สวัสดีเพื่อน ๆ นักเดินทางทุกคน! หากกำลังมองหาจุดหมายปลายทางที่ไม่ไกลจากประเทศไทย เปี่ยมไปด้วยเสน่ห์ของสถาปัตยกรรมเก่าแก่ ศิลปะร่วมสมัย อาหารรสเลิศ และธรรมชาติที่งดงาม “ปีนัง” คือคำตอบที่สมบูรณ์แบบที่สุด เกาะที่ได้รับการขนานนามว่าเป็น “ไข่มุกแห่งตะวันออก” แห่งนี้ ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นเมืองมรดกโลกโดย UNESCO การันตีถึงความพิเศษที่ไม่เหมือนใคร
บทความนี้ได้รวบรวมทุกข้อมูลสำคัญสำหรับเพื่อน ๆ ที่วางแผนจะไปเที่ยวปีนังด้วยตัวเอง ตั้งแต่ช่วงเวลาที่น่าไปที่สุด ไปจนถึงการปักหมุด 15 สถานที่ท่องเที่ยวปีนัง ที่คัดมาแล้วว่าเด็ดจริง พร้อมข้อมูลเชิงลึกที่จะทำให้ทริปของเพื่อน ๆ ราบรื่นและน่าจดจำ เตรียมกระเป๋าเดินทางให้พร้อม แล้วออกไปสำรวจมนต์เสน่ห์ของปีนังด้วยกันเลย
หัวข้อต่างๆ ของบทความนี้
ก่อนจะจองตั๋วเครื่องบิน สิ่งแรกที่เพื่อน ๆ ควรรู้คือช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการไปเยือน เพราะสภาพอากาศมีผลอย่างมากต่อประสบการณ์การท่องเที่ยว เรามาดูกันดีกว่าว่าควรเที่ยวปีนัง เดือนไหนดี
สรุป: หากต้องการอากาศที่ดีที่สุดและไม่เกี่ยงเรื่องงบประมาณ ให้เลือกเดินทางช่วงเดือนธันวาคมถึงมีนาคม แต่หากต้องการความคุ้มค่าและไม่พลุกพล่าน ช่วงเดือนเมษายนถึงสิงหาคมก็เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยม
การเดินทางไปปีนังด้วยตัวเองนั้นสะดวกสบายกว่าที่คิด มีหลายวิธีให้เพื่อน ๆ เลือกตามความสะดวกและงบประมาณ
เมื่อเตรียมตัวพร้อมแล้ว ก็ถึงเวลาไปสำรวจไฮไลต์ของปีนังกัน! เราได้คัดสรร 15 สถานที่เด็ด ๆ ที่จะทำให้เพื่อน ๆ ตกหลุมรักเมืองนี้มาให้แล้ว
เริ่มต้นการเดินทางที่ใจกลางของปีนังอย่าง George Town เมืองหลวงที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวาและได้รับการยกย่องให้เป็นมรดกโลกจาก UNESCO ที่นี่คือศูนย์รวมของสถาปัตยกรรมชิโน-โปรตุกีสที่งดงาม ตึกแถวโบราณหลากสีสันที่เรียงรายอยู่สองข้างทาง บอกเล่าเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ที่ผสมผสานวัฒนธรรมตะวันออกและตะวันตกได้อย่างลงตัว การเดินสำรวจตามตรอกซอกซอยต่าง ๆ เปรียบเสมือนการเดินทางย้อนเวลา
เพื่อน ๆ จะได้พบกับวัดจีน ศาลเจ้าอินเดีย มัสยิด และโบสถ์คริสต์ที่ตั้งอยู่ไม่ไกลกัน สะท้อนให้เห็นถึงความหลากหลายทางวัฒนธรรมที่อยู่ร่วมกันอย่างกลมกลืน นอกจากสถาปัตยกรรมแล้ว George Town ยังเป็นแหล่งรวมคาเฟ่เก๋ ๆ แกลเลอรีศิลปะ และร้านค้าบูติกมากมายให้ได้แวะพักผ่อนและช้อปปิ้ง การใช้เวลาหนึ่งวันเต็ม ๆ ในการเดินเล่นที่นี่ รับรองว่าจะได้ภาพสวย ๆ กลับไปเต็มเมมโมรี่การ์ดอย่างแน่นอน
หากเพื่อน ๆ อยากเห็นภาพรวมของเกาะปีนังจากมุมสูง การขึ้นไปยัง Penang Hill หรือ Bukit Bendera คือกิจกรรมที่ห้ามพลาดเด็ดขาด เพื่อน ๆ จะได้นั่งรถรางไฟฟ้า (Funicular Railway) ที่มีความชันและเก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ไต่ระดับความสูงกว่า 833 เมตรจากระดับน้ำทะเลขึ้นไปสู่ยอดเขา ระหว่างทางจะได้ชมทิวทัศน์ของป่าฝนที่อุดมสมบูรณ์ เมื่อถึงยอดเขา อากาศที่เย็นสบายและความสดชื่นจะทำให้รู้สึกผ่อนคลาย จุดชมวิวหลักสามารถมองเห็นเมือง George Town สะพานปีนัง และช่องแคบมะละกาได้อย่างชัดเจนในวันที่อากาศดี
นอกจากจุดชมวิวแล้ว บน Penang Hill ยังมีกิจกรรมอื่น ๆ อีกมากมาย เช่น The Habitat เส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติบนยอดไม้, The Owl Museum, สวนดอกไม้ และร้านอาหารบรรยากาศดี การมาเยือนที่นี่เปรียบเสมือนการหลีกหนีความวุ่นวายในเมืองมาสู่โอเอซิสแห่งความสงบบนยอดเขา
หนึ่งในแม่เหล็กที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกให้มาเยือนปีนังก็คือผลงานสตรีทอาร์ตที่มีชื่อเสียง ซึ่งกระจายตัวอยู่ตามกำแพงอาคารเก่าใน George Town ผลงานส่วนใหญ่เป็นของศิลปินชาวลิทัวเนีย Ernest Zacharevic ที่สร้างสรรค์ภาพวาดผสมผสานกับของจริงได้อย่างมีมิติและลงตัว เช่น ภาพ “Kids on a Bicycle” หรือ “Little Boy with Pet Dinosaur” การเดินตามล่าหาภาพวาดเหล่านี้เป็นกิจกรรมที่สนุกและเพลิดเพลิน ทำให้การสำรวจเมืองมีเป้าหมายมากขึ้น
เพื่อน ๆ สามารถเช่าจักรยานหรือเดินเท้าตามแผนที่สตรีทอาร์ต ซึ่งมีแจกตามโรงแรมหรือศูนย์บริการนักท่องเที่ยว การโพสท่าถ่ายรูปคู่กับงานศิลปะเหล่านี้กลายเป็นธรรมเนียมของนักท่องเที่ยวทุกคนที่มาเยือน นอกจากผลงานของ Ernest แล้ว ยังมีผลงานของศิลปินท้องถิ่นอีกมากมาย โดยเฉพาะภาพเหล็กดัดที่บอกเล่าเรื่องราวของถนนแต่ละสาย ซึ่งช่วยเพิ่มเสน่ห์ให้กับการเดินชมเมืองยิ่งขึ้นไปอีก อย่าลืมใส่รองเท้าผ้าใบที่เดินสบาย ๆ เพราะต้องเดินเยอะแน่นอน
วัดเก็กลกสี่ หรือที่รู้จักกันในนาม “Temple of Supreme Bliss” คือวัดพุทธนิกายมหายานที่ใหญ่และงดงามที่สุดในมาเลเซีย ตั้งอยู่บนเนินเขา Air Itam มองเห็นทิวทัศน์ได้ไกลสุดลูกหูลูกตา สถาปัตยกรรมของวัดเป็นการผสมผสานศิลปะจาก 3 ชาติ คือ ฐานเจดีย์แบบจีน, ตัวเจดีย์ท่อนกลางแบบไทย และยอดเจดีย์แบบพม่า ไฮไลต์สำคัญคือ “เจดีย์พระราม 6” หรือเจดีย์หมื่นพระ ที่มีความสูง 7 ชั้น ซึ่งเพื่อน ๆ สามารถเดินขึ้นไปชมความงามของพระพุทธรูปนับหมื่นองค์ที่ประดิษฐานอยู่ภายในได้
อีกหนึ่งจุดที่ห้ามพลาดคือรูปปั้นเจ้าแม่กวนอิมสัมฤทธิ์ขนาดมหึมา ที่มีความสูงถึง 36.5 เมตร ประดิษฐานอย่างโดดเด่นอยู่บนยอดสูงสุดของวัด การเดินทางขึ้นไปยังส่วนต่าง ๆ ของวัดสามารถใช้ลิฟต์ลาดเอียง (Inclined Lift) ได้เพื่อความสะดวกสบาย ที่นี่ไม่เพียงแต่เป็นศาสนสถานที่สำคัญ แต่ยังเป็นจุดชมวิวที่สวยงามและเป็นสถานที่ที่แสดงถึงความยิ่งใหญ่ทางสถาปัตยกรรมทางศาสนาได้อย่างน่าทึ่ง
หลังจากเที่ยวชมเมืองและวัดวาอารามแล้ว ลองเปลี่ยนบรรยากาศมาพักผ่อนริมทะเลกันบ้างที่หาดบาตูเฟอร์ริงกี ชายหาดที่มีชื่อเสียงที่สุดของปีนัง ทอดยาวไปตามชายฝั่งทางตอนเหนือของเกาะ ที่นี่เป็นศูนย์รวมของรีสอร์ตหรู กิจกรรมทางน้ำ และร้านอาหารทะเลสดใหม่ ในช่วงกลางวัน เพื่อน ๆ สามารถนอนอาบแดด เล่นน้ำทะเล หรือสนุกกับกิจกรรมสุดมันส์อย่างเจ็ตสกี, พาราเซลลิ่ง หรือบานาน่าโบ๊ท
เมื่อพระอาทิตย์เริ่มตกดิน บรรยากาศจะเปลี่ยนเป็นความคึกคักของตลาดนัดกลางคืน (Night Market) ที่มีสินค้ามากมายตั้งแต่อาหารสตรีทฟู้ด ของที่ระลึก เสื้อผ้า ไปจนถึงงานฝีมือท้องถิ่นให้ได้เลือกซื้อ หาดบาตูเฟอร์ริงกีจึงเป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับทั้งการพักผ่อนแบบเงียบสงบและการสังสรรค์ยามค่ำคืน เป็นอีกหนึ่ง ที่เที่ยวปีนัง ที่ตอบโจทย์นักท่องเที่ยวทุกสไตล์ อย่าลืมเตรียมชุดว่ายน้ำและครีมกันแดด ไปให้พร้อมสำหรับวันพักผ่อนริมทะเล
สำหรับเพื่อน ๆ ที่รักความตื่นเต้นและอยากชมวิวเมืองแบบ 360 องศา ต้องไม่พลาด The Top Komtar ซึ่งตั้งอยู่บนยอดตึก Komtar อาคารที่สูงที่สุดในใจกลาง George Town ไฮไลต์สำคัญอยู่ที่ชั้น 68 กับ Rainbow Skywalk ทางเดินพื้นกระจกรูปตัว U ที่ยื่นออกมานอกตัวอาคาร ให้เพื่อน ๆ ได้ท้าทายความสูงและสัมผัสประสบการณ์เหมือนเดินอยู่บนอากาศ พร้อมชมทัศนียภาพอันงดงามของเกาะปีนังได้แบบไม่มีอะไรมาบดบัง นอกจาก Skywalk แล้ว ที่ The Top Komtar ยังมีกิจกรรมอื่น ๆ อีกมากมาย เช่น Jurassic Research Center ที่จะพาเพื่อน ๆ ย้อนยุคไปสู่โลกล้านปีของไดโนเสาร์, Ocean Explorer พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำเสมือนจริง และจุดชมวิวในร่ม (Observatory Deck) ที่ชั้น 65 เป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับทุกคนในครอบครัว สามารถใช้เวลาสนุกสนานได้ตลอดทั้งวัน และเป็นอีกหนึ่งจุดถ่ายรูปเช็คอินที่สวยงามที่สุดของปีนัง
หากเพื่อน ๆ เป็นสายรักธรรมชาติและการผจญภัย อุทยานแห่งชาติปีนัง (Taman Negara Pulau Pinang) คือจุดหมายที่ต้องไปเยือน แม้จะเป็นอุทยานแห่งชาติที่เล็กที่สุดในมาเลเซีย แต่กลับมีความหลากหลายทางชีวภาพสูงมาก ที่นี่มีเส้นทางเดินป่าให้เลือกหลายเส้นทาง ตั้งแต่เส้นทางง่าย ๆ ไปจนถึงเส้นทางที่ท้าทาย ระหว่างทางเพื่อน ๆ จะได้พบกับพันธุ์ไม้แปลกตา สัตว์ป่านานาชนิด เช่น ลิงแสม นกเงือก หรือแม้กระทั่งเต่าทะเลที่ขึ้นมาวางไข่
ไฮไลต์ของที่นี่คือการเดินป่าไปยังชายหาดที่ซ่อนตัวอยู่ เช่น หาด Monkey Beach หรือหาด Kerachut ซึ่งเป็นที่ตั้งของศูนย์อนุรักษ์พันธุ์เต่าทะเล และมีทะเลสาบน้ำจืดผสมน้ำเค็ม (Meromictic Lake) ที่หาชมได้ยาก นอกจากเดินป่าแล้ว ยังสามารถเช่าเรือเพื่อไปยังชายหาดต่าง ๆ ได้อีกด้วย เป็นการเปลี่ยนบรรยากาศจากการเที่ยวเมืองมาสู่ความสงบของธรรมชาติอย่างแท้จริง
สำหรับเพื่อน ๆ ที่ชื่นชอบประวัติศาสตร์และศิลปะ พิพิธภัณฑ์และหอศิลป์แห่งรัฐปีนังคือสถานที่ที่ควรค่าแก่การเยี่ยมชม พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ตั้งอยู่ในอาคารเก่าแก่ที่เคยเป็นโรงเรียน Penang Free School มาก่อนภายในแบ่งออกเป็นสองส่วนหลัก
ส่วนแรกจัดแสดงเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ของปีนัง ตั้งแต่ยุคก่อตั้งโดยฟรานซิส ไลท์ เหตุการณ์สำคัญต่าง ๆ ไปจนถึงวิถีชีวิตและวัฒนธรรมของกลุ่มชาติพันธุ์ที่หลากหลายที่เข้ามาตั้งรกรากบนเกาะแห่งนี้
ส่วนที่สองคือหอศิลป์ ที่รวบรวมและจัดแสดงผลงานศิลปะของศิลปินท้องถิ่น ทั้งภาพวาด ประติมากรรม และสื่อผสม ที่สะท้อนถึงมุมมองและเอกลักษณ์ของปีนังในยุคต่าง ๆ การเข้าชมที่นี่จะทำให้เพื่อน ๆ เข้าใจความเป็นมาของปีนังได้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น และยังเป็นโอกาสที่ดีในการสนับสนุนวงการศิลปะท้องถิ่นอีกด้วย
สัมผัสความแปลกและน่าทึ่งที่วัดงู หรือ Hock Hin Keong Temple วัดแห่งนี้สร้างขึ้นเพื่ออุทิศแด่พระ Chor Soo Kong ตามตำนานเล่าว่าหลังจากสร้างวัดเสร็จ ก็มีงูพิษจำนวนมากเลื้อยเข้ามาอาศัยอยู่เองโดยไม่ทำร้ายผู้คน ชาวบ้านเชื่อว่าเป็นบริวารของท่าน และกลายเป็นเอกลักษณ์ของวัดมาจนถึงปัจจุบัน เพื่อน ๆ จะได้เห็นงูพิษ โดยเฉพาะงูเขียวหางไหม้ (Wagler’s Pit Viper) นอนขดอยู่ตามขื่อคาน กิ่งไม้ หรือแม้กระทั่งบนแท่นบูชาอย่างสงบ ว่ากันว่าควันธูปที่จุดบูชาตลอดวันทำให้งูเหล่านี้สงบลง
อย่างไรก็ตาม เพื่อความปลอดภัย ทางวัดได้ถอดพิษงูส่วนใหญ่ออกแล้ว แต่ก็ยังคงความน่าตื่นเต้นและเป็นประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใคร นอกจากนี้ ด้านหลังวัดยังมีฟาร์มงูเล็ก ๆ ให้ได้ชมและถ่ายรูปคู่กับงู (ภายใต้การดูแลของผู้เชี่ยวชาญ) อีกด้วย
หากเพื่อน ๆ กำลังมองหากิจกรรมที่สนุกและท้าทาย ESCAPE Adventure Theme Park คือคำตอบ! สวนสนุกแห่งนี้แตกต่างจากที่อื่น ๆ เพราะเน้นกิจกรรมที่ใกล้ชิดกับธรรมชาติและใช้พลังของตัวเองเป็นหลัก ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Low Tech, High Fun”
ที่นี่แบ่งออกเป็น 2 โซนหลัก คือ Adventureplay สวนสนุกบนบกที่เต็มไปด้วยกิจกรรมปีนป่าย, โหนสลิง (Zip-line), กระโดดหอ (Atan’s Leap) และ Waterplay สวนน้ำที่มีสไลเดอร์ยาวที่สุดในโลก! (ได้รับการบันทึกใน Guinness World Records) ที่จะพาเพื่อน ๆ ไหลผ่านป่าเขียวชอุ่ม เป็นประสบการณ์ที่น่าตื่นเต้นและไม่เหมือนใคร เหมาะสำหรับทุกเพศทุกวัย ตั้งแต่เด็กไปจนถึงผู้ใหญ่ที่หัวใจยังรักการผจญภัย รับรองว่ามาที่นี่จะได้ทั้งความสนุก เสียงหัวเราะ และได้ออกกำลังกายไปในตัว
ก้าวเข้าสู่ Queen Street แล้วเพื่อน ๆ จะรู้สึกเหมือนได้วาร์ปไปอยู่ที่อินเดีย! ย่าน Little India แห่งนี้คือศูนย์รวมวัฒนธรรมอินเดียที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งในมาเลเซีย ตลอดสองข้างทางเต็มไปด้วยเสียงเพลงภาษาทมิฬที่เปิดดังกึกก้อง กลิ่นเครื่องเทศหอมฟุ้ง และสีสันสดใสของส่าหรีที่แขวนโชว์ในร้านค้า ที่นี่เป็นสวรรค์ของคนรักอาหารอินเดีย
เพื่อน ๆ สามารถลิ้มลองอาหารอินเดียใต้ต้นตำรับได้ในราคาไม่แพง ตั้งแต่โรตีจาไน, โทไซ, ข้าวหมกบริยานี ไปจนถึงขนมหวานหลากชนิด นอกจากนี้ยังเป็นแหล่งซื้อของฝากเก๋ ๆ เช่น เครื่องเทศ, กำไล, เครื่องหอม และผ้าส่าหรีสีสวย อย่าลืมแวะสักการะเทพเจ้าที่ Sri Mahamariamman Temple วัดฮินดูที่เก่าแก่และงดงามที่สุดในปีนัง ซึ่งตั้งอยู่ในย่านนี้ด้วย
Chew Jetty คือหนึ่งในหมู่บ้านชาวประมง (Clan Jetties) ที่มีชื่อเสียงและใหญ่ที่สุดใน George Town ชุมชนแห่งนี้สร้างขึ้นโดยชาวจีนฮกเกี้ยนที่อพยพมาในช่วงศตวรรษที่ 19 ลักษณะเด่นคือบ้านไม้ที่ปลูกสร้างบนเสาเหนือน้ำทะเล มีทางเดินไม้เชื่อมต่อกันทอดยาวออกไปในทะเล การเดินเล่นบนสะพานไม้ของ Chew Jetty ทำให้เพื่อน ๆ ได้สัมผัสวิถีชีวิตดั้งเดิมของชาวบ้านที่ยังคงผูกพันกับสายน้ำ
