Home Appliances

10 เครื่องดูดความชื้นยี่ห้อไหนดี ขจัดเชื้อราให้บ้านโปร่งไร้กลิ่นอับ

จะซื้อเครื่องดูดความชื้นมาไว้ที่บ้านดีไหม? หรือจะใช้แค่พัดลม? คำถามนี้น่าจะเกิดขึ้นทุกทีที่เป็นช่วงฝนตกบ่อย จนทำให้บรรยกาศในบ้านรู้สึกหนืด ๆ เหนียวตัวง่าย ผ้าที่ตากไว้ก็แห้งยาก เกิดกลิ่นอับ บางครั้งยังอาจพบคราบเชื้อราขึ้นอยู่ตามเฟอร์นิเจอร์หรือกระเป๋ารองเท้าจนเป็นความเสียหาย ซึ่งเหล่านี้เองที่เป็นประโยชน์ของเครื่องดูดความชื้น Xiaomi หรือ dehumidifier ที่เราอยากแนะนำให้ลองนำมาใช้ และนี่คือรวมลิสต์ 10 รีวิว เครื่องดูดความชื้นยี่ห้อไหนดี น่าลองใช้ที่เรานำมาเล่าสู่กันฟัง

ประโยชน์ของเครื่องลดความชื้น

ก่อนที่เราจะไปถึงรีวิวเครื่องดูดความชื้น เรามาลองดูกันก่อนเลยว่าความชื้นในอากาศนั้นคืออะไร ก่อให้เกิดผลเสียอะไรได้บ้าง และประโยชน์ของเครื่องลดความชื้นที่นำมาใช้จะเป็นอย่างไร

ความชื้นในอากาศก็คือ ภาวะที่ปริมาณไอน้ำที่มีปะปนอยู่ในอากาศมีสูง ซึ่งอาจเกิดเมื่อบริเวณนั้นมีการระเหยของน้ำมาก เช่น ในช่วงที่มีฝนตกบ่อย แดดส่องไม่ถึง บริเวณห้องน้ำ หรือพื้นที่ที่อยู่ใกล้กับแหล่งน้ำ ซึ่งการที่ความชื้นในอากาศมีสูงอาจทำให้รู้สึกเย็นกว่าปกติ แต่ก็ทำให้รู้สึกหนืดเหนียวตัว เนื่องจากเหงื่อบนร่างกายระเหยได้ยาก 

ภาวะที่อากาศมีความชื้นสูงนอกจากทำให้รู้สึกไม่สบายตัวแล้ว ก็ยังเอื้อต่อการเจริญเติบโตของเชื้อโรค เช่น เชื้อรา หรือเชื้อแบคทีเรีย ที่เป็นต้นเหตุให้เกิดกลิ่นอับ และคราบไม่พึงประสงค์บนเฟอร์นิเจอร์จำพวกไม้ หรือเครื่องหนัง แถมยังกระตุ้นโรคภูมิแพ้และทำให้หายใจไม่สะดวกอีกด้วย ดังนั้นการนำเครื่องดูดความชื้นมาใช้จะมีประโยชน์ในด้าน

  • ทำให้อากาศแห้งสบาย เอื้อต่อการอยู่อาศัย ทั้งการตากผ้าและเหงื่อไคลก็แห้งได้ง่ายแบบไม่เหนียวไม่หนักตัว
  • ลดโอกาสการเกิดเชื้อโรคสะสมในบ้าน เช่น เชื้อแบคทีเรียและเชื้อรา ซึ่งเป็นเชื้อโรคที่กำจัดได้ยาก การป้องกันจึงเป็นวิธีที่ถูกนำมาใช้ได้ผลดีกว่า
  • ป้องกันการเกิดภูมิแพ้เนื่องจากอากาศชื้น และการสะสมของเชื้อโรค อันเป็นสาเหตุของโรคและความไม่สบายต่าง ๆ
  • ป้องกันการเกิดสนิมของอุปกรณ์ต่าง ๆ ในบ้าน โดยเฉพาะอุปกรณ์ที่ผลิตจากเหล็ก
  • ป้องกันการเกิดกลิ่นอับ กลิ่นไม่พึงประสงค์ที่เกิดจากความชื้นและการสะสมของเชื้อแบคทีเรีย

ประเภทของเครื่องดูดความชื้น

จากความชื้นในอากาศที่เป็นสาเหตุให้เกิดความไม่สบายต่าง ๆ จะลดลงได้อย่างไร เหล่านี้เป็นเทคนิควิธีที่ถูกนำมาใช้ในเครื่องดูดความชื้นที่ทำให้สามารถลดความชื้นในอากาศลงได้ ซึ่งสามารถแบ่งออกได้เป็น 3 ประเภท คือ

1. เครื่องดูดความชื้นแบบกลั่นตัวเปลี่ยนสถานะ

เป็นการดึงอากาศที่มีความชื้นผ่านแผงคอยล์เย็นให้ไอน้ำกลั่นตัวลงเป็นหยดน้ำเก็บไว้ในถังเก็บน้ำ จากนั้นก็ปล่อยอากาศที่ความชื้นต่ำออกจากเครื่องไป มีทั้งการใช้คอมเพรสเซอร์, อีแวปเปอเรเตอร์ หรือ คอนเดนเซอร์

2. เครื่องดูดความชื้นแบบดูดซับความชื้น

เป็นวิธีที่ใช้วัสดุพิเศษช่วยดูดซับความชื้นในอากาศมาไว้ จากนั้นก็ปล่อยอากาศที่มีความชื้นลดลงออกไป

3. เครื่องดูดความชื้นแบบใช้ความร้อน

เป็นเทคนิคที่ใช้การทำความร้อนระเหยไอน้ำที่มีอยู่ในอากาศให้สลายไป แต่ก็จะทำให้ห้องมีอุณหภูมิเพิ่มสูงขึ้นด้วย


รีวิว 10 เครื่องดูดความชื้นยี่ห้อไหนดี

คราวนี้เราลองมาดูกันต่อเลยว่ารีวิวเครื่องดูดความชื้นยี่ห้อไหนดี ที่เรานำมาฝากกันนั้นมีเครื่องดูดความชื้นตัวไหนกันบ้าง

1. เครื่องดูดความชื้น Xiaomi SOTHING

เริ่มกันจากเครื่องดูดความชื้น Xiaomi ขนาดเล็กกะทัดรัด ที่สามารถนำไปตั้งบนหัวเตียง ตู้เสื้อผ้า หรือชั้นเก็บของได้แบบสบาย ๆ กับ Xiaomi SOTHING ที่มีน้ำหนักเบาและหนาเพียงแค่ 4 เซนติเมตรเท่านั้น ด้วยตัวเครื่องที่ดีไซน์ออกมาน่ารัก ๆ สามารถดูดความชื้นแบบใช้สารดูดซับได้ 150ml และยังระเหยความชื้นที่ดูดซับไว้ได้ด้วยการเสียบปลั๊กอบแห้งตัวเองได้โดยไม่ต้องคอยเอาน้ำไปทิ้งอีกด้วย

ด้วยความเป็นเครื่องดูดความชื้นที่ขนาดเล็ก กะทัดรัด ใช้เทคนิคการดูดความชื้นที่ไม่ซับซ้อน ไม่ต้องเสียบปลั๊กขณะใช้งาน (เสียบปลั๊กแค่ตอนระเหยแห้งตัวเครื่อง) แถมยังสังเกตต้นไม้เล็ก ๆ บนตัวเครื่องถึงระดับความชื้นที่ดูดซับไว้ ก็เรียกได้ว่าเป็นเครื่องดูดความชื้นที่น่ารักและสารพัดประโยชน์ สามารถพกพาไปไหนต่อไหนได้แบบสบาย ๆ

คุณสมบัติ

  • ขนาดตัวเครื่อง 123 x 120 x 40 mm
  • ขนาดการดูดความชื้น 150 ml
  • ประเภท ดูดซับความชื้น
  • กำลังไฟฟ้า  20W±10%
  • ขนาดห้องที่เหมาะ เล็ก
  • ขนาดความจุถังน้ำ –
  • ราคา ฿370

2. เครื่องดูดความชื้น Xiaomi NEW WIDETECH Dehumidifier

ถัดมาด้วยเครื่องดูดความชื้น Xiaomi อีกตัวที่ดูดสมบุกสมบันและเหมาะกับการใช้งานกับขนาดห้องที่ใหญ่ขึ้น เครื่องดูดความชื้น Xiaomi NEW WIDETECH เป็นเครื่องดูดความชื้นระบบคอมเพรสเซอร์ที่มีความแม่นยำสูง สามารถใช้กับขนาดห้องได้ใหญ่ถึง 100 ตารางเมตร แถมยังสามารถเชื่อมต่อผ่านแอปเพื่อตรวจสอบและปรับระดับการทำงานได้อย่างง่ายดาย

ตัวเครื่องผลิตจากวัสดุ ABS คุณภาพดี สามารถลดความชื้นได้รวดเร็ว และยังสามารถใช้ฟังก์ชั่นการอบแห้งสำหรับการตากผ้าให้แห้งสนิทได้โดยไม่ทำให้เสื้อผ้าเกิดกลิ่นอับ ด้วยระดับเสียงรบกวนต่ำเพียง 38dB

คุณสมบัติ

  • ขนาดตัวเครื่อง 38.00 x 25.90 x 59.00 cm
  • ขนาดการดูดความชื้น 1500ml /วัน
  • ประเภท คอมเพรสเซอร์
  • กำลังไฟฟ้า  420W
  • ขนาดห้องที่เหมาะ 100 ตร.ม.
  • ขนาดความจุถังน้ำ 7L
  • ราคา ฿8,999

3. เครื่องดูดความชื้น HANABISHI HDF-20M

สำหรับเครื่องดูดความชื้นราคาเบา ๆ แต่เหมาะสำหรับห้องไซส์ขนาดกลาง ๆ ลองดูเครื่องดูดความชื้นตัวนี้เลย กับ HANABISHI HDF-20M ที่ออกแบบมาเพื่อลดความชื้นในอากาศ ลดการเกิดเชื้อราและเชื้อแบคทีเรีย ทั้งยังสามารถช่วยปรับสมดุลอากาศในบ้านได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยตัวเครื่องไซส์เล็กกะทัดรัดและน้ำหนักเบาเพียง 1.3 กิโลกรัมทำให้สามารถยกไปไหนต่อไหนได้แบบสบาย ตัวเครื่องดูดความชื้นนี้มาพร้อมกับถังเก็บน้ำความจุ 1 ลิตรและตั้งเวลาการทำงานได้ 2 โหมดคือ 6 หรือ 12 ชั่วโมง ทำงานเงียบเพียง 30dB สะดวกต่อการใช้งานแบบสุด ๆ 

คุณสมบัติ

  • ขนาดตัวเครื่อง 145x178x222 mm
  • ขนาดการดูดความชื้น  N/A
  • ประเภท N/A
  • กำลังไฟฟ้า  36W
  • ขนาดห้องที่เหมาะ 10-20 ตร.ม.
  • ขนาดความจุถังน้ำ 1L
  • ราคา ฿1,590

4. เครื่องดูดความชื้น Bionaire BD20

มาถึงเครื่องดูดความชื้นคุณภาพดีที่ใช้กันอย่างเป็นกิจลักษณะกันบ้าง กับเครื่องดูดความชื้น Bionaire BD20 ตัวนี้ที่มาพร้อมกับคุณสมบัติการดูดความชื้นได้มากถึงวันละ 20 ลิตร สามารถใช้ได้กับพื้นที่ขนาดกว้างได้กว่า 60 ตารางเมตร จึงไม่แปลกใจเลยที่เครื่องดูดความชื้นตัวนี้จะถูกนำไปใช้ในห้องใต้ดิน ห้องสมุด ห้องแล็ป หรือโรงแรมต่าง ๆ เพื่อควบคุมคุณภาพความชื้นในอากาศให้คงที่ สามารถปรับอุณหภูมิได้แบบอัตโนมัติ และมีหน้าปัดบอกการทำงานในตัว เรียกได้ว่าคุณภาพดีและยังมีเสียงเบาเพียง 46dB เท่านั้น

คุณสมบัติ

  • ขนาดตัวเครื่อง 36.6 x 33 x 59 cm
  • ขนาดการดูดความชื้น  2000ml /วัน
  • ประเภท คอมเพรสเซอร์
  • กำลังไฟฟ้า  360W
  • ขนาดห้องที่เหมาะ 60 ตร.ม.
  • ขนาดความจุถังน้ำ 2.3L
  • ราคา ฿19,890

5. เครื่องดูดความชื้น HOMEMATE HOM-1612L2

หากจะมองหาเครื่องดูดความชื้นไซส์กลาง ๆ คุณภาพดีในราคาที่ไม่แพง เครื่องดูดความชื้นแบรนด์ HOMEMATE รุ่น HOM-1612L2 น่าจะเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับการใช้งานเบา ๆ ในบ้าน ด้วยขนาดที่ไม่ใหญ่ไม่เล็กที่ 25.6 x 20.3 x 41.5 เซนติเมตร น้ำหนักกลาง ๆ ที่ 10 กิโลกรัม เพียงพอต่อการทำงานในพื้นที่ 12 – 15 ตารางเมตรอย่างห้องต่าง ๆ ในบ้านเป็นอย่างดี 

ตัวเครื่องสามารถลดความชื้นได้ถึง 12 ลิตรต่อวันด้วยเสียงเบากริบเพียง 42 เดซิเบล แถมยังใช้งานง่ายด้วยหน้าจอ LCF แสดงผลโปรแกรมการทำงานต่าง ๆ ที่ใช้ได้ทั้งโหมดดูดความชื้นอัตโนมัติ และฟังก์ชั่นตากผ้า ทั้งยังตั้งเวลาเปิดปิดอัตโนมัติได้อีกด้วย เรียกได้ว่าเป็นเครื่องดูดความชื้นราคาเบา ๆ ในฟังก์ชั่นครบ ๆ ตัวหนึ่งที่น่าสนใจทีเดียว

คุณสมบัติ

  • ขนาดตัวเครื่อง 25.6 x 20.3 x 41.5 cm
  • ขนาดการดูดความชื้น  1200ml /วัน
  • ประเภท คอมเพรสเซอร์
  • กำลังไฟฟ้า 175W
  • ขนาดห้องที่เหมาะ 15 ตร.ม.
  • ขนาดความจุถังน้ำ 2 L
  • ราคา ฿10,000

6. เครื่องดูดความชื้น Biaowang

อีกหนึ่งเครื่องดูดความชื้นที่มีทั้งขนาดและราคาเหมาะ ๆ กับการใช้ในบ้านก็คงหนีไม่พ้น Biaowang ตัวนี้ ที่มีขนาดกลาง ๆ แต่มีน้ำหนักเบาแค่เพียง 3 กิโลกรัมเท่านั้น ทำให้สามารถนำไปตั้งวางตรงที่ต่าง ๆ ในบ้านได้แบบสบาย ๆ ด้วยคุณสมบัติของตัวเครื่องที่สามารถดูดความชื้นได้กว่าวันละ 15 ลิตร ถือว่าไม่น้อยเลยสำหรับเครื่องดูดความชื้นราคาเบา ๆ แบบนี้ ที่สำคัญคือตัวเครื่องยังมาพร้อมกับรีโมทที่สามารถตั้งโปรแกรมการทำงานได้ บวกกับหน้าจอ LCD ที่ช่วยแสดงผลให้เห็นโปรแกรมการทำงานได้แบบเด่นชัด ถือว่าเป็นเครื่องดูดความชื้นที่คุณสมบัติน่าคบ ใช้งานง่าย และราคาไม่แพงเลยเมื่อเทียบกับคุณสมบัติการใช้งาน

คุณสมบัติ

  • ขนาดตัวเครื่อง 24.5 x 13.7 x 37.5 cm
  • ขนาดการดูดความชื้น  1500ml /วัน
  • ประเภท เดสิคแคนท์
  • กำลังไฟฟ้า  90 วัตต์
  • ขนาดห้องที่เหมาะ 40 ตร.ม.
  • ขนาดความจุถังน้ำ 2.2L
  • ราคา ฿2,416

7. เครื่องดูดความชื้น HAFELE Dehumidifier

เป็นเครื่องดูดความชื้นที่กินไฟเบา ๆ อีกหนึ่งตัวสำหรับเครื่องดูดความชื้น HAFELE Dehumidifier ที่มีความสามารถในการดูดความชื้นแบบเบา ๆ กับขนาดห้องเหมาะสมที่ 20 ตร.ม. และด้วยขนาดเบา ๆ น้ำหนักเพียง 2.2 กิโลกรัมก็สามารถยกย้ายไปไหนต่อไหนในบ้านได้สบาย 

ตัวเครื่องผลิตจากวัสดุ ABS แข็งแรงทนทาน ดีไซน์สีขาวมินิมอลเหมาะกับการตกแต่งในทุกสไตล์ ใช้งานได้เงียบเพียง 42 เดซิเบล จึงนับเป็นอีกหนึ่งเครื่องดูดความชื้นที่เหมาะกับการใช้เบา ๆ ในบ้านอีกตัวหนึ่งเลย 

คุณสมบัติ

  • ขนาดตัวเครื่อง 22.8 x 15.0 x 37.3 cm
  • ขนาดการดูดความชื้น  750ml /วัน
  • ประเภท N/A
  • กำลังไฟฟ้า 45W
  • ขนาดห้องที่เหมาะ 20 ตร.ม.
  • ขนาดความจุถังน้ำ 2L
  • ราคา ฿3,910

8. เครื่องดูดความชื้น Deerma CS90M

หากไม่รวมเครื่องดูดความชื้น Xiaomi เราก็ยังมีเครื่องดูดความชื้น Deerma CS90M ที่เป็นเครื่องดูดความชื้นขนาดพกพาแบบเล็กกะทัดรัดเพียง 7.5 x 7.5 x 20.6 เซนติเมตร สามารถพกพา ใส่กระเป๋าเดินทาง ใส่กล่องเก็บของ หรือใส่ตู้เสื้อผ้าได้แบบไม่ยาก 

จากเครื่องดูดความชื้นที่เป็นประเภทดูดซับความชื้นมักมีพื้นที่สัมผัสอากาศน้อย เครื่องดูดความชื้น Deerma CS90M นั้นต่างออกไปด้วยพื้นที่การสัมผัสอากาศโดยรอบถึง 360 องศา ช่วยให้ดูดซับความชื้นออกจากอากาศได้มากกว่าเดิม ดูดความชื้นได้แบบเบา ๆ ที่ 150ml ต่อการชาร์จไฟหนึ่งครั้ง

คุณสมบัติ

  • ขนาดตัวเครื่อง 7.5 x 7.5 x 20.6 cm
  • ขนาดการดูดความชื้น  150ml /การชาร์จไฟ
  • ประเภท แบบดูดซับความชื้น
  • กำลังไฟฟ้า 20W
  • ขนาดห้องที่เหมาะ 96 ตร.ว.
  • ขนาดความจุถังน้ำ –
  • ราคา ฿1,399

9. เครื่องดูดความชื้น Xiaomi Mi Smarthome

เป็นเครื่องดูดความชื้น Xiaomi ไซส์น่ารัก ๆ อีกตัวหนึ่งที่เราแนะนำเลยสำหรับ เครื่องดูดความชื้น Xiaomi Mi Smarthome ที่มีขนาดเครื่องกะทัดรัดในแบบที่สามารถตั้งโต๊ะได้แบบไม่ยาก น้ำหนักเบาเพียง 0.95 กิโลกรัม ขยับไปไหนมาไหนในบ้านได้แบบสบาย ๆ 

คุณสมบัติการดูดความชื้นถือว่าไม่มากไม่น้อยกับขนาด 0.3 ลิตรต่อวัน เหมาะกับขนาดห้องไม่เกิน 15 ตารางเมตร และยังมีถังน้ำให้ความจุ 0.6 ลิตรที่สามารถใช้แบบเต็มที่ได้กว่า 2 วัน นับเป็นเครื่องดูดความชื้นราคาเบา ๆ ขนาดเบา ๆ ที่ใช้ได้แบบอเนกประสงค์อีกตัวหนึ่งเลย

คุณสมบัติ

  • ขนาดตัวเครื่อง 18.70 x 21.00 x 31.00 cm
  • ขนาดการดูดความชื้น  300ml /วัน
  • ประเภท ไฮบริด
  • กำลังไฟฟ้า 45W
  • ขนาดห้องที่เหมาะ 15 ตร.ม.
  • ขนาดความจุถังน้ำ 0.6L
  • ราคา ฿1,419

10. เครื่องดูดความชื้น HOMEMATE HOM-16H458

มาถึงตัวสุดท้ายกับเครื่องดูดความชื้น HOMEMATE รุ่น HOM-16H458 ตัวนี้ ที่แม้ขนาดจะดูใหญ่อยู่บ้างที่ 41.0 x 26.5 x 66.5 cm และหนักถึง 18 กิโลกรัม แต่คุณสมบัติในการดูดความชื้นนั้นนับว่าไม่เป็นรองรุ่นไหนเลย กับความสามารถในการดูดความชื้นในอากาศได้สูงถึง 40 ลิตรต่อวัน พร้อมถังน้ำความจุ 6 ลิตรในตัวเครื่อง 

ไม่เพียงแค่คุณสมบัติในการดูดความชื้น เครื่องดูดความชื้นตัวนี้ยังมาพร้อมกับคุณสมบัติในการฟอกอากาศด้วยแผ่นกรอง HEPA FITER ถอดทำความสะอาดได้ ใช้งานง่ายด้วยจอ LCD บ่งบอกฟังก์ชั่นการใช้งาน เคลื่อนย้ายสะดวกด้วยล้อและหูจับ ทำงานด้วยเสียงเบาเพียง 48 เดซิเบล นับว่าเป็นเครื่องดูดความชื้นรุ่นหนัก ๆ ครบ ๆ ในคุณสมบัติการใช้งานตัวหนึ่งทีเดียว

คุณสมบัติ

  • ขนาดตัวเครื่อง 41.0 x 26.5 x 66.5 cm
  • ขนาดการดูดความชื้น  4000ml /วัน
  • ประเภท เซมิคอนดักเตอร์
  • กำลังไฟฟ้า 640W
  • ขนาดห้องที่เหมาะ 45 ตร.ม.
  • ขนาดความจุถังน้ำ 6L
  • ราคา ฿24,900

และเหล่านี้ก็คือรีวิว เครื่องดูดความชื้นยี่ห้อไหนดี ที่เรานำมาฝากกันในคราวนี้ ที่มีมาให้แบบครบ ๆ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องดูดความชื้น Xiaomi เครื่องลดความชื้น HOMEMATE หรือ เครื่องดูดความชื้น HAFELE ซึ่งทั้งหมดนี้ก็ได้อัดแน่นด้วยประโยชน์ของเครื่องลดความชื้นมาแบบครบ ๆ เหมาะกับการใช้งานง่าย ๆ ในบ้าน ไปจนถึงการใช้งานแบบเต็มประสิทธิภาพได้เลย ดังนั้นการเลือก dehumidifier หรือเครื่องดูดความชื้นให้ดีควรเลือกให้เหมาะกับการใช้งานและขนาดห้องที่ต้องการใช้ เพื่อไม่ให้สิ้นเปลืองค่าเครื่องและค่าไฟแบบไม่จำเป็น

อ้างอิง:

Shopee TH

Share
Published by
Shopee TH

Recent Posts

แนะนำ 15 รองเท้า Mary Jane ยี่ห้อไหนดี พร้อมเทคนิคเลือก

รองเท้า Mary Jane เป็นหนึ่งในสไตล์รองเท้าตามฉบับผู้ดีอังกฤษ ด้วยสายคาดที่เป็นเอกลักษณ์ รูปทรงคล้ายรองเท้านักเรียนผู้หญิง สวมสะดวก ใส่สบาย ลงตัวเป็นคัทชูที่โดดเด่น เต็มไปด้วยเสน่ห์ จนกลายเป็นรองเท้าแฟชั่นที่อยู่เหนือกาลเวลา ไม่ว่าผ่านเวลาไปนานสักแค่ไหน ‘รองเท้า Mary Jane’…

2 days ago

เคล็ดลับ วิธีทากันแดดที่ถูกต้องเพื่อการปกป้องผิวที่แท้จริงและสูงสุด

ครีมกันแดดคือเครื่องมือปกป้องผิวของคุณจากอันตรายจากรังสียูวีได้ดีที่สุด อย่างไรก็ตาม คุณคิดว่าที่ทาอยู่คือทาถูกหรือยัง? ที่ทาครีมกันแดดอยู่เพียงพอหรือไม่? รู้หรือไม่ว่าผลการวิจัยบอกว่าคนส่วนใหญ่ทาครีมกันแดดไม่พอ? การทาครีมกันแดดอย่างถูกต้องเป็นกุญแจสำคัญสู่ประสิทธิภาพการปกป้องผิวที่แท้จริงจากแสงแดด ในบทความนี้ เราจะแชร์เคล็ดลับวิธีทากันแดดที่ถูกต้องแบบครอบคลุมทุกสิ่งที่คุณจำเป็นต้องรู้ เช่น เวลาที่ควรทากันแดด ปริมาณครีมกันแดด ทาครีมกันแดดก่อนหรือหลังครีมบํารุง หรือ ควรทากันแดดทุกกี่ชั่วโมง เพื่อให้ได้การทาครีมกันแดดที่ถูกต้องและเหมาะสม…

3 days ago

รวมลิสต์เบอร์ฉุกเฉิน ควรเซฟติดมือถือให้อุ่นใจทุกสถานการณ์

ใครที่มีแผนกำลังเดินทางไปต่างจังหวัด หรือใช้ชีวิตประจำวันบนท้องถนน อยากจะแนะนำให้เซฟเบอร์โทรฉุกเฉินต่างๆ ไว้ติดมือถือเพราะสถานการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้นเมื่อใดก็ได้ การเตรียมตัวรับมือไว้ก่อนจะช่วยคลี่คลายสถานการณ์ต่าง ๆ จากหนักกลายเป็นเบาได้ หากได้รับการช่วยเหลือที่รวดเร็วทำให้มีความปลอดภัยทั้งต่อชีวิตและทรัพย์สินมากขึ้นซึ่งวันนี้ช้อปปี้ได้รวบรวมลิสต์เบอร์มือถือสำคัญ ๆ ไว้ให้ชาวแอพส้มของเราได้เซฟเก็บไว้อุ่นใจทุกการเดินทางซึ่งจะมีเบอร์ฉุกเฉินไหนบ้าง ไปเริ่มกันเลย!  Cr: freepik ทำไมถึงควรมีเบอร์ฉุกเฉินติดมือถือ  เบอร์ฉุกเฉิน…

3 days ago

ทําความสะอาดเบาะรถยนต์ด้วยตัวเอง ทำอย่างไร ทำตามได้เลยไม่ยาก

การดูแลเบาะรถยนต์ถือเป็นสิ่งสำคัญในการรักษารูปลักษณ์และยืดอายุการใช้งานของรถ เบาะรถยนต์มีหลายประเภท แต่ละประเภทต้องมีวิธีการดูแลรักษาที่แตกต่างกัน คำแนะนำในการทําความสะอาดเบาะรถยนต์และดูแลรถของคุณให้สะอาดและน่านั่งตามวัสดุ และ ตามคราบที่เกิดขึ้น มีดังนี้ เปิดวิธีทําความสะอาดเบาะรถยนต์ เบาะแบบต่างๆ Cr. Unsplash ### 1. วิธีทําความสะอาดเบาะผ้า รถยนต์…

4 days ago

เปิดแหล่งและวิธีทำ QR Code ร้านค้า ฟรี ทำที่ไหนอย่างไร

ทุกวันนี้ทุกคนคงเคยเห็น QR Code มาแล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่ง QR Code ร้านค้าที่เราเห็นและแสกนจ่ายกันอยู่ทุกวัน แต่ความจริงแล้ว QR Code มาจากไหน มีประวัติอย่างไร ทำงานยังไง และถ้าเราเป็นร้านค้า…

4 days ago

รวมฤกษ์บวช 2567 สำหรับเตรียมตัวบวชเพื่อพ่อแม่ และตนเอง

Credit : Freepik การบวชนั้น ถือเป็นธรรมเนียมและข้อปฏิบัติอย่างหนึ่งของพุทธศาสนิกชนในประเทศไทย ที่มีความเชื่อกันว่า ครั้งหนึ่งลูกผู้ชายควรที่จะบวชเพื่อทดแทนบุญคุณของบุพการีที่เลี้ยงดูเรามาตั้งแต่เด็ก จึงกลายมาเป็นธรรมเนียมที่ผู้ชายนั้นจะบวชในช่วงอายุ 20-25 ปีเพื่อทดแทนบุญคุณให้กับพ่อแม่หรือผู้ปกครองนั่นเอง โดยการบวชนั้น ก็มีการยกเอาเรื่องของฤกษ์ยามมาเป็นสิ่งสำคัญด้วยเช่นกัน ดังนั้น ในบทความนี้ Shopee…

5 days ago