Moms & Kids

ส่าไข้เด็ก (หัดกุหลาบ) อาการและการดูแลรักษาที่คุณพ่อคุณแม่ควรรู้

ส่าไข้ คือ อาการที่เด็กมีไข้สูงหรือส่าไข้เด็กเมื่อไข้เริ่มลดลงจะมีผื่นแดงขึ้นตามตัวและหลังซึ่งเรียกอีกชื่อว่าหัดกุหลาบเกิดจากเชื้อไวรัสจะมีลักษณะเหมือนเป็นหัด โรคนี้จะพบได้บ่อยในเด็กเล็กลักษณะอาการจะเหมือนมีไข้และเริ่มงอแงมีน้ำมูกไหล เจ็บคอ กินข้าวได้น้อยลง บางรายหากมีไข้สูงมากอาจจะมีภาวะแทรกซ้อนอื่น ๆ ด้วยซึ่งจะต้องมีการดูแลอย่างใกล้ชิดในอาการที่ไม่รุนแรงอาการจะหายไปเองภายใน 3-4 วัน หากไม่มีอาการอื่นแทรกซ้อน

ส่าไข้ เกิดจากอะไร และติดต่อกันอย่างไร

เกิดจากเชื้อไวรัสที่มีในเสมหะและน้ำลายของผู้ป่วย สามารถติดต่อโดยการหายใจสูดเอาฝอยละอองเสมหะที่ผู้ป่วยไอหรือจามรด หรือติดต่อโดยการสัมผัส ซึ่งเชื้ออาจติดอยู่ที่มือของผู้ป่วย สิ่งของเครื่องใช้ต่าง ๆ เมื่อคนปกติมาสัมผัสถูกมือผู้ป่วย สิ่งของเครื่องใช้ หรือสิ่งแวดล้อมที่ปนเปื้อนเชื้อ เชื้อก็จะติดมากับมือของคนนั้น เมื่อใช้นิ้วมือขยี้ตาหรือแคะไชจมูกเชื้อก็จะเข้าสู่ร่างกายได้โดยจะมี จุดสังเกตดังนี้

  1. ส่าไข้เป็นโรคติดต่อที่เกิดจากไวรัสในกลุ่มโรคเริมที่ชื่อว่า Human Herpesvirus 6(HHV-6)
  2. อาจเกิดจากเชื้อไวรัส Human Herpes Virus 7 (HHV-7) ซึ่งจะสามารถแพร่กระจายได้
  3. เกิดจากการสัมผัสโดนสารคัดหลั่งจากระบบทางเดินหายใจของผู้ป่วย เช่น น้ำลายหรือน้ำมูกเมื่ออยู่ใกล้กัน
  4. ช่วงของการแพร่กระจายของเชื้อจะเกิดขึ้นในช่วงที่ผู้ป่วยยังไม่แสดงอาการ ซึ่งอาจจะหลีกเลี่ยงได้ยาก
  5. เมื่อเกิดผื่นแดงขึ้นตามตัวแล้วหลังจากไข้ลดลงก็จะไม่ติดต่อไปสู่ผู้อื่นได้อีก เมื่อถึงช่วงนี้ก็สามารถจะใช้ชีวิตได้ปกติ

ส่าไข้ จะมีอาการอย่างไรบ้าง

ผู้ป่วยจะมีไข้สูงประมาณ 39.5-40.5 องศาเซลเซียส เกิดขึ้นอย่างฉับพลันระยะฟักตัวของเชื้อจะอยู่ในช่วง 5-15 วัน และจะแสดงอาการออกมาภายใน 1-2 สัปดาห์หลังได้รับเชื้อหากอาการของโรคไม่ค่อยรุนแรงก็มักจะหายได้เองภายใน 1 สัปดาห์ สำหรับผู้ป่วยบางรายอาจมีไข้สูงเพียงอย่างเดียวโดยที่ไม่มีผื่นขึ้นหรืออาจมีผื่นขึ้น จึงทำให้วินิจฉัยได้ไม่แน่ชัด

