Foods & Beverages

แชร์วิธีทำเค้กหน้านิ่ม รสเข้มข้น ทำได้ง่าย ๆ อร่อยเหมือนเซฟมืออาชีพทำเองเลย !

ใครที่ชอบกินเค้กหน้านิ่มไม่ควรพลาดบทความนี้เลยจ้า เพราะวันนี้เรามีสูตรอร่อยพร้อมวิธีการทำเค้กหน้านิ่มแบบง่าย ๆ สามารถทำเองที่บ้านได้แม้ว่าจะมีเตาอบหรือไม่มีเตาอบก็ยังทำเค้กออกได้อร่อยถึงใจอีกด้วย เค้กหน้านิ่ม เป็นอีกหนึ่งเค้กในตำนานที่หลายคนชื่นชอบ ไม่ว่าจะเด็กหรือผู้ใหญ่ต่างก็หลงเสน่ห์ความอร่อยของเค้ก ด้วยเนื้อสัมผัสของเค้กที่มีความเบา นุ่มละมุน หน้าเค้กจะเยิ้ม ๆ หวานมันอร่อย มีให้เลือกทานหลายรสชาติ ใครที่ได้กินจะต้องฟินไปกับความอร่อยจนทานหยุดไม่ได้เลย

แจกสูตรอร่อยเค้กหน้านิ่ม สอนวิธีทำแบบง่าย ๆ ที่ใคร ๆ ก็ทำเองได้

วิธีทำเค้กหน้านิ่ม พูดเลยว่าง่ายสุด ๆ ถ้าคุณมีพื้นฐานการทำเค้กหรือเบเกอรี่อยู่ก็ทำได้อย่างแน่นอน แม้กระทั่งไม่เคยทำเค้กมาก่อน แต่ถ้าทำตามสูตรที่เราบอก รับรองว่าอร่อยแน่นอน ตัวเนื้อเค้กถ้าได้กินก็จะรู้สึกคล้าย ๆ กับกินเค้กชิฟฟ่อน เนื้อเบา ละมุน ความหวานของเค้กก็เพิ่มเติมได้ ใครที่ไม่ชอบหวานก็ลดปริมาณน้ำตาลได้ แต่ความอร่อยก็ยังคงเหมือนเดิม และสูตรเค้กหน้านิ่มที่เราจะแชร์ให้กับทุกคนนั้นก็จะมี เค้กช็อคโกแลตหน้านิ่ม เค้กชาเขียวหน้านิ่ม เค้กกาแฟหน้านิ่ม และเค้กส้มหน้านิ่ม รสชาติและหน้าตาเค้กจะเป็นยังไงนั้น เราไปทำกันเลยจ้า

เค้กช็อคโกแลตหน้านิ่ม

credit : unsplash

เค้กช็อคหน้านิ่ม หรือเรียกเต็ม ๆ ว่า เค้กช็อกโกแลตหน้านิ่ม รสชาติที่ได้รับความนิยมตลอดกาล เด็กหรือผู้ใหญ่ก็ชอบ ด้วยรสชาติความขมและเข้มข้นของช็อคโกแลตที่สัมผัสได้ตั้งแต่คำแรก และช่วงนี้ก็ใกล้เทศกาลแห่งความรัก ถ้าใครที่ยังไม่มีอะไรจะให้แฟนลองทำเค้กช็อคหน้านิ่มให้กับคนที่คุณรัก รับรองเลยว่าคนที่ได้รับจะต้องดีใจในความตั้งใจและความอร่อยของเค้กแน่นอน เราเข้าครัวทำเค้กช็อคหน้านิ่มไปพร้อม ๆ กันเลย

ส่วนผสมเค้กช็อคโกแลตหน้านิ่ม (แบ่งออกเป็น 2 ส่วน)

