เอาใจไบเกอร์! อัปเดต 10 รถมอเตอร์ไซค์คลาสสิก ในราคาหลักหมื่น

ความใฝ่ฝันของเหล่าไบเกอร์ทั้งหนุ่ม ๆ และสาว ๆ คงหนีไม่พ้นการมีมอเตอร์ไซค์คลาสสิกในฝันซักคันสองคัน แน่นอนว่าราคาของมอเตอร์ไซค์คลาสสิกแต่ละโมเดลก็ไม่เท่ากัน ทั้งหลักหมื่นไปจนถึงหลักล้าน วันนี้ เราจะมาเอาใจไบเกอร์มือใหม่ โดยการรวมมอเตอร์ไซค์คลาสิกรุ่นใหม่ ดีไซน์เก่า แต่ราคาไม่เกินแสนมาฝาก ไปดูกันดีกว่าว่ามีแบรนด์ไหน รุ่นไหนกันบ้าง

Stallion Centaur Makina 250 SP
(ราคา 85,900 บาท)

รถมอเตอร์ไซค์คลาสสิกรุ่นแรกเป็นแบรนด์ไทยอย่าง Stallion รุ่น Centaur Makina 250 SP เป็นรถมอเตอร์ไซค์คลาสสิกคันเล็ก สไตล์คลาสสิกคาเฟ่เรเซอร์ เครื่อง 250 CC มีให้เลือก 4 สีด้วยกันคือ สีดำ สีเทา สีแดง และสีขาว 

ตัวรถออกแบบเป็นทรงเปลคู่ ถังน้ำมันด้านหน้าเว้าช่วงหน้าขา ระบบกันสะเทือนหน้าด้วยโช๊คแบบหัวกลับปรับค่าได้ 41 มิลลิเมตร ส่วนโช้คอัพหลังแก๊สเป็นซับแทงค์ ดิสก์เบรคคู่แบบเรเดียลเม้าท์ ไฟหน้า LED สามดวง ท่อไอเสียสแตเลสทนความร้อนสูง 

Stallion CT400SE
(ราคา 99,000 บาท)

อีกหนึ่งรุ่นรถมอเตอร์ไซค์คลาสิกจาก Stallion รุ่น CT400 SE เหมาะกับคนที่ต้องการมองหารถมอเตอร์ไซค์คลาสสิก CC สูงแต่ราคาไม่ถึงแสน มีให้เลือก 4 สีเช่นกัน ทั้งสีขาว สีดำ สีแดง และสีเขียว ถูกใจคนรักรถมอเตอร์ไซค์คลาสสิกคาเฟ่แน่นอน

สำหรับดีไซน์รุ่นนี้ แฮนด์บาร์ทรง Holly Wood Tracker เบาะนั่งทรง Tracker ถังน้ำมันสไตล์คลาสสิกเว้าช่วงขา ไฟหน้าและไฟท้าย LED โช้คอัพหลังปรับ Preload ได้ 5 ระดับ 

GPX Legend 150s
(ราคา 48,800 บาท)

อีกหนึ่งรถมอเตอร์ไซค์คลาสสิกแบรนด์ไทย อย่าง GPX Legend 150s ซึ่งเป็นรุ่นใหม่ล่าสุด เครื่อง 150 CC หน้าตาเหมือนกับรุ่นก่อนทั้ง GPX Legend 150 และ GPX Legend 200 แต่ราคาถูกกว่า อยู่ที่ 4 หมื่นปลาย ๆ มีสีให้เลือกกว่า 3 สีทั้ง สีขาว สีดำ และสีเขียว

ดีไซน์รถมอเตอร์ไซค์คลาสสิกสไตล์แทรกเกอร์ ตัวถังคัดสรรสีที่ให้ความรู้สึกหรูหราผสมความเรโทร แฮนด์จับแบบแทรกเกอร์สุดคลาสสิก เบาะนั่งทรงขนมปัง พร้อมตูดมด ตัวถังน้ำมันออกแบบสวย ไฟหน้าฮาโลเจนแบบไฟกลม ส่วนไฟหลังเป็นไฟ LED ดิสก์เบรกด้านหน้าและดรัมเบรกหลัง 

GPX Legend Gentleman Racer 200
(ราคา 72,500 บาท)