  1. ในช่วงก่อนที่จะเกิดผื่นขึ้นจะพบว่าไข้สูงก่อนในระยะนี้ประมาณ 39.5-40.5 องศาเซลเซียส ซึ่งหากสูงมากอาจจะมีอาการชักในเด็กได้
  2. อาจมีลักษณะตัวร้อนตลอดเวลาหากเป็นส่าไข้เด็กอาจจะยังร่าเริงและดื่มนม ดื่มน้ำ หรือรับประทานอาหารได้ดีเป็นปกติ
  3. อาจมีอาการหงุดหงิด งอแง หรือเบื่ออาหารเล็กน้อย
  4. อาจมีอาการไอ เจ็บคอ มีน้ำมูกใส หรือท้องเดินเล็กน้อย
  5. ช่วงที่ไข้สูงมากอาจพบมีต่อมน้ำเหลืองโตที่บริเวณหลังหู ท้ายทอย มีหนังตาบวมเล็กน้อยและเยื่อบุตาแดงอาจจะมีอาการอักเสบที่แก้วหูร่วมด้วย
  6. ระยะที่ไข้เริ่มลดจะพบผื่นสีแดงขนาดประมาณ 2-5 มิลลิเมตร ผื่นบางจุดอาจมีลักษณะนูนเล็กน้อยขึ้นตามลำตัว และแขนขา
  7. เด็กแถบเอเชียอาจพบมีแผลบริเวณด้านหลังของเพดานอ่อนติดกับลิ้นและลิ้นไก่ด้วย

ส่าไข้ จะมีวิธีดูแลและรักษาอย่างไร

เมื่อเด็กมีไข้สูงมากต้องรีบพาไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุเนื่องจากการมีไข้สูงเกิดได้จากหลายปัจจัย โดยจะต้องมีตรวจเช็กและมีการรักษาเพื่อไม่ให้มีโรคแทรกซ้อนหากได้รับการรักษาตั้งแต่เนิ่น ๆ สำหรับโรคส่าไข้นี้จัดเป็นโรคที่หายได้เอง เนื่องจากเกิดจากเชื้อไวรัสจึงไม่มียาที่ใช้รักษาโดยตรงการรักษาจึงเป็นเพียงแต่การให้การรักษาไปตามอาการ ดังนี้

  1. ระวังอย่าให้มีไข้สูงมากเพราะเด็กอาจเกิดอาการชักจากไข้ได้ด้วยการใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดตัวบ่อย ๆ โดยให้เช็ดย้อนรูขุมขน
  2. ในระยะที่มีไข้สูงให้รับประทานยาพาราเซตามอล (Paracetamol) ร่วมกับการใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดตัวบ่อย ๆ
  • ผู้ใหญ่ให้รับประทานครั้งละ 1-2 เม็ด (ชนิดเม็ด 500 มิลลิกรัม) รับประทานซ้ำได้ทุก 4-6 ชั่วโมงแต่ไม่ควรเกิน 8 เม็ด ต่อวัน และไม่ควรใช้ติดต่อกันเป็นเวลา 5 วัน เนื่องจากมีโอกาสเกิดพิษต่อตับ
  • เด็กที่มีอายุน้อยกว่า 12 ปี ให้ใช้ในขนาด 19-15 มิลลิกรัม/กิโลกรัม/ครั้ง สามารถรับประทานซ้ำได้ทุก 4-6 ชั่วโมง และไม่เกินวันละ 5 ครั้ง โดยควรรับประทานเฉพาะเวลาที่มีอาการ
  1. เด็กที่มีประวัติชักหรือมีพี่น้องเคยชักมาก่อน แพทย์จะให้ยากันชักร่วมกับยาลดไข้จนกว่าไข้จะลด
  2. ควรดื่มน้ำทีละน้อยแต่บ่อย ๆ โดยอาจเป็นน้ำ นม หรือน้ำหวานก็ได้ เพื่อช่วยระบายความร้อนในร่างกายหรือให้ปัสสาวะบ่อย ๆ
  3. ถ้าเด็กร้องงอแงคุณพ่อคุณแม่อาจพาอุ้มเดินและตบหลังเบา ๆ เพื่อช่วยปลอบโยน
  4. หากมีอาการชักร่วมด้วยควรรีบพาไปพบแพทย์ ซึ่งแพทย์จะวินิจฉัยอาการจากไข้เพื่อหาสาเหตุของการชัก
  5. จับเด็กนอนหงายโดยตะแคงศีรษะไปด้านในด้านหนึ่ง หรือจับเด็กนอนตะแคง ควรให้นอนบนพื้นที่โล่งมีอากาศถ่ายเท
  6. ถ้ามีน้ำลาย เสมหะ หรือเศษอาหารในปากหรือใบหน้า ให้เช็ดหรือดูดออกเพื่อไม่ให้เด็กสำลัก
  7. ควรถอดหรือปลดเสื้อผ้าเพื่อให้รูขุมขนได้ระบายความร้อนอย่างเต็มที่ แล้วรีบใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดตัวครั้งละ 15 นาทีหรือจนกว่าไข้จะลดและวัดไข้เรื่อย ๆ
  8. ควรรีบพาเด็กไปโรงพยาบาลใกล้บ้านทันทีถ้าเด็กมีอาการชักนานเกิน 5 นาที
  9. เฝ้าดูอาการอย่างใกล้ชิด สังเกตลักษณะการชักและจับระยะเวลาของการชักเพื่อแจ้งให้แพทย์ทราบ
  10. อย่าผูกหรือมัดตัวเด็ก หรือใช้แรงฝืนอย่าจำกัดการเคลื่อนไหวของเด็ก
  11. อย่าใช้วัตถุ เช่น ด้ามช้อน ไม้ สอดใส่ปากเด็ก เพราะอาจจะทำให้ปากหรือฟันได้รับบาดเจ็บ
  12. อย่าให้เด็กรับประทานอะไรหลังชักใหม่ ๆ เพราะอาจจะทำให้เด็กสำลักได้
  13. ในระยะที่มีไข้สูงก่อนผื่นขึ้นแพทย์จะตรวจร่างกายอย่างถี่ถ้วน เพื่อตรวจสอบว่าเด็กเป็นไข้จากสาเหตุอื่นหรือไม่
  14. ประมาณ 3-5 วัน เมื่อผื่นเริ่มขึ้นและเด็กมีไข้ลดลง เด็กมีท่าทางที่สบายขึ้นร่าเริงขึ้น ก็ไม่ต้องให้ยาแก้ไข้อีก

