แนะนำ 10 ตู้เย็นมินิ ยอดเยี่ยม 2023 ประหยัดไฟดี มินิมอลสไตล์ WFH

การมองหา ตู้เย็นมินิ ยี่ห้อไหนดี ที่เชื่อว่าในปัจจุบันนี้หลายคนมักจะมองหาความสะดวกสบายให้กับตัวเองด้วยตู้เย็นมินิ ที่จะสามารถตั้งไว้ในห้องนอนก็ได้ ห้องทำงาน ห้องนั่งเล่น ห้องสังสรรค์กับเพื่อน ๆ รวมไปถึงห้องแต่งตัว ซึ่งจะสามารถแยกแช่ทั้งอาหารและเครื่องดื่ม รวมไปทั้งครีมบำรุงผิวได้เป็นหมวดหมู่ชัดเจน ที่จะไม่ต้องเสียเวลาเดินลงมาที่ตู้เย็นหลักภายในบ้าน โดยหลักการเลือกซื้อตู้เย็นขนาดเล็กแบบนี้จะมีอะไรบ้าง ตามไปดูกันเลย

วิธีเลือกตู้เย็นมินิให้เหมาะกับการใช้งาน

1.เลือกตู้เย็นมินิจากปริมาณความจุหรือขนาดที่เหมาะสม

• ตู้เย็นมินิ 1 ประตู 1.7 Q (50 ลิตร) รุ่นนี้อาจจะเล็กแต่ก็ยังไม่เล็กที่สุด จะเหมาะสำหรับแช่เครื่องดื่ม อาหาร และเครื่องสำอางได้ จะเหมาะติดตั้งไว้ในห้องส่วนตัว
• ตู้เย็นมินิ 1 ประตู 3.5 Q (100 ลิตร) จะมีขนาดกำลังพอดีสำหรับการพักอยู่คนเดียวแช่ได้ทั้งเครื่องดื่มและอาหารได้ จึงเหมาะใช้เป็นตู้เย็นสำรองหรือติดตั้งในหอพักก็ดี
• ตู้เย็นมินิ 2 ประตู 3.5 Q (100 ลิตร) สำหรับรุ่นนี้จะมีช่องแช่แข็งที่สามารถจะใช้กับอาหารแช่แข็งได้ จึงเป็นตู้เย็นหลัก แต่ก็ต้องดูจำนวนสมาชิกในบ้านด้วย
• ตู้เย็นมินิ ขนาด 4.5 Q (130 ลิตร) เป็นรุ่นที่ออกแบบมาเพื่อที่จะใช้แช่เครื่องดื่มและอาหารให้ได้จำนวนมากขึ้น จึงใช้เป็นตู้เย็นหลักได้สำหรับบ้านที่มีสมาชิก 2-3 คน

ข้อแนะนำเพิ่มเติม สำหรับบ้านที่มีสมาชิกตั้งแต่ 3 คนขึ้นไป การเลือกใช้ตู้เย็นที่มีขนาดเล็กหรือตู้เย็นมินิอาจจะไม่เพียงพอ ควรจะเลือกซื้อตู้เย็นประหยัดไฟที่มี 1 หรือ 2 ประตูขนาดตั้งแต่ 6Q ขึ้นไปจึงจะเหมาะสมและแช่หรือเก็บอาหารได้อย่างเพียงพอ

2.ตู้เย็นมินิที่มีฟังก์ชันละลายน้ำแข็ง

ปัจจุบันการมองหาตู้เย็นเล็ก ยี่ห้อไหนดี ที่จะช่วยเรื่องความสะดวก ก็คงต้องเลือกที่มีฟังก์ชันละลายน้ำแข็งอัตโนมัติ แต่ก็ยังจะต้องคอยระวังในเรื่องของน้ำแข็งที่ละลายแล้วจะล้น หรือหกออกมา และสำหรับบางยี่ห้อก็ยังมีฟังก์ชันละลายน้ำแข็ง Manual Defrost ที่จะสามารถเลือกเวลาที่สะดวกในการทำความสะอาดตู้เย็นได้  โดยรวมแล้วการเลือกซื้อก็ขึ้นอยู่กับการใช้งาน และต้องการความสะดวกสบาย

3.ควรจะต้องมีเทคโนโลยีใน Anti-Bacterial

อีกฟังก์ชันหนึ่งที่ควรจะต้องถามหาเมื่อกำลังต้องการจะซื้อตู้เย็นไม่ว่าจะเป็นขนาดใดก็ตามควรจะต้องมาพร้อมกับระบบการฆ่าเชื้อแบคทีเรีย และระบบที่จะช่วยกำจัดกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ เพื่อทำให้ตู้เย็นมีความสะอาดและกลิ่นของอาหารต่าง ๆ ไม่ฟุ้งกระจายหรือและยังทำให้อาหารมีความสดอยู่เสมอ 

4.เลือกตู้เย็นมินิที่มีสัญลักษณ์ว่าเป็นตู้เย็นประหยัดไฟ

แน่นอนถ้าเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้า อย่างตู้เย็นมินิ ถึงจะมีขนาดเล็กแต่ก็จะต้องมีฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 เพื่อที่จะช่วยให้การใช้งานสะดวกสบายแต่ประหยัดไฟได้เป็นอย่างดี เพราะตู้เย็นจะต้องเปิดใช้งานตลอด 24 ชั่วโมง การมองหาฟังก์ชันที่จะช่วยประหยัดไฟจึงควรจะเป็นลำดับแรกที่ต้องคำนึง

5.เลือกขนาดตู้เย็นมินิให้เหมาะพื้นที่ติดตั้ง

การหาตำแหน่งที่ใช้ติดตั้งตู้เย็นมินิ ถึงจะเป็นตู้เย็นที่มีขนาดเล็กแต่ก็ยังจำเป็นจะต้องให้มีพื้นที่ในการช่วยระบายความร้อน และตู้เย็นจะสามารถมีอายุการใช้งานได้ยาวนานและทำความเย็นได้อย่างสม่ำเสมอ อีกทั้งไม่ทำให้เปลืองไฟได้อีกด้วย 

6.เลือกตู้เย็นมินิจากวัสดุที่แข็งแรง

การเลือกซื้อตู้เย็นมินิ นอกจากฟังก์ชันการใช้งาน จากแบรนด์หรือยี่ห้อที่มีความน่าเชื่อถือแล้ว วัสดุที่ใช้ในการผลิตจะต้องมีความแข็งแรงทนทาน เพราะจะนำมาใช้งานจริง และยังต้องเปิดไว้ใช้งานตลอดเวลา ถึงแม้จะเป็นรุ่นที่มีขนาดเล็กที่สุดสำหรับสายบิวตี้ที่ต้องการนำมาเก็บเครื่องประทินผิว หรือเครื่องสำอางส่วนตัว

วิธีการดูแลรักษายืดอายุการใช้งานตู้เย็นมินิ

1. ไม่ควรจะใส่ของหรือแช่อาหารจนแน่นเกินไป ทำให้ไม่มีช่องให้ระบายความเย็นได้ทั่วถึง ซึ่งทำให้อาหารมีโอกาสจะเน่าเสียได้ไว
2. สำหรับการติดตั้งตู้เย็นตามที่กล่าวไว้จะต้องให้มีพื้นที่เหลือด้านหลังเพื่อให้ตู้เย็นสามารถจะระบายความร้อนได้
3. สำหรับการวางตู้เย็นควรจะต้องหลีกเลี่ยงบริเวณที่มีความร้อน หรือเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่นที่เช่น ทีวี เตาแก๊ส เตาอบ เป็นต้น
4. ไม่ควรนำอาหารที่ปรุงสุกใหม่ ๆ หรือที่ยังร้อนอยู่เข้าตู้เย็นทันที ควรจะปล่อยให้อาหารนั้นเย็นก่อนจึงนำเข้าแช่ในตู้เย็นได้
5. ไม่ควรจะเปิดตู้เย็นบ่อยจนเกินไป เพราะจะทำให้ตู้เย็นทำงานหนักเกินไป เพราะความเย็นมีการระบายออกมาบ่อย
6. สำหรับการติดตั้งตู้เย็นจะต้องเลือกใช้เต้ารับให้เหมาะสม หรือควรจะแยกการใช้งานออกจากเครื่องใช้ไฟฟ้าชนิดอื่นอย่างชัดเจน
7. ขอบยางตู้เย็นก็มีความสำคัญ จะต้องคอยตรวจสอบและทำความสะอาดอย่างถูกวิธีเพื่อป้องกันขอบยางเสื่อมสภาพเร็วเกินไป

---

ตู้เย็นมินิ ยี่ห้อไหนดี ประหยัดไฟดี มินิมอลสไตล์ WFH

1. Midea Mini Bar ขนาด 1.7Q รุ่น HS-65LN

ตู้เย็นมินิบาร์ Midea จากแบรนด์ Midea รุ่นนี้จะมีโครงสร้างภายในอเนกประสงค์ และผลิตมาจากวัสดุที่ได้มาตรฐานมีความปลอดภัยสูง การจัดเก็บของได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นอาหาร เครื่องดื่ม ขนมต่าง ๆ รวมไปถึงไอศกรีม การทำงานจะให้ความเย็นเร็วและสามารถจะรักษาความสดของอาหารได้เป็นอย่างดี ขนาดของตัวเครื่องสามารถจะเคลื่อนย้ายได้ง่าย การจัดวางตกแต่งได้ เหมาะที่จะใช้ในห้องนอน ห้องทำงาน หรือห้องพักที่อาศัยอยู่เพียงลำพัง

คุณสมบัติ

• ราคาประมาณ 2,740 บาท
• ขนาด 1.7Q
• ฟังก์ชันละลายน้ำแข็ง กึ่งอัตโนมัติ
• ฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5
• ปุ่มปรับอุณหภูมิ

2. Worldtech ตู้เย็นมินิบาร์ ขนาด 1.7Q รุ่น WT-MB48

ถ้ากำลังนึกถึงตู้เย็นเล็ก ยี่ห้อไหนดี ที่มีการออกแบบมาได้ทันสมัย กะทัดรัด เคลื่อนย้ายได้สะดวก มีระบบละลายน้ำแข็ง Manual Defrost ก็จะต้องนึกถึงแบรนด์ Worldtech ตู้เย็นมินิบาร์ ขนาด 1.7Q รุ่น WT-MB48 เพราะถือว่าเป็น ตู้เย็นประหยัดไฟ  ตัวเครื่องมีขนาดเล็กจึงสามารถจะปรับตกแต่งให้เข้าได้กับทุกห้องภายในบ้าน ซึ่งสามารถจะใช้ได้กับเครื่องดื่มต่าง ๆ อาหาร ขนมจุกจิก รวมไปถึงครีมบำรุงผิว หรือเครื่องสำอางที่จะต้องรักษาอุณหภูมิ 

คุณสมบัติ

• ราคาประมาณ 2,420 บาท

• ขนาด 1.7Q
• ฟังก์ชันละลายน้ำแข็ง Manual Defrost
• ฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5
• ปุ่มปรับอุณหภูมิ

3. Toshiba ตู้เย็นมินิบาร์ ความจุ 3.1 คิว รุ่น GR-D906

สำหรับแบรนด์ Toshiba คงไม่มีใครที่จะไม่รู้จัก กับตู้เย็นมินิที่มีขนาด 3.1Q ที่มาพร้อมกับระบบ Super Direct Cool ที่จะช่วยให้ของที่นำมาแช่เย็นได้อย่างรวดเร็วและสารทำความเย็น R600a ก็ยังเป็นมิตรกับธรรมชาติ การดีไซน์มาพร้อมชั้นวางของที่แข็งแรง ซึ่งจะเป็นวัสดุกระจกนิรภัย จึงรับน้ำหนักได้มาก และระบบการทำงานที่ไม่มีเสียงรบกวนเลย แม้จะตั้งไว้ในห้องนอน ห้องทำงาน ซึ่งจะเพิ่มความสะดวกได้เป็นอย่างดี

คุณสมบัติ

• ราคาประมาณ 5,290 บาท
• ขนาด 3.1Q
• ฟังก์ชันละลายน้ำแข็ง กึ่งอัตโนมัติ
• ฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5
• ปุ่มปรับอุณหภูมิ

4. ALCO ตู้เย็นมินิบาร์ รุ่น AN-FR468 ขนาด 1.7Q

ตู้เย็นมินิ ยี่ห้อไหนดี ที่จะแนะนำกับยี่ห้อ Alco ตู้เย็นมินิบาร์ รุ่น AN-FR468 ขนาด 1.7Q ที่มีขนาดเล็กเพียง 1.7Q ซึ่งมาพร้อมเทคโนโลยีกระจายความเย็น Air Flow ที่ช่วยให้อาหาร เครื่องดื่ม หรือของต่าง ๆ ที่นำมาแช่เย็นได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งเป็นระบบที่ช่วยในเรื่องการประหยัดไฟได้เป็นอย่างดีและไม่มีเสียงดังรบกวน อีกทั้งยังมีเทคโนโลยีป้องกันคราบเชื้อราไม่ให้มาเกาะติดขอบยางตามประตูของตู้เย็น จึงทำให้ดูแลรักษาความสะอาดได้ง่าย 

คุณสมบัติ

• ราคาประมาณ 2,640 บาท
• ขนาด 1.7Q
• ฟังก์ชันละลายน้ำแข็ง กึ่งอัตโนมัติ
• ฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5
• เทคโนโลยีกระจายความเย็น Air Flow

5. Refrigerator ตู้เย็นมินิ 2 ประตู ขนาด 4.2Q

จะเป็นตู้เย็นมินิ ยี่ห้อไหนดี ที่ยังคงได้รับความนิยม ที่จะมาพร้อมช่องแช่แข็งที่มาในรูปแบบเป็นตู้เย็นมินิ 2 ประตู ขนาด 4.2Q ที่จะแยกระบบการทำงานอย่างชัดเจน อีกทั้งมีเสียงในการทำงานที่เงียบมากทำให้ไม่รบกวนเวลาในการพักผ่อนจึงสามารถจะติดตั้งได้ทั้งภายในห้องนอน และรวมไปถึงห้องนั่งเล่น และห้องครัวที่มีสมาชิกภายในครอบครัว 2-3 คนกำลังพอดี นอกจากนี้ยังสามารถจะติดตั้งได้ที่สำนักงานที่มีขนาดเล็ก ซึ่งจะใช้แช่ได้ทั้งเครื่องดื่ม อาหารสดและอาหารแช่แข็ง 

คุณสมบัติ

• ราคาประมาณ 2,860 บาท
• ขนาด 4.2Q
• ฟังก์ชันละลายน้ำแข็ง กึ่งอัตโนมัติ
• ฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5
• ปุ่มปรับอุณหภูมิ

6. Haier ตู้เย็นมินิบาร์ รุ่น HR-50 ขนาด 1.7Q

ตู้เย็นมินิบาร์อีกแบรนด์ที่กำลังได้รับความสนใจก็คือ Haier รุ่น HR-50 ขนาด 1.7Q จะมีขนาดเล็กที่มีดีไซน์ออกมาแบบเรียบหรูดูดีและยังได้การรับประกันคอมเพรสเซอร์นานถึง 5 ปี ภายในจะมีทั้งระบบแช่แข็ง Direct Cooling และแช่เย็น จะเป็นตู้เย็นที่จะช่วยรักษาความสดของอาหารได้เป็นอย่างดี และยังมีระบบประหยัดไฟเบอร์ 5 จึงเหมาะที่จำนำไปใช้ในห้องพัก ห้องนอน คอนโดหรูได้ ซึ่งด้วยมีขนาดเล็กจึงเคลื่อนย้ายได้สะดวก

คุณสมบัติ

• ราคาประมาณ 3,090 บาท
• ขนาด 1.7Q
• ฟังก์ชันละลายน้ำแข็ง กึ่งอัตโนมัติ
• ฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5
• ปุ่มปรับอุณหภูมิ

7.Hisense ตู้เย็นมินิ รุ่น RR120D4BD1 ขนาด 3.4Q

สำหรับ Hisense รุ่น RR120D4BD1 ขนาด 3.4Q จะเป็นแบบ 1 ประตูที่มีช่องแช่เย็นและช่องแช่แข็งที่มีฝาปิด ราคาย่อมเยา แบ่งช่องแช่เย็นได้เหมาะสม มีฝาปิดช่องแช่แข็งป้องกันความเย็นรั่วไหลและมีกลิ่นของสดที่จะรั่วออกมาปะปนกับอาหารในช่องเย็นได้ สำหรับรุ่นนี้จะมีขนาดกำลังพอดีเพราะมีช่องแช่เย็นถึง 3 ชั้น ระบบการทำความเย็นจะเป็นแบบ 1 คอยล์เย็น 1 พัดลม และจะเป็นตู้เย็นที่มีขนาดกำลังพอดีสำหรับบ้านที่มีสมาชิกตั้งแต่ 2-3 คน 

คุณสมบัติ

• ราคาประมาณ 6,000 บาท
• ขนาด 3.4Q
• ฟังก์ชันละลายน้ำแข็ง Manual Defrost
• ฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5
• ปุ่มปรับอุณหภูมิ

8. Hafele ตู้เย็นมินิ รุ่น Cute Series ขนาด 1.5Q

ตู้เย็นมินิ ยี่ห้อไหนดี สำหรับตู้เย็นมินิ รุ่น Cute Series จากแบรนด์ Hafele ถึงจะมีราคาสูงแต่น่าสนใจด้วยการออกแบบดีไซน์ให้เหมือนกับตู้เย็นวินเทจ หรือสไตล์ย้อนยุค หากจะเลือกเป็นสีโทนอ่อน โดยรุ่นนี้มีระบบการทำงานที่มีเสียงรบกวนเพียง 28 เดซิเบล การใช้งานก็เหมาะกับห้องนานมากภายในจะมีช่องแช่แข็งและช่องเย็นธรรมดา เพื่อไว้ใช้แช่เครื่องสำอางได้ ถึงแม้จะมีขนาดมินิแต่ก็สามารถจะปรับระดับความเย็นและมีระบบละลายน้ำแข็งแบบกึ่งอัตโนมัติ

คุณสมบัติ

• ราคาประมาณ 11,900 บาท
• ขนาด 1.5Q
• ทำละลายน้ำแข็ง กึ่งอัตโนมัติ
• ฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5
• ปุ่มปรับอุณหภูมิ

9. Hisense ตู้เย็นมินิ รุ่น RR60D4AD ขนาด 1.6Q

เป็นตู้เย็นมินิบาร์รุ่น RR60D4AD ขนาด 1.6Q จากแบรนด์ Hisense ที่มีลักษณะการใช้งานได้แบบพิเศษ กับระบบประตูเป็นแบบ Reversible Door ซึ่งสามารถจะเปิดได้ทั้งสองด้านตามความถนัด สามารถจะปรับอุณหภูมิได้ การทำงานก็ไม่มีเสียงรบกวน จึงเหมาะที่จะติดตั้งไว้ในห้องนอน สำหรับการดูแลความสะอาดง่ายและสามารถจะปิดการทำงานได้โดยที่ไม่ต้องถอดปลั๊ก ซึ่งถ้าหากจะเปรียบเทียบราคาก็ถือว่ายังคุ้มค่ามากเพราะมีราคาไม่สูงแต่ได้ฟังก์ชันการใช้งานที่ครบครันเพียงพอสำหรับตู้เย็นขนาดเล็ก

คุณสมบัติ

• ราคาประมาณ 2,650 บาท
• ขนาด 1.6Q
• ฟังก์ชันละลายน้ำแข็ง กึ่งอัตโนมัติ
• ฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5
• ปุ่มปรับอุณหภูมิ

10. SONAR ตู้เย็นมินิ รุ่น RD-H95N ขนาด 3.4Q

เป็นตู้เย็นมินิ 2 ประตู SONAR รุ่น RD-H95N ขนาด 3.4Q ที่มาในขนาดกะทัดรัดน่ารักสามารถจะเลือกติดตั้งได้ทั้งซ้ายและขวาได้ตามความถนัดของการใช้งาน และมีความจุดที่กำลังพอดีสำหรับการติดตั้งไว้ใช้งานได้แบบง่าย ๆ ภายในห้องนอน หรือห้องนั่งเล่น ซึ่งมาพร้อมกับระบบ Anti Bacteria Protector ทำหน้าที่ในการกำจัดกลิ่นและเชื้อโรคภายในตู้เย็น ควบคุมอุณหภูมิได้ด้วยเทอร์โมสแตทและมีไฟส่องสว่างเป็นแบบ LED อีกทั้งยังช่วยประหยัดไฟได้ถึง 10 เท่า

คุณสมบัติ

• ราคาประมาณ 5,880 บาท
• ขนาด 3.4Q
• ฟังก์ชันละลายน้ำแข็ง กึ่งอัตโนมัติ
• ประหยัดไฟได้มากขึ้น
• ปุ่มปรับอุณหภูมิ

จากวิธีการเลือกซื้อตู้เย็นมินิ ยี่ห้อไหนดี หรือตู้เย็นมินิบาร์ซึ่งไม่ว่าจะมีฟังก์ชันที่พร้อมเพิ่มความสะดวกสบายมากเพียงใด แต่การใช้ที่ถูกวิธีและไม่ใช้งานหรือแช่อาหารจนอัดแน่นเกินไปก็จะช่วยให้ตู้เย็นขนาดเล็กมีอายุการใช้งานได้ยาวนานขึ้น นอกจากนี้การเลือกซื้อตู้เย็นมินิก็ยังจะต้องคำนึงในเรื่องการประหยัดไฟหากต้องการเลือกซื้อมาใช้สำหรับเป็นตู้เย็นสำรองบนห้องนอนหรือห้องเล่นเกม ห้องโฮมเธียเตอร์ ซึ่งเป็นการเพิ่มความสะดวกสบายและแยกเครื่องดื่มและอาหารแต่ละประเภทออกจากกันทำให้สามารถจะถนอมอาหารได้อีกด้วย สำหรับผู้ที่สนใจเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน ไม่ว่าจะเป็น รีวิวตู้เย็น Hitachi รีวิวตู้เย็น Samsung 10 แอร์ยี่ห้อไหนดี ที่ Shopee Blog มีบทความสาระดี ๆ มาฝากมากมายหลากหลายประเภท ลองเข้าไปอ่านกันได้เลย

อ้างอิง:

• เลือกตู้เย็นประหยัดไฟ แบบไหนที่เหมาะกับบ้านคุณ (ddproperty.com)

• ตู้เย็นเล็ก Minibar สำหรับวัยทำงาน อยู่หอพัก ใช้ตัวไหนดีครับ – Pantip