ส่วนผสมเค้ก

  • แป้งสาลีอเนกประสงค์ 280 กรัม
  • ไข่ไก่สด 2 ฟอง
  • ผงฟู 2 ช้อนชา
  • ผงโกโก้ 110 กรัม
  • เกลือป่น ¼ ช้อนชา
  • นมสด 250 มิลลิลิตร
  • เบกกิ้งโซดา 1 ½ ช้อนชา
  • กลิ่นวานิลลา 2 ช้อนชา
  • น้ำตาลทราย 220 กรัม
  • น้ำตาลทรายแดง 200 กรัม
  • น้ำมันรำข้าว 125 มิลลิลิตร
  • น้ำร้อน 250 มิลลิลิตร

ส่วนผสมหน้านิ่ม

  • เนย120 กรัม
  • ผงวุ้น 1 ช้อนชา
  • แป้งข้าวโพด 40 กรัม
  • นมข้นจืด 200+150 กรัม
  • ผงโกโก้สีอ่อน 50 กรัม
  • น้ำตาลทราย 100 กรัม
  • น้ำตาลทรายแดง100 กรัม

วิธีทำเค้กช็อคโกแลตหน้านิ่ม

  1. ก่อนอื่นเลยให้เปิดเตาอบรอไว้ด้วยอุณหภูมิ 180 องศา
  2. เตรียมพิมพ์เค้กขนาด 9 นิ้ว 2 พิมพ์ ให้ทาเนยให้ทั่วพิมพ์ และรองด้วยกระดาไขที่ก้นพิมพ์
  3. ร่อนแป้ง ผงฟู เบกกิ้งโซดา เกลือ และใส่น้ำตาลทรายและน้ำตาลทรายแดงลงในชามผสม แล้วก็คนส่วนผสมให้เข้ากัน อาจจะใช้เครื่องชั่งดิจิตอลวัดปริมาณเพื่อความแม่นยำ
  4. นำผงโกโก้มาใส่ในน้ำร้อน คนให้ละลายจนเข้ากัน ใส่นมสด น้ำมัน ไข่ไก่ และวานิลลาลงไปผสมให้เข้ากัน จากนั้นก็เทส่วนผสมโกโก้ลงไปชามผสมแป้ง ตีให้เข้ากันจนเป็นเนื้อเดียวกัน
  5. เทส่วนผสมเค้กลงใส่พิมพ์ทั้งสอง จากนั้นนำเข้าเตาอบ ใช้เวลา 25 นาที เมื่อสุกแล้วก็นำออกมาพักให้เย็น แล้วใช้มีดปาดตกแต่งผิวหน้าเค้กให้เรียบเนียน
  6. ในระหว่างนี้ก็หันมานำส่วนของช็อคโกแลตหน้านิ่ม เริ่มการนำผงวุ้นมาผสมกับน้ำตาลทราย คนให้เข้ากัน แล้วตามด้วยน้ำตาลทรายแดง ผงโกโก้อ่อน น้ำสะอาด และนมข้นจืด 200 กรัม แล้วนำส่วนผสมนี้ไปตั้งไฟคนให้เข้ากันจนเดือด
  7. ให้นำนมข้นจืดส่วนเหลืออีก 150 กรัม มาผสมกับแป้งข้าวโพดแล้วก็ค่อย ๆ คนให้ละลายเข้าด้วยกัน จากนั้นก็เทลงไปผสมกับช็อคโกแลตหน้านิ่ม คนผสมให้เข้ากัน จากนั้นก็หั่นเนยให้เป็นชิ้นเล็ก ๆ ใส่ลงไปทีละก้อน แล้วก็คนจนละลายเป็นเนื้อเดียวกัน เมื่อเสร็จแล้วก็นำหน้าช็อคโกแลตไปหล่อด้วยน้ำเย็นเพื่อให้เย็นตัวลง
  8. นำเนื้อเค้กที่พักไว้มาวางบนตะแกรง แล้วราดหน้าช็อกโกแลตลงไปบนเค้กชิ้นแรก จากนั้นก็พักให้เย็นตัวลง นำเค้กอีกชิ้นมาวางทับเค้กชิ้นแรก แล้วราดช็อคโกแลตที่เหลือลงบนเนื้อเค้ก เคลือบให้ทั่วเกลี่ยผิวเค้กให้ดูเนียบ พักทิ้งไว้ให้เย็น จากนั้นค่อยนำเค้กช็อคหน้านิ่มออกมาตัดเป็นชิ้นใส่จานพร้อมเสิร์ฟความอร่อยได้เลย

เค้กชาเขียวหน้านิ่ม

ชาเขียวนำไปทำอะไรก็อร่อยจริงไหม ? ข้อนี้เราไม่อาจตอบได้ แต่บอกได้ว่าถ้านำชาเขียวมาทำเค้กให้กลายเป็นเค้กชาเขียวหน้านิ่มอร่อยแน่นอนฟังธง ! เชื่อว่าใครที่ชอบกินชาเขียวอยู่แล้วก็จะต้องถูกใจกับเค้กรสชาตินี้กันอย่างแน่นอน ด้วยความหอมของกลิ่นชาเขียวที่ฟุ้งเตะจมูก รสชาติหวานมันหอมอร่อย เนื้อเค้กนุ่ม ๆ กินคู่กับชาร้อนสักแก้วด้วยแล้วพูดเลยว่า ฟิน…แน่ และถ้าใครที่อยากหัดลองทำเค้กชาเขียวหน้านิ่มกินเองบ้าง เราก็มีสูตรความอร่อยมาแจกกันด้วย ไปดูกัน

ส่วนผสมเค้กชาเขียวหน้านิ่ม (แบ่งออกเป็น 2 ส่วน)

  • แป้งเค้ก 70 กรัม
  • ผงชาเขียว ½ ช้อนชา
  • ผงฟู ¼ ช้อนชา
  • เกลือ ¼ ช้อนชา
  • นมข้นจืด 50 กรัม
  • น้ำมันพืช 50 กรัม
  • น้ำตาลทราย 25 กรัม (สำหรับผสมแป้งเค้ก)
  • น้ำตาลทราย 80 กรัม (สำหรับผสมกับไข่ขาว)
  • ไข่ขาว เบอร์ 1 จำนวน 3 ฟอง
  • ไข่แดง เบอร์ 1 จำนวน 3 ฟอง
  • ครีมออฟทาร์ทาร์ ¼ ช้อนชา

ส่วนผสมหน้าชาเขียว

  • ผงวุ้น ½ ช้อนชา
  • เนยสดเค็ม 75 กรัม
  • นมสดจืด 160 กรัม
  • นมข้นจืด 160 กรัม
  • นมข้นหวาน 50 กรัม
  • น้ำตาลทราย 50 กรัม
  • แป้งข้าวโพด 20 กรัม
  • ผงชาเขียว 1 ½ ช้อนโต๊ะ

วิธีทำเค้กชาเขียวหน้านิ่ม

  1. เริ่มผสมไข่แดงก่อน เทไข่แดง น้ำตาลทราย คนให้เข้ากันจนน้ำตาลทรายละลาย ตามด้วยนมข้นจืดและน้ำมันพืช ตีผสมให้เข้ากัน
  2. ให้ร่อนแป้งเค้ก ผงฟู เกลือป่น ผงชาเขียว และก็คนส่วนผสมให้เข้ากัน เมื่อเสร็จแล้วก็พักทิ้งไว้
  3. นำส่วนผสมที่เป็นไข่แดงเสร็จแล้วก็ให้นำส่วนของเมอแรงกันต่อ ซึ่งอุปกรณ์ในการทำจะต้องสะอาดและแห้งไม่เปียกน้ำ
  4. เทไข่ขาว ใส่เครื่องตีเค้กตีด้วยความเร็วที่ต่ำ แล้วก็ใส่ครีมออฟทาร์ทาร์ลงไปตีผสมกัน เมื่อเริ่มเป็นฟองหยาบ ก็ทยอยใส่น้ำตาลลงไปตีผสมกัน จากนั้นให้เพิ่มปรับความเร็วในการตีระดับปานกลาง ตีจนตั้งยอดอ่อน ๆ ได้
  5. ในระหวางนี้ก็ให้เปิดเตาอบด้วยอุณหภูมิ 175 องศา รอไว้ได้เลย
  6. จากนั้นก็นำส่วนผสมของเมอแรงมาผสมกับไข่แดง โดยแบ่งเมอแรงออกเป็น 3 ส่วน ค่อย ๆ ใส่แล้วก็ตะล่อมให้ส่วนผสมเข้ากัน ทำแบบนี้ไปเรื่อย ๆ จนใส่เมอแรงหมด
  7. เทเนื้อเค้กลงพิมพ์เค้กที่รองด้วยกระดาษไข แล้วนำเข้าเตาอบ ใช้เวลาประมาณ 35 นาที เมื่อสุกแล้วก็นำออกจากเตาอบ พักไว้ให้เย็น
  8. มาทำส่วนหน้านิ่มกันต่อด้วยการนำแป้งข้าวโพดมาผสมกับนมข้นจืดครึ่งหนึ่ง คนให้เข้ากัน พักทิ้งไว้
  9. เตรียมหม้อแล้วเทนมสด นมข้นจืด นมข้นหวาน น้ำตาลทราย ผงวุ้น คนให้ส่วนผสมทุกอย่างเข้ากัน ตามด้วยผงชาเขียว คนให้ละลายเข้ากันอีกครั้ง เมื่อเสร็จแล้วก็เปิดไฟแล้วก็คนไปเรื่อย ๆ จนส่วนผสมเริ่มเดือด แล้วก็เทน้ำข้นจืดกับแป้งข้าวโพดที่เราผสมไว้เทลงหม้อแล้วก็คนอย่างต่อเนื่อง จะต้องคนไปจนกว่าแป้งข้าวโพดจะเริ่มสุก ก็ปิดไฟแล้วใส่เนยเค็มลงไปผสมให้เนยละลายเข้ากัน
  10. เมื่อส่วนผสมต่าง ๆ เสร็จแล้วก็มาประกอบร่างให้เป็นเค้กหน้านุ่มที่สวยงาม นำเนื้อเค้กชิ้นที่ 1 ราดด้วยซอสชาเขียวลงเค้กชิ้นแรกเกลี่ยปาดให้ทั่ว วางเค้กชิ้นที่ 2 ทับลงไปแล้วก็ราดด้วยซอสชาเขียวปาดให้ทั่ว แล้วก็วางเค้กชั้นที่ 3 ทับลงไปอีกชั้น คราวนี้เริ่มนำซอสชาเขียวมาปาดด้านข้างให้รอบเค้ก สุดท้ายก็ราดซอสชาเขียวส่วนที่เหลือลงบนหน้าเค้กชั้นบนสุด และนำเค้กไปแช่ตู้เย็น ทิ้งไว้ประมาณ 3 ชั่วโมง นำออกจากตู้เย็น ตัดเป็นชิ้นสามเหลี่ยมจัดใส่จานพร้อมกินได้เลยจ้า

เค้กกาแฟหน้านิ่ม

credit : pixabay

จากที่เราเอาใส่คนรักช็อคโกแลต ชื่นชอบชาเขียวกันไปแล้ว คราวนี้เรามาเอาใจคนรักกาแฟกันด้วย เค้กกาแฟหน้านิ่ม เนื้อเค้กบางเบานุ่มเหมือนกินเค้กชิฟฟ่อน อร่อยเต็มคำกับรสกาแฟ สูตรที่นำมาฝากจะเป็นสูตรหวานน้อย สาว ๆ ที่ไม่อยากอ้วนก็กินได้น้า วิธีทำก็ง่าย ๆ คล้ายกับเค้กหน้านิ่มรสชาติอื่น ๆ และวันนี้เราจะมาเค้กกาแฟนิ่มในถ้วยฟรอยด์ จะอร่อยแค่ไหน ถูกปากหรือไม่นั้น ลองทำตามสูตรนี้กันได้เลย

ส่วนผสมตัวเนื้อเค้กกาแฟ (ไข่แดง)

  • แป้งเค้ก 115 กรัม
  • ผงฟู ½ ช้อนชา
  • น้ำตาลทราย 50 กรัม
  • น้ำมันรำข้าว 60 กรัม
  • นมข้นจืด 80 มิลลิกรัม
  • น้ำร้อน 20 มิลลิกรัม
  • กาแฟผงสำเร็จรูป 2 ช้อนชา
  • ไข่ไก่ใช้เบอร์ 2 จำนวน 6 ฟอง
  • กลิ่นวานนิลาหรือกลิ่นกาแฟ 1 ช้อนชา

ส่วนผสมตัวเนื้อเค้กกาแฟ (เมอแรง หรือ ไข่ขาว)

  • น้ำตาลทราย 70 กรัม
  • ไข่ขาวใช้เบอร์ 2 จำนวน 6 ฟอง
  • ครีมออฟทาร์ทาร์ 1 ช้อนชา

ส่วนผสมหน้านิ่มกาแฟ

  • เนยสด 50 กรัม
  • ผงวุ้น 1 ช้อนชา
  • น้ำ  250 มิลลิกรัม
  • แป้งข้าวโพด 20 กรัม
  • น้ำตาลทราย 40 กรัม
  • นมข้นจืด 300 มิลลิกรัม
  • ครีมเทียมข้นหวาน 50 กรัม
  • กาแฟผงสำเร็จรูป 2 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำเค้กกาแฟหน้านิ่ม

  1. ให้เริ่มจากนำผงกาแฟผสมกับน้ำร้อน คนให้เข้ากันจนกาแฟละลาย และพักทิ้งไว้ก่อน
  2. ไข่แดง กับน้ำตาล ตีผสมให้เข้ากัน เติมน้ำกาแฟ น้ำมันรำข้าว นมข้นจืด กลิ่นวานนิลาหรือกลิ่นกาแฟ จากนั้นก็ตีให้ส่วนผสมเข้ากัน
  3. ให้ร่อนแป้งกับผงฟูลงไปในโถผสมไข่แดง ตะล่อมให้ส่วนผสมเข้ากัน พักทิ้งไว้แล้วไปทำส่วนผสมไข่ขาว หรือ เมอแรง
  4. ตีไข่ขาวด้วยเครื่องตีเค้ก ให้ตีจนเป็นฟองหยาบ ใส่ครีมออฟทาร์ทาร์ลงไปผสมแล้วตีให้เข้ากัน แล้วก็ให้ทยอยใส่น้ำตาลลงไปทีละนิดจนกว่าน้ำตาลจะหมด ตีส่วนผสมให้เข้ากันจนตั้งยอดอ่อน ๆ ได้
  5. นำส่วนผสมเมอแรงมาใส่ผสมรวมกับไข่แดง ให้แบ่งใส่เมอแรงไปทีละนิด แล้วค่อย ๆ ตะล่อมจนเข้ากัน
  6. เมื่อผสมเสร็จแล้วก็ให้ตักใส่ถ้วยฟรอยด์ ให้ใส่สักประมาณครึ่งถ้วย จากนั้นก็เคาะไล่ฟองอากาศ นำเข้าเตาอบให้ใช้ไฟอุณหภูมิ 170 องศา ไฟบน-ล่าง ใช้เวลาการอบประมาณ 20 – 25 นาที เมื่อสุกก็จะได้กลิ่นหอมกาแฟทันทีเลย นำออกจากเตาอบพักทิ้งไว้ให้เย็น จากนี้ก็ไปทำส่วนผสมหน้านิ่มกาแฟกันต่อ
  7. เตรียมหม้อที่สามารถทนความร้อนได้ เทน้ำสะอาดและผงวุ้น คนให้เข้ากัน พักทิ้งไว้ประมาณ 10 นาที
  8. นำน้ำตาลทราย แป้งข้าวโพด ครีมเทียมข้นหวาน และนมข้นจืด คนส่วนผสมให้เข้ากัน
  9. เปิดไฟแล้วนำหม้อที่ผสมน้ำกับผงวุ้นไว้มาตั้งไฟ ใช้ไฟปานกลาง คนไปเรื่อย ๆ จนวุ้นละลาย ใส่ผงกาแฟ และเทส่วนผสมของนมจืดที่เพิ่งทำไป คนผสมให้เข้ากัน เมื่อเริ่มเดือดก็ให้ดับไฟ เติมเนยสดลงไปผสมคนให้เข้ากัน
  10. ราดหน้านิ่มกาแฟลงไปที่ตัวเค้กที่พักไว้ เคาะไล่ฟองอากาศ พักหน้าไว้ให้เซทตัว จะใช้เวลาประมาณ 15 – 20 นาที เพียงแค่นี้ก็จะได้เค้กกาแฟหน้านิ่มไว้กินเอง หรือจะนำไปฝาก หรือทำขายก็ได้น้า

เค้กส้มหน้านิ่ม

credit : freepik

เค้กส้มหน้านิ่ม รสโปรดที่สาว ๆ ยกให้เป็นเค้กจานโปรด ด้วยรสเปรี้ยวนิด ๆ ไม่หวานมาก เพิ่มความอร่อยและความสดชื่นด้วยส้มสด ๆ ที่วางบนเค้กหน้านิ่มส้ม ถ้าอยากจะลองทำกินเองที่บ้านเราเตรียมสูตรและวิธีการทำเค้กส้มหน้านิ่ม ตามไปดูกันเลย

ส่วนผสมเค้กเนื้อส้ม

  • แป้งเค้ก 100 กรัม
  • แป้งข้าวโพด 1 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำส้มเข้มข้น 30 กรัม
  • น้ำตาลทราย 80 กรัม
  • โอวาเลท 12 กรัม
  • ผงฟู 1 ช้อนชา
  • เนยสดเค็ม 80 กรัม
  • สีผสมอาหารสีส้ม
  • กลิ่นส้ม
  • ไข่ไก่สด เลือกใช้เบอร์ 1 จำนวน 4 ฟอง

ส่วนผสมซอสส้ม

  • น้ำเปล่า 375 กรัม
  • แป้งกวนไส้ 35 กรัม
  • น้ำส้มเข้มข้น 180 กรัม
  • น้ำตาลทราย 120 กรัม
  • เนยสดเค็ม 35 กรัม
  • สีผสมอาหารสีส้ม

วิธีทำเค้กหน้านิ่มส้ม

  1. ตอกไข่ไก่ น้ำส้ม น้ำตาลทราย ร่อนแป้งเค้ก แป้งข้าวโพด ผงฟู เกลือป่น ตามด้วยโอวาเลท ใช้เครื่องตีเค้กส่วนผสมต่าง ๆ ให้เข้ากัน ปาดโถบริเวณโดยรอบเพื่อให้ผงแป้งที่ติดอยู่รอบ ๆ แล้วก็ตีต่อด้วยความเร็วสูงสุด ใช้เวลาประมาณ 10 นาที
  2. เติมสีผสมอาหารสีส้ม และกลิ่นส้มลงไปผสมตีให้เข้าด้วยกัน นำเนยเค็มไปละลายค่อย ๆ เทลงไป แล้วก็ตีผสมให้เข้ากัน จนกว่าเนยจะเข้าเป็นเนื้อเดียวกัน ขั้นตอนนี้ถือว่าสำคัญมาก จะต้องคอยปาดโถให้เนยที่ติดอยู่ด้านข้างลงผสมให้เข้ากัน
  3. เทเนื้อเค้กใส่พิมพ์เค้กขนาด 2 ปอนด์ รองด้วยกระดาษไข นำเข้าเตาอบด้วยอุณหภูมิ 170 องศา ไฟบนล่าง ใช้เวลาประมาณ 40 – 45 นาที เมื่อเค้กสุกแล้วก็นำออกมาพักให้เย็น ค่อยนำเค้กออกจากพิมพ์
  4. มาเริ่มทำซอสส้มราดหน้าเค้กหน้านิ่มส้มกันต่อ เทน้ำสะอาดลงในหม้อ ใส่น้ำส้มที่เข้มข้น น้ำตาลทราย คนให้เข้ากัน ตามด้วยแป้งกวนใส่ให้คนจนแป้งไม่เป็นเม็ด ค่อยนำไปตั้งไฟแล้วก็เปิดไฟปานกลาง จะต้องคนตลอดเวลา ให้คนไปเรื่อย ๆ จนข้น เมื่อเริ่มเดือดก็ปิดยกลงจากเตา ใส่เนยเค็มตามลงไปทันที รีบคนจนเนยละลายเข้ากันดี เติมสีผสมอาหารสีส้มลงไปนิดนึงแล้วก็คนต่อไปเรื่อย ๆ
  5. สไลด์เค้กออกเป็น 3 ชิ้น และปาดส่วนด้านบนออกเพื่อให้เค้กเป็นสีเดียวกันทั้งหมด
  6. นำเค้กชิ้นที่ 1 มาวางบนตะแกรง ราดด้วยซอสส้มเกลี่ยให้ทั่วเนื้อเค้ก นำเค้กชิ้นที่ 2 มาวางทับแล้วก็ราดด้วยซอสส้มเกลี่ยให้ทั่ว และนำเค้กชิ้นที่ 3 มาวางทับ ทาซอสส้มขอบข้างเค้กรอบ ๆ แล้วก็ราดซอสส้มส่วนที่เหลือลงบนหน้าเค้กให้ทั่ว เคาะไล่ฟองอากาศ นำไปแช่เข้าตู้เย็นให้เซตตัว แต่งหน้าเค้กด้วยเนื้อส้มสด  แค่นี้คุณก็จะได้เค้กส้มหน้านิ่มอร่อย ๆ ไว้กินหรือจะทำขายก็ได้น้า

เป็นยังไงกันบ้างกับสูตรเค้กหน้านิ่ม ปังมากเลยใช่ไหมล่ะ ! วิธีการทำก็ง่ายมาก ๆ ใครที่อยากลองทำเองที่บ้านก็นำสูตรนี้ไปลองทำกันได้เลย หรือใครที่กังวลว่าบ้านไม่มีเตาอบจะทำได้ไหม ตอบเลยว่า ทำได้จ้า แถมอร่อยเหมือนอีกด้วย ถ้าไม่มีเตาก็ใช้หม้อหุงข้าวหรือหม้อทอดไร้น้ำมันอบเค้กแทนได้น้า นอกจากนี้แล้วถ้าอยากกินรสอื่น ๆ ก็ดัดแปลงเป็นรสชาติที่ต้องการได้ เพราะพื้นฐานการทำเค้กหน้านิ่มจะคล้ายกัน เราไม่รอช้าแล้วไปเตรียมอุปกรณ์ ส่วนผสม เข้าครัวไปทำเค้กอร่อย ๆ กินกันเลยจ้า

Feature Image credit : Freepik

Shopee TH

Share
Published by
Shopee TH

Recent Posts

เลือกหลอดไฟแบบไหนดี? เปิดเคล็ดลับเลือกให้ถูกใจใช้เหมาะกับงาน!

การเลือกหลอดไฟแบบไหนดีที่เข้ากับการตกแต่งบ้านหรือที่ทำงาน อาจดูเหมือนเป็นเรื่องง่าย แต่รู้ไหมว่าแสงจากหลอดไฟที่แตกต่างกันก็สามารถสร้างบรรยากาศที่แตกต่าง เช่น ทำให้รู้สึกกระตือรือร้น หรือช่วยให้ผ่อนคลายได้! ไม่ว่าจะเป็นแสงไฟเดย์ไลท์ คูลไวท์ หรือ warm light ซึ่งแต่ละแบบมีสีและการใช้งานที่แตกต่างกัน มาดูกันว่าแสงจากหลอดไฟแต่ละประเภทเหมาะกับการใช้งานแบบไหน และจะเลือกสีหลอดไฟอย่างไรให้ตอบโจทย์การใช้งานได้ตรงใจที่สุด! จิตวิทยาว่าด้วยสี:…

16 hours ago

วิธีดูแลรถหลังน้ำท่วม รถน้ำท่วมแล้วต้องทำยังไงมาดูกัน!

ประเทศไทยมีอากาศร้อนชื้นและฝนตกบ่อย โดยเฉพาะในฤดูฝนที่มักมีฝนตกหนักจนเกิดน้ำท่วม ซึ่งอาจทำให้รถน้ำท่วมเสียหายได้ หากเกิดเหตุการณ์นี้ สิ่งสำคัญคือการดูแลรถอย่างถูกวิธี เพื่อป้องกันความเสียหายจากน้ำท่วมรถเพิ่มเติม การจัดการอย่างรวดเร็วและถูกต้องจะช่วยให้รถกลับมาใช้งานได้ปลอดภัยและลดปัญหาในระยะยาว มาดูวิธีดูแลรถหลังน้ำท่วมกัน ตั้งแต่การตรวจสอบเบื้องต้นไปจนถึงการป้องกันความเสียหาย แล้วตอบคำถามว่าน้ำท่วมรถประกันจ่ายไหม? จ่ายเท่าไหร่? ในส่วนท้ายของบทความนี้ได้เลย! Cr: Freepik 1.…

17 hours ago

ภัยใกล้ตัว! คลิปสั้นชวนคิด เตือนภัยไซเบอร์ป้องกันมิจฉาชีพยุคดิจิทัล

ในยุคดิจิทัลที่เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันมากขึ้นเรื่อย ๆ ปัญหา ภัยไซเบอร์ ก็ตามมาติด ๆ ภัยไซเบอร์ คือ การกระทำที่ผิดกฎหมายในโลกออนไลน์ เช่น การหลอกลวง การขโมยข้อมูลส่วนบุคคล หรือการโจมตีระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งมิจฉาชีพออนไลน์จะใช้ช่องทางต่าง ๆ…

17 hours ago

มนุษย์ควรดื่มน้ำวันละกี่มล. ดี? คำนวณง่าย ๆ พร้อมเช็คสัญญาณเตือนภาวะขาดน้ำ!

ควรดื่มน้ำวันละกี่มล. ถึงจะเพียงพอ? คำนวณปริมาณน้ำที่เหมาะสมกับร่างกายของคุณได้ง่าย ๆ พร้อมวิธีสังเกตสัญญาณเตือนภาวะขาดน้ำที่คุณอาจมองข้ามไป

18 hours ago

อัปเดต! สมรสเท่าเทียม ล่าสุด เริ่มใช้เมื่อไหร่ สิทธิไหนใช้ได้ทันที

เมื่อความหลากหลายทางเพศถูกเปิดกว้างมากขึ้นในสังคมและหลายประเทศก็สนับสนุนกลุ่ม LGBTQI+ ให้สามารถใช้ชีวิตในฐานะคู่รักได้อย่างถูกต้องตามกฎหมายที่ไม่ได้มีแค่ชายและหญิง แต่ใครก็ได้ที่รักกัน Love is Love โดยไทยเองก็พึ่งออกกฎหมายสมรสเท่าเทียม ล่าสุด ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งข่าวดีที่ในวันนี้จะมาสรุปสาระสำคัญเกี่ยวกับกฎหมายสมรสเท่าเทียมว่าจะเริ่มใช้ได้เมื่อไหร่และสิทธิไหนใช้ได้ทันที พร้อมคำถามที่พบบ่อยที่อย่ารอช้า! ไปดูกันเลย Cr: freepik ส่องกฎหมายใหม่!…

19 hours ago

สตาร์ทรถไม่ติดเกิดจากอะไร? พร้อมหาวิธีแก้ไขและทริคในการดูแลรักษารถยนต์

ใครที่ใช้รถเป็นประจำไม่ว่าจะขับไปทำงาน ไปส่งเด็ก ๆ ที่โรงเรียน ขับไปช้อปปิ้งซื้อของต่าง ๆ หรือจะขับไปท่องเที่ยวช่วงวันหยุด แล้ววันดีคืนดีรถคันโปรดดันงอแง สตาร์ทไม่ติด แต่ไม่รู้จะแก้ยังไง วันนี้จะพาไปหาสาเหตุ พร้อมวิธีการแก้ไขเบื้องต้นและทริคการดูแลรักษารถยนต์เพื่อให้คุณใช้รถต่อได้อย่างยาวนาน เข้าใจรถของคุณมากขึ้นและสามารถรับมือได้หากเกิดเหตุการณ์ซ้ำเดิมอีกครั้ง  Cr: freepik …

1 day ago