Categories: Health & Beauty

เปิดตำรา 8 วิธีแก้ปวดฟันแบบโบราณ ช่วยอาการปวด ทำเองได้ง่าย ๆ

ปวดฟัน! เป็นอาการปวดที่ทรมานใจและกวนใจสุด ๆ ใครไม่เคยปวดฟันไม่มีทางรู้อย่างแน่นอนว่ามันทรมานขนาดไหน! แม้ว่าจะปวดฟันแค่นิดเดียว ไม่ว่าจะปวดตุบ ๆ ปวดจี๊ด ๆ ปวดฟันตลอดเวลา หรืออาการปวดไม่ได้รุนแรงมากนัก แต่ก็เป็นสิ่งที่กวนใจจนไม่อยากทำอะไรเลยตลอดทั้งวัน ครั้นจะกินแต่ยาแก้ปวดทุกครั้งเมื่อปวดฟันคงไม่ดีต่อสุขภาพ ซึ่งในสมัยก่อนที่ยังไม่มีคลินิกทันตกรรม หรือโรงพยาบาลที่เข้าถึงได้ง่าย คนสมัยก่อนได้คิดค้น วิธีแก้ปวดฟันแบบโบราณ โดยใช้สมุนไพรและของใกล้ตัวมาช่วยบรรเทาอาการปวดฟัน แม้จะไม่หายปวดฟัน แต่อย่างน้อยก็ช่วยให้ปวดน้อยลงก่อนไปพบทันตแพทย์ และหลายวิธีก็ยังคงใช้ได้ผลดีจนถึงปัจจุบัน

บทความนี้ Shopee พามาเจาะลึกสาเหตุที่ทำให้ปวดฟันมีอะไรบ้าง เกิดจากอะไร รวมถึงอาการปวดฟันชนิดต่าง ๆ เช่น ปวดฟันคุด ปวดฟันผุ และรูปแบบอื่น ๆ พร้อมแนะนำ 8 วิธีแก้ปวดฟันแบบโบราณ สามารถแก้อาการปวดฟันได้ด้วยวิธีธรรมชาติ โดยที่ต้องใช้สารเคมีรุนแรง ตามไปดูกันเลย!

หัวข้อต่างๆ ของบทความนี้

ทำความเข้าใจเกี่ยวกับอาการปวดฟัน

เคยสงสัยไหมว่าทำไมเราถึงมีอาการปวดฟัน? การทำความเข้าใจเกี่ยวกับสาเหตุในการปวดฟันจึงเป็นสิ่งสำคัญของวิธีการรักษาที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งอาการปวดฟันมาจากหลายปัจจัย เช่น ฟันผุ ฟันแตก ฟันคุด เหงือกอักเสบ ปวดจากรากฟันอักเสบ เสียวฟัน หรืออื่น ๆ โดยสาเหตุของการปวดฟันเวลาที่ปวดจะมีอาการแตกต่างกัน เช่น

ปวดฟันผุ

  • ปวดฟันผุ อาการที่พบบ่อยมากที่สุด ซึ่งอาการปวดจะมีความแตกต่างกันไปตามความลึกของการผุ
    • ฟันผุระยะเริ่มต้น ส่วนใหญ่จะไม่มีอาการ หรืออาจจะมีเสียวฟันบ้างเล็กน้อย เมื่อกินอาการที่มีรสจัด เย็นจัด หรือร้อนจัด
    • ฟันผุลึกถึงเนื้อฟัน เริ่มมีอาการเสียวฟันมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยเฉพาะเมื่อเจอสิ่งกระตุ้นยิ่งทำให้เสียวฟันมากขึ้น และอาจมีอาการปวดฟันเมื่อมีเศษอาหารเข้าไปติดในรูที่ฟันผุ
    • ฟันผุลึกถึงโพรงประสาทฟัน ถือเป็นอาการฟันผุที่รุนแรงมากที่สุด โดยจะมีอาการปวดมากถึงมากที่สุด ปวดแบบตุบ ๆ และปวดอยู่ตลอดเวลา แม้ว่าจะไม่มีสิ่งกระตุ้นเลย บางครั้งอาจจะปวดจนทำให้นอนไม่หลับ หรืออาจมีอาการเหงือกบวม หรือมีหนองร่วมด้วยก็ได้