ดีไซน์ของ GPX Legend Gentleman Racer 200 ภาพรวมเป็นมอเตอร์ไซค์แบบไฮบริด มีทั้งความเท่และความสปอร์ตในตัว เป็นรถมอเตอร์ไซค์คลาสสิก 200 CC มี 2 สีให้เลือกคือ สีแดงและสีดำ 

แฮนด์จับโช้คสไตล์คาเฟ่แบบ Clip-on Handlebars เหมาะกับคนที่ชอบสายหมอบ เพิ่มความเท่ยิ่งขึ้นด้วยชุดแต่งโม่งที่ติดมาให้ ดูดุดัน ลู่ลมได้ดี ไฟหน้าเป็น LED Ring ทรงกลมตามสไตล์คลาสสิก พร้อมเทคนิกกระจายความสว่างได้มากขึ้น มีครอบท้ายมาให้ในสไตล์สปอร์ต ถอดออกเพื่อซ้อนท้ายได้ เบรกหน้าเป็นดิสก์เบรกคู่ ส่วนด้านหลังเป็นดิสก์เบรกเดี่ยว

GPX Legend 250 Twin
(ราคา 79,500 บาท)

ยังคงอยู่กับ GPX รถคลาสสิกสัญชาติไทย แต่สำหรับ GPX Legend 250 Twin โดดเด่นเรื่องการเป็นรถมอเตอร์ไซค์คลาสสิกแบบ 2 สูบ เครื่อง 250 CC ในราคาไม่ถึง 8 หมื่น มีสีให้เลือก 3 สีด้วยกันคือ สีแดง สีดำด้าน และสีดำเงา

ภาพลักษณ์โดยรวมของ GPX Legend 250 Twin มีความคลาสสิกที่ผสมผสามดีไซน์ใหม่เข้าไปอย่างลงตัว ตัวไฟหน้าเป็นไฟ LED ทรงกลมคงความคลาสสิกตามแบบฉบับ Legend ส่วนไฟท้ายก็เป็น LED แบบโคมกลมเช่นกัน ตัวถังน้ำมันดีไซน์สวยดูเท่แบบพรีเมียม พร้อมมี Tank pad ช่วยยึดต้นขาขณะขับขี่ มีการติดตั้งตัวล็อกหมวกให้แล้ว มาพร้อมแฮนด์จับโช้ค และดิสก์เบรกคู่หน้า ส่วนโช้คใช้เป็นโช้คแก๊ส YSS  

Kawasaki W175 SE
(ราคา 86,000 บาท)

สำหรับ Kawasaki W175 SE เป็นมอเตอร์ไซค์เรโทร – คลาสสิกรุ่นเล็กของทางค่ายนี้ แต่รถมอเตอร์ไซค์คลาสสิกคันเล็กรุ่นนี้ก็มาพร้อมขุมพลัง 177 CC  

ดีไซน์เรียบง่ายอย่างลงตัว โดยตำแหน่งของแฮนด์บาร์ เบาะ และที่พักเท้า ทำให้ผู้ขับขี่อยู่ในท่าสบายอย่างเป็นธรรมชาติ เพิ่มความเก่าด้วยเรือนไมล์แบบเข็มทรงกลม ไฟหน้ากลมขนาดใหญ่ พร้อมไฟเลี้ยว และไฟท้ายสไตล์คลาสสิก ระบบเบรกด้านหน้าเป็นดิสก์เบรกแบบ 2 ลูกสูบ ส่วนด้านหลังเป็นดรัมเบรก   

Ryuka Infinity 250
(ราคา 59,900 บาท)

มาถึงทางแบรนด์จีนที่คนไทยให้ความนิยมกันอย่าง รถมอเตอร์ไซค์คลาสสิกคาเฟ่ Ryuka Infinity 250 มาพร้อมขุมพลังขับเคลื่อน 250 CC ในราคาเอื้อมถึงได้ง่ายไม่เกิน 6 หมื่นบาทเท่านั้น มีให้จับจอง 4 สีด้วยกัน คือ สีแดง สีเหลือง สีเขียว และสีดำ

รูปลักษณ์ภายนอกของมอเตอร์ไซค์คลาสสิกรุ่นนี้ ไฟหน้าเป็นหลอดฮาโลเจนโคมกลม บริเวณตัวถังน้ำมันมีการคาดสติ๊กเกอร์สไตล์คาเฟ่ ระบบเบรกหน้าเป็นดิสก์เบรกทั้งหน้าหลัง โช้คอัพด้านหน้าเป็นแบบหัวกลับ ด้านหลังโช้คอัพแก๊ส

Ryuka RK100
(ราคา 29,900 บาท)

มาถึงมอเตอร์ไซค์คลาสสิกอีกรุ่นของ Ryuka กับ Ryuka RK100 เป็นมอเตอร์ไซค์คลาสสิกคันเล็ก มินิเรโทร ผู้หญิงขับได้ ขนาด 100 CC มีให้เลือก 3 สีด้วยกัน คือ สีดำ สีขาว และสีเขียว

รูปลักษณ์ของเจ้ามินิเรโทรคันนี้ ค่อนข้างเพียว แต่ยังคงดุดัน ไฟหน้ากลมใหญ่สุดคลาสสิก เรือนไมล์ตั้งเยื้องไปทางซ้ายของแฮนด์บาร์ เบาะทรงยาวรับกับท่อสีดำปลายเล็ก ระบบเบรกหน้า – หลัง เป็นดรัมเบรก ด้านหน้าเป็นโช้คเทเลสโคปิค ส่วนด้านหลังเป็นโช้คอัพคู่

Keeway K-Light 202
(ราคา 61,500 บาท)

เป็นมอเตอร์ไซค์คลาสสิกแบบมินิครุยเซอร์ของทางแดนมังกร หรือที่เรารู้จักกันคือ Mini Chopper รูปทรงบึกบึน เบาะต่ำ หลังแอ่น แฮนด์สูงนั่นเอง ซึ่ง Keeway K-Light 202 มาในขนาดที่ชายก็ขับได้ หญิงก็ขับดี 

มอเตอร์ไซค์คลาสสิก Keeway K-Light 202 มาพร้อมเครื่อง 200 CC โครงสร้างรถใช้เฟรมท่อเหล็ก ไฟหน้าโคมกลม ไฟท้ายกลมเล็ก พร้อมไฟเลี้ยวแบบหัวกระสุน แฮนด์บาร์กว้าง โช้คอัพหน้าหลังแบบเทเลสโคปิค ซึ่งโช้คอัพหลังเสริมซับแทงค์ให้อีกด้วย 

Hanway 250 Scrambler
(ราคา 72,900 บาท)

สำหรับรถมอเตอร์ไซค์คลาสสิกสายลุยสัญชาติจีนอีกหนึ่งโมเดลอย่าง Hanway 250 Scrambler ขุมพลังถึง 250 CC ในราคาไม่เกิน 8 หมื่น มี 3 สี คือ สีดำด้าน สีดำเงา สีเงิน สีทอง สีแดง และสีเขียว 

อย่างแรกที่ทำให้รถมอเตอร์ไซค์คลาสสิกรุ่นนี้จัดเป็นสายลุยก็คือ ล้อยางที่ให้มาเป็นแบบวิบาก เหมาะกับสายลุย โช้คอัพหน้าแบบ Upside Down ส่วนโช้คอัพหลังแบบคู่สามารถปรับระยะได้ ไฟหน้า ไฟท้าย ไฟเลี้ยงเป็นไฟ LED ทั้งคัน 

มอเตอร์ไซค์คลาสสิกแต่ละค่ายก็มีเอกลักษณ์โดดเด่นแตกต่างกันไป แต่ละรุ่นก็เป็นมอเตอร์ไซค์คลาสิกใหม่ที่ยังมีวางขายในบ้านเราอย่างแน่นอน แถมบางรุ่นก็เป็นคันเล็ก เหมาะสำหรับไบเกอร์สาว เอาไว้ขับกินลมชมวิว สะดวกใช้งานทั้งในเมืองและต่างจังหวัด รับรองว่าขี่ไป…คันอื่นต้องมีเหลียวมองชัวร์! อย่างไรก็ตามเพื่อความขับขี่ปลอดภัย อย่าลืมใส่หมวกกันน็อคเท่ ๆ กับถุงมือกันด้วย
ที่มา: Outdoor Ch, Youtube