เรียนและทำงานที่บ้านแบบนี้จะซื้อเครื่องปริ้นราคาไม่เกิน 3000 ยี่ห้อไหนดี

แนะนำเครื่องปริ้นราคาไม่เกิน 3000 บาทที่น่าสนใจว่ามีเครื่องปริ้นยี่ห้อไหนดีบ้าง จะซื้อเครื่องปริ้นเลเซอร์สียี่ห้อไหนดีได้บ้าง จะได้เครื่องปริ้น wifi ในงบนี้ได้หรือไม่ เพื่อความสะดวกสำหรับการเรียนหรือทำงานที่บ้าน การที่เรามีเครื่องปริ้นสักเครื่องติดบ้านไว้ก็ช่วยให้ชีวิตง่ายขึ้น เป็นอีก Gadgets สำหรับ Work From Home สามารถทำงานได้โปรดักทีฟ จัดเก็บข้อมูลได้สะดวก และยังช่วยให้พ่อค้าแม่ค้าส่งออกข้อมูลมาเพื่อการจัดการข้อมูลสินค้าของลูกค้าได้ง่ายอีกด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปัจจุบันเครื่องปริ้นก็ไม่ได้มีราคาแพงอย่างที่ใคร ๆ คิด เพราะเพียงแค่แบงค์พัน 3 ใบ เราก็สามารถเลือกเครื่องปริ้นดี ๆ ที่ถูกใจได้แล้ว และคราวนี้เราจะมาเล่าถึงวิธีเลือกเครื่องปริ้นยี่ห้อไหนดี รวมถึงจะมีเครื่องปริ้นราคาไม่เกิน 3000 รุ่นไหนบ้างที่ตอบโจทย์การใช้งาน

จะเลือกซื้อเครื่องปริ้นราคาไม่เกิน 3000 อย่างไร

การเลือกเครื่องปริ้นให้คุ้มค่าคุ้มราคา และยังนำมาใช้ตอบโจทย์ความต้องการใช้งานได้อย่างครบถ้วนนั้น เราควรเลือกสำรวจความต้องการของเราก่อนว่าต้องการพิมพ์งานแบบไหน เป็นแบบสีหรือขาวดำ ต้องการพิมพ์กระดาษขนาดไหนเป็นหลัก และมีปริมาณที่ต้องการปริ้นท์ต่อเดือนมากน้อยแค่ไหน ต้องการใช้ฟีเจอร์อื่น ๆ เช่น การเป็นเครื่องถ่ายเอกสาร เครื่องสแกน ฯลฯ หรือเปล่า แล้วลองมาแมทช์กับชนิดของเครื่องปริ้นท์ที่มีให้เลือก นั่นคือ

❖ เลือกจากชนิดของเครื่องปริ้น ❖

• เครื่องปริ้นแบบหมึกพิมพ์ (Inkjet Printer) เป็นเครื่องปริ้นท์ที่ใช้เทคนิคบังคับการหยดหมึกลงบนกระดาษโดยตรง มักจะมาพร้อมการพิมพ์สีจึงใช้ปริ้นท์ได้ทั้งงานสีและขาวดำ และเหมาะอย่างยิ่งกับการใช้ปริ้นท์รูปหรือภาพถ่ายในงบเบา ๆ โดยมีข้อดีตรงที่ไม่ทำให้สีเพี้ยน แต่ก็มีข้อจำกัดในด้านที่หมึกพิมพ์มักมีราคาสูง ทำให้เหมาะกับการพิมพ์แบบเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่บ้านในแบบที่ไม่ได้ใช้บ่อยมากนัก
• เครื่องปริ้นเลเซอร์ (Laser Printer) เป็นเครื่องปริ้นท์ที่ใช้เทคนิคการพ่นผงหมึกลงบนกระดาษ ซึ่งการใช้เครื่องปริ้นท์เลเซอร์แบบสีหรือขาวดำนั้นจำเป็นต้องเลือกตั้งแต่ตอนซื้อ เพราะเครื่องที่ปริ้นท์เลเซอร์ขาวดำจะไม่สามารถปริ้นท์สีได้ ซึ่งเครื่องปริ้นท์ชนิดนี้มีข้อดีในแง่ที่คุณภาพการพิมพ์คมชัด ใช้เวลาปริ้นท์รวดเร็ว สามารถปริ้นท์งานได้เป็นจำนวนมาก ๆ หมึกพิมพ์หรือโทนเนอร์ราคาไม่แพงมาก จึงเหมาะกับการพิมพ์งานจำนวนมากและใช้เวลาไม่นาน

