิธีลดต้นแขนท่าต่อมาคือ Dumbbell Row เป็นท่าที่จะช่วยในการกระชับแขนด้านหลัง เริ่มต้นด้วยการใช้มือข้างหนึ่งถือดับเบล มือและเข่าอีกข้างให้วางลงบนเก้าอี้ ม้านั่ง หรือเตียงก็ได้ ตั้งหลังตรง หลังจากนั้นก็ค่อย ๆ ดึงแขนไปทางด้านหลังช้า ๆ ให้ข้อศอกทำมุม 90 องศา แล้วค่อย ๆ ปล่อยแขนลง ทำซ้ำ 8 – 12 ครั้งต่อเซ็ตต่อข้าง จับเวลาถอยหลังให้ดี ๆ แล้วไปเริ่มกันเลย
ท่าลดต้นแขนท่าต่อมาช่วยบริหารแกนกลางลำตัว ไหล่ และแขนได้ ท่าเริ่มต้น ให้นอนคว่ำ เหมือนท่า Push-Up แต่เปลี่ยนจากการวางน้ำหนักบนมือเป็นวางบนแขนทั้งสองข้างแทน หลังจากนั้นให้เปลี่ยนเป็นใช้มือวางที่พื้นแล้วยกตัวขึ้นทีละข้าง ให้อยู่ในท่าเหมือนยันพื้น แล้วเปลี่ยนกลับไปเป็นท่าเริ่มต้น ทำสลับกันไปให้มากที่สุดเท่าที่ทำได้ภายใน 2 นาทีต่อ 1 เซ็ต
วิธีออกกําลังกายลดต้นแขนท่าต่อมา เรายังคงใช้ดัมเบลและมีการเคลื่อนไหวแบบสองสเตป เริ่มต้นด้วยการยืนกางขาเท่าช่วงไหล่ ทั้งสองมือจับดัมเบลทิ้งลงข้าลำตัว สเตปแรกให้ยกดับเบลขึ้นมาชิดไหล่ สเตปที่สองให้หันฝ่ามือออกแล้วเหยียดแขนยกดัมเบลขึ้นไปเหนือศีรษะ ข้างไว้ 1 วินาที ก่อนจะค่อย ๆ นำลงมาไว้ที่ไหล่ และลดระดับแขนจนดับเบลลงไปอยู่ข้างลำตัว ทำซ้ำ 8 – 12 ครั้งต่อเซ็ต
วิธีลดต้นแขนท่าต่อมา ไม่จำเป็นต้นมีอุปกรณ์ออกกำลังกายก็สามารถเล่นได้ง่าย ๆ ทุกที่ เพียงแค่มีม้านั่ง หรือขอบพื้นที่สูงประมาณเข่า เริ่มต้นโดยการนั่งบริเวณขอบม้านั่งหรือขอบพื้น ตั้งเข่า 90 องศา วางเท้ากับพื้น ก่อนจะวางมือทั้งสองข้างไว้ข้างสะโพก หลังจากนั้นขยับก้นให้เลื่อนออกจากม้านั่ง เหยียดขายาวไปบนพื้น ก่อนจะค่อย ๆ เลื่อนตัวลงให้แขนทำมุม 90 องศา หรือเท่าที่ทำได้ แล้วใช้แขนดันตัวขึ้น ทำซ้ำ 8 – 12 ครั้งต่อเซ็ต
ท่าลดต้นแขนท่านี้คล้ายกับ Triceps Dips ปกติ แต่จะเพิ่มความยาก และเป็นการบริหารช่วงก้นเพิ่มขึ้นอีกด้วย เริ่มต้นให้นั่งลงที่ขอบม้านั่ง มือวางไว้ข้างสะโพก และวางเท้าเหมือนนั่งปกติ ก่อนจะเลื่อนก้นออกมาจากขอบเก้าอี้ ยกขาขึ้นหนึ่งข้าง แล้วค่อย ๆ หย่อนตัวลงให้ศอกทำมุม 90 องศาโดยประมาณ แล้วยกตัวขึ้น ทำข้างละ 8 – 12 ครั้งต่อเซ็ต
คงได้ไอเดียวิธีลดต้นแขนกันไปแล้ว ท่าลดต้นแขนที่เรานำมาแนะนำ สามาระช่วยกระชับทั้ง Biceps และ Triceps รวมไปถึงบริหารแกนกลางลำตัว หลังช่วงบน และหัวไหล่ได้อีกด้วย แถมยังสามารถนำท่าต่าง ๆ ไปจัดตารางออกกำลังกายลดต้นแขนได้ด้วยตัวเอง เพียงแค่ทำแต่ละท่า 8 – 12 ครั้งต่อเซ็ต รับรองแขนกระชับ ไหล่แข็งแรงขึ้นชัวร์
ที่มา: besthealthmag.ca
