เคยไหม เพื่อน ๆ เมื่อเจอใครสักคนแล้วอยากเข้าไปพูดคุย แต่กลับไม่รู้จะเริ่มยังไงดี? หรือเริ่มแล้วเงียบ ชวนคุยแล้วเหมือนถูกแขวนกลางอากาศ แบบอยากส่ง “ของฝาก” เป็นความประทับใจเล็ก ๆ หรือ แม้แต่ขนม ชิ้นหนึ่งให้คนที่เราอยากจะคุยด้วยแต่ยังไม่รู้ประโยคเปิด ก็ไม่ช่วยให้เริ่มคุยได้ง่ายขึ้นเลย บทความนี้จะพาเพื่อน ๆ ไปเรียนรู้วิธี ชวนคุยยังไงดี, เทคนิค ชวนคุยยังไงให้มีเสน่ห์, รวมทั้งวิธีชวนคุยให้สนุกในแชท เพื่อที่เพื่อน ๆ จะได้พูดคุยได้มั่นใจขึ้น และดูมีเสน่ห์ในแบบของตัวเอง
หัวข้อต่างๆ ของบทความนี้
หลาย ๆ ครั้งที่เพื่อน ๆ พยายาม ชวนคุยยังไงดี แล้วกลับไม่เป็นไปตามที่หวัง เหตุผลมีหลายประการ เช่น เราไม่รู้ว่าจะเปิดบทสนทนายังไง, ใช้ประโยคที่คนตอบได้แค่ “ใช่” หรือ “ไม่ใช่” แล้วบทสนทนาติดขัด หรือเราไม่สนใจอีกฝ่ายจริง ๆ จนอีกคนรู้สึกว่าเราไม่อยากฟัง ซึ่งทำให้บทสนทนาเดินต่อไม่ได้ การเริ่มบทสนทนาเล็ก ๆ (“small talk”) ไม่ได้แค่เพื่อผ่านเวลา แต่เป็นการวางพื้นฐานให้บทสนทนาไปต่อได้อย่างเป็นธรรมชาติ
นอกจากนี้ หากเพื่อน ๆ ไม่ใส่ใจหา “จุดร่วม” กับอีกฝ่าย หรือไม่ตั้งใจฟัง สิ่งนี้ก็จะทำให้เกิดความรู้สึกว่าเราแค่พูดผ่านๆ ทำให้การสนทนาขาดพลังและเสน่ห์ไปเลย บทความนี้เราจะมารวบรวมหัวข้อในการชวนคุยที่น่าสนใจ เพื่อใช้เป็นแนวทางเพื่อให้เพื่อน ๆ ไปใช้ต่อยอดได้นั่นเอง มีอะไรบ้างมาดูกัน!
การเริ่มพูดคุยอย่างเป็นธรรมชาติคือกุญแจสำคัญของการ ชวนคุยและ ชวนคุยยังไงให้มีเสน่ห์ พอได้เริ่มด้วยท่าทางที่สบาย ใจเปิด และโฟกัสอีกฝ่าย เราจะได้บทสนทนาที่ไม่ดูฝืน ซึ่งทำให้ทั้งสองฝ่ายรู้สึกว่า “อ๋อ เราสามารถคุยกันได้”
โดยการเริ่มด้วยคำถามปลายเปิด (open-ended) เป็นวิธีที่ช่วยให้บทสนทนามีชีวิต และหลีกเลี่ยงการตอบแค่ “ใช่/ไม่ใช่”
ตัวอย่างเช่น: เดินไปหาคนที่ยืนอยู่ในงานเดียวกัน ก็บอกว่า “วันนี้มีอะไรน่าสนใจไหม?” หรือถ้าอยู่ในแชท ก็อาจเริ่มว่า “เห็นโปรโมชันนี้ใน Shopee แล้วนึกถึงว่าน่าจะตรงสไตล์คุณ” แบบนี้ก็ช่วยเปิดบทสนทนาแบบเป็นธรรมชาติได้เช่นกัน
ต่อไปคือ ตัวอย่างประโยคเปิดการสนทนา ที่เพื่อน ๆ สามารถใช้ได้เลย เมื่อคิดไม่ออกว่าเริ่มยังไงดี
แต่ละประโยคควรใช้ด้วยโทนเสียงจริงใจ เป็นกลาง ไม่เร่ง รีบ ฟังอีกฝ่าย แล้วเดินตามกระแสของบทสนทนาต่อไป
เพื่อให้บทสนทนาในแชทหรือชีวิตจริงไม่ตายตัวและดูมีชีวิตมากขึ้น การใช้คำถามปลายเปิดเป็นวิธีที่ดีมาก เพราะจะช่วยให้บทสนทนามีพื้นที่ให้คู่สนทนาตอบได้มากกว่าใช่/ไม่ใช่ และช่วยให้เราเห็นความคิดของอีกฝ่าย ตัวอย่างคำถามปลายเปิด เพื่อใช้ในการชวนคุย
คำถามนี้เบา ๆ แต่ได้ผลดีมาก เพราะคนส่วนใหญ่ชอบพูดถึงสิ่งที่ตัวเองกำลังอินอยู่ เช่น ซีรีส์หรือหนังเรื่องโปรด เมื่ออีกฝ่ายตอบ คุณสามารถต่อยอดได้ง่าย เช่น “เรื่องนั้นสนุกไหม มีตอนจบแบบไหน?” หรือ “ชอบเพราะอะไรเหรอ?” บทสนทนาจะไหลลื่นโดยไม่ต้องฝืน และยังช่วยให้เห็นรสนิยมของเขาอีกด้วย
ของขวัญให้เจ้านาย คำถามนี้มีความสุภาพและดูฉลาดในการชวนคุย เพราะเป็นการขอคำแนะนำที่ดูจริงใจและให้เกียรติอีกฝ่าย ทำให้ผู้ฟังรู้สึกว่าคุณให้ความสำคัญกับความคิดเห็นของเขา บทสนทนาแบบนี้ยังต่อยอดได้ง่าย
เช่น ถ้าอีกฝ่ายตอบว่า “ลองซื้อแก้วเก๋ ๆ สิ” คุณสามารถต่อด้วย “ดีเลย เราก็คิดอยู่พอดีว่าของใช้ในออฟฟิศน่าจะเหมาะ” เป็นคำถามที่ทั้งสร้างการแลกเปลี่ยนและเปิดช่องให้เกิดความใกล้ชิดในเชิงบวก
คำถามแนวนี้เปิดพื้นที่ให้คนตอบเล่าความฝันหรือความชอบส่วนตัว เช่น ประเทศที่อยากไป อาหารที่อยากลอง หรือประสบการณ์ที่อยากมี คุณสามารถต่อยอดด้วยการแชร์เรื่องราวท่องเที่ยวของตัวเอง เช่น “ตอนฉันไปญี่ปุ่นรู้สึกแบบนั้นเลย” การคุยจะกลายเป็นการแลกเปลี่ยนเรื่องราวที่อบอุ่นและน่าสนใจ
คำถามนี้ช่วยให้เราเห็นความเป็นตัวตนของอีกฝ่ายได้ชัดขึ้น เพราะทุกคนมักมีสิ่งที่ชอบหรือกำลังหลงใหล เช่น ฟิกเกอร์ หนังสือ หรือเกม การพูดถึงสิ่งที่รักทำให้บทสนทนาเป็นไปอย่างเป็นธรรมชาติ และเรายังสามารถเชื่อมโยงต่อได้ เช่น “จริงเหรอ เราก็เคยสะสมนะ!” เพื่อสร้างความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดขึ้น
คำถามนี้ ช่วยให้บทสนทนาเต็มไปด้วยพลังบวก เพราะเปิดโอกาสให้คนตอบพูดถึงสิ่งใหม่ ๆ ที่อยากทำ เช่น เรียนดนตรี เริ่มออกกำลังกาย หรือเดินทางคนเดียว คุณสามารถใช้จังหวะนี้แชร์แรงบันดาลใจของตัวเอง หรือชวนคุยต่อว่า “ทำไมถึงอยากลองสิ่งนี้เหรอ?” ทำให้บทสนทนาดูมีเป้าหมายและจริงใจ
สินค้าแปลก คำถามนี้ ช่วยสร้างบรรยากาศสนุกและเป็นกันเอง เพราะแทบทุกคนเคยเจอสินค้าประหลาดในโลกออนไลน์อยู่แล้ว เช่น หมอนรูปอาหาร หรือเครื่องมือใช้แปลก ๆ ที่ไม่คิดว่าจะมีขาย การชวนคุยด้วยประสบการณ์แบบนี้ทำให้หัวข้อดูเบา ไม่ซีเรียส และเปิดโอกาสให้อีกฝ่ายเล่าเรื่องขำ ๆ ได้อย่างอิสระ แถมคุณยังต่อยอดได้ด้วยการแชร์สิ่งที่คุณเคยเห็นหรืออยากลองซื้อบ้าง
อ่านเพิ่มเติม : ของแบบนี้ก็มีขาย! สินค้าแปลก ๆ สุดเจ๋ง หายากซื้อ แต่ซื้อได้ที่ Shopee
คำถามเกี่ยวกับ หนังสือคำถามนี้เป็นอีกวิธีชวนคุยที่ดูฉลาดและมีเสน่ห์ เพราะเปิดโอกาสให้อีกฝ่ายได้พูดถึงสิ่งที่เขาสนใจหรือกำลังเรียนรู้อยู่ตอนนี้ ไม่ว่าจะเป็นนิยาย หนังสือพัฒนาตัวเอง หรือหนังสือแนวแรงบันดาลใจ นอกจากนี้ยังช่วยสะท้อนบุคลิกและมุมมองของคนคนนั้นได้ดีมาก การต่อบทสนทนาอาจเริ่มจาก “อ๋อ เราเคยเห็นเล่มนั้นเหมือนกัน สนุกไหม?” หรือ “หนังสือแนวนั้นเราชอบเลย แนะนำหน่อยสิ” ทำให้การคุยเป็นธรรมชาติและลึกซึ้งโดยไม่ต้องพยายามมาก
ตอนนี้มาถึงยุคแชทแล้ว การรู้ว่าวิธีชวนคุยให้สนุกในแชท เป็นทักษะที่จำเป็นมาก เพราะเราไม่เจอหน้ากันตรง ๆ เสมอไป ทั้งที่โรงเรียนหรือที่ทำงานก็ตาม นี่คือ 10 วิธีชวนคุยในแชท ที่เพื่อน ๆ สามารถใช้ได้
ประโยคนี้เป็นการเปิดบทสนทนาแบบง่ายแต่ได้ผล เพราะเริ่มจาก “ของจริง” ที่คุณเจอในชีวิตประจำวัน ช่วยให้การคุยดูเป็นธรรมชาติและมีจุดร่วมให้พูดถึง คลิปตลกหรือคลิปไวรัลมักช่วยสร้างรอยยิ้มได้ทันที อีกฝ่ายก็มีแนวโน้มจะตอบกลับ เช่น “ฮาจริง!” หรือ “ดูแล้วขำจนร้องไห้” เป็นการเริ่มต้นคุยที่เบา สนุก และไม่เกร็ง
คำถามแบบนี้ดูเป็นกันเองและช่วยเปิดพื้นที่ให้คุยเรื่องใกล้ตัวได้ง่าย เพราะอาหารเป็นหัวข้อที่ทุกคนพูดถึงได้ การให้เขาเลือกช่วยตัดสินใจระหว่างสองอย่าง ทำให้รู้สึกมีส่วนร่วมในบทสนทนา อีกทั้งยังสามารถต่อยอดได้ เช่น “จริงด้วย ร้านนั้นอร่อยมาก” หรือ “งั้นไว้ลองด้วยกันดีไหม?” จากคำถามธรรมดาอาจกลายเป็นการนัดกินข้าวเบา ๆ ได้เลย
เป็นวิธีเชื่อมบทสนทนาด้วย “เสียงเพลง” ที่ได้ผลดีมาก เพราะเพลงสะท้อนอารมณ์และตัวตนของคนฟังได้ดี การพูดถึงเพลงที่ชอบช่วยให้บทสนทนาดูอบอุ่นและเข้าถึงกันง่าย คุณสามารถต่อได้ด้วยการส่งลิงก์เพลง หรือถามกลับว่า “คุณชอบแนวนี้ไหม?” ซึ่งมักต่อยอดไปสู่การแลกเพลง แนะนำศิลปิน และเปิดโอกาสให้คุยกันยาวขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ
ประโยคนี้ให้ความรู้สึกชวนแบบจริงใจ ไม่กดดัน เพราะเปิดทางให้เขาเลือกด้วย เป็นการชวนที่แฝงความใส่ใจและให้เกียรติอีกฝ่าย การพูดถึงร้านอาหารเฉพาะชื่อ (AAA) ยังแสดงให้เห็นว่าคุณตั้งใจชวนจริง ๆ ไม่ใช่พูดลอย ๆ ทำให้โอกาสได้รับคำตอบเชิงบวกสูงขึ้น และยังสร้างภาพลักษณ์ของคนที่กล้าเปิดบทสนทนาอย่างอบอุ่น
การแนบสิ่งของที่เป็นภาพหรือเนื้อหามีภาพประกอบ ช่วยให้บทสนทนาดูมีชีวิตมากขึ้น เพราะสิ่งที่มองเห็นมักกระตุ้นการตอบสนองได้ดีกว่าข้อความล้วน การส่งลิงก์ บทความ หรือรูปที่น่าสนใจ เช่น คาเฟ่น่ารัก คลิปฮา หรือของที่อยากซื้อ ช่วยให้คุยต่อได้หลายทิศทาง ทั้งแชร์ความคิดเห็น หรือโยงไปสู่หัวข้ออื่นได้อย่างลื่นไหล
การใช้คำถามปลายเปิดไม่เพียงช่วยให้บทสนทนาไหลลื่น แต่ยังทำให้เราได้รู้จักอีกฝ่ายในมุมใหม่ ๆ มากขึ้น เพราะเมื่อเขาเริ่มเล่า เราจะเห็นทั้งความคิด น้ำเสียง และความรู้สึกที่ซ่อนอยู่ในคำตอบ การชวนคุยด้วยวิธีนี้จึงเป็นเหมือนการเปิดประตูสู่ความเข้าใจที่ลึกกว่าเดิม และเมื่อเราชวนคุยได้ดีแล้ว ขั้นตอนสำคัญต่อไปคือ “การสังเกตสไตล์การตอบของอีกฝ่าย” เพื่อรู้ว่าควรคุยต่อแบบไหนให้เข้ากับเขาที่สุด
แม้ว่าเราอาจจะรู้วิธีเริ่มชวนคุยยังไงดี และวิธีชวนคุยให้สนุกในแชทแล้ว แต่สิ่งที่สำคัญไม่แพ้กันคือ การ สังเกตสไตล์การตอบของอีกฝ่าย เพื่อให้เราชวนคุยให้มีเสน่ห์ และทำให้บทสนทนาเดินได้ดี
ให้เพื่อน ๆ สังเกตว่า:
จากนั้น ปรับตัวเองให้เหมาะ ถ้าเค้าตอบเร็วและใส่อีโมจิ เราก็ใส่ 😊 หรือ 😉 บ้าง ถ้าตอบช้าและค่อนข้างเป็นทางการ เราก็ลดอีโมจิ ลงหน่อยและใช้โทนที่สุภาพ การสังเกตช่วยให้เราไม่รู้สึกว่า “ชวนคุยแล้วอีกฝ่ายหนี” และทำให้เราชวนคุยมีเสน่ห์ได้มากขึ้น
ถ้าเพื่อน ๆ อยากก้าวไปอีกขั้นจากแค่ “รู้วิธีชวนคุยยังไงดี” ไปสู่ “ชวนคุยยังไงให้ดูมีเสน่ห์และน่าดึงดูด” ต้องอาศัยทั้งน้ำเสียง การสังเกต และความเป็นธรรมชาติ เทคนิคเหล่านี้จะช่วยให้บทสนทนาของคุณไม่ดูแข็งหรือซ้ำซาก แต่เต็มไปด้วยความอบอุ่นจริงใจ และทำให้อีกฝ่ายรู้สึกสบายใจทุกครั้งที่ได้คุยด้วย
พูดด้วยน้ำเสียงหรือโทนข้อความที่ดูเป็นมิตร ไม่แข็งหรือกึ่งเป็นทางการจนเกินไป โทนเสียงหรือโทนข้อความคือสิ่งแรกที่อีกฝ่าย “รู้สึก” ได้ แม้ไม่ได้ยินเสียงจริง การใช้ถ้อยคำเรียบง่าย อ่อนโยน เช่น “ฮ่า ๆ เข้าใจเลย” หรือ “น่ารักดีนะ” จะช่วยให้บรรยากาศการคุยดูเป็นกันเองมากขึ้น พยายามหลีกเลี่ยงคำพูดทางการเกินไป เพราะจะทำให้ดูห่างเหินและไม่เป็นธรรมชาติ
อีโมจิช่วยสื่ออารมณ์ได้ดี โดยเฉพาะเวลาพิมพ์ข้อความที่อาจดูเรียบไป เช่น การเติม 😊 ❤️ หรือ 😆 เล็กน้อยทำให้บทสนทนาดูนุ่มนวลและมีชีวิตชีวามากขึ้น แต่ไม่ควรใช้มากเกินไป เพราะอาจทำให้ดูไม่จริงใจหรือขาดจังหวะในการคุย ใช้เท่าที่จำเป็นเพื่อเพิ่มน้ำเสียงอบอุ่นให้กับข้อความก็พอ
การชมอีกฝ่ายแบบจริงใจ ให้รู้สึกว่าเราเห็น “คุณค่า” ของเขา คำชมที่ออกมาจากใจจะทำให้อีกฝ่ายรู้สึกดีและอยากคุยต่อ เช่น “ไอเดียที่คุณแชร์มาน่าสนใจมาก” หรือ “ชอบมุมมองคุณจัง ดูคิดลึกดีนะ” หลีกเลี่ยงคำชมที่ดูเหมือนพูดทั่วไป เพราะจะไม่เกิดผลเท่าคำชมที่เฉพาะเจาะจงและสะท้อนว่าคุณ “ตั้งใจฟัง” เขาจริง ๆ
การเปิดเผยความสนใจหรือเรื่องที่เราชอบ แต่ไม่มากจนเกินไป พูดถึงสิ่งที่เราชอบ เช่น หนัง เพลง หรือกิจกรรมที่กำลังอิน ช่วยให้บทสนทนาดูมีชีวิตและเป็นธรรมชาติ แต่ควรเล่าในระดับพอดี ไม่พูดยาวจนกลายเป็นการ “บรรยาย” เพราะเป้าหมายคือการแลกเปลี่ยน ไม่ใช่การพูดฝ่ายเดียว การเปิดเผยตัวตนเล็ก ๆ แบบนี้ยังทำให้อีกฝ่ายรู้สึกว่าเราจริงใจและน่าค้นหา
น้ำเสียงและอีโมจิเป็นองค์ประกอบเล็ก ๆ ที่มีพลังมากในการทำให้บทสนทนาดู “มีเสน่ห์” ขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ แม้จะไม่ได้เจอกันต่อหน้า แต่แค่เลือกโทนคำพูดและใช้อีโมจิให้เหมาะ ก็สามารถสื่ออารมณ์ ความอบอุ่น และความตั้งใจได้อย่างชัดเจน เพราะบางครั้ง “วิธีที่เราพูด” สำคัญไม่แพ้ “สิ่งที่เราพูด” เลยทีเดียว
ถ้าเพื่อน ๆ ใช้ข้อความแบบนี้ โอกาสที่ได้ตอบกลับสูง:
ข้อความต่าง ๆ เหล่านี้สามารถเชื่อมโยงกับผู้รับ สร้างความสนใจ และเปิดช่องให้คู่สนทนาโต้ตอบ ซึ่งทำให้เรา ชวนคุยให้มีเสน่ห์ ได้มากยิ่้งขึ้น
บางครั้งการชวนคุยไม่ได้อยู่ที่คำถามสวยหรู แต่อยู่ที่วิธีเข้าหา อย่างเป็นธรรมชาติ การชวนคุยแบบเนียนคือศิลปะเล็ก ๆ ที่ช่วยให้บทสนทนาดูต่อเนื่อง ไม่ขัดจังหวะ และทำให้อีกฝ่ายรู้สึกสบายใจเหมือนได้คุยกับคนที่เข้าใจ เทคนิคเหล่านี้จะช่วยให้คุณคุยได้ไหลลื่นขึ้น โดยไม่รู้สึกฝืนหรือดูจงใจจนเกินไป
การตอบสั้นเกินไป เช่น “อ๋อ” หรือ “อืม” อาจทำให้อีกฝ่ายรู้สึกว่าคุณไม่อยากคุย ในขณะเดียวกันการตอบยาวจนกลายเป็น “เล่าเดี่ยว” ก็อาจทำให้บทสนทนาดูหนักเกินไป พยายามตอบในระดับพอดี มีทั้งส่วนรับฟังและส่วนต่อบท เช่น “จริงเหรอ แล้วเป็นยังไงต่อ?” จะช่วยให้คุยกันได้ยาวแบบเป็นธรรมชาติ
อารมณ์ขันเป็นเครื่องปรุงสำคัญที่ทำให้การคุยไม่จืดชืด การแซวเบา ๆ หรือเล่นมุกเล็ก ๆ ที่ไม่เกินขอบเขตจะช่วยให้บรรยากาศผ่อนคลายและน่าคุยมากขึ้น แต่ต้องระวังไม่ให้มุกนั้นกลายเป็นการล้อเลียนหรือทำให้อีกฝ่ายรู้สึกแปลกใจเกินไป แค่ความตลกพอดี ๆ ก็ทำให้คุณดูมีเสน่ห์ขึ้นได้แบบไม่ต้องพยายาม
การคุยให้ดูน่าดึงดูด ไม่ได้หมายความว่าต้องแต่งประโยคให้หรู แต่คือการเป็นตัวเองในเวอร์ชันที่ “ดูมีชีวิตชีวา” ลองใส่สไตล์ของคุณเองลงไปในบทสนทนา เช่น น้ำเสียงที่มั่นใจ คำพูดที่เป็นเอกลักษณ์ หรือวิธีตอบที่มีความคิด การคุยกับคนที่ “ดูน่าสนใจ” มักทำให้อีกฝ่ายอยากคุยต่อโดยไม่รู้ตัว
เพื่อน ๆ คงเห็นแล้วว่า การชวนคุยยังไงดีไม่ใช่เรื่องยากเกินไป ถ้าเราเลือกเริ่มแบบธรรมชาติ, ใช้คำถามปลายเปิด, ปรับสไตล์ให้เหมาะกับอีกฝ่าย และพยายามเติมเสน่ห์ด้วยน้ำเสียง และ อีโมจิที่เหมาะสม การรู้ว่าวิธีชวนคุยให้สนุกในแชทให้ได้ผล เป็นอีกหนึ่งตัวช่วยให้บทสนทนาเดินต่อได้อย่างราบรื่น แล้วเมื่อเราสามารถสังเกตอีกฝ่าย ปรับตัวเอง และมีความตั้งใจจริง บทสนทนาที่ดูเฉยๆ ก็กลายเป็นการพูดคุยที่มีเสน่ห์ได้ หวังว่าเพื่อน ๆ จะได้ประโยชน์แล้วนำไปใช้พูดคุยกับคนที่อยากคุยได้อย่างมั่นใจและมีเสน่ห์ขึ้นนะครับ! หากบทความนี้เป็นประโยคฝากส่งต่อให้เพื่อน ๆ กันด้วยน้า
รวมรีวิวเครื่องดักยุงไฟฟ้า ยี่ห้อไหนดี ทั้งแบบดูดยุงและช็อตยุง เลือกได้ตามขนาดห้องและการใช้งานจริง ปลอดภัย ใช้งานง่าย เหมาะกับทุกบ้าน
รวมลิสต์ของฝากสิงคโปร์ ยอดนิยม ทั้งของกิน ของใช้ และของที่ระลึกน่ารัก ราคาย่อมเยา เหมาะซื้อฝากเพื่อน ครอบครัว หรือที่ทำงาน
รวมคำพูดและแคปชั่นทวงเงินแบบผู้ดี ทวงหนี้อย่างมีมารยาท ไม่ต้องดราม่าแต่สื่อได้ตรงจุด เหมาะสำหรับโพสต์ Facebook, LINE หรือ IG
อยากให้ปาร์ตี้ปีใหม่สนุกไม่จำเจ? ลองมาดูไอเดีย 25 ธีมแต่งตัวงานปีใหม่ พร้อมบอกเคล็ดลับวิธีการเลือกธีมแต่งตัวปาร์ตี้
แจกไอเดียของขวัญปีใหม่แจกลูกค้า ทั้งของใช้ ของเพื่อสุขภาพ และของขวัญสร้างภาพลักษณ์ พร้อมเคล็ดลับเลือกของขวัญที่ตรงใจลูกค้า เสริมความสัมพันธ์ทางธุรกิจ
เจาะลึกว่าเมคเฟรนคืออะไร ทำไมเป็นคำฮิต พร้อมเคล็ดลับเมคเฟรน ต้องตอบยังไงให้สนุก เพื่อให้เข้ากับทุกวงสนทนา