❖ เลือกจากฟังก์ชั่นการใช้งาน ❖

เครื่องปริ้นท์บางประเภทใช้ได้เฉพาะการปริ้นท์งาน แต่สำหรับใครที่ต้องการใช้ฟังก์ชั่นอื่นอยู่แล้ว ก็สามารถเลือกแบบ All-in-one ที่จะมีฟังก์ชั่นของเครื่องถ่ายเอกสาร แฟกซ์ และสแกนเนอร์รวมไว้ได้ในเครื่องเดียว โดยที่ไม่จำเป็นต้องเลือกอุปกรณ์หลายชิ้นมาวางให้เปลืองที่ และยังไม่ต้องเปลืองงบเพิ่มอีกด้วย

❖ เลือกจากประเภทของตลับหมึก ❖

เนื่องจากหมึกพิมพ์เป็นค่าใช้จ่ายตัวหนึ่งที่ไม่น้อยเลย ดังนั้นการเลือกเครื่องปริ้นท์ให้เหมาะกับงบประมาณและค่าใช้จ่ายจึงควรคำนึงถึงชนิดของหมึกพิมพ์ด้วย ซึ่งปัจจุบันมีหมึกพิมพ์ให้เลือก 3 แบบ คือ

• ตลับหมึกแบบรวมสี เป็นตลับหมึกที่รวมแม่สี 3 – 4 สีมาในตลับเดียวกัน ซึ่งหากมีหมึกสีไหนหมด ก็จำเป็นต้องเปลี่ยนหมึกทั้งตลับออกเพื่อไม่ให้การผสมสีเพี้ยนไป แต่ก็มีข้อดีในแง่ของการใช้งานง่าย เพียงใส่เข้ากับเครื่องปริ้นท์ก็เริ่มทำงานได้ทันที
• ตลับหมึกแบบแยกสี เป็นตลับหมึกที่แยกสีละตลับ และหากสีไหนหมดก็สามารถเปลี่ยนเป็นรายสีได้ ซึ่งทำให้ประหยัดและคุ้มค่าต่อการใช้งานมากขึ้น
• โทนเนอร์ เป็นตลับหมึกที่เข้ากันได้กับเครื่องปริ้นท์เลเซอร์ มักมีราคาสูงแต่ก็สามารถใช้งานได้นาน รองรับการพิมพ์ในปริมาณมาก ๆ ได้เป็นอย่างดี

❖ เลือกจากการเชื่อมต่อ ❖

ปัจจุบันเครื่องปริ้นท์ไม่จำเป็นต้องเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์ผ่านสาย USB เพียงอย่างเดียวอีกแล้ว ซึ่งหากเพื่อน ๆ มีงบประมาณและไม่ต้องการให้สายไฟดูรก สามารถเชื่อมต่อปริ้นท์เตอร์กับคอมพิวเตอร์ได้รวดเร็ว พร้อมต่อการใช้งาน ก็สามารถเลือกเป็นเครื่องปริ้นท์ชนิดที่เชื่อมต่อผ่าน WiFi ได้เช่นกัน

ถึงตรงนี้เราก็พร้อมแล้วสำหรับการไปต่อกับการเลือกเครื่องปริ้นราคาไม่เกิน 3000 จะซื้อเครื่องปริ้นยี่ห้อไหนดี

1. HP DeskJet IA 2335/2337 All-in-One Printer

เริ่มต้นกันด้วย HP DeskJet IA 2335/2337 All-in-One Printer ปริ้นท์เตอร์ All-in-one ที่มาด้วยฟังก์ชั่นการใช้งานที่ครบถ้วนในราคาที่เป็นมิตรที่สุดด้วยราคาเริ่มต้น 2,990 บาท ตัวเครื่องปริ้นท์เป็นแบบหมึกพิมพ์ Inkjet Printer ที่สามารถพิมพ์งานได้ทั้งสีและขาวดำ สามารถพิมพ์เอกสารด้วยความเร็วสูงสุด 20 แผ่นต่อนาที ได้ความละเอียดคมชัดสูงสุด 1200 x 1200 dpi และสามารถพิมพ์งานต่อเดือนได้มากถึง 1,000 แผ่น ทั้งยังรองรับกระดาษไซส์มาตรฐาน A4, B5, A6, DL envelope ไว้อย่างครบครัน โดยมีการเชื่อมต่อแบบสาย USB 2.0 กับตัวเครื่อง

ในด้านฟังก์ชั่นการใช้งานเพิ่มเติม HP DeskJet IA 2335/2337 All-in-One Printer สามารถใช้การแสกนไฟล์เป็น PDF ไฟล์ ช่วยอำนวยความสะดวกในการทำงาน และสามารถถ่ายเอกสารได้ในเครื่องเดียวอีกด้วย ซึ่งสำหรับฟังก์ชั่นที่ค่อนข้างครบในราคาเบา ๆ แบบนี้ก็ค่อนข้างหาไม่ง่ายนักสำหรับปริ้นท์เตอร์ราคาไม่เกิน 3,000 บาทในปัจจุบัน

= คุณสมบัติ =

ประเภทของเครื่องปริ้น: Inkjet Printer สี
ขนาดตัวเครื่อง: 475 x 191 x 354 mm
หมึกที่ใช้: ตลับหมึกสี HP 653, HP 667XL, HP 667, HP 667XL; ตลับหมึกขาวดำ HP 653, HP 682, HP 667, HP 667XL, HP 667, HP 667XL
ความละเอียดที่ได้: 1200 x 1200 dpi
ความเร็วของการปริ้น: ขาวดำ 20 / สี 16 แผ่น/นาที
ประเภทกระดาษที่รองรับ: A4, B5, A6, DL envelope
การเชื่อมต่อ: USB 2.0
คุณสมบัติอื่น: Print, Copy, Scan
ราคา: ฿2,990

2. Printer Canon Pixma TS307 WiFi

เป็นอีกหนึ่งแบรนด์เครื่องปริ้นท์จากญี่ปุ่นที่ได้รับความนิยมสูง กับ Canon ที่มาพร้อมกับเครื่องพิมพ์ Canon Pixma TS307 WiFi ตัวเครื่องสีดำให้ภาพการออกแบบที่ทันสมัย พร้อมด้วยฟังก์ชั่นการใช้งานของเครื่องปริ้นท์ที่ครบครัน ตัวเครื่องปริ้นท์เป็นแบบ Inkjet Printer สี ที่สามารถพิมพ์งานได้ทั้งสีและขาวดำ โดยเฉพาะการพิมพ์รูปภาพที่ให้ภาพคมชัดด้วยความละเอียดสูงสุด 4,800 × 1,200 dpi และสามารถพิมพ์ภาพถ่ายขนาด 4 × 6 นิ้ว ได้แบบไร้ขอบ

นอกจากนี้ Canon Pixma TS307 WiFi ยังเพิ่มความสะดวกให้กับผู้ใช้ด้วยฟังก์ชั่นการสั่งพิมพ์ผ่าน WiFi ซึ่งเชื่อมต่อได้ทั้งจากโทรศัพท์และคอมพิวเตอร์ ทำให้แม้ไม่ได้เปิดคอม ก็สามารถสั่งพิมพ์งานจากโทรศัพท์มือถือได้เลย ซึ่งนับว่าหากใครกำลังมองหาเครื่องปริ้นท์สำหรับการพิมพ์ภาพสวย ๆ สีคมชัดอยู่ เครื่องปริ้นท์รุ่นนี้ก็นับว่าค่อนข้างสะดวกและให้คุณภาพที่ดีในราคาสุดคุมไม่ถึง 3,000 บาทเท่านั้นเอง

