Categories: Health

ถอดรหัสอาการปวดท้อง: ปวดท้องตรงไหนบอกอะไรเกี่ยวกับสุขภาพของคุณ

อาการปวดท้องเป็นโรคทั่วไปที่พวกเราหลายคนประสบในช่วงใดช่วงหนึ่งของชีวิต แม้ว่าหลายครั้งคุณอาจจะแค่ปวดนิดๆแล้วก็พยายามมองข้ามว่ามันเป็นความรู้สึกไม่สบายท้องชั่วคราว เดี๋ยวก็หาย แต่การใส่ใจกับตำแหน่งปวดท้องสามารถพอบอกได้ว่าคุณอาจจะเป็นโรคอะไรอยู่เพื่อคุณจะได้ไปหาหมอและแก้ก่อนจะสาย ในบทความนี้เราจะมาเจาะลึกถึง ส่วนต่างๆ ของท้อง กระเพาะอาหาร อาการเจ็บท้อง และความเจ็บปวดในแต่ละบริเวณว่า ปวดท้องตรงไหนบอกอะไร หรือคุณมีความเสี่ยงเป็นโรคอะไรอยู่

หัวข้อต่างๆ ของบทความนี้

สาเหตุของอาการปวดท้อง

ก่อนอื่น ลองไปดูก่อนว่า สาเหตุที่ทำให้ปวดท้องได้ มีอะไรได้บ้าง

ปัญหาระบบทางเดินอาหาร

เช่น

  • โรคกระเพาะ: การอักเสบของเยื่อบุกระเพาะอาหารอาจทำให้เกิดอาการปวดท้องได้ อาจเกิดจากการติดเชื้อ ยาบางชนิด หรือการดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไป
  • แผลในกระเพาะอาหาร: แผลเปิดที่เกิดขึ้นที่เยื่อบุชั้นในของกระเพาะอาหารหรือลำไส้เล็กอาจทำให้เกิดอาการปวดแสบร้อนหรือแทะได้

ความผิดปกติของระบบย่อยอาหาร

เช่น

  • โรคกรดไหลย้อน (GERD): กรดในกระเพาะอาหารไหลกลับเข้าสู่หลอดอาหารอาจทำให้เกิดอาการแสบร้อนในช่องท้องส่วนบนหรือขึ้นไปถึงหลอดอาหารได้
  • อาการลำไส้แปรปรวน (IBS): ความผิดปกติของลำไส้ที่เกิดจากการทำงานซึ่งมีอาการปวดท้อง ท้องอืด และการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของลำไส้

การอักเสบ

เช่น

  • โรคลำไส้อักเสบ (IBD): สภาวะเช่นโรค Crohn และอาการลำไส้ใหญ่บวมเป็นแผลอาจทำให้เกิดอาการปวดท้อง ท้องร่วง และอักเสบของระบบทางเดินอาหาร
  • โรคถุงผนังลำไส้อักเสบ: การอักเสบหรือการติดเชื้อของถุงเล็กๆ (diverticula) ในระบบทางเดินอาหารอาจทำให้เกิดอาการเจ็บท้องส่วนล่างได้

ปัญหาสุขภาพการเจริญพันธุ์

เช่น

  • ถุงน้ำรังไข่: ถุงที่เต็มไปด้วยของเหลวในรังไข่อาจทำให้เกิดอาการปวดกระดูกเชิงกรานหรือรู้สึกไม่สบายท้องส่วนล่างโดยเฉพาะในสตรี
  • Endometriosis: การมีเนื้อเยื่อมดลูกอยู่นอกมดลูกอาจทำให้เกิดอาการปวดกระดูกเชิงกรานอย่างรุนแรง

ปัญหาเฉพาะอวัยวะ

เช่น

  • ไส้ติ่งอักเสบ: การอักเสบของไส้ติ่งอาจทำให้เกิดอาการปวดเฉียบพลันในช่องท้องด้านขวาล่าง ซึ่งมักต้องได้รับการผ่าตัด
  • นิ่วในถุงน้ำดี: การสะสมที่แข็งตัวในถุงน้ำดีอาจทำให้เกิดอาการปวดอย่างรุนแรง โดยเฉพาะในช่องท้องด้านขวาบน

เข้าใจกายวิภาคของท้องและตำแหน่งปวดท้อง

เพื่อให้เข้าใจถึงความสำคัญของอาการปวดท้อง สิ่งสำคัญคือต้องเข้าใจกายวิภาคของกระเพาะอาหารก่อน กระเพาะอาหารแบ่งออกเป็นสี่ส่วนหลัก ได้แก่ ด้านซ้ายบน ด้านขวาบน ด้านซ้ายล่าง และขวาล่าง แต่ละส่วนมีอวัยวะและโครงสร้างที่แตกต่างกัน และความเจ็บปวดในบริเวณเหล่านี้สามารถชี้ไปที่ปัญหาที่ซ่อนอยู่ได้

ปวดท้องตรงไหนบอกอะไร ตรงนั้นมีอวัยวะอะไรบ้าง

1. ปวดท้องด้านซ้ายบน ป่วยเป็นอะไร

พื้นที่ท้องฝั่งซ้ายบนของคุณ เป็นที่ตั้งของกระเพาะอาหาร ม้าม และส่วนหนึ่งของลำไส้ใหญ่ หากคุณมีอาการปวดบริเวณนี้ อาจเชื่อมโยงกับปัญหาต่างๆ เช่น โรคกระเพาะ ความผิดปกติของม้ามโต หรือแม้แต่ปัญหาเกี่ยวกับส่วนบนของลำไส้ใหญ่ การทำความเข้าใจลักษณะของความเจ็บปวด เช่น ความรุนแรง และอาการอื่นๆ ร่วมด้วย สามารถช่วยในการระบุสาเหตุที่แท้จริงได้

ตัวอย่างโรคที่เสี่ยงถ้าปวดท้องด้านซ้ายบน:

  • โรคกระเพาะ
  • ม้ามโต
  • ลำไส้ส่วนบนอักเสบ

2. ปวดท้องด้านขวาบน ป่วยเป็นอะไร

เมื่อเคลื่อนไปยังพื้นที่ฝั่งขวาบน เราจะพบตับ ถุงน้ำดี และส่วนหนึ่งของลำไส้ใหญ่ อาการเจ็บท้องบริเวณนี้อาจส่งสัญญาณถึงปัญหาต่างๆ เช่น นิ่วในถุงน้ำดี ตับอักเสบ หรือปัญหาเกี่ยวกับถุงน้ำดี การรู้ว่าความเจ็บปวดนั้นรุนแรง ทื่อ หรือเป็นสัญญาณที่จะช่วยบ่งชี้ถึงสาเหตุที่อาจเป็นไปได้ได้ชัดเจนขึ้น

ตัวอย่างโรคที่เสี่ยงถ้าปวดท้องด้านขวาบน:

  • นิ่วในถุงน้ำดี
  • ตับอักเสบ
  • ถุงน้ำดีอักเสบ

3. ปวดท้องด้านซ้ายล่าง ป่วยเป็นอะไร

ปวดท้องบริเวณซ้ายล่าง ต้องดูอีกเช่นกันว่มีอวัยวะอะไรอยู่บริเวณนั้นบ้าง ตรงนี้ประกอบด้วยลำไส้ใหญ่ รังไข่ด้านซ้าย (ในเพศหญิง) และลำไส้ใหญ่ซิกมอยด์ บุคคลที่ประสบอาการปวดบริเวณนี้อาจต้องเผชิญกับภาวะต่างๆ เช่น โรคถุงผนังลำไส้อักเสบ ซีสต์รังไข่ หรือปัญหาเกี่ยวกับลำไส้ใหญ่ แต่ยังไงก็ต้องพิจารณาร่วมกับปัจจัยต่างๆที่เกิดขึ้นกับคุณเองด้วย เช่น ระยะเวลาของความเจ็บปวด ปัจจัยที่ทำให้รุนแรงขึ้นหรือบรรเทาลง เพราะเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้การประเมินว่าเป็นโรคอะไรแม่นยำยิ่งขึ้น

ตัวอย่างโรคที่เสี่ยงถ้าปวดท้องด้านซ้ายล่าง:

  • ลำไส้อักเสบเฉียบพลัน
  • เนื้องอกในลำไส้
  • ปีดมดลูกด้านซ้ายอักเสบ
  • (ถ้าปวดค่อนมาตรงกลางท้อง) กระเพาะปัสสาวะอักเสบ หรือ นิ่วในกระเพาะปัสสาวะ

4. ปวดท้องด้านขวาล่าง ป่วยเป็นอะไร

สุดท้าย ส่วนล่างขวาประกอบด้วยไส้ติ่ง ลำไส้ใหญ่ส่วนต้นเหนือท้องน้อย(cecum) และลำไส้เล็กส่วนหนึ่ง อาการปวดบริเวณนี้อาจบ่งบอกถึงไส้ติ่งอักเสบ ความผิดปกติของช่องท้อง หรือการอักเสบในลำไส้เล็ก การตระหนักว่าความเจ็บปวดเกิดขึ้นเฉพาะที่หรือแผ่ไปยังบริเวณอื่นๆ สามารถช่วยแยกแยะสาเหตุที่เป็นไปได้ได้

ตัวอย่างโรคที่เสี่ยงถ้าปวดท้องด้านขวาล่าง:

  • ไส้ติ่งอักเสบ
  • ลำไส้เล็กอักเสบ
  • ท่อไตขวาอักเสบ
  • (ถ้าปวดค่อนมาตรงกลางท้อง) มดลูกอักเสบ

ประเภทของอาการเจ็บท้อง

นอกจาก ตำแหน่งปวดท้อง หรือ ปวดท้องตรงไหนบอกอะไร ปวดท้องตรงไหนเสี่ยงเป็นอะไร ความจริงแล้วรูปแบบของอาการปวดท้องยังสามารถเป็นตัวบ่งชี้ได้เช่นกันว่าอวัยวะส่วนใดของเรากำลังมีปัญหา นอกจากตำแหน่งแล้วคุณควรสังเกตอาการเจ็บท้องเช่นกันว่าเป็นแบบใดเพื่อให้คุณวิเคราะห์เบื้องต้น หรือให้แพทย์ช่วยตัดสินว่าน่าจะเป็นโรคอะไร และต้องทานยาหรือปฏิบัติตัวอย่างไร

1. อาการปวดเฉียบพลันและฉับพลัน

  • ไส้ติ่งอักเสบ: อาการปวดเริ่มต้นบริเวณสะดือและลามไปยังช่องท้องด้านขวาล่าง มักจะรุนแรงขึ้นอย่างรวดเร็ว
  • นิ่วในไต: อาการปวดเฉียบพลันบริเวณหลังส่วนล่างหรือด้านข้างสามารถลามไปยังช่องท้องส่วนล่างได้

2. อาการปวดท้องแบบรู้สึกแสบร้อน

  • แผลในกระเพาะอาหาร: ความเจ็บปวดมักถูกอธิบายว่าเป็นความรู้สึกแสบร้อนในช่องท้องส่วนบน บางครั้งบรรเทาได้ด้วยการรับประทานอาหารหรือรับประทานยาลดกรด
  • กรดไหลย้อน (GERD): รู้สึกแสบร้อนที่หน้าอกหรือช่องท้องส่วนบน โดยเฉพาะหลังรับประทานอาหาร

3. ปวดเหมือนตะคริว

  • ปวดประจำเดือน: ผู้หญิงอาจมีอาการปวดคล้ายตะคริวที่ช่องท้องส่วนล่างระหว่างมีประจำเดือน
  • อาการลำไส้แปรปรวน (IBS): ปวดท้องเป็นตะคริวมักมาพร้อมกับการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของลำไส้

4. ปวดตื้อ ปวดเสียด

  • โรคกระเพาะ: อาการปวดทึบในช่องท้องส่วนบน มักแย่ลงเมื่อรับประทานอาหาร
  • อาการท้องผูก: รู้สึกไม่สบายอย่างต่อเนื่องเนื่องจากอุจจาระลำบาก

5. อาการปวดบิด

  • โรคนิ่ว: ปวดเป็นตะคริวเป็นระยะๆ ในช่องท้องด้านขวาบน มักเกิดจากอาหารที่มีไขมัน
  • อาการจุกเสียดไต: อาการปวดตะคริวอย่างรุนแรงที่เกิดจากการผ่านนิ่วในไต

การทำความเข้าใจประเภทของอาการเจ็บท้องและอาการที่เกี่ยวข้องสามารถช่วยในการระบุสาเหตุที่แท้จริงได้ แต่อย่างไรก็ตาม ไปหาหมอและให้แพทย์วินิจฉัย ยังไงก็เป็นการรักษาที่น่าเชื่อถือกว่าเพราะเป็นบุคลากรที่ศึกษาเฉพาะทางมาและเชี่ยวชาญ


ปวดท้อง ทำยังไงดี

อาการปวดท้องอาจทำให้คุณรำคาญและไม่สบายตัว แต่ก็มีหลายวิธีที่คุณสามารถทำได้เพื่อบรรเทาอาการไม่สบายหรือพิจารณาว่าจำเป็นต้องไปหาหมอหรือไม่ ต่อไปนี้เป็นรายการสิ่งที่คุณทำได้เพื่อจัดการกับอาการปวดท้องหรืออาการเจ็บท้องที่เกิดขึ้น

1. ประเมินความรุนแรง

ประเมินความรุนแรงและลักษณะของความเจ็บปวด อาการปวดที่รุนแรง ต่อเนื่อง หรือแย่ลงอาจต้องได้รับการดูแลจากแพทย์ทันที ลองคิดดูว่าถ้าปวดