หนึ่งในเมนูที่สาว ๆ นิยมคงจะหนีไม่พ้นเมนูสารพัดยำ ด้วยเพราะรสชาติจัดจ้านถึงใจ เผ็ดซี้ดซ้าดถึงรสถึงเครื่อง ช่วยเผาผลาญได้เป็นอย่างดี แถมยังไม่มีแป้งมากวนใจ ทำให้ยำกลายเป็นเมนูสุดเลิฟของหลาย ๆ คน และเป็นเมนูที่ใช้ลดน้ำหนักได้เป็นอย่างดีอีกด้วย มาดูหลากวิธีในการทำยำ กับ 6 เมนูยำยอดฮิต ที่ทำเองได้ง่าย ๆ แถมอร่อยไม่ซ้ำ กินได้ทุกวัน จะมีเมนูอะไรบ้างนั้นมาดูกันเลย
หัวข้อต่างๆ ของบทความนี้
เมนูยำสุดอร่อยที่หลายคนชื่นชอบ ใช้วัตถุดิบไม่เยอะ แค่มีไข่ก็ได้จานอร่อย เป็นเมนูที่ทำให้ได้รสชาติที่ผสมผสานกันอย่างลงตัวของไข่ดาวที่มีรสชาติจืด กับน้ำยำสุดแซ่บซี้ด ที่ตัดกันได้อย่างพอดีและเข้ากันดีเหลือเกิน ได้ Texture ในระหว่างการกิน มีความ Juicy เล็ก ๆ ตอนกัดไข่แล้วมีน้ำยำผสมอยู่ แถมยังเป็นเมนูที่ทำง่ายมาก ๆ ใคร ๆ ก็ทอดไข่ดาวได้ ไม่ต้องมีสกิลในการทำอาหารก็สามารถอร่อยกับเมนูนี้ได้ ใช้เวลาทำไม่นาน สามารถกินเป็นเมนูกับข้าว หรือกินเป็นเมนูจานหลักเพื่อลดน้ำหนักก็ได้
ส่วนผสมในการทำ
1. ไข่ไก่ 4 ฟอง
2. มะเขือเทศหั่นชิ้น 1 ลูก
3. หอมใหญ่หั่นซอย ½ ลูก
4. พริกขี้หนูตามชอบ
5. น้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะ
6. น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
7. น้ำตาลทราย ½ ช้อนโต๊ะ
8. ผักชีเล็กน้อย
9. ต้นหอมซอยเล็กน้อย
10. ขึ้นฉ่ายหั่นท่อน 1 ต้น
11. น้ำมันสำหรับทอด
วิธีทำยําไข่ดาวทรงเครื่อง
1. ตั้งกระทะใส่น้ำมันให้ไฟร้อนจัด จากนั้นตอกไข่ลงไปทอดทีละฟอง ทอดจนไข่สุกเหลืองกรอบ ตักขึ้นมาพักเอาไว้
2. หั่นไข่ออกเป็น 4 ส่วน ใส่ชามผสม ตามด้วยมะเขือเทศ หอมใหญ่ ขึ้นฉ่าย
3. ทำน้ำยำด้วยการใส่น้ำมะนาว น้ำปลา และน้ำตาล คลุกเคล้าให้เข้ากัน ให้ได้รสออกมาเปรี้ยวนำ ตามด้วยเค็มและหวานเล็กน้อย
4. ใส่พริกขี้หนูสับ ต้นหอม ผักชี ลงไป และคลุกเคล้าให้เข้ากันอีกครั้ง
5. ราดน้ำยำลงไปบนชามที่ผสมไข่ ตักใส่จานเสิร์ฟได้เลย
เคล็ดลับความอร่อย
สำหรับเมนูยําไข่ดาวทรงเครื่องนั้น จะให้อร่อยก่อนอื่นเลยต้องทอดไข่ดาวให้ไข่แดงสุกดี เพื่อที่เวลากินตัวไข่แดงจะได้ดูดน้ำยำลงไป เมื่อกัดได้แล้วจะได้รสชาติยำเต็ม ๆ คำ และหากว่าทอดไข่แดงไม่สุก เวลานำมาคลุกกับยำจะเละหรือไข่แดงแตกได้ และเพื่อความอร่อยอีกขั้น สามารถกินคู่กับเครื่องเคียงอื่น ๆ ได้ เช่น แคบหมู หรือจะใส่ผสมลงไปในยำด้วยก็ดี นอกจากนี้ยังเพิ่มวัตถุดิบอื่น ๆ ได้ตามชอบ เช่น ลูกชิ้นลวก กุนเชียง หมูยอ เม็ดมะม่วงหิมพานต์ ถั่วลิสง สามารถใส่เพิ่มได้ตามชอบ ให้ออกมาเป็นยำไข่ดาวในแบบฉบับของเราเอง
เมนูอร่อยสุดประหยัด เมนูฮิตยามสิ้นเดือน วัตถุดิบน้อยแต่อร่อยมาก เป็นเมนูเด็กหออีกหนึ่งเมนู เพราะสามารถทำได้ง่าย ๆ ไม่ต้องมีอุปกรณ์เยอะ ไม่มีเตาแก๊ส หรือไม่โครเวฟ ก็สามารถทำเมนูสุดอร่อยนี้ได้ ขอแค่มีกาน้ำร้อนก็เพียงพอ สะดวกอย่างมากสำหรับชาวหอ อพาร์ทเมนท์ หรือคอนโด สามารถทำกินเป็นเมนูหลัก หรือกินเป็นกับแกล้มก็ดี อย่าลืมชวนเพื่อน ๆ มาแฮงก์เอาท์แล้วทำเมนูนี้กินกัน รับรองอร่อยเด็ดเข้ากันกับแอลกอฮอล์อย่างแน่นอน
ส่วนผสมในการทำ
1. มาม่า หรือบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปรสต้มยำ 2 ห่อ
2. ปลากระป๋องในซอสมะเขือเทศ 2 กระป๋อง
3. หอมแดง ½ ถ้วย
4. ผักชี ต้นหอม เล็กน้อย
5. พริกขี้หนูตามชอบ
6. น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
7. น้ำตาลทราย ½ ช้อนโต๊ะ
8. น้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำยําปลากระป๋องมาม่า
1. ลวกเส้นมาม่าในน้ำเดือดให้พอสุกแล้วตักพักไว้
2. ทำน้ำยำด้วยการใส่น้ำมะนาว น้ำปลา และน้ำตาล คลุกเคล้าให้เข้ากัน
3. ใส่เนื้อปลากระป๋องลงไป และใส่น้ำในปลากระป๋องลงไปเล็กน้อย ยีให้เนื้อปลาเป็นชิ้นเล็ก ๆ
4. ตามด้วยพริกขี้หนูสับ ต้นหอม ผักชี และหอมแดงลงไป คลุกให้เข้ากันดี
5. ใส่เส้นมาม่าที่ลวกแล้วลงไปคลุก ตักใส่จานพร้อมเสิร์ฟ
เคล็ดลับความอร่อย