มีวิธีป้องกันอาการส่าไข้อย่างไร

ในปัจจุบันยังไม่มีวัคซีนสำหรับป้องกันโรคส่าไข้ ซึ่งเด็กหรือผู้ป่วยบางรายหากอาการดีขึ้นแล้วไม่มีภาวะแรกซ้อนที่จะเกิดจากโรคอื่นแพทย์ก็อาจจะให้ออกมารักษาตัวต่อที่บ้านได้ ดังนั้นหากมีเด็กในบ้านเป็นโรคนี้ก็ยังจะต้องดูแลอย่างใกล้ชิดและไม่ต้องตกใจหากมีผื่นขึ้นตามตัว และจะควรปฏิบัติดังนี้

  1. แยกผู้ป่วยออกต่างหากจนกว่าจะพ้นระยะติดต่อ 2 วันก่อนมีไข้จนถึง 2 วันหลังไข้ลด
  2. อย่าใช้สิ่งของเครื่องใช้ร่วมกับผู้ป่วย เช่น ห้ามดื่มน้ำแก้วเดียวกับผู้ป่วย
  3. หมั่นล้างมือด้วยน้ำกับสบู่อยู่บ่อย ๆ เพื่อขจัดเชื้อที่อาจติดอยู่ที่มือออกไป

ส่าไข้เด็ก หรือหัดกุหลาบพบได้บ่อยรวมไปถึงผู้ใหญ่ก็สามารถจะเป็นได้ ซึ่งเมื่อพบว่ามีผู้ป่วยในบ้านควรจะปฏิบัติตามข้อแนะนำต่าง ๆ ที่ได้กล่าวไว้แล้วข้างต้น หากพบในเด็กเล็กสิ่งที่สำคัญคืออย่าปล่อยให้เด็กมีไข้สูง ในบ้านควรจะมีเครื่องวัดอุณหภูมิติดไว้ด้วย และคุณพ่อคุณแม่ก็จะต้องตั้งสติและควรจะเรียนรู้วิธีเช็ดตัวเด็กอย่างถูกต้อง

บทความแม่และเด็กอื่น ๆ ที่น่าสนใจ ;

Shopee TH

Share
Published by
Shopee TH

Recent Posts

แนะนำ 15 รองเท้า Mary Jane ยี่ห้อไหนดี พร้อมเทคนิคเลือก

รองเท้า Mary Jane เป็นหนึ่งในสไตล์รองเท้าตามฉบับผู้ดีอังกฤษ ด้วยสายคาดที่เป็นเอกลักษณ์ รูปทรงคล้ายรองเท้านักเรียนผู้หญิง สวมสะดวก ใส่สบาย ลงตัวเป็นคัทชูที่โดดเด่น เต็มไปด้วยเสน่ห์ จนกลายเป็นรองเท้าแฟชั่นที่อยู่เหนือกาลเวลา ไม่ว่าผ่านเวลาไปนานสักแค่ไหน ‘รองเท้า Mary Jane’…