= คุณสมบัติ =

ประเภทของเครื่องปริ้น: Inkjet Printer สี
ขนาด: 430 × 282 × 143 mm
หมึกที่ใช้: PG-745, PC-745 XL, CL-746, CL-746XL
ความละเอียดที่ได้: 4,800 × 1,200 dpi
ความเร็วของการปริ้น: ขาวดำ 7.7 / สี 4 แผ่น/นาที
ประเภทกระดาษที่รองรับ: A4 275แกรม,A5 B5
การเชื่อมต่อ: USB 2.0 // WiFi
คุณสมบัติอื่น: รองรับการเชื่อมต่อผ่าน WiFi สั่งพิมพ์ได้จากมือถือ
ราคา: ฿2,990

3. CANON LBP6030W

ถัดมาอีกรุ่นกับแบรนด์ Canon กับ CANON LBP6030W เครื่องปริ้นท์เลเซอร์แบบขาวดำที่มาในขนาดกะทัดรัด ให้ประสิทธิภาพการปริ้นท์งานอันรวดเร็วและคมชัดด้วยความละเอียดสูงถึง 2400 × 600 dpi และอัตราการพิมพ์เร็วสุด 18 แผ่นต่อนาที รองรับการใช้งานกับกระดาษหลากหลายขนาด ในแบบที่เครื่องเดียวเอาอยู่ บนขนาดความสามารถในการพิมพ์งานที่ 200 – 800 หน้าต่อเดือน

และด้วยคุณสมบัติของเครื่องปริ้นท์ CANON LBP6030W ที่ดีไซน์ออกมายืนพื้นสีขาว-เทากับรูปทรงมินิมอลเรียบ ๆ แต่อัดแน่นด้วยคุณสมบัติการใช้งาน ทั้งยังรองรับการเชื่อมต่อผ่านไวไฟ ให้สามารถสั่งพิมพ์งานได้โดยที่ไม่ต้องเพิ่มสายไฟให้รกรุงรัง ทำให้เครื่องปริ้นท์ตัวนี้เหมาะมากกับการทำงานสำนักงาน หรือปริ้นท์เอกสารการเรียนรู้ บนการประหยัดพื้นที่และเสริมความมินิมอลให้กับโต๊ะทำงานได้ในราคาคุ้มค่าต่อการใช้งาน

= คุณสมบัติ =

ประเภทของเครื่องปริ้น: เลเซอร์ขาวดำ
ขนาด: 364 × 249 × 199 mm
หมึกที่ใช้: Canon Cartridge 325
ความละเอียดที่ได้: 2400 × 600 dpi
ความเร็วของการปริ้น: ขาวดำ 18 แผ่น/นาที
ประเภทกระดาษที่รองรับ: A4, B5, A5, Legal , Letter, Executive, 16K, Envelope COM10, Envelope Monarch, Envelope C5, Envelope DL
การเชื่อมต่อ: USB 2.0 High Speed // WiFi
คุณสมบัติอื่น: รองรับการเชื่อมต่อผ่าน WiFi
ราคา: ฿4,590

4. HP DESKJET Advantage 2775 All-in-One Printer

สำหรับเครื่องปริ้นท์แบบ All-in-one ที่น่ามีน่าใช้อีกหนึ่งรุ่นก็คงหนีไม่พ้น HP DESKJET Advantage 2775 All-in-One Printer ที่มาในรูปลักษณ์สีขาวสะอาดตาดูมินิมอลและทันสมัยไปในคราวเดียวกัน ตัวเครื่องสามารถปริ้นท์ได้ทั้งแบบสีและขาวดำ โดยใช้หมึกที่เป็น Inkjet ถอดเปลี่ยนตลับได้ โดยสามารถให้ความละเอียดของงานได้สูงสุดถึง 4,800 × 1,200 dpi ให้ได้ภาพถ่ายที่คมชัดถูกใจ รองรับการพิมพ์งานได้กว่า 1,000 แผ่นต่อเดือน

นอกจากฟังก์ชั่นการปริ้นท์งานทั้งสีและขาวดำแล้ว HP DESKJET Advantage 2775 All-in-One Printer ยังสามาถใช้เป็นเครื่องถ่ายเอกสาร เครื่องสแกนที่ให้ความละเอียดของไฟล์ได้สูงสุด 1200 x 1200 dpi และยังรองรับการเชื่อมต่อไร้สาย WiFi, Apple Air Print ฯลฯ ทำให้สามารถพิมพ์งานผ่านโทรศัพท์มือถือได้แบบสะดวกสุด ๆ อีกด้วย