สำหรับยํามาม่าปลากระป๋องนั้น จะให้อร่อยแนะนำให้ลวกเส้นมาม่าแค่พอสุก อย่านำไปต้ม เพราะถ้าต้มเส้นเส้นจะสุกจนเกินไป เมื่อนำไปคลุกน้ำยำจะทำให้เส้นเละไม่น่ากิน รวมถึงเมื่อทำเสร็จแล้วควรกินทันที เพราะหากทำทิ้งไว้เส้นจะอืดไม่อร่อยได้ และถ้าใครชอบรสชาติจัดจ้านสามารถใส่เครื่องปรุงมาม่าลงไปคลุกกับน้ำยำได้เลย จะได้รสที่เข้มข้นขึ้น และหากมีวัตถุดิบอื่น ๆ สามารถใส่เพิ่มลงไปได้ เช่น กุ้งลวก ปลาหมึกลวก ก็จะได้เมนูยําปลากระป๋องสุดพรีเมี่ยมขึ้นมาทันที
มาถึงเมนูยำที่เด็ด เผ็ด และแซ่บสุด ๆ กันบ้าง เมนูยำขนมจีน จานโปรดของสาว ๆ หลายคน เป็นเมนูของคนรักขนมจีนที่แท้ทรู แต่นำมาคลุกเครื่องยำแบบเผ็ดซี้ด ได้เมนูสุดอร่อยที่ไม่จำเจ เส้นขนมจีนเมื่อเจอกับน้ำยำ จะดูดน้ำเข้าไปในเส้น ทำให้เวลากินได้รสชาติเผ็ดนัวสุด ๆ วัตถุดิบไม่มาก แค่เพิ่มเส้นขนมจีนเข้ามาเท่านั้นเอง มาดูวิธีทำกันเลย
ส่วนผสมในการทำ
1. เส้นขนมจีน 1 ถ้วย
2. เนื้อปลาทูทอด 2 ตัว
3. ถั่วฝักยาวซอย 1 ถ้วย
4. หอมแดงซอย ½ ถ้วย
5. ต้นหอมซอย ½ ถ้วย
6. พริกขี้หนูซอยตามชอบ
7. พริกป่นตามชอบ
8. น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนโต๊ะ
9. น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
10. น้ำมะนาว 3 ช้อนโต๊ะ
11. น้ำปลาร้าต้มสุก ½ ถ้วย (ไม่ใส่ก็ได้)
12. ผักชีฝรั่งซอย
วิธีทำยําเมนูยำขนมจีน
1. ทำน้ำยำด้วยการใส่น้ำปลาร้าต้มสุก น้ำตาลปี๊บ และน้ำปลา คนให้เข้ากัน
2. ตามด้วยพริกขี้หนูซอย พริกป่น และน้ำมะนาว
3. เมื่อรสชาติเข้ากันดีแล้ว ใส่เส้นขนมจีนลงไปคลุก
4. แกะเนื้อปลาทูทอดเป็นชิ้น ๆ ใส่ลงไป
5. ตามด้วยถั่วฝักยาวและต้นหอม คลุกเคล้าให้เข้ากันอีกรอบ
6. ตักใส่จานและโรยหน้าด้วยผักชีฝรั่งซอย เป็นอันเสร็จเรียบร้อยพร้อมกิน
เคล็ดลับความอร่อย
เมนูยำขนมจีนถ้าจะให้อร่อย แซ่บ นัว ก็ต้องใส่น้ำปลาร้าลงไปด้วยถึงจะครบเครื่อง แต่หากใครไม่ชอบจะไม่ใส่ก็ได้ แต่ความนัวของขนมจีนกับน้ำยำก็จะลดลง เพราะฉะนั้น อยากให้เด็ด เผ็ด อร่อย ต้องมีน้ำปลาร้าด้วย รับรองว่าแซ่บลื้ม เป็นเมนูที่กินเป็นเมนูหลัก หรือกินเป็นกับแกล้มก็ได้เช่นกัน
เมนูยำสุดเด็ดที่เป็นเมนูที่โปรดปรานของหลายคนโดยเฉพาะนักดื่ม เพราะยำไข่เยี่ยวม้าจัดว่าเป็นเมนูกับแกล้มที่ดีเลยล่ะ หรือจะนำมากินเป็นกับข้าวก็ได้นะ มีส่วนผสมหลักเป็นไข่เยี่ยวม้าที่นำไปทอดกรอบแล้วมาผสมน้ำยำ ได้ความอร่อยแบบฟิน ๆ แถมยังทำง่าย วัตถุดิบไม่เยอะ มาลองทำกันเลย
ส่วนผสมในการทำ
1. ไข่เยี่ยวม้า 4 ฟอง
2. ผักกาดหอมหั่นชิ้น ¼ ถ้วยตวง
3. แครอทหั่นเส้น ¼ ถ้วยตวง
4. ขึ้นฉ่ายหั่นท่อน ¼ ถ้วยตวง
5. หอมใหญ่หั่น ¼ ถ้วยตวง
6. แป้งทอดกรอบ ½ ถ้วยตวง
7. พริกขี้หนูซอย 3 ช้อนโต๊ะ
8. น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ
9. น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
10. น้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะ
11. น้ำมันสำหรับทอด
วิธีทำยำไข่เยี่ยวม้า
1. นำแป้งทอดกรอบไปละลายน้ำเปล่าให้พอข้น
2. ตั้งกระทะใส่น้ำมัน พอกระทะร้อนเอาไข่เยี่ยวม้าชุบแป้งให้ทั่วและนำลงทอดให้กรอบ จากนั้นตักขึ้นพักไว้
3. ทำน้ำยำด้วยการผสมน้ำตาลทราย น้ำปลา และน้ำมะนาว คนให้น้ำตาลละลายแล้วใส่พริกขี้หนูลงไป คลุกเคล้าให้เข้ากัน
4. จัดจานวางไข่เยี่ยวม้าที่ทอดแล้ว ใส่ขึ้นฉ่าย หอมใหญ่ แครอท และผักกาดหอมลงไป
5. ราดน้ำยำลงไป เป็นอันเรียบร้อย
เคล็ดลับความอร่อย
หลายคนนิยมทำยำไข่เยี่ยวม้าแบบที่ไม่ทอด ซึ่งมีความอร่อยในตัวอยู่แล้ว แต่ถ้าอยากได้สัมผัสในการเคี้ยวแบบมีความกรอบของแป้งนิด ๆ ผสมกับความหนุบหนับของตัวไข่ แนะนำให้ลองทำแบบชุบแป้งแล้วทอดดู จะได้อีกรสชาติที่อร่อยยิ่งขึ้น และถ้าใครชอบกินขิงดอง สามารถนำมากินคู่กันได้แบบเข้ากัน อาจจะโรยถั่วลิสงหรือเม็ดมะม่วงหิมพานต์เพิ่มสักนิด เพิ่มความอร่อยแซ่บมันยิ่งขึ้น
เมนูยำสุดซี้ดจี๊ดจ๊าด ที่ทำง่าย กินง่าย ได้รสชาติเผ็ดแซ่บนัวของน้ำยำ คลุกเคล้าเข้ากับข้าวโพดหวาน ออกมาเป็นยำที่ได้รสหวานปนเผ็ดอร่อยถูกใจใครหลายคน แถมยังทำไม่ยาก ใช้วัตถุดิบน้อย เพิ่มหมูยอเข้าไปหน่อยได้อรรถรสในการกินยิ่งขึ้น เป็นเมนูที่นิยมและหากินได้ตามร้านยำทั่วไป ที่ต้องมีเมนูนี้อย่างแน่นอน แต่ถ้าอยากทำกินเองก็ทำได้ง่าย ๆ มาดูกันเลย
ส่วนผสมในการทำ
1. ข้าวโพดหวานต้ม 1 ถ้วย
2. หมูยอ 1 ถ้วย
3. ไข่แดง 4 ลูก
4. มะเขือเทศราชินี 3 ลูก
5. หอมแดงซอย ¼ ถ้วย
6. พริกจินดาแดง 3 เม็ด
7. พริกแห้ง 4 เม็ด
8. กระเทียม 3 กลีบ
9. ผักชีใบเลื่อย 3 ต้น
10. น้ำปลา ½ ช้อนโต๊ะ
11. น้ำมะนาว 3 ช้อนโต๊ะ
12. น้ำปลาร้า 1 ช้อนโต๊ะ
13. น้ำตาลมะพร้าว 1 ช้อนชา
วิธีทำยําข้าวโพดหมูยอ
1. นึ่งไข่แดง และหมูยอ ในน้ำเดือดไฟปานกลางจนสุก หรือประมาณ 10 นาที
2. โขลกพริกกับกระเทียมให้เข้ากันเตรียมไว้
3. ทำน้ำยำด้วยการผสมน้ำปลา น้ำมะนาว น้ำปลาร้า และน้ำตาลมะพร้าว คนให้เข้ากัน
4. ใส่ไข่แดงเค็ม หมูยอ ข้าวโพด หอมแดง และมะเขือเทศ ลงไปในน้ำยำ ผสมคลุกเคล้ากันให้เข้ากันดี
5. ใส่พริกแห้ง และผักชีใบเลื่อยลงไป ตักใส่จานพร้อมเสิร์ฟ
เคล็ดลับความอร่อย
สำหรับยําข้าวโพดหมูยอความอร่อยจะอยู่ที่ข้าวโพด ถ้าได้ข้าวโพดที่หวานอร่อย จะทำให้เมนูนี้อร่อยยิ่งขึ้น และควรใช้ข้าวโพดหวานต้มสุกเท่านั้น ไม่ควรใช้ข้าวโพดย่างเพราะเนื้อข้าวโพดจะแห้งเกินไป ข้าวโพดต้มจะดูดน้ำยำทำให้เวลากัดข้าวโพดจะได้รสน้ำยำแบบเต็ม ๆ และควรใช้ข้าวโพดที่ต้มเสร็จใหม่ ๆ จะดีกว่าข้าวโพดที่ต้มทิ้งไว้นานหลายวันแล้ว เพื่อความสดอร่อยนั่นเอง
เมนูยอดนิยมสุด ๆ ที่ถ้าใครนึกไม่ออกว่าจะทำหรือกินยำอะไร ก็จะนึกถึงยำทะเลนี่แหละ เพราะกินง่าย อร่อย เหมาะกับคนชอบซีฟู้ดเพราะขนมาทั้งทะเล เป็นเมนูแซ่บ ๆ อีกเมนูที่ทำเองได้ จะทำกินเล่น หรือทำกินเป็นกลับแกล้มก็ดี ใครได้กินเป็นต้องติดใจ จะทำอย่างไรบ้างนั้นมาดูกัน
ส่วนผสมในการทำ
1. กุ้งสด 4 ตัว
2. ปลาหมึกกล้วย 1 ตัว
3. หอยแมลงภู่ 6 ตัว
4. เห็ดออรินจิ 1 ถ้วย
5. เห็ดหูหนูขาวแช่น้ำ 1 ถ้วย
6. เห็ดหูหนูดำสด 1 ถ้วย
7. หอมแดงซอย 3 ช้อนโต๊ะ
8. ขิงซอย 3 ช้อนโต๊ะ
9. ตะไคร้ซอย 3 ช้อนโต๊ะ
10. ใบมะกรูดซอย
11. ใบสะระแหน่
12. ผักชีฝรั่ง และผักชีเล็กน้อย
13. น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
14. น้ำมะนาว 3 ช้อนโต๊ะ
15. น้ำตาลปี๊บ ½ ช้อนโต๊ะ
วิธีทำเมนูยําทะเล
1. ปอกเปลือกกุ้ง และผ่าหลังดึงเส้นดำออกให้เรียบร้อย
2. นำกุ้ง ปลาหมึก หอยแมลงภู่ เห็ดออรินจิ เห็ดหูหนูขาว และเห็ดหูหนูดำ ลวกพอสุก แล้วตักขึ้นพักไว้
3. โขลกพริกขี้หนูสวนและกระเทียมพอหยาบเตรียมไว้
4. ทำน้ำยำด้วยการนำน้ำปลา น้ำมะนาว น้ำตาลปึก คนให้เข้ากัน
5. ใส่พริกกระเทียมที่ตำไว้ลงไป คลุกเคล้าให้เข้ากันอีกครั้ง
6. นำของที่ลวกไว้ใส่ลงชาม ตามด้วยหอมแดง ขิง ตะไคร้ ใบมะกรูด ใบสะระแหน่ ผักชีฝรั่ง และผักชีลงไป
7. ราดน้ำยำที่ทำไว้ลงไป แล้วคลุกเคล้าทุกอย่างให้เข้ากัน เท่านี้ก็เสร็จเรียบร้อย
เคล็ดลับความอร่อย
สำหรับเมนูยําทะเลนั้น ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าความอร่อยอยู่ที่อาหารทะเล เพราะฉะนั้น จานนี้จะอร่อยยิ่งขึ้นคืออาหารทะเลจะต้องสดใหม่ ยิ่งสด ยิ่งอร่อย เพราะจะได้ความหวานจากความสด และความเด้งดึ๋งของกุ้งและปลาหมึก อย่าลืมล้างปลาหมึกให้สะอาดและไม่คาวก่อนนำมาปรุง ด้วยการบีบมะนาวลงไปในน้ำที่ล้าง หรือใช้น้ำส้มสายชูประมาณ 2 ช้อนชา โดยใส่ลงไปในน้ำแช่ปลาหมึกกับกุ้งแล้วทิ้งไว้สักพัก ก่อนจะนำมาล้างด้วยน้ำสะอาดอีกครั้ง จะช่วยลดกลิ่นคาวและยังช่วยให้เนื้อปลาหมึกดูขาวขึ้นอีกด้วย
เมนูยำ เมนูคู่คนไทย ทำกินง่าย อร่อย เหมาะกับคนชอบอาหารรสจัด ใครที่ชอบกินยำแล้วอยากทำเองดูบ้าง ลองเอา 6 เมนูนี้ไปทำกันดู เป็นเมนูยอดฮิตและทำง่าย สามารถปรุงรสเปรี้ยว เผ็ด ได้ตามใจ ใครนิยมเผ็ดมากก็ใส่พริกเพิ่มเติมได้ จะทำกินในครอบครัวหรือในกลุ่มเพื่อน หรือจะทำขายก็ได้เช่นกัน
เริ่มต้นปีใหม่กันแล้ว นอกจากการเช็คสภาพเครื่องยนต์ น้ำมันเครื่อง การต่อภาษีรถยนต์และ พ.ร.บ. รถยนต์เป็นเรื่องที่เจ้าของรถทุกคนต้องทำทุกปีตามกฎหมาย เพื่อให้การขับขี่เป็นไปอย่างปลอดภัยและถูกต้องตามกฎ วันนี้เรารวบรวมข้อมูลทั้งหมดเกี่ยวกับการต่อภาษีและ พ.ร.บ. รถยนต์ รวมถึงเอกสาร ที่ต้องใช้และราคา สำหรับปี 2568 มาให้แล้ว…
การลงทุนอาจจะฟังดูซับซ้อนสำหรับมือใหม่ แต่หากเราทำความเข้าใจพื้นฐานและเตรียมตัวให้พร้อม ก็จะช่วยให้การลงทุนของเรามีประสิทธิภาพและมั่นคงมากขึ้น! หากคุณกำลังคิดจะเริ่มลงทุน นี่คือสิ่งที่ควรศึกษาและทำความเข้าใจให้ดี Cr: Freepik สิ่งที่ควรรู้ก่อนลงทุน 1. การตั้งเป้าหมายการลงทุน ก่อนที่จะลงทุนสิ่งแรกที่ต้องทำคือ การตั้งเป้าหมายการลงทุนให้ชัดเจน เช่น ต้องการมีเงินพอสำหรับการเกษียณเดือนละ 20,000…
