E-receipt คืออะไร? ขอ E-Receipt ที่ Shopee อย่างไร บทความนี้มีคำตอบ

หนึ่งในมาตรการจากภาครัฐที่ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจนั้น “Easy E-Receipt” หรือชื่อเดิมว่า “ช้อปดีมีคืน” ก็จะเป็นหนึ่งในชื่อยอดฮิตและเป็นมาตรการที่ผู้เสียภาษีเงินได้หลายคนนั้นชื่นชอบ เพราะสามารถนำค่าใช้จ่ายต่างๆ จากการช้อปมาลดหย่อนภาษีในช่วงการยื่นภาษีได้ ทำให้ลดค่าใช้จ่ายทางภาษีได้อีกทางหนึ่ง และสำหรับในปี พ.ศ. 2568 นั้น มาตรการช้อปดีมีคืนก็ได้เพิ่มช่องทางการลดหย่อนที่ผู้ซื้อสามารถขอ E-receipt จากร้านค้าต่างๆ รวมไปถึงร้านค้าออนไลน์อย่าง Shopee ด้วยเช่นกัน ซึ่งในบทความนี้ Shopee Blog จะพาทุกคนไปทำความรู้จักว่า E-Receipt คืออะไร เกี่ยวข้องอย่างไรกับการลดหย่อนภาษี หากซื้อสินค้าบน Shopee สามารถขอได้ตรงไหน รวมไปรายละเอียดของมาตรการลดหย่อนภาษีอย่าง “Easy E-Receipt” หรือ “ช้อปดีมีคืน” ของปีนี้ ว่ามีรายละเอียดคร่าวๆ อย่างไรบ้าง

E-Receipt คืออะไร

E-Receipt นั้น หากพูดคร่าวๆ ก็คือ เป็นใบกำกับภาษีในรูปแบบออนไลน์ที่ร้านค้าที่ร่วมรายการ (ร้านค้าที่จดทะเบียนอยู่ในระบบภาษีมูลค่าเพิ่ม) สามารถออกให้กับผู้ซื้อได้ และผู้ซื้อนั้น สามารถใช้ E-Receipt นี้ เข้าร่วมโครงการ Easy E-Receipt หรือชื่อเดิมคือ มาตรการช้อปดีมีคืน เพื่อประกอบการลดหย่อนภาษีในช่วงการยื่นภาษีได้ ซึ่งสำหรับปี 2568 นี้ เราสามารถสะสมยอดซื้อ E-Receipt ในหมวดหมู่สินค้าที่ร่วมรายการช่วงวันที่ 16 มกราคม – 28 กุมภาพันธ์ 2568 ได้สูงสุด 50,000 บาท/คน และนำไปลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 17,500 บาทเลยทีเดียว เรียกได้ว่าเป็นทางเลือกที่ช่วยแบ่งเบาภาระทางภาษีได้มากเลยทีเดียว โดยในปีนี้สิทธิของการลดหย่อนภาษี จะถูกแบ่งออกเป็น 2 ส่วน ตามด้านล่างนี้

Credit : Freepik

สิทธิในการลดหย่อนภาษีสูงสุด 50,000 บาท จะแบ่งออกเป็น 2 ส่วน ได้แก่

1.ซื้อสินค้าหรือรับบริการจากผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม หรือจากผู้มิได้เป็นผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม หักลดหย่อนภาษีได้ตามจำนวนที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 30,000 บาท

2.หักลดหย่อนได้เพิ่มอีกตามจำนวนที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 20,000 บาท ถ้า

2.1 ซื้อสินค้าหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ (OTOP) ซึ่งลงทะเบียนกับกรมการพัฒนาชุมชนแล้ว

2.2 ซื้อสินค้าหรือรับบริการจากวิสาหกิจชุมชนที่จดทะเบียนกับกรมส่งเสริมการเกษตร

2.3 ซื้อสินค้าหรือรับบริการจากวิสาหกิจเพื่อสังคมที่จดทะเบียนกับสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจเพื่อสังคม

ทั้งนี้ ค่าซื้อสินค้าหรือค่าบริการตามข้อ (1.) รวมถึงค่าซื้อสินค้าหรือค่าบริการตามข้อ (2.) ด้วย เช่น ซื้อสินค้า OTOP 50,000 บาท สามารถหักลดหย่อนได้ 50,000 บาท

ตัวอย่าง

1.ซื้อสินค้า/บริการทั่วไป จํานวน 25,000 บาท โดยได้รับ e-Tax Invoice แบบเต็มรูป หรือ e-Receipt จะสามารถนำ ไปลดหย่อนภาษีได้ 25,000 บาท เนื่องจากยังไม่เกินวงเงิน 30,000 บาทส่วนแรก

2.ซื้อสินค้า OTOP จํานวน 50,000 บาท โดยได้รับ e-Tax Invoice แบบเต็มรูป หรือ e-Receipt จะสามารถนำไปลด หย่อนภาษีได้ 50,000 บาท ทั้งจำนวน ซึ่งเป็นการใช้สิทธิจากทั้งวงเงินส่วนแรก 30,000 บาทและส่วนที่สองอีก 20,000 บาทรวมกัน

รายละเอียดของสินค้าโครงการ Easy E-Receipt

สำหรับสินค้าที่ไม่เข้าร่วมมาตรการลดหย่อนภาษี Easy E-Receipt มีรายละเอียดดังต่อไปนี้

  • ค่าซื้อสุรา เบียร์ และไวน์
  • ค่าซื้อยาสูบ
  • ค่าซื้อน้ำมัน ค่าซื้อก๊าซ และค่าบริการอัดประจุไฟฟ้าสำหรับเติมยานพาหนะ
  • ค่าซื้อรถยนต์และรถจักรยานยนต์ตามกฎหมายว่าด้วยรถยนต์และค่าซื้อเรือ
  • ค่าสาธารณูปโภค ค่าน้ำประปา ค่าไฟฟ้า ค่าบริการสัญญาณโทรศัพท์ ค่าบริการสัญญาณอินเทอร์เน็ต
  • ค่าบริการที่มีข้อตกลงการให้บริการและผู้รับบริการสามารถใช้บริการดังกล่าวนอกเหนือจากระยะเวลา
  • ค่าเบี้ยประกันวินาศภัย
  • ค่าบริการจัดนำเที่ยวที่จ่ายให้แก่ผู้ประกอบการธุรกิจนำเที่ยว
  • ค่าที่พักในโรงแรม
  • ค่าที่พักโฮมสเตย์ไทย
  • ค่าที่พักที่ไม่เป็นโรงแรมตามกฎหมายว่าด้วยโรงแรม

ช้อปที่ Shopee สามารถขอ E-Receipt ได้นะ

Shopee Thailand อำนวยความสะดวกให้ลูกค้าที่ต้องการเข้าร่วมโครงการ Easy E-Receipt ด้วยการที่ลูกค้าสามารถขอ E-Receipt กับร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการ (เป็นร้านค้าที่เป็นผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม ที่สามารถออกใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์แบบเต็มรูปผ่านระบบ e-Tax Invoice & e-Receipt ของกรมสรรพากรได้) และเมื่อลูกค้าช้อปสินค้าที่เข้าร่วมโครงการบน Shopee ก็จะสามารถเลือกตัวเลือกในการขอ E-Receipt ในการนำมาลดหย่อนภาษีได้

สามารถหาสินค้าที่เข้าร่วม E-Reciept ใน Shopeeได้อย่างไร

หากอยากช้อปสินค้าที่ Shopee แต่สงสัยว่าจะขอ E-Receipt จากการซื้อสินค้าที่ Shopee อย่างไร Shopee Blog จะมาบอกวิธีให้ทุกคนทราบกัน ไม่ยากเลย เพียงทำตามขั้นตอนเหล่านี้

1.ป้าย Easy E-Receipt สินค้าที่เข้าร่วมโครงการจะมีป้าย “Easy E-Receipt” แสดงอยู่ ใต้รูปสินค้า

2.กดหาสินค้าจากตัวกรอง

  • ค้นหาสินค้าที่ต้องการสั่งซื้อ เลือกตัวกรองเป็น “Easy E-Receipt” แล้วเลือกตกลง
  • ผลลัพธ์ของสินค้าและร้านค้าที่เข้าร่วม “Easy E-Receipt” จะปรากฏขึ้น
  • เลือกสินค้าที่ต้องการสั่งซื้อ และดำเนินการสั่งซื้อ
  • ในหน้าจอทำการสั่งซื้อ ให้คลิกเมนู “ขอใบกำกับภาษี” ที่จะอยู่ต่อจากแถบ “คำสั่งซื้อทั้งหมด” และกรอกข้อมูลส่วนตัวให้ครบถ้วน เช่น
    • ชื่อ-นามสกุล
    • อีเมล
    • หมายเลขโทรศัพท์
    • หมายเลขประจำตัวผู้เสียภาษี (เลขบัตรประชาชน 13 หลัก)
    • ที่อยู่สำหรับออกใบกำกับภาษี
  • เมื่อกรอกข้อมูลเรียบร้อย คลิก “ส่งคำขอ”
  • เลือก “สั่งสินค้า” และชำระเงินให้เรียบร้อย
  • เสร็จสมบูรณ์

    *ตัวกรอง และป้าย Easy E-reciept จะเริ่มแสดงผล 16 มกราคม – 28 กุมภาพันธ์ 2568

เรื่องที่ควรทราบ : Shopee Thailand เป็นเพียงผู้รวบรวมคำขอใบกำกับภาษีจากผู้ซื้อเพื่อส่งต่อไปยังผู้ขายเท่านั้น โดยจะไม่สามารถออกใบกำกับภาษีในนามของ Shopee ได้

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมสำหรับการขอใบกำกับภาษีได้ ที่นี่

Credit : Freepik

เพดานการลดหย่อนภาษี สำหรับโครงการ Easy E-Receipt

สำหรับโครงการ Easy E-Receipt นั้นมีกำหนดเพดานสูงสุดสำหรับจำนวนภาษีที่จะได้รับการลดหย่อนภาษีผ่านการขอ E-Receipt คือ ช้อป 50,000 บาท จะได้รับการลดหย่อนสูงสุด 17,500 บาท ซึ่งขึ้นอยู่กับเงินได้สุทธิต่อปีของแต่ละคน โดย Shopee Blog สรุปมาให้ทุกคนแล้วในตารางด้านล่าง ว่าเงินได้เท่านี้ ช้อปแต่ละบาท จะได้คืนอย่างไรบ้าง

รายได้สุทธิ(ต่อปี)อัตราภาษีภาษีที่จะได้คืน (บาท)
ช้อป 10,000ช้อป 20,000ช้อป 30,000ช้อป 40,000ช้อป 50,000
ไม่เกิน 150,000
150,001 – 300,0005%5001,0001,5002,0002,500
300,001 – 500,00010%1,0002,0003,0004,0005,000
500,001 – 750,00015%1,5003,0004,5006,0007,500
750,001 – 1,000,00020%2,0004,0006,0008,00010,000
1,000,000 – 2,000,00025%2,5005,0007,50010,00012,500
2,000,000 – 5,000,00030%3,0006,0009,00012,00015,000
5,000,000 ขึ้นไป35%3,5007,00010,50014,00017,500

บทความนี้ Shopee Blog หวังว่าจะได้ให้รายละเอียดครบถ้วนว่า E-Receipt คืออะไร พร้อมรายละเอียดโครงการ Easy E-Receipt ที่สรุปมาให้แบบกระชับสำหรับทุกคน และถ้ากำลังสนใจจะช้อปที่ Shopee เพื่อนำไปลดหย่อนภาษี ก็มาอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้เลยที่ Shopee Easy E-Receipt และเลือกช้อปได้เลยทั้ง สินค้าอิเล็กทรอนิกส์ สินค้าบ้านและของสะสม สินค้าบิวตี้และแฟชั่น และสินค้าซูเปอร์มาร์เก็ตอีกมากมาย พร้อมส่วนลดคุ้มๆ อย่าลืมช้อปภายใน 28 กุมภาพันธ์ 2568 นี้นะ

ขอบคุณข้อมูลบางส่วนจาก Post Today และ TTBBank

Peem

Share
Published by
Peem

Recent Posts

ปัดแก้มสวยฉ่ำ! 15 บลัชออน ยี่ห้อไหนดี สีสวยชัด ติดทน มีตั้งแต่ราคาเบา ๆ จนถึงเคาน์เตอร์แบรนด์

คัดให้แล้ว 15 บลัชออน ยี่ห้อไหนดี ทั้งเนื้อฝุ่น เนื้อครีม หรือเนื้อลิควิด สีสวยชัด เม็ดสีแน่น เหมาะกับทุกสีผิว พร้อมเทคนิคเลือกบลัชออนให้เข้ากับลุค

1 week ago

ไอเทมเด็ดที่สาว ๆ ต้องมี! 12 เครื่องหนีบผม ยี่ห้อไหนดี ร้อนเร็ว ผมไม่เสีย ผมสวยได้ไม่ต้องเข้าร้าน

ผมชี้ฟู ผมหยิก ผมหยักศก ผมลีบแบน จัดทรงยาก นับเป็นปัญหาที่กวนใจของสาว ๆ หลายคน ถ้าปล่อยให้ผมไม่เป็นทรงออกจากบ้าน สาว ๆ หลายคนแก้ปัญหาด้วยกันมัดผม ไม่กล้าปล่อย เพราะไม่มั่นใจ ซึ่งอาจจะทำให้เสียบุคลิกได้…

1 week ago

กุญแจรถมอเตอร์ไซค์หาย ทำอย่างไร รวมวิธีรับมือ-เรียกช่าง พร้อมไอเท็มเด็ดกันหาย

กุญแจรถหาย มอไซค์ ทำไงดี? แค่คิดก็หัวหมุนแล้ว โดยเฉพาะถ้ากำลังรีบ หรือรถที่หายเป็นเวฟ 110i คู่ใจ ไม่ต้องตกใจไป เพราะบทความนี้รวมวิธีรับมือแบบครบจบ ตั้งแต่การตั้งสติ ค้นหากุญแจ ไปจนถึงการเรียกช่างและปั้มกุญแจใหม่ พร้อมบอก ราคาทำกุญแจรถมอเตอร์ไซค์…

2 weeks ago

รวมแบรนด์ดัง Astaxanthin ยี่ห้อไหนดี? ช่วยชะลอวัยให้อ่อนเยาว์

ใครที่กำลังมองหา astaxanthin ยี่ห้อไหนดี? นี่คือรวมรีวิวแบรนด์ดัง เสริมสุขภาพ ผิวพรรณ และภูมิคุ้มกัน พร้อมเคล็ดลับเลือกซื้อที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของคุณ!

2 weeks ago

กุญแจสู่หุ่นสวย! พิลาทิส คือ อะไร ที่ให้มากกว่าแค่การมีหุ่นสวย แต่ยังให้สุขภาพดี

เคล็ดลับการออกกำลังกายให้ร่างกายแข็งแรง ยืดหยุ่นที่คุณไม่เคยรู้! พิลาทิส คือ อะไร และประโยชน์ของพิลาทิส ที่จะทำให้คุณเปลี่ยนมุมมองการออกกำลังกาย

2 weeks ago

สุขภาพดีได้ที่บ้าน ไม่ต้องง้อฟิตเนส! 10 ลู่วิ่งไฟฟ้า ยี่ห้อไหนดี วิ่งดี เบิร์นไว ปลอดภัย ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์

คัดมาให้แล้ว 10 ลู่วิ่งไฟฟ้า ยี่ห้อไหนดี ฟังก์ชันเด่น ราคาโดนใจ พร้อมวิธีเลือกลู่วิ่งให้เหมาะสม อยากมีหุ่นเฟิร์ม สุขภาพดี โดยไม่ต้องง้อฟิตเนส!

2 weeks ago