Health

คุณแม่เตรียมคลอดธรรมชาติควรรู้ !! พร้อมการเตรียมตัวก่อนคลอด

หากพูดถึงความเป็นคุณแม่แล้วก็แน่นอนว่าจะต้องเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับลูกน้อยที่กำลังจะลืมตาออกมาดูโลก ซึ่งคุณแม่หลายท่านก็เริ่มเตรียมพร้อมตั้งแต่การเตรียมตั้งครรภ์ การบำรุงครรภ์ การฝากครรภ์ เลยไปถึงการเลือกวิธีคลอด ซึ่งก่อนหน้านี้สักไม่กี่ปีการผ่าคลอดนับว่าเป็นที่นิยมมากสำหรับคุณแม่หลาย ๆ ท่านเนื่องจากเป็นวิธีคลอดที่สร้างความเจ็บปวดให้กับคุณแม่น้อย และค่อนข้างการันตีความปลอดภัยของทารกในครรภ์ได้มาก

แต่ในปัจจุบันการคลอดธรรมชาติเริ่มกลับมาได้รับความนิยมอีกครั้งเนื่องจากการคลอดลูกธรรมชาตินั้นเป็นวิธีที่คุณแม่จะได้ใกล้ชิดกับประสบการณ์การเป็นคุณแม่มากที่สุดและเป็นวิธีที่จะหลีกเลี่ยงกระบวนการที่อาจกระทบกับการเติบโตของลูกน้อยในภายหลัง และคราวนี้เราจะพาไปสำรวจดูว่าสำหรับคุณแม่ที่ตั้งใจจะคลอดธรรมชาตินั้นควรทราบข้อมูลอะไรบ้าง

การคลอดลูกธรรมชาติเป็นอย่างไร ?

การคลอดลูกธรรมชาติ คือ การใช้แบบแผนการคลอดที่ธรรมชาติออกแบบไว้สำหรับการคลอดลูกให้เกิดประโยชน์สูงสุด เพื่อให้คุณแม่สามารถคลอดทารกได้ด้วยกระบวนการในร่างกายตามธรรมชาติโดยที่คุณหมอจะเข้าไปแทรกแซงกระบวนการนี้ให้น้อยที่สุด รวมถึงงดการแทรกแซงด้วยวิทยาศาสตร์และสารเคมีอื่น ๆ หากไม่จำเป็น 

การคลอดธรรมชาตินี้คุณหมอจะเคารพศักยภาพในการคลอดของคุณแม่ และคุณแม่เองก็ควรเชื่อมั่นว่าสามารถคลอดได้ด้วยตนเองภายใต้กระบวนการคลอดที่มีคุณหมอคอยสนับสนุนอยู่ นี่จึงเป็นกระบวนการที่คุณแม่จะได้ใกล้ชิดกับลูกน้อยได้มากที่สุด และความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นจากกระบวนการนี้จะกลายเป็นประสบการณ์ที่ล้ำค่าของคุณแม่ได้ในทางหนึ่งด้วย

ข้อดีของการคลอดลูกธรรมชาติ vs. การผ่าคลอด

นี่อาจเป็นคำถามหนึ่งของคุณแม่ใกล้คลอดว่าควรจะใช้การคลอดลูกธรรมชาติ หรือ ใช้การผ่าคลอดดี? ซึ่งวิธีการทั้งสองนี้มีจุดเด่นและความเหมาะสมในการเลือกตัดสินใจที่แตกต่างกันออกไป และควรอยู่ภายใต้การดูแลของคุณหมอผู้ดูแลครรภ์ด้วย

สำหรับการคลอดลูกธรรมชาติ คุณแม่อาจมีความกังวลอยู่บ้างที่ต้องเผชิญกับความเจ็บปวด แต่เรื่องนี้ร่างกายของคุณแม่เอาอยู่แน่ ๆ ด้วยกระบวนการทางธรรมชาติของร่างกายที่เมื่อคุณแม่เริ่มปวดท้องจากการเบ่งคลอด ร่างกายจะเริ่มผลิตฮอร์โมนออกซีโตซินออกมาช่วยลดความเจ็บปวดและกระตุ้นให้มดลูกบีบตัวแรงขึ้น คุณแม่จึงไม่ได้เจ็บปวดมากจนถึงกับทนไม่ได้ ความเจ็บปวดนี้จึงเป็นสิ่งที่ไม่เหนือกว่าสัญชาตญาณของคุณแม่ ซึ่งคุณแม่จะเกิดความภูมิใจกับการมีเจ้าตัวน้อยออกมาลืมตาดูโลก

นอกจากนี้การคลอดแบบธรรมชาติยังเป็นกระบวนการตามธรรมชาติที่ร่างกายของคุณแม่จะฟื้นตัวได้เร็วและมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อของบาดแผลน้อย

ในส่วนลูกน้อย การคลอดแบบธรรมชาติจะช่วยให้ลูกน้อยได้รับแบคทีเรียโพรไบโอติกที่จะช่วยสร้างเสริมกระบวนการต่าง ๆ ในร่างกายลูกน้อยให้เป็นปกติในอนาคต ไม่ว่าจะเป็นทั้งระบบขับถ่าย ระบบภูมิคุ้มกัน ซึ่งสิ่งนี้ถือเป็นสมบัติติดตัวชิ้นแรกที่คุณแม่จะมอบให้ลูกน้อยได้เลย

สำหรับการผ่าคลอดมักเป็นขั้นตอนที่คุณหมอเลือกให้กับคุณแม่ที่มีภาวะครรภ์ไม่ปกติหรือมีโอกาสคลอดยาก เพื่อให้ลูกน้อยสามารถลืมตาออกมาดูโลกได้อย่างปลอดภัย โดยที่คุณแม่อาจต้องใช้เวลาพักฟื้นหลังคลอดนานกว่าคุณแม่ที่คลอดแบบธรรมชาติ

กำหนดการคลอดธรรมชาติกี่สัปดาห์

คุณแม่ที่ตั้งใจคลอดธรรมชาติมักจะต้องมีการเตรียมพร้อมมาก่อน ซึ่งส่วนใหญ่แล้วคุณแม่จะใช้เวลาในการตั้งครรภ์ประมาณ 40 สัปดาห์ ซึ่งตั้งแต่สัปดาห์ที่ 37 เป็นต้นไปคุณแม่อาจเริ่มเจ็บท้องคลอดได้ ซึ่งระหว่างนี้คุณแม่ควรเตรียมร่างกายให้แข็งแรงและฝากครรภ์กับคุณหมอ เพื่อที่หากมีอาการแทรกซ้อนกับครรภ์ลูกน้อยจะได้สามารถแก้ไขเตรียมพร้อมได้ทันท่วงที

การเตรียมพร้อมสำหรับการคลอดธรรมชาติ

การคลอดลูกน้อยตามธรรมชาตินั้นคุณแม่ท้องแรกอาจมีข้อกังวลมากมาย ทั้งกลัวเจ็บ กลัวทุกอย่างไม่เป็นไปอย่างที่คิด กลัวว่าผลลัพธ์จะไม่ออกมาดี ซึ่งความกังวลนี้เป็นสิ่งที่คุณแม่คนอื่น ๆ เคยผ่านกันมาแล้วทั้งนั้น ดังนั้นเพื่อลดความกังวลนี้ เราลองมาทำความรู้จักและเตรียมพร้อมสำหรับการคลอดธรรมชาติกันเสียแต่เนิ่น ๆ ดีกว่า

1. ระยะแรกของการคลอดธรรมชาติ

จะเป็นช่วงสัญญาณเตือนก่อนคลอดได้เริ่มต้นขึ้น โดยคุณแม่จะเริ่มมีอาการเจ็บเตือนพร้อม ๆ กับการขยายตัวของปากมดลูก ซึ่งคุณแม่สามารถใช้ทฤษฎีการหายใจเพื่อผ่อนคลายร่างกายและอารมณ์เพื่อให้รู้สึกสบายตัวขึ้น หลังจากนั้นปากมดลูกจะเริ่มขยายกว้างขึ้นและเป็นระยะที่คุณแม่จะเจ็บพร้อมคลอดลูกน้อยแล้ว

2. ระยะที่สองของการคลอดธรรมชาติ

เป็นระยะที่คุณแม่พร้อมสำหรับการคลอดลูก เมื่อปากมดลูกขยายตัวเต็มที่และมดลูกเริ่มบีบตัวจนลูกน้อยเริ่มออกมาดูโลก ซึ่งจะเป็นช่วงที่คุณหมอคอยกำชับให้คุณแม่เบ่งเรื่อย ๆ อย่างที่เราพบบ่อย ๆ ในละครนั่นเอง

3. ระยะที่สามของการคลอดธรรมชาติ

 เป็นช่วงของการคลอดรก คือเมื่อลูกน้อยออกมาแล้ว ทิ้งเวลาอีกราว 10-15 นาที รกที่เคยห่อหุ้มตัวทารกก็จะถูกขับออกมา ซึ่งนี่เป็นช่วงท้าย ๆ ของการคลอดธรรมชาติของคุณแม่แล้ว

4. ระยะที่สี่ของการคลอดธรรมชาติ

เป็นช่วงของการพักฟื้นและฟื้นฟูร่างกายของคุณแม่เพื่อให้พร้อมสำหรับการเลี้ยงดูและให้นมลูกน้อยต่อไป ซึ่งการให้น้ำนมลูกน้อยหลังคลอดนี้เองจะเป็นอีกกระบวนการหนึ่งที่จะกระตุ้นมดลูกให้เข้าที่ ช่วยให้ร่างกายคุณแม่ฟื้นตัวได้เร็วไปอีกด้วยค่ะ

ปัจจุบันการคลอดธรรมชาติเป็นที่นิยมสูงทั้งคุณแม่ชาวไทยและคุณแม่ชาวต่างชาติ โดยคุณแม่แต่ละท่านก็มีความต้องการที่แตกต่างกันไป บางท่านอาจเลือกจะคลอดที่โรงพยาบาล แต่ก็ยังมีวิธีคลอดธรรมชาติในน้ำหรือที่บ้านให้คุณแม่ได้เก็บไว้เป็นทางเลือกสำหรับการคลอดที่เป็นครั้งแรกที่คุณแม่จะได้พบหน้าลูกน้อยในครรภ์ด้วย  แต่อย่าลืมใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่อ่อนโยนต่อผิวคุณแม่อย่าง Amway ด้วยล่ะ

เพียงเตรียมตัวก่อนคลอดให้ดี ก็ไม่มีอะไรน่าห่วงแล้ว

ทั้งหมดนี้ก็เป็นทั้งข้อดีและข้อที่คุณแม่คลอดธรรมชาติอาจมีความกังวลใจอยู่บ้าง แต่ขั้นตอนเหล่านี้ก็เป็นสิ่งที่คุณแม่คลอดธรรมชาติทุกคนจะต้องเผชิญ และเป็นสิ่งที่คุณแม่จะก้าวข้ามมันไปได้อย่างไม่ยากเย็น เมื่อสุดปลายทางคือลูกน้อยที่มีสุขภาพแข็งแรงและปลอดภัย รวมถึงความภูมิใจของคนเป็นแม่ในท้ายที่สุดด้วย

Shopee TH

Share
Published by
Shopee TH

Recent Posts

แนะนำ 15 รองเท้า Mary Jane ยี่ห้อไหนดี พร้อมเทคนิคเลือก

รองเท้า Mary Jane เป็นหนึ่งในสไตล์รองเท้าตามฉบับผู้ดีอังกฤษ ด้วยสายคาดที่เป็นเอกลักษณ์ รูปทรงคล้ายรองเท้านักเรียนผู้หญิง สวมสะดวก ใส่สบาย ลงตัวเป็นคัทชูที่โดดเด่น เต็มไปด้วยเสน่ห์ จนกลายเป็นรองเท้าแฟชั่นที่อยู่เหนือกาลเวลา ไม่ว่าผ่านเวลาไปนานสักแค่ไหน ‘รองเท้า Mary Jane’…

3 days ago

เคล็ดลับ วิธีทากันแดดที่ถูกต้องเพื่อการปกป้องผิวที่แท้จริงและสูงสุด

ครีมกันแดดคือเครื่องมือปกป้องผิวของคุณจากอันตรายจากรังสียูวีได้ดีที่สุด อย่างไรก็ตาม คุณคิดว่าที่ทาอยู่คือทาถูกหรือยัง? ที่ทาครีมกันแดดอยู่เพียงพอหรือไม่? รู้หรือไม่ว่าผลการวิจัยบอกว่าคนส่วนใหญ่ทาครีมกันแดดไม่พอ? การทาครีมกันแดดอย่างถูกต้องเป็นกุญแจสำคัญสู่ประสิทธิภาพการปกป้องผิวที่แท้จริงจากแสงแดด ในบทความนี้ เราจะแชร์เคล็ดลับวิธีทากันแดดที่ถูกต้องแบบครอบคลุมทุกสิ่งที่คุณจำเป็นต้องรู้ เช่น เวลาที่ควรทากันแดด ปริมาณครีมกันแดด ทาครีมกันแดดก่อนหรือหลังครีมบํารุง หรือ ควรทากันแดดทุกกี่ชั่วโมง เพื่อให้ได้การทาครีมกันแดดที่ถูกต้องและเหมาะสม…

4 days ago

รวมลิสต์เบอร์ฉุกเฉิน ควรเซฟติดมือถือให้อุ่นใจทุกสถานการณ์

ใครที่มีแผนกำลังเดินทางไปต่างจังหวัด หรือใช้ชีวิตประจำวันบนท้องถนน อยากจะแนะนำให้เซฟเบอร์โทรฉุกเฉินต่างๆ ไว้ติดมือถือเพราะสถานการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้นเมื่อใดก็ได้ การเตรียมตัวรับมือไว้ก่อนจะช่วยคลี่คลายสถานการณ์ต่าง ๆ จากหนักกลายเป็นเบาได้ หากได้รับการช่วยเหลือที่รวดเร็วทำให้มีความปลอดภัยทั้งต่อชีวิตและทรัพย์สินมากขึ้นซึ่งวันนี้ช้อปปี้ได้รวบรวมลิสต์เบอร์มือถือสำคัญ ๆ ไว้ให้ชาวแอพส้มของเราได้เซฟเก็บไว้อุ่นใจทุกการเดินทางซึ่งจะมีเบอร์ฉุกเฉินไหนบ้าง ไปเริ่มกันเลย!  Cr: freepik ทำไมถึงควรมีเบอร์ฉุกเฉินติดมือถือ  เบอร์ฉุกเฉิน…

4 days ago

ทําความสะอาดเบาะรถยนต์ด้วยตัวเอง ทำอย่างไร ทำตามได้เลยไม่ยาก

การดูแลเบาะรถยนต์ถือเป็นสิ่งสำคัญในการรักษารูปลักษณ์และยืดอายุการใช้งานของรถ เบาะรถยนต์มีหลายประเภท แต่ละประเภทต้องมีวิธีการดูแลรักษาที่แตกต่างกัน คำแนะนำในการทําความสะอาดเบาะรถยนต์และดูแลรถของคุณให้สะอาดและน่านั่งตามวัสดุ และ ตามคราบที่เกิดขึ้น มีดังนี้ เปิดวิธีทําความสะอาดเบาะรถยนต์ เบาะแบบต่างๆ Cr. Unsplash ### 1. วิธีทําความสะอาดเบาะผ้า รถยนต์…

6 days ago

เปิดแหล่งและวิธีทำ QR Code ร้านค้า ฟรี ทำที่ไหนอย่างไร

ทุกวันนี้ทุกคนคงเคยเห็น QR Code มาแล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่ง QR Code ร้านค้าที่เราเห็นและแสกนจ่ายกันอยู่ทุกวัน แต่ความจริงแล้ว QR Code มาจากไหน มีประวัติอย่างไร ทำงานยังไง และถ้าเราเป็นร้านค้า…

6 days ago

รวมฤกษ์บวช 2567 สำหรับเตรียมตัวบวชเพื่อพ่อแม่ และตนเอง

Credit : Freepik การบวชนั้น ถือเป็นธรรมเนียมและข้อปฏิบัติอย่างหนึ่งของพุทธศาสนิกชนในประเทศไทย ที่มีความเชื่อกันว่า ครั้งหนึ่งลูกผู้ชายควรที่จะบวชเพื่อทดแทนบุญคุณของบุพการีที่เลี้ยงดูเรามาตั้งแต่เด็ก จึงกลายมาเป็นธรรมเนียมที่ผู้ชายนั้นจะบวชในช่วงอายุ 20-25 ปีเพื่อทดแทนบุญคุณให้กับพ่อแม่หรือผู้ปกครองนั่นเอง โดยการบวชนั้น ก็มีการยกเอาเรื่องของฤกษ์ยามมาเป็นสิ่งสำคัญด้วยเช่นกัน ดังนั้น ในบทความนี้ Shopee…

6 days ago