ช่วงใกล้ถึงเทศกาลปีใหม่ นอกจากของขวัญปีใหม่ที่ผู้คนจะมอบให้แก่กันแล้ว ยังมีของขวัญสำหรับจับฉลากที่หลายคนตามหาอีกด้วย เป็นกิจกรรมสนุก ๆ ในองค์กร บริษัท หรือแม้แต่การจัดงานปีใหม่ในครอบครัว และไอเดียของขวัญจับฉลากที่ Shopee Blog อยากจะแนะนำในปีนี้คือ อุปกรณ์ไอทีและแกดเจ็ตต่าง ๆ เพราะเป็นของที่นำมาใช้งานได้…
อาการปวดเมื่อยตามร่างกาย หนึ่งในปัญหาสุขภาพยอดฮิตของคนในยุคปัจจุบัน และไม่ว่าคุณจะทำอาชีพอะไรก็มีโอกาสปวดเมื่อยตามร่างกายได้ ก็ขึ้นอยู่ว่าจะปวดมากหรือปวดน้อย โดยสาเหตุมาจากการที่ใช้กล้ามเนื้อมัดเดิมซ้ำ ๆ เป็นเวลานาน หรือที่เราเรียกกันว่าออฟฟิศซินโดรม (Office Syndrome) ซึ่งมักพบในกลุ่มวัยทำงาน คนเล่นกีฬา ได้รับบาดเจ็บจากการขยับผิดท่า หรือจากการที่ใช้แรงเยอะจนทำให้ปวดแขนหรือปวดหลังได้ เมื่อมีอาการปวดเมื่อยก็สามารถบรรเทาอาการปวดเบื้องต้นด้วยตัวเองได้ง่าย…
เจ้าแมวเหมียว เป็นสัตว์เลี้ยงแสนน่ารักที่นิยมเลี้ยงกันมาก ด้วยเสน่ห์ความน่ารัก ความขี้อ้อน บวกกับขนปุย ๆ ตัวนุ่มนิ่ม เจอเมื่อไหร่ก็อดไม่ได้ที่จะเข้าไปกอดทันที นอกจากนี้ยังสร้างความเพลิดเพลิน และช่วยให้ผ่อนคลายจากความตึงเครียดได้ด้วย การเลี้ยงดูน้องแมวนอกจากให้อาหารแมวเป็นหลักแล้ว ขนมแมว ถือเป็นอาหารว่างที่น้องแมวทุกสายพันธุ์ชื่นชอบ ด้วยรสชาติที่อร่อยและมีสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพน้องแมวด้วย อีกทั้งการให้ขนมแมวยังเปรียบเสมือนเป็นการให้รางวัลแมวที่ทำตัวน่ารัก…
ลมหนาวเมืองไทยขึ้นชื่อว่าเอาแน่เอานอนไม่ได้ แต่ลมหนาวในออฟฟิศนั้นอย่าได้ท้าทาย! เพราะแอร์ออฟฟิศหนาวมาก! สำหรับสาว ๆ ที่อยากเอาอยู่ทั้งลมแอร์และแฟชั่นสาวออฟฟิศ ปีนี้ถึงเวลาสนุกกับการแต่งตัวสไตล์เปรี้ยวซ่าด้วยคอลแฟชั่นฤดูหนาว (ทิพย์) กันแล้ว! มาปรับลุคหาแฟชั่นกันหนาวที่จะเปลี่ยนวันทำงานธรรมดาให้เป็นรันเวย์ย่อม ๆ แล้วมาดูกันเลยว่าสาว ๆ จะมีวิธีแก้หนาวในห้องแอร์พร้อมรับมือหน้าหนาวทิพย์ด้วยแฟชันกันหนาวอะไรได้บ้าง! 1.…