= คุณสมบัติ =

ประเภทของเครื่องปริ้น: Inkjet Printer สี
ขนาด: 424.9 x 547.7 x 248.7 mm
หมึกที่ใช้: HP 682 BK, HP 682 Tri-Color
ความละเอียดที่ได้: ขาวดำ 1200 x 1200 dpi // สี 4,800 × 1,200 dpi
ความเร็วของการปริ้น: ขาวดำ 20 / สี 16 แผ่น/นาที
ประเภทกระดาษที่รองรับ: A4; B5; A6; DL envelope
การเชื่อมต่อ: USB 2.0, Wi-Fi, HP ePrint, Air Print
คุณสมบัติอื่น: Print/ Copy/ Scan/ Wi-Fi รองรับการสั่งพิมพ์ผ่านมือถือ
ราคา: ฿3,990

5. Brother Mono Laser Printer HL-L2320D

สำหรับใครที่กำลังมองหาเครื่องปริ้นท์ยี่ห้อไหนดีที่ตอบสนองการพิมพ์เอกสารแบบจริงจัง BROTHER MONO LASER PRINTER HL-L2320D อาจเป็นเครื่องปริ้นท์รุ่นที่คุณกำลังมองหาอยู่ ด้วยการออกแบบมาให้เป็นเครื่องปรินท์เลเซอร์ขาวดำที่สามารถพิมพ์งานได้เร็วที่สุด โดยสามารถพิมพ์งานมาตรฐานบนกระดาษ A4 ได้เร็วสุดถึง 30 แผ่นต่อนาที และได้ความละเอียดสูงสุดที่ 2400dpi × 600 dpi

นอกจากนี้ เครื่องปริ้นท์รุ่นนี้ยังรองรับการพิมพ์สองหน้าแบบอัตโนมัติ ทำให้ประหยัดทั้งกระดาษและสะดวกที่ไม่ต้องนั่งจัดหน้าพลิกหน้ากระดาษเพื่อปริ้นท์สองหน้าแบบ mannual เอง ซึ่งบอกได้เลยว่าสำหรับสายที่ต้องทำงานหรือเรียนออนไลน์แบบจริงจัง เครื่องปริ้นท์ BROTHER MONO LASER PRINTER HL-L2320D ถือว่าค่อนข้างตอบโจทย์การใช้งานได้แบบตรงจุดสำหรับการพิมพ์งานจำนวนมากได้แบบไม่สะดุดเลย

= คุณสมบัติ =

ประเภทของเครื่องปริ้น: เลเซอร์ ขาวดำ
ขนาด: 356 x 360 x 183 mm
หมึกที่ใช้: Brother TN-267BK
ความละเอียดที่ได้: 2400X600 dpi
ความเร็วของการปริ้น: ขาวดำ 30 แผ่น/นาที
ประเภทกระดาษที่รองรับ: A4, A5, A6
การเชื่อมต่อ: USB 2.0
คุณสมบัติอื่น: รองรับการพิมพ์เอกสาร 2 หน้า
ราคา: ฿3,490

6. PANTUM P2500W Laser Printer

สำหรับปริ้นท์เตอร์รุ่นนี้เพื่อน ๆ หลายคนอาจไม่คุ้นเคยกับชื่อแบรนด์ PANTUM แต่ต้องบอกเลยว่าแบรนด์นี้ถือเป็นผู้ผลิตเครื่องปริ้นท์และโทนเนอร์สัญชาติจีนที่ส่งสินค้าขายไปทั่วโลก และสำหรับ PANTUM P2500W Laser Printer ตัวนี้ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าเป็นเลเซอร์ปริ้นท์เตอร์ที่รองรับการปริ้นท์งานที่เป็นขาวดำโดยเฉพาะ โดยสามารถพิมพ์เอกสารได้สูงสุดถึง 22 แผ่นต่อนาทีด้วยความละเอียด 1200 x 1200 dpi

ตัวเครื่องปริ้นท์รุ่นนี้รองรับการพิมพ์บนเอกสารหลากหลายขนาด ซึ่งมีข้อดีในแง่ที่ผู้ใช้ไม่ต้องไปนั่งจัดหน้ากระดาษเพื่อปรินท์เองแบบแมนนวล ทั้งยังสามารถเชื่อมต่อการพิมพ์ด้วย WiFi ทำให้สะดวกต่อการใช้งานและลดความรุงรังของสายไฟลงไปได้ จึงเหมาะมาก ๆ กับการทำงานที่บ้านในแบบที่ไม่ทำให้พื้นที่ดูเยอะดูรก และยังตอบสนองความต้องการในการพิมพ์เอกสารแบบขาวดำได้อย่างครบถ้วนในราคาเบา ๆ

= คุณสมบัติ =

ประเภทของเครื่องปริ้น: เลเซอร์ขาวดำ
ขนาด: 337 x 220 x 178 mm
หมึกที่ใช้: PC-211
ความละเอียดที่ได้: 1200 x 1200 dpi
ความเร็วของการปริ้น: ขาวดำ 22 แผ่น/นาที
ประเภทกระดาษที่รองรับ: A4, A5, A6, JIS B5, ISO B5, B6, Letter, Legal, Executive, Statement, Monarch envelope,

ซองจดหมาย DL, ซองจดหมาย C5, ซอง C6, ซองจดหมาย NO.10, ไปรษณียบัตรญี่ปุ่น
การเชื่อมต่อ: USB 2.0; WiFi
คุณสมบัติอื่น: รองรับการเชื่อมต่อผ่าน WiFi
ราคา: ฿2,550

7. Printer HP DeskJet 1210

Printer HP DeskJet 1210 เป็นปริ้นท์เตอร์แบบ Inkjet Printer ที่ตอบโจทย์ความต้องการใช้งานเครื่องปริ้นท์แบบเบา ๆ ในราคาสุดคุ้ม ซึ่งสามารถใช้กับงานปริ้นท์ได้ทั้งแบบสีและขาวดำ โดยให้ความละเอียดได้สูงสุด 4800 x 1200 dpi ให้ภาพคมชัด รองรับกระดาษขนาดมาตรฐานอย่างครบถ้วน ทำให้ทุกการใช้งานแบบทั่วไปสามารถจัดการได้อย่างไร้ปัญหาและง่ายสบาย ครบจบในราคาเบา ๆ เพียง 1,890 เท่านั้น

= คุณสมบัติ =

ประเภทของเครื่องปริ้น: Inkjet Printer สี
ขนาด: 473.0 x 163.0 x 27.4 mm
หมึกที่ใช้: HP 67 BK / CO
ความละเอียดที่ได้: 4800 x 1200 dpi
ความเร็วของการปริ้น: ขาวดำ 7.5 / สี 5.5 แผ่น/นาที
ประเภทกระดาษที่รองรับ: A4, B5, A6, DL envelope
การเชื่อมต่อ: USB 2.0
คุณสมบัติอื่น: –
ราคา: ฿1,890

และทั้งหมดนี้ก็คือลิสต์เครื่องปริ้นราคาไม่เกิน 3000 ที่เรานำมาแนะนำกันในคราวนี้ ซึ่งแน่นอนว่าเครื่องปริ้นท์แต่ละตัวก็มีฟังก์ชั่นการทำงานไม่เหมือนกัน รองรับการใช้งานที่แตกต่างกันไป เพื่อน ๆ คนไหนที่ต้องการใช้งานเครื่องปริ้นท์แบบหลากหลายให้สามารถครอบคลุมทุกการใช้งาน การเลือกเครื่องปริ้นท์แบบ All-in-one ก็น่าจะเป็นตัวเลือกที่ดี หรือเพื่อน ๆ คนไหนที่เน้นการปริ้นท์เอกสารแบบขาวดำจำนวนมาก ๆ เครื่องปริ้นท์เลเซอร์ขาวดำก็น่าจะตอบโจทย์ และหวังว่าลิสต์เครื่องปริ้นเลเซอร์สียี่ห้อไหนดี และเครื่องปริ้น wifi รุ่นไหนดีที่เราเลือกมาในคราวนี้จะช่วยให้เพื่อน ๆ เลือกเครื่องปริ้นท์ได้ตรงใจและคุ้มค่าคุ้มราคามากขึ้น