ปวดฟันมาจากการบาดเจ็บ ฟันแตก ฟันร้าว

  • ปวดฟันมาจากการบาดเจ็บ หรือ ฟันแตก หรือ ฟันร้าว ซึ่งจะมีอาการปวดต่อเมื่อมีการกัดหรือเคี้ยวอาหาร พร้อมกับมีอาการเสียวฟันร่วมด้วยเมื่อโดนความเย็นหรือความร้อน ทั้งนี้ อาการปวดจะมากหรือน้อย ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของรอยแตกของฟัน หากแตกหรือร้าวไปถึงโพรงประสาทฟัน ก็จะยิ่งทำให้ปวดฟันรุนแรงมากขึ้น
  • ปวดจากรากฟันอักเสบ หรือ ปลายรากฟันเป็นหนอง ซึ่งหากฟันผุลึกโดยไม่ได้รับการรักษา อาจจะทำให้ติดเชื้อแบคทีเรีย สามารถเข้าไปที่ปลายรากฟัน จนทำให้มีหนองขึ้นมาได้ จนทำให้เกิดอาการอักเสบที่รุนแรงขึ้นตามลำดับได้
    • อาการปวดรุนแรง ปวดอยู่ตลอดเวลา ซึ่งจะมีอาการปวดแบบตุบ ๆ หรือปวดแปลบ ๆ มักจะปวดมากขึ้นเวลานอนลง หรือเมื่อเคี้ยวอาหาร
    • อาการเสียวฟันมากขึ้น โดยเฉพาะเมื่อโดนความร้อนหรือความเย็นจัด ๆ
    • ฟันเปลี่ยนสี โดยฟันที่ปวดจะเริ่มมีอาการอักเสบ แล้วทำให้สีฟันเปลี่ยนเป็นสีคล้ำได้
    • เหงือกบวมแดง และมีตุ่มหนอง จะเกิดตรงบริเวณปลายรากฟัน อาจจะมีอาการบวม หรือมีตุ่มหนองเกิดขึ้น
    • กรณีที่ติดเชื้อรุนแรงและลุกลามออกไปนอกปลายรากฟัน อาจทำให้มีไข้ และใบหน้าบวมได้

ปวดฟันคุด

  • อาการปวดฟันคุด ซึ่งฟันคุด คือ ฟันกรามซี่สุดท้ายที่ขึ้นอยู่ซี่ในสุด โดยจะขึ้นในช่วงอายุ 17-25 ปี และมักจะขึ้นไม่เต็มที่หรือขึ้นผิดแนวไปเบียดฟันซี่ข้างเคียง จึงทำให้เกิดอาการปวด ซึ่งอาการปวดฟันคุดก็มีหลากหลายรูปแบบ
    • ปวดตุบ ๆ หรือปวดแปลบเป็นครั้งคราว จึงไม่แน่ใจว่าปวดฟันซี่ไหนกันแน่! และมักจะปวดมากขึ้น เมื่อตอนที่ฟันพยายามงอกออกขึ้นมา
    • เหงือกบวมแดง โดยบริเวณเหงือกที่คลุมฟันคุดจะอักเสบ บวมแดง และอาจจะรู้สึกเจ็บ เมื่อไปสัมผัสหรือเคี้ยวอาหาร
    • ปวดร้าวไปที่กราม หู หรือลำคอ เนื่องจากฟันคุดอยู่ใกล้บริเวณขากรรไกร จึงทำให้ความเจ็บอาจแพร่กระจายไปยังบริเวณใกล้เคียงได้
    • กรณีที่มีอาการอักเสบรุนแรง ทำให้การเคลื่อนไหวของขากรรไกรจำกัด จึงทำให้อ้าปากได้น้อยลง หรือกลืนลำบากมากขึ้น
    • เริ่มมีกลิ่นปาก เนื่องจากเศษอาหารและแบคทีเรียเข้าไปติดสะสมบริเวณซอกเหงือกที่คลุมฟันคุด ทำให้เกิดการติดเชื้อและมีกลิ่น จนทำให้ต้องใช้สเปรย์ดับกลิ่นปากเพื่อช่วยกลิ่นปาก

เหงือกอักเสบ

  • ปวดฟันจากเหงือกอักเสบและปริทันต์อักเสบ โดยส่วนใหญ่สาเหตุมาจากคราบหินน้ำลายหรือหินปูน จึงทำให้เหงือกอักเสบ บวม และปวดฟันได้ ซึ่งจะมีอาการปวดหนึบ ๆ หรือปวดรำคาญ ร่วมกับเมื่อแปรงฟันแล้วมีเลือดออก ถ้าปวดมาก ๆ จะทำให้ฟันโยกได้ เหงือกร่น อาจจะมีหนองไหลจากเหงือก และมีกลิ่นปากอย่างรุนแรง

Cr: freepik.com

8 วิธีแก้ปวดฟันแบบโบราณ สูตรธรรมชาติ ช่วยลดอาการปวดฟันได้

เมื่อปวดฟัน นอกจากกินยาแก้ปวดแล้ว ยังมีอีกหลากหลายวิธีที่ช่วยลดอาการปวดฟันได้ หนึ่งในนั้นก็คือ วิธีแก้ปวดแบบโบราณ โดยที่ไม่จำเป็นต้องกินยา และยังช่วยสริมสร้างสุขภาพช่องปากได้อีกด้วย มาดูกันสิว่า 8 วิธีแก้ปวดฟันแบบโบราณ มีอะไรบ้าง เพื่อให้คุณสามารถนำกลับไปลองทำตามได้เลยเมื่อมีอาการปวดฟัน มาดูกัน

1. น้ำมันกานพูล

น้ำมันกานพลู ได้ถูกนำมาใช้เป็นยาชาตามธรรมชาติมานานหลายศตวรรษ เนื่องจากมีสารยูเกนอล (Eugenol) อยู่ในสมุนไพรชนิดนี้ การหยดน้ำมันกานพลู 2 – 3 หยดลงบนบริเวณที่มีอาการปวดฟัน จะทำให้เส้นประสาทชา ลดความเจ็บปวด และการอักเสบได้ น้ำมันหอมระเหยนี้จะช่วยบรรเทาอาการปวดฟันได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้กานพูลยังมีในรูปแบบเม็ด สามารถนำกานพลู 1 – 2 เม็ดมาเคี้ยวเบา ๆ บริเวณฟันที่ปวด เพื่อให้น้ำมันจากกานพลูออกมา หรือจะนำกานพลูมาวางไว้บริเวณฟันที่ปวดแล้วกัดเบา ๆ ทิ้งไว้สักครู่ ก็จะช่วยลดอาการปวดฟันได้ ซึ่งวิธีนี้เป็นสูตรธรรมชาติที่นิยมใช้กันมานาน

2. กระเทียม

กระเทียม มีสารชนิดหนึ่งที่ชื่อว่า “อัลลิซิน” (Allicin) ที่มีฤทธิ์เป็นยาปฏิชีวนะ และยาฆ่าเชื้อตามธรรมชาติ สามารถช่วยลดการติดเชื้อ และบรรเทาอาการปวดฟันได้เป็นอย่างดี วิธีทำง่าย ๆ คือ ให้นำกระเทียม 1 กลีบ มาบุบหรือสับให้ละเอียด ผสมกับเกลือเล็กน้อยแล้วให้ทาบริเวณฟันที่ปวด ทิ้งไว้ประมาณ 2 – 3 นาที เพียงแค่นี้จะช่วยลดอาการปวดฟันได้แล้ว

3. หัวหอม

หัวหอม ไม่เพียงแต่เป็นเครื่องเทศที่ช่วยให้อาหารอร่อยแล้ว ยังมีคุณสมบัติช่วยต้านการอักเสบและฆ่าเชื้อแบคทีเรียได้อีกด้วย วิธีทำง่าย ๆ ให้หั่นหัวหอม หรือหอมแดง เป็นชิ้นเล็ก ๆ แล้วนำไปวางบริเวณฟันที่ปวด หรือเคี้ยวเบา ๆ ก็จะสามารถช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรียและลดอาการปวดฟันได้

4. ใบฝรั่ง

น้อยคนที่รู้ว่าใบฝรั่งมีสรรพคุณที่สามารถช่วยบรรเทาอาการปวดฟันได้ เนื่องจากใบฝรั่งจะมีคุณสมบัติต้านการอักเสบและแก้ปวดฟันหายใน 1 นาที วิธีทำง่ายมากๆ เพียงนำใบฝรั่งสด 2 – 3 ใบ มาล้างทำความสะอาด แล้วเคี้ยวเบา ๆ บริเวณฟันที่ปวด หรือจะนำใบฝรั่งไปต้มกับน้ำ เพื่อใช้เป็นน้ำยาบ้วนปาก ซึ่งเป็นการรักษาด้วยวิธีธรรมชาติที่ช่วยอาการปวดฟันได้หายเร็วอย่างน่าทึ่งเลย

5. ขิง

ขิง เป็นสมุนไพรที่มีคุณสมบัติช่วยต้านการอักเสบตามธรรมชาติ ช่วยลดอาการปวดฟันและเหงือกบวมได้ โดยให้หั่นขิงเป็นแว่น ๆ หรือทุบขิงให้พอแตก แล้วนำไปวางตรงบริเวณฟันที่ปวด จะช่วยบรรเทาอาการปวดได้ หรือจะนำขิงไปต้มแล้วจิบ ๆ หรืออมกลั้วปากก็ได้เช่นกัน

6. เมล็ดผักชี

อาจเคยได้ยินถ้าปวดฟันให้ใช้น้ำเกลือบ้วนปาก ซึ่งน้ำเกลือก็สามารถช่วยลดอาการปวดฟันได้จริง! แต่ถ้าบ้วนบ่อยเกินไปอาจจะทำให้เกิดผลเสียได้ เพราะเกลือจะมีโซเดียมสูง ซึ่งไม่เป็นผลดีกับสุขภาพ ฉะนั้น หากมีอาการปวดฟัน ให้ลองนำเมล็ดผักชีไปต้มกับน้ำ แล้วนำมาบ้วนปากบ่อย ๆ ไม่ต้องกลัวว่าจะได้รับโซเดียมมากเกินไป และยังช่วยบรรเทาอาการปวดฟันได้ ซึ่งดีกว่าการใช้น้ำเกลืออีกด้วย

7. ว่านหางจระเข้

ถ้าพูดถึงสมุนไพรที่มีสรรพคุณในการรักษาแบบครอบจักรวาล ต้องยกให้กับ ว่านหางจระเข้ เพราะไม่เพียงแต่ช่วยสมานแผล หรือจะช่วยดับร้อนได้เท่านั้น แต่รู้หรือไม่ว่ายังสามารถช่วยลดอาการปวดฟันได้ด้วย เพราะว่านหางจระเข้มีสรรพคุณที่ช่วยฆ่าเชื้อโรคและสลายพิษของเชื้อโรคได้ จึงช่วยลดอาการปวดฟันเนื่องจากฟันผุได้ เพียงแค่นำว่านหางจระเข้มาล้างยางออกให้หมด แล้วหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ เหน็บไว้ที่บริเวณซอกฟันซี่ที่ปวด หรือจะนำสำลีพันปลายไม้จุ่มน้ำวุ้นของว่านหางจระเข้มาป้ายบริเวณที่ปวด เพียงเท่านั้นก็สามารถช่วยลดอาการปวดฟันได้ชั่วคราวแล้ว

8. ใบชา

ใบชา นอกจากชงดื่มเพื่อสุขภาพแล้ว ยังช่วยลดอาการอักเสบและลดอาการเหงือกบวมได้ด้วย ใครปวดฟันหรือเหงือกบวมก็สามารถใช้ใบชาในการรักษาได้ เพียงแค่นำใบชาแห้งไปแช่ในน้ำร้อนประมาณ 20 นาที แล้วให้รอจนกว่าน้ำชาจะเริ่มอุ่น จากนั้นให้นำมาบ้วนปากบ่อย ๆ จะช่วยลดอาการปวดฟันลงได้ เมื่ออาการดีขึ้นแล้วให้บ้วนน้ำสะอาดตามด้วย เพราะน้ำชาอาจทำให้เกิดคราบหินปูนได้

เมื่อมีอาการปวดฟัน ไม่ว่าจะปวดตุบๆ ปวดจี๊ด ๆ ปวดฟันตลอดเวลา หรือปวดแบบไหนก็ตาม แต่คุณยังไม่สามารถไปพบทันตแพทย์ได้ คุณสามารถบรรเทาอาการปวดฟันเบื้องต้นด้วยตนเอง ซึ่งเรามีวิธีทําให้หายปวดฟันแบบง่าย ๆ ที่สามารถทำเองที่บ้านได้เลย ดังนี้

วิธีแก้ปวดฟันเร่งด่วนแบบง่าย ๆ ที่ทำเองที่บ้านได้

  1. กลั้วปากด้วยน้ำเกลืออุ่น ๆ ช่วยแก้ปวดฟัน เนื่องจากเกลือจะมีสรรพคุณที่ช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรีย ซึ่งเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ปวดฟัน เมื่อมีอาการปวดฟันขึ้นมา สามารถนำเกลือมาผสมน้ำอุ่น แล้วให้อมไว้ประมาณ 30 – 60 วินาที เน้นบริเวณฟันที่ปวด จากนั้นบ้วนทิ้ง ทำซ้ำทุก 2-3 ชั่วโมง หรือบ่อยเท่าที่ต้องการ จะช่วยแก้อาการปวดฟันได้
  2. ประคบเย็น เพราะความเย็นจะช่วยให้หลอดเลือดหดตัว ลดการไหลเวียนของเลือดไปยังบริเวณที่ปวด ทำให้ช่วยลดอาการปวดบวมและอาการอักเสบได้ วิธีทำง่าย ๆ ให้เริ่มประคบจากด้านนอก บริเวณแก้มที่ปวดฟัน ครั้งละ 15 – 20 นาที พัก 10 – 15 นาที แล้วให้ประคบซ้ำ ทำแบบนี้วนไปเรื่อย ๆ จนกว่าอาการปวดจะดีขึ้น ซึ่งการประคบสามารถใช้น้ำแข็งใส่ถุงผ้า หรือใช้เจลประคบเย็นก็ได้เช่นกัน
  3. ใช้น้ำร้อนช่วยประคบ หากฟันผุทะลุโพรงประสาทฟัน เป็นหนองที่ปลายรากฟัน และมีอาการบวมอย่างเห็นได้ชัด การใช้น้ำร้อนในการประคบตรงบริเวณที่บวกจะช่วยลดอาการปวดฟันได้ดีมากๆ ยังช่วยเพิ่มการระบายของหนอง และยังเป็นวิธีบรรเทาอาการปวดฟันคุดได้อีกด้วย
  4. กินยาแก้ปวดฟัน หากมีอาการปวดฟันมาก ๆ จนแทบทนไม่ไหว แนะนำให้หายาแก้ปวด เช่น พาราเซตามอล จะสามารถช่วยลดอาการปวดได้ในระดับหนึ่ง หรือยาแก้ปวดลดการอักเสบ (NSAIDs) เช่น ไอบูโพรเฟน (Ibuprofen) หรือนาพรอกเซน (Naproxen) โดยยากลุ่มนี้มีฤทธิ์ช่วยลดการอักเสบและลดปวดได้ดีกว่า แต่ว่าควรใช้ด้วยความระมัดระวังและปรึกษาเภสัชกร โดยเฉพาะผู้ที่มีโรคประจำตัวหรือมีปัญหาเกี่ยวกับกระเพาะอาหาร

Cr: freepik.com

อาการปวดฟันแบบไหนถึงควรรีบไปพบทันตแพทย์

ถึงแม้ว่า วิธีแก้ปวดฟันแบบโบราณ จะสามารถช่วยบรรเทาอาการปวดฟันได้บ้าง แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือการหาสาเหตุที่แท้จริงว่าปวดฟันมาจากสาเหตุอะไร เพื่อจะได้รักษาได้อย่างถูกต้องและทันท่วงที ฉะนั้น หากใครที่มีอาการเหล่านี้ควรให้รีบไปพบทันตแพทย์ทันที

  • อาการปวดฟันแบบรุนแรง แม้ว่าจะใช้ วิธีแก้ปวดฟันแบบโบราณ แล้วอาการปวดก็ไม่ทุเลาลงเลย
  • มีอาการปวดฟันต่อเนื่องจากเกินกว่า 1 – 2 วัน หรือปวดฟันแบบเป็น ๆ หาย ๆ แต่ไม่หายขาดสักที
  • มีไข้ หนาวสั่น ร่วมกับอาการปวดฟันได้ ซึ่งเป็นสัญญาณของการติดเชื้อรุนแรง จึงควรรีบไปพบทันตแพทย์
  • ปวดฟัน และซี่ที่ปวดเริ่มมีหนอง หรือมีตุ่มหนอง ตรงบริเวณเหงือกใกล้ฟันที่ปวด
  • เมื่อกัดหรือเคี้ยวอาหาร เริ่มมีอาการปวดฟัน
  • เสียวฟันมากจนเกินไปเมื่อโดนความร้อนหรือความเย็น
  • ปวดฟันจนรามไปถึงปวดหู หรือศีรษะ

อ่านเพิ่มเติม : วิธีแก้ปวดฟันกะทันหันเบื้องต้นด้วยตัวเอง ก่อนจะไปพบทันตแพทย์

รวมคำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับวิธีแก้ปวดฟัน

วันนี้เราได้รวบรวม คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับวิธีแก้ปวดฟัน เพื่อให้ทุกคนได้ไขข้อสงสัย พร้อมคำตอบที่เข้าใจง่าย ๆ เพื่อให้คุณสามารถรับมือกับอาการปวดฟันได้อย่างมั่นใจก่อนถึงมือทันตแพทย์

หากปวดฟันสามารถใช้น้ำมันกานพลูโดยตรงได้หรือไม่?

คำตอบ: ได้ เมื่อปวดฟันคุณสามารถใช้น้ำมันกานพลูเล็กน้อยกับบริเวณตรงที่ปวดฟันได้เลย แต่ว่าแนะนำให้เจือจางด้วยน้ำมัน เช่น น้ำมันมะพร้าว เพื่อหลีกเลี่ยงการระคายเคืองที่อาจเกิดขึ้น

กลั้วปากด้วยน้ำเกลือใช้เวลานานเท่าใดจึงจะได้ผล

คำตอบ: การกลั้วปากด้วยน้ำเกลือสามรถช่วยบรรเทาอาการได้ทันที แต่ว่าควรทำต่อเนื่องหลายครั้งต่อวันจนกว่าอาการปวดฟันจะหาย

กระเทียมช่วยบรรเทาอาการปวดฟันมีผลข้างเคียงหรือไม่?

คำตอบ: แน่นอนว่ากระเทียมสามารถช่วยบรรเทาอาการปวดฟันได้ แต่ถ้าใช้มากเกินไปอาจทำให้เกิดการระคายเคืองในปากหรือกลิ่นปากได้ ควรใช้ในปริมาณที่เหมาะสมเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดี

อาการปวดฟันคุดต่างจากอาการปวดฟันผุยังไง?

คำตอบ: อาการปวดฟันคุด ส่วนใหญ่จะมาพร้อมกับอาการเหงือกบวมแดงตรงบริเวณฟันซี่ในสุด และอาจปวดร้าวไปที่ส่วนอื่น ๆ เช่น กราม หู หรือลำคอ และอาจจะมีปัญหาในการอ้าปากหรือกลืนอาหาร ส่วนอาการปวดฟันผุ ส่วนใหญ่จะมีอาการเสียวฟัน หรือปวดตุบ ๆ ในฟันซี่ใดซี่หนึ่งโดยตรง

หากมีอาการปวดฟันบ่อย ๆ หมายถึงเป็นโรคอะไรหรือเปล่า?

คำตอบ: อาการปวดฟันบ่อย ๆ หรือปวดฟันแบบเป็น ๆ หาย ๆ ถือเป็นสัญญาณเตือนว่ามีปัญหาในช่องปากที่ยังไม่ได้รับการแก้ไข อาจจะเกิดจากมาจากปัญหา ฟันผุลึก, ฟันคุด, ฟันแตก/ฟันร้าว, เหงือกอักเสบหรือปริทันต์อักเสบเรื้อรัง, ปลายรากฟันอักเสบ หรือมีหนอง ซึ่งหากมีอาการเหล่านี้แล้วปล่อยทิ้งไว้ อาจจะทำให้อาการแย่ลง และนำไปสู่การติดเชื้อที่ลุกลามรุนแรงขึ้นได้ หรือแย่สุดคือจะต้องเสียฟัน

เมื่อมีอาการปวดฟันจะต้องงดอาหารอะไรบ้าง?

คำตอบ: ควรหลีกเลี่ยงอาหารที่ร้อนจัด เย็นจัด เช่น น้ำแข็ง ไอศกรีม น้ำซุปที่เดือดจัด อาหารรสหวานจัด เปรี้ยวจัด หรืออาหารที่แข็งหรือเหนียว และควรเลือกอาหารอ่อน ๆ ที่ไม่ต้องเคี้ยวมาก

และนี่ก็คือ 8 วิธีแก้ปวดฟันแบบโบราณ ที่สามารถช่วยบรรเทาอาการปวดฟันเบื้องต้นได้ แต่ไม่สามารถรักษาฟันที่ต้นเหตุของปัญหาได้ ดังนั้น เมื่อมีอาการปวดฟันก็ลองนำวิธีแก้ปวดฟันเหล่านี้ไปทำตามกันดู และเมื่ออาการปวดฟันบรรเทาลงแล้ว อย่าลืมไปหาทันตแพทย์ตรวจฟัน เพื่อจะได้รักษาฟันอย่างทันท่วงที ช่วยป้องกันไม่ให้ปัญหาลุกลาม และยังรักษาสุขภาพช่องปากให้แข็งแรงในระยะยาวอีกด้วย

นอกจากนี้ถ้าใครอยากจะชอปสินค้า แต่อยากหาข้อมูลเปรียบเทียบ เพื่อช่วยให้ตัดสินใจเลือกซื้อได้ง่ายขึ้น ก็ลองเข้ามาอ่านบทความรีวิวสินค้าที่นี่ได้เลย มีบทความสาระความรู้หลากหลายพร้อมเสิร์ฟถึงที่ ครบครันทุกเรื่องไลฟ์สไตล์ ไม่ว่าจะเป็น

Noina

น้อยหน่าชอบแบ่งปันเรื่องราวดี ๆ ชอบหาของกินอร่อย ๆ สนุกสนานกับการได้ลองทำสิ่งใหม่ ๆ ที่ไม่เคยทำมาก่อน และหาแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์บทความ

Share
Published by
Noina

Recent Posts

15 ตัวละครหลักของ Jujutsu Kaisen ขวัญใจแฟนๆ ใครโหด ใครเทพ เช็กที่นี่!

ถ้าพูดถึงตัวละครหลักของ Jujutsu Kaisen มหาเวทย์ผนึกมาร คงไม่มีใครไม่รู้จักเหล่าตัวละครสายเวทย์สุดจี๊ด ที่แต่ละคนมีพลังสุดโหด คาแรกเตอร์สุดจัด และมุกเงิบเงียบที่ฆ่าคนดูได้ไม่แพ้คำสาป! ไม่ว่าจะเป็น ยูจิ อิตาโดริ เด็กหนุ่มพลังเกินร้อยที่กินนิ้วสุคุนะเข้าไป, โกโจ ซาโตรุ ประวัติเป็นถึงอาจารย์หล่อขั้นสุดพลังเทพ,…

11 hours ago

หาโทรศัพท์หายด้วยเบอร์ทำได้จริงมั้ย? หามือถือหายให้เซฟทำได้ตามนี้!

รวมวิธีหาโทรศัพท์หายด้วยเบอร์โทร ตามหาไอโฟน-แอนดรอยด์อย่างถูกต้องและปลอดภัย พร้อมแนะนำวิธีค้นหาโทรศัพท์หายแบบละเอียด

13 hours ago

มาทดลองกัน! 10 การทดลองวิทยาศาสตร์ง่ายๆ เล่น เรียน รู้ สร้างสรรค์จากสิ่งรอบตัว!

พบกับ 10 การทดลองวิทยาศาสตร์ง่ายๆ ไม่ต้องใช้อุปกรณ์ซับซ้อน สามารถทำได้ด้วยตัวเอง มาเปิดโลก วิทยาศาสตร์ ที่น่าตื่นเต้นและเต็มไปด้วยความ สนุก กันเถอะ!

14 hours ago

52 ดอกไม้ความหมายดีๆ ใช้เป็นสื่อแทนความรู้สึกดีๆ ในทุกโอกาส

ดอกไม้ 52 ดอกไม้ความหมายดีๆ ใช้ได้ในทุกโอกาส อาทิ ดอกกุหลาบ ดอกทิวลิป และอื่นๆ แสดงความรู้สึกดี ทั้งความรัก มิตรภาพ หรือคำอวยพร

15 hours ago

10 เก้าอี้นั่งถ่าย เก้าอี้อาบน้ำผู้สูงอายุแบบไหนดี ปลอดภัย ตอบโจทย์การใช้งาน

แนะนำ 10 เก้าอี้นั่งถ่ายผู้สูงอายุแบบไหนดี แข็งแรง ทนทาน และปรับระดับได้ เพื่อความปลอดภัยและสุขอนามัย พร้อมเปรียบเทียบฟังก์ชันและราคาที่คุ้มค่า

3 days ago

ส่อง 300 แคปชั่นหน้าฝน แบบฮา กวน ๆ น่ารัก ๆ ไว้โพสต์ในวันฝนตก เรียกยอดไลก์รัว ๆ

เมื่อสายฝนโปรยปราย อากาศเริ่มเย็นสบาย แหม...บรรยากาศชวนฝันแบบนี้ หลายคนก็คงรู้สึกสดชื่นและอยากเก็บภาพบรรยากาศสวย ๆ โพสต์ลงโซเชียลมีเดีย ไม่ว่าจะเป็น Facebook Instagram TikTok หรืออื่น ๆ แต่จะโพสต์รูปสวย ๆ บรรยากาศดี…

5 days ago