ปัจจุบันบ้านบางหลังได้ปรับเปลี่ยนเป็นร้านขายของที่ระลึก ร้านอาหารเล็ก ๆ และโฮมสเตย์ แต่ก็ยังคงมีชาวบ้านอาศัยอยู่จริง ที่นี่จึงเป็นสถานที่ที่มีชีวิตชีวาและมีเสน่ห์เฉพาะตัว เป็นจุดถ่ายรูปที่สวยงามโดยเฉพาะในช่วงเช้าและเย็น และยังเป็นส่วนหนึ่งของพื้นที่มรดกโลกอีกด้วย
ย้อนกลับไปชมความรุ่งเรืองของวัฒนธรรมเปอรานากัน หรือ บาบ๋า-ย่าหยา (การผสมผสานระหว่างชาวจีนและชาวมลายูท้องถิ่น) ได้ที่คฤหาสน์สีเขียวอันโดดเด่นหลังนี้ Pinang Peranakan Mansion เคยเป็นที่พักและสำนักงานของเศรษฐีเหมืองแร่ชาวจีนในอดีต ปัจจุบันได้กลายเป็นพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงของสะสมโบราณล้ำค่ากว่า 1,000 ชิ้น ภายในตกแต่งอย่างหรูหราอลังการด้วยเฟอร์นิเจอร์ที่ผสมผสานศิลปะอังกฤษ จีน และมลายูเข้าไว้ด้วยกัน ทั้งงานไม้แกะสลักที่วิจิตรบรรจง เครื่องกระเบื้อง เครื่องแก้ว และเครื่องประดับทองคำ
การเข้าชมที่นี่จะทำให้เพื่อน ๆ ได้เห็นภาพชีวิตความเป็นอยู่ที่หรูหราและวัฒนธรรมอันเป็นเอกลักษณ์ของชาวเปอรานากันได้อย่างชัดเจน และเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวปีนังที่สายประวัติศาสตร์และสถาปัตยกรรมต้องหลงรัก
Fort Cornwallis คือป้อมปราการรูปดาวขนาดใหญ่ที่สร้างขึ้นโดยบริษัทอินเดียตะวันออกของบริเตน (British East India Company) ในช่วงปลายศตวรรษที่ 18 ถือเป็นสิ่งก่อสร้างของอังกฤษที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งในมาเลเซีย ตั้งชื่อตาม ชาร์ลส์ คอร์นวอลลิส ผู้สำเร็จราชการแห่งเบงกอลในสมัยนั้น
ที่นี่คือจุดที่ กัปตันฟรานซิส ไลท์ ขึ้นฝั่งครั้งแรกและเริ่มต้นการตั้งถิ่นฐานของอังกฤษบนเกาะปีนัง แม้ปัจจุบันจะไม่ได้ใช้งานทางการทหารแล้ว แต่โครงสร้างกำแพงและปืนใหญ่โบราณยังคงได้รับการอนุรักษ์ไว้อย่างดี โดยเฉพาะปืนใหญ่ “Seri Rambai” ที่มีตำนานเล่าขานถึงความศักดิ์สิทธิ์ เพื่อน ๆ สามารถเดินเล่นรอบ ๆ ป้อม ชมประภาคาร และเรียนรู้ประวัติศาสตร์ยุคอาณานิคมของปีนังได้จากที่นี่
ปิดท้ายทริปปีนังอย่างสมบูรณ์แบบด้วยการไปตะลุยกินที่ Gurney Drive Hawker Centre ศูนย์อาหารกลางแจ้งริมทะเลที่มีชื่อเสียงที่สุดของปีนัง ที่นี่คือแหล่งรวมอาหารท้องถิ่นรสเลิศไว้ในที่เดียว เพื่อน ๆ จะได้ลิ้มลองเมนูเด็ดของปีนังมากมายในราคาที่เป็นมิตร ไม่ว่าจะเป็น Char Kway Teow (ก๋วยเตี๋ยวผัดซีอิ๊วใส่กุ้งและหอยแครง), Assam Laksa (ก๋วยเตี๋ยวในน้ำแกงส้มปลารสจัดจ้าน), Hokkien Mee (บะหมี่ฮกเกี้ยน), Loh Mee และของหวานอย่าง Cendol และ Ice Kacang
บรรยากาศที่คึกคักและกลิ่นหอมของอาหารที่ลอยมาแตะจมูกจะทำให้เพื่อน ๆ ตัดสินใจไม่ถูกเลยว่าจะเริ่มจากร้านไหนดี แนะนำให้ไปกับเพื่อนหลาย ๆ คนเพื่อจะได้สั่งมาลองชิมได้หลากหลายเมนู เป็นการปิดท้ายวันที่ดีที่สุดในการสัมผัสวัฒนธรรมอาหารของปีนัง
หลังจากได้เห็นลิสต์ที่เที่ยวปีนังทั้ง 15 แห่งแล้ว เพื่อน ๆ คงจะพอเห็นภาพว่าทำไมปีนังถึงเป็นจุดหมายที่น่าสนใจ แต่เสน่ห์ของปีนังนั้นมีมากกว่าแค่สถานที่ท่องเที่ยว เพราะที่นี่สามารถตอบโจทย์นักเดินทางได้ทุกสไตล์
ปีนังคือเกาะที่มีส่วนผสมที่ลงตัวอย่างน่าอัศจรรย์ ทั้งประวัติศาสตร์ที่น่าค้นหา ศิลปะที่มีชีวิตชีวา ธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ และวัฒนธรรมอาหารที่ยากจะหาใครเทียบได้ การเดินทางมาเยือนที่นี่จึงเป็นมากกว่าแค่การท่องเที่ยว แต่คือการได้สัมผัสประสบการณ์ที่หลากหลายและครบทุกรสชาติในที่เดียว
หวังว่าไกด์ฉบับสมบูรณ์นี้จะช่วยให้เพื่อน ๆ วางแผนทริปเที่ยวปีนังด้วยตัวเอง ได้อย่างมั่นใจและสนุกสนานยิ่งขึ้น ไม่ว่าเพื่อน ๆ จะเป็นนักเดินทางสไตล์ไหน ปีนังก็พร้อมที่จะต้อนรับและสร้างความประทับใจให้อย่างแน่นอน
และก่อนจะออกเดินทาง อย่าลืมแวะไปอ่านบทความดี ๆ ที่จะช่วยให้การเตรียมตัวเที่ยวต่างประเทศของเพื่อน ๆ ง่ายขึ้นได้ที่ Shopee Blog!
ขอบคุณภาพหน้าปกจาก mypenang.gov.my
บทความแนะนำ
รวมคำพูดและแคปชั่นทวงเงินแบบผู้ดี ทวงหนี้อย่างมีมารยาท ไม่ต้องดราม่าแต่สื่อได้ตรงจุด เหมาะสำหรับโพสต์ Facebook, LINE หรือ IG
อยากให้ปาร์ตี้ปีใหม่สนุกไม่จำเจ? ลองมาดูไอเดีย 25 ธีมแต่งตัวงานปีใหม่ พร้อมบอกเคล็ดลับวิธีการเลือกธีมแต่งตัวปาร์ตี้
แจกไอเดียของขวัญปีใหม่แจกลูกค้า ทั้งของใช้ ของเพื่อสุขภาพ และของขวัญสร้างภาพลักษณ์ พร้อมเคล็ดลับเลือกของขวัญที่ตรงใจลูกค้า เสริมความสัมพันธ์ทางธุรกิจ
เจาะลึกว่าเมคเฟรนคืออะไร ทำไมเป็นคำฮิต พร้อมเคล็ดลับเมคเฟรน ต้องตอบยังไงให้สนุก เพื่อให้เข้ากับทุกวงสนทนา
รวมไอเดียแต่งตัวสายฝอสำหรับผู้หญิงทั้งลุคเท่และลุคแซ่บ ใส่ได้จริงในชีวิตประจำวัน พร้อมเคล็ดลับแมทช์ลุคให้ดูอินเตอร์เหมือนผู้หญิงสายฝอตัวจริง
ทำความเข้าใจกับทฤษฎี 21 วัน ทั้งหลักจิตวิทยา เหตุผลทางวิทยาศาสตร์ และวิธีนำไปใช้เปลี่ยนนิสัยจริงในชีวิตประจำวัน