รองเท้า Mary Jane เป็นหนึ่งในสไตล์รองเท้าตามฉบับผู้ดีอังกฤษ ด้วยสายคาดที่เป็นเอกลักษณ์ รูปทรงคล้ายรองเท้านักเรียนผู้หญิง สวมสะดวก ใส่สบาย ลงตัวเป็นคัทชูที่โดดเด่น เต็มไปด้วยเสน่ห์ จนกลายเป็นรองเท้าแฟชั่นที่อยู่เหนือกาลเวลา ไม่ว่าผ่านเวลาไปนานสักแค่ไหน ‘รองเท้า Mary Jane’…
ครีมกันแดดคือเครื่องมือปกป้องผิวของคุณจากอันตรายจากรังสียูวีได้ดีที่สุด อย่างไรก็ตาม คุณคิดว่าที่ทาอยู่คือทาถูกหรือยัง? ที่ทาครีมกันแดดอยู่เพียงพอหรือไม่? รู้หรือไม่ว่าผลการวิจัยบอกว่าคนส่วนใหญ่ทาครีมกันแดดไม่พอ? การทาครีมกันแดดอย่างถูกต้องเป็นกุญแจสำคัญสู่ประสิทธิภาพการปกป้องผิวที่แท้จริงจากแสงแดด ในบทความนี้ เราจะแชร์เคล็ดลับวิธีทากันแดดที่ถูกต้องแบบครอบคลุมทุกสิ่งที่คุณจำเป็นต้องรู้ เช่น เวลาที่ควรทากันแดด ปริมาณครีมกันแดด ทาครีมกันแดดก่อนหรือหลังครีมบํารุง หรือ ควรทากันแดดทุกกี่ชั่วโมง เพื่อให้ได้การทาครีมกันแดดที่ถูกต้องและเหมาะสม…
ใครที่มีแผนกำลังเดินทางไปต่างจังหวัด หรือใช้ชีวิตประจำวันบนท้องถนน อยากจะแนะนำให้เซฟเบอร์โทรฉุกเฉินต่างๆ ไว้ติดมือถือเพราะสถานการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้นเมื่อใดก็ได้ การเตรียมตัวรับมือไว้ก่อนจะช่วยคลี่คลายสถานการณ์ต่าง ๆ จากหนักกลายเป็นเบาได้ หากได้รับการช่วยเหลือที่รวดเร็วทำให้มีความปลอดภัยทั้งต่อชีวิตและทรัพย์สินมากขึ้นซึ่งวันนี้ช้อปปี้ได้รวบรวมลิสต์เบอร์มือถือสำคัญ ๆ ไว้ให้ชาวแอพส้มของเราได้เซฟเก็บไว้อุ่นใจทุกการเดินทางซึ่งจะมีเบอร์ฉุกเฉินไหนบ้าง ไปเริ่มกันเลย! Cr: freepik ทำไมถึงควรมีเบอร์ฉุกเฉินติดมือถือ เบอร์ฉุกเฉิน…
การดูแลเบาะรถยนต์ถือเป็นสิ่งสำคัญในการรักษารูปลักษณ์และยืดอายุการใช้งานของรถ เบาะรถยนต์มีหลายประเภท แต่ละประเภทต้องมีวิธีการดูแลรักษาที่แตกต่างกัน คำแนะนำในการทําความสะอาดเบาะรถยนต์และดูแลรถของคุณให้สะอาดและน่านั่งตามวัสดุ และ ตามคราบที่เกิดขึ้น มีดังนี้ เปิดวิธีทําความสะอาดเบาะรถยนต์ เบาะแบบต่างๆ Cr. Unsplash ### 1. วิธีทําความสะอาดเบาะผ้า รถยนต์…
ทุกวันนี้ทุกคนคงเคยเห็น QR Code มาแล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่ง QR Code ร้านค้าที่เราเห็นและแสกนจ่ายกันอยู่ทุกวัน แต่ความจริงแล้ว QR Code มาจากไหน มีประวัติอย่างไร ทำงานยังไง และถ้าเราเป็นร้านค้า…
Credit : Freepik การบวชนั้น ถือเป็นธรรมเนียมและข้อปฏิบัติอย่างหนึ่งของพุทธศาสนิกชนในประเทศไทย ที่มีความเชื่อกันว่า ครั้งหนึ่งลูกผู้ชายควรที่จะบวชเพื่อทดแทนบุญคุณของบุพการีที่เลี้ยงดูเรามาตั้งแต่เด็ก จึงกลายมาเป็นธรรมเนียมที่ผู้ชายนั้นจะบวชในช่วงอายุ 20-25 ปีเพื่อทดแทนบุญคุณให้กับพ่อแม่หรือผู้ปกครองนั่นเอง โดยการบวชนั้น ก็มีการยกเอาเรื่องของฤกษ์ยามมาเป็นสิ่งสำคัญด้วยเช่นกัน ดังนั้น ในบทความนี้ Shopee…