4 days ago

เคล็ดลับ วิธีทากันแดดที่ถูกต้องเพื่อการปกป้องผิวที่แท้จริงและสูงสุด

ครีมกันแดดคือเครื่องมือปกป้องผิวของคุณจากอันตรายจากรังสียูวีได้ดีที่สุด อย่างไรก็ตาม คุณคิดว่าที่ทาอยู่คือทาถูกหรือยัง? ที่ทาครีมกันแดดอยู่เพียงพอหรือไม่? รู้หรือไม่ว่าผลการวิจัยบอกว่าคนส่วนใหญ่ทาครีมกันแดดไม่พอ? การทาครีมกันแดดอย่างถูกต้องเป็นกุญแจสำคัญสู่ประสิทธิภาพการปกป้องผิวที่แท้จริงจากแสงแดด ในบทความนี้ เราจะแชร์เคล็ดลับวิธีทากันแดดที่ถูกต้องแบบครอบคลุมทุกสิ่งที่คุณจำเป็นต้องรู้ เช่น เวลาที่ควรทากันแดด ปริมาณครีมกันแดด ทาครีมกันแดดก่อนหรือหลังครีมบํารุง หรือ ควรทากันแดดทุกกี่ชั่วโมง เพื่อให้ได้การทาครีมกันแดดที่ถูกต้องและเหมาะสม…

5 days ago

รวมลิสต์เบอร์ฉุกเฉิน ควรเซฟติดมือถือให้อุ่นใจทุกสถานการณ์

ใครที่มีแผนกำลังเดินทางไปต่างจังหวัด หรือใช้ชีวิตประจำวันบนท้องถนน อยากจะแนะนำให้เซฟเบอร์โทรฉุกเฉินต่างๆ ไว้ติดมือถือเพราะสถานการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้นเมื่อใดก็ได้ การเตรียมตัวรับมือไว้ก่อนจะช่วยคลี่คลายสถานการณ์ต่าง ๆ จากหนักกลายเป็นเบาได้ หากได้รับการช่วยเหลือที่รวดเร็วทำให้มีความปลอดภัยทั้งต่อชีวิตและทรัพย์สินมากขึ้นซึ่งวันนี้ช้อปปี้ได้รวบรวมลิสต์เบอร์มือถือสำคัญ ๆ ไว้ให้ชาวแอพส้มของเราได้เซฟเก็บไว้อุ่นใจทุกการเดินทางซึ่งจะมีเบอร์ฉุกเฉินไหนบ้าง ไปเริ่มกันเลย!  Cr: freepik ทำไมถึงควรมีเบอร์ฉุกเฉินติดมือถือ  เบอร์ฉุกเฉิน…

5 days ago

ทําความสะอาดเบาะรถยนต์ด้วยตัวเอง ทำอย่างไร ทำตามได้เลยไม่ยาก

การดูแลเบาะรถยนต์ถือเป็นสิ่งสำคัญในการรักษารูปลักษณ์และยืดอายุการใช้งานของรถ เบาะรถยนต์มีหลายประเภท แต่ละประเภทต้องมีวิธีการดูแลรักษาที่แตกต่างกัน คำแนะนำในการทําความสะอาดเบาะรถยนต์และดูแลรถของคุณให้สะอาดและน่านั่งตามวัสดุ และ ตามคราบที่เกิดขึ้น มีดังนี้ เปิดวิธีทําความสะอาดเบาะรถยนต์ เบาะแบบต่างๆ Cr. Unsplash ### 1. วิธีทําความสะอาดเบาะผ้า รถยนต์…

7 days ago

เปิดแหล่งและวิธีทำ QR Code ร้านค้า ฟรี ทำที่ไหนอย่างไร

ทุกวันนี้ทุกคนคงเคยเห็น QR Code มาแล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่ง QR Code ร้านค้าที่เราเห็นและแสกนจ่ายกันอยู่ทุกวัน แต่ความจริงแล้ว QR Code มาจากไหน มีประวัติอย่างไร ทำงานยังไง และถ้าเราเป็นร้านค้า…

7 days ago

รวมฤกษ์บวช 2567 สำหรับเตรียมตัวบวชเพื่อพ่อแม่ และตนเอง

Credit : Freepik การบวชนั้น ถือเป็นธรรมเนียมและข้อปฏิบัติอย่างหนึ่งของพุทธศาสนิกชนในประเทศไทย ที่มีความเชื่อกันว่า ครั้งหนึ่งลูกผู้ชายควรที่จะบวชเพื่อทดแทนบุญคุณของบุพการีที่เลี้ยงดูเรามาตั้งแต่เด็ก จึงกลายมาเป็นธรรมเนียมที่ผู้ชายนั้นจะบวชในช่วงอายุ 20-25 ปีเพื่อทดแทนบุญคุณให้กับพ่อแม่หรือผู้ปกครองนั่นเอง โดยการบวชนั้น ก็มีการยกเอาเรื่องของฤกษ์ยามมาเป็นสิ่งสำคัญด้วยเช่นกัน ดังนั้น ในบทความนี้ Shopee…

7 days ago