Health

เป็นปากนกกระจอกแล้วเจ็บมาก! มาดูวิธีป้องกันและรักษาปากนกกระจอกกัน

หน้าหนาวแล้วหลายคนคงเริ่มมีอาการตึง ๆ ผิวที่เกิดจากอากาศแห้ง ซึ่งแค่นั้นก็รู้สึกไม่สบายตัวจนต้องหาผลิตภัณฑ์ดูแลผิวมาช่วยเยียวยา แต่ถ้าหากอาการผิวแห้ง ๆ ตึง ๆ ที่ว่านั้นมาเกิดที่บริเวณมุมปาก ซึ่งเป็นบริเวณที่ผิวอ่อนบางทั้งยังต้องมีการขยับแทบจะตลอดวันด้วยแล้ว ก็คงเป็นเรื่องที่เจ็บปวดและน่ากังวลทีเดียว ซึ่งอาการดังกล่าวเป็นอาการเริ่มแรกของ โรคปากนกกระจอก แต่โรคปากนกกระจอกไม่ได้เกิดจากอากาศแห้งจึงรักษาไม่ได้ด้วยการเติมผลิตภัณฑ์บำรุงผิว และหลายคนคงเคยได้ยินว่าปากนกกระจอกขาดวิตามินอะไรสักอย่าง แต่นั่นจะเป็นความเชื่อที่ถูกต้องหรือไม่? ถึงตรงนี้แล้วก็คงไม่ต้องสงสัยนานเพราะบทความนี้เราจะพาเพื่อน ๆ ไปทำความรู้จักกับอาการนี้ให้มากขึ้นกัน

ปากนกกระจอก ภาษาอังกฤษ

โรคปากนกกระจอง ภาษาอังกฤษ คือ Angular cheilitis – AC

อาการปากนกกระจอกเป็นอย่างไร

โรคปากนกกระจอก หรือเรียกในภาษาอังกฤษว่า Angular Cheilitis คืออาการที่ผิวบริเวณมุมปากมีลักษณะแห้งรู้สึกตึงเป็นสะเก็ด อาจมีอาการบวมแดงซึ่งเป็นลักษณะของผิวหนังอักเสบร่วมด้วย บางรายที่มีอาการมากอาจมีตุ่มพองและมีเลือดออกทำให้รู้สึกเจ็บมาก ซึ่งอาการที่เกิดขึ้นอาจเป็นได้ที่บริเวณมุมปากด้านใดด้านหนึ่งหรือทั้งสองด้าน 

ด้วยอาการเหล่านี้ผนวกกับผิวบริเวณริมฝีปากที่มีลักษณะอ่อนบางและเป็นบริเวณที่ต้องใช้งานตลอดวัน ต้องสัมผัสสารต่าง ๆ ทั้งอาหาร และเครื่องดื่ม ทำให้เมื่อเกิดโรคนี้ขึ้นแล้วมักเป็นอาการที่ทำให้ผู้ป่วยรู้สึกรำคาญไปจนถึงเจ็บปวดได้ และเนื่องจากโรคนี้ไม่สามารถรักษาให้หายได้ในระยะสั้น เมื่อเป็นแล้วจึงต้องใช้เวลารักษาและจำเป็นต้องทนอยู่กับอาการนี้ไปเป็นระยะเวลาหนึ่งเลยทีเดียว การศึกษาสาเหตุและดูแลป้องกันไม่ให้เกิดโรคจึงมีความสำคัญมาก

ปากนกกระจอกเกิดจากอะไร

หลายคนอาจเคยได้ยินว่าการขาดวิตามินบีทำให้เป็นโรคปากนกกระจอก แต่จริง ๆ แล้วปากนกกระจอกเกิดจากสาเหตุที่หลากหลาย และในผู้ป่วยบางรายก็อาจมีหลายสาเหตุประกอบกัน ทำให้การวินิจฉัยและรักษาต้องทำอย่างครบถ้วน ซึ่งสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดโรคปากนกกระจอก ได้แก่

  1. เกิดจากการติดเชื้อรา สาเหตุจากเชื้อราเป็นสาเหตุที่พบได้บ่อยโดยเกิดจากเชื้อราแคนดิดา (Candida) ซึ่งเป็นเชื้อราตัวเดียวกับที่ทำให้เกิดโรคผื่นผ้าอ้อมในเด็กทารก ซึ่งการหมักหมมของน้ำลายบริเวณริมฝีปากจะทำให้ปากแห้งแตก และเชื้อราที่อยู่บริเวณนั้นจะใช้สารอาหารจากน้ำลายมาแบ่งตัวและเจริญเติบโตบนผิวหนังบริเวณนั้นจนนำไปสู่การติดเชื้อและอักเสบได้
  2. เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย เช่น เชื้อแบคทีเรีย Staphylococcus Aureus การหมักหมมของน้ำลายที่บริเวณริมฝีปากยังทำให้เชื้อแบคทีเรียที่อยู่ในน้ำลายฝังตัวลงบนผิวหนังและเกิดการติดเชื้อจนผิวหนังบริเวณมุมปากเกิดการอักเสบได้เช่นกัน
  3. เกิดจากการติดเชื้อไวรัส ที่มุมปากอย่าง เริม (Herpes Simplex) เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ผิวบริเวณมุมปากเกิดการอักเสบจนกลายเป็นปากนกกระจอกได้

สาเหตุการเกิดโรคปากนกกระจอกอื่น ๆ

จะพบว่าการอักเสบของผิวบริเวณมุมปากจะเกิดจากสาเหตุโดยตรงอย่างเชื้อจุลชีพเป็นหลัก แต่ก็ยังมีปัจจัยที่ทำให้เป็นโรคปากนกกระจอกได้ง่ายขึ้น อย่างเช่น 

  1. ผู้ที่มีเชื้อราในช่องปาก เช่น เด็กหรือผู้สูงอายุ รวมถึงผู้ที่ใช้ยาบางประเภท
  2. ผู้ที่มีการจัดฟัน เนื่องจากการจัดฟันจำเป็นต้องสวมใส่อุปกรณ์ที่ทำให้รูปปากเปลี่ยนไปจนอาจมีน้ำลายล้นออกมาหมักหมมบริเวณมุมปากได้ง่ายกว่าปกติ
  3. ผู้ที่มีผิวอ่อนบางแพ้ง่าย จะทำให้ผิวได้รับการระคายเคืองและบาดเจ็บจนเกิดการติดเชื้อได้ง่ายกว่าปกติ
  4. ผู้ที่ขาดสารอาหารและวิตามินบางประเภท สาเหตุของปากนกกระจอกวิตามินที่จำเป็นอย่างบีสอง เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ผิวอ่อนแอและบาดเจ็บจนเกิดการอักเสบได้ง่าย
  5. ผู้ป่วยโรคอื่น ๆ เช่น เอดส์ ทำให้ร่างกายมีภูมิต้านทานต่อเชื้อจุลชีพน้อย และก่อให้เกิดการติดเชื้ออักเสบได้ง่ายกว่าปกติ

วิธีป้องกันโรคปากนกกระจอก

จากสาเหตุของโรคปากนกกระจอกที่ได้กล่าวมาแล้ว วิธีป้องกันโรคปากนกกระจอกก็เป็นเรื่องที่ไม่ยากเลย โดยเริ่มจาก

  1. หลีกเลี่ยงการหมักหมมของน้ำลายที่มุมปาก เพื่อลดโอกาสที่เชื้อราหรือแบคทีเรียในน้ำลายจะเกิดการเติบโตจนเกิดเป็นการติดเชื้อบริเวณนั้น
  2. หลีกเลี่ยงปัจจัยที่ก่อให้เกิดแผลที่มุมปาก การเกิดแผลที่มุมปากจะทำให้ผิวบริเวณนั้นบอบบางกว่าปกติและเกิดการติดเชื้อได้ง่าย ทางที่ดีควรดูแลรักษาให้ดี และหากเป็นแผลหรือรู้สึกแสบตึงควรรีบรักษาให้หายตั้งแต่เนิ่น ๆ
  3. รับประทานอาหารที่อุดมด้วยวิตามินที่จำเป็น เช่น วิตามินบีสอง ธาตุเหล็ก และโปรตีน ที่มีประโยชน์ในการบำรุงผิวให้แข็งแรง จะช่วยลดโอกาสการเป็นปากนกกระจอกได้
  4. ใช้ผลิตภัณฑ์เติมความชุ่มชื้นให้ริมฝีปาก เพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นของผิวและเป็นการลดปัจจัยที่จะทำให้ผิวบาดเจ็บ อย่างวาสลีนเจล หรือลิปมัน

ปากนกกระจอกรักษาได้อย่างไร

สำหรับวิธีรักษาปากนกกระจอกเมื่อรู้สาเหตุที่เกิดขึ้นแล้วก็ไม่ใช่เรื่องยาก เพียงแต่การเป็นปากนกกระจอกนั้นเกิดจากเชื้อจุลชีพที่ต้องใช้เวลาในการรักษา จึงอาจต้องมีการรักษาอย่างต่อเนื่องและใส่ใจเป็นพิเศษ 

  • ใช้ยาต้านเชื้อเพื่อลดการอักเสบ ซึ่งแพทย์จะต้องนำตัวอย่างไปวินิจฉัยว่าการเกิดโรคปากนกกระจอกนั้นเป็นเพราะสาเหตุจากเชื้อจุลชีพตัวใด ก็จะมีการจ่ายยาต้านเชื้อเป็นการเฉพาะไปเพื่อให้รักษาได้อย่างตรงจุดมากขึ้น นอกจากนี้ผู้ป่วยเป็นโรคปากนกกระจอกอาจใช้การดูแลรักษาอื่น ๆ เพื่อบรรเทาอาการเจ็บปวดและลดการอักเสบได้ด้วย
  • วิตามินกับการรักษาโรคปากนกกระจอก วิตามินที่มีผลกับโรคนี้คือวิตามินบีสอง ซึ่งอาจรับประทานเป็นวิตามินเสริมเพื่อให้เห็นผลได้เร็วขึ้น
  • การใช้น้ำยาฆ่าเชื้อ โดยใช้ทาบริเวณผิวหนังเพื่อเสริมการทำงานของยาที่รับประทาน
  • การใช้ยาทาปากนกกระจอก มักใช้เป็นผลิตภัณฑ์ประเภทเสตียรอยด์เพื่อลดการอักเสบของผิว
  • ใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวให้ชุ่มชื้น อย่างยาทาปากนกกระจอกในเซเว่นที่อาจใช้ได้เช่น ลิปมัน วาสลีน หรือน้ำมันมะพร้าว ที่จะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นและยืดหยุ่นให้ผิวแข็งแรงขึ้น

ด้วยวิธีการรักษาโรคปากนกกระจอกด้วยการฆ่าเชื้อต้นเหตุจากยาที่รับประทาน ควบคู่ไปกับการรักษาแผลภายนอก ก็จะทำให้แผลจากโรคปากนกกระจอกรักษาให้หายได้เร็วขึ้น

วิธีรักษาปากนกกระจอกด้วยสมุนไพรทางเลือก

นอกจากนี้ยังมีสมุนไพรไทยที่อาจนำมาช่วยรักษาโรคปากนกกระจอกได้  เช่น 

  • ต้นตองแตก (Baliospermum solanifolium (Burm.) Suresh) ใช้ได้โดยนำน้ำยางจากยอดอ่อนมาทาบริเวณที่เป็นแผล
  • ต้นอัคคีทวาร (Rotheca serrata (L.) Steane & Mabb.) ใช้ได้โดยนำใบสดอังไป แล้วนำมาขยี้พอกลงบนแผล
  • ต้นน้ำนมราชสีห์ใหญ่ (Euphorbia hirta L.) ใช้น้ำยางสดทาแผล
  • ต้นสบู่ดำ (Jatropha curcas L.) ใช้ยางจากก้านใบมาป้ายแผล
  • ต้นมะขามเทศ (Pithecellobium dulce (Roxb.) Benth.) ใช้เปลือกชั้นใน 15 กรัม ผสมเกลือป่น 1 ช้อนชา ต้มกับน้ำแล้วนำน้ำมาอมหลังจากแปรงฟันจะช่วยทำให้แผลค่อย ๆ บรรเทาลง

คราวนี้เราก็ได้มาทำความรู้จักกับโรคปากนกกระจอกกัน  ซึ่งบางอย่างอาจไม่เหมือนกับที่เคยได้ยินมา แต่ที่แน่นอนคือการเป็นโรคนี้นั้นไม่สนุกและเจ็บมาก ซึ่งเพื่อน ๆ สามารถหลีกเลี่ยงได้ด้วยการดูแลผิวบริเวณริมฝีปากอย่างถูกต้องเพื่อไม่ให้ต้องเผชิญกับความเสี่ยงกับการเป็นโรคนี้ได้

แหล่งข้อมูล : pobpad, thaijobsgov

Feature Image Credit :freepik

Nin ST

Joined SEO team in 2023, Nin enjoyed creating lifestyle, home & living, and pets-related articles for share as she has furbabies herself - 4 fluffy British short-hair cats :)

Share
Published by
Nin ST

Recent Posts

สัญลักษณ์รีโมทแอร์ คืออะไร? แปลความหมายทุกปุ่มที่ควรรู้

เข้าใจสัญลักษณ์บนรีโมทแอร์ บทความนี้รวมทุกสัญลักษณ์ที่ควรรู้ ตั้งแต่โหมดเย็น Dry Fan Auto ไปจนถึง Sleep Mode อ่านจบใช้แอร์ได้อย่างมืออาชีพ

2 weeks ago

ของใส่บาตรมีอะไรบ้าง? รวมไอเดียใส่บาตรข้าวสารอาหารแห้งให้ได้บุญ

มาดูรายการ ของใส่บาตร ข้าวสารอาหารแห้ง พร้อมแนะนำใส่กี่อย่างถึงจะดี ทั้งสะดวกและได้อานิสงส์เต็มที่ ใส่บาตรให้ได้บุญแล้ว ต้องรู้จักเลือกของถวาย อย่างเหมาะสมด้วย

2 weeks ago

เล่มเขียวมอเตอร์ไซค์คืออะไร สำคัญแค่ไหน หากหายทำอย่างไร

เล่มเขียวหายไม่ต้องตกใจ! มาดูวิธีขอเล่มทะเบียนมอเตอร์ไซค์ใหม่ ตั้งแต่เอกสารที่ใช้ ขั้นตอนที่ขนส่ง ไปจนถึงค่าใช้จ่าย พร้อมคำแนะนำสำหรับรถมือสอง

2 weeks ago

หม้ออบลมร้อนยี่ห้อไหนดี คัดมาแล้ว 11 รุ่นเด็ด เพื่อเมนูสุขภาพ ทำง่ายได้ทุกวัน

แนะนำหม้ออบลมร้อน แบบไหนดี สำหรับคนชอบทำอาหารในบ้าน พร้อมแนะนำรุ่นยอดนิยม ทั้งราคาน่าซื้อ ดีไซน์สวย และฟังก์ชันครบ

3 weeks ago

Soft Power คืออะไร? ถอดรหัส Soft Power ไทยที่สร้างมูลค่ามหาศาล

รู้จัก Soft Power พลังที่ขับเคลื่อนประเทศผ่านวัฒนธรรม แฟชั่น อาหาร และความคิดสร้างสรรค์ พร้อมยกตัวอย่าง Soft Power ของไทยที่กำลังสร้างชื่อบนเวทีโลก

4 weeks ago

รวมคำอวยพรวันเกิดผู้ใหญ่ ทั้งไทย-อังกฤษ ไม่พลาดทุกโอกาสสำคัญ

รวมคำอวยพรวันเกิดผู้ใหญ่ ทั้งภาษาไทยและอังกฤษกว่า 200 แบบ ใช้ได้กับเจ้านาย ลูกค้า หรือญาติผู้ใหญ่ พร้อมตัวอย่างคำพูดสุภาพและมารยาทที่ควรรู้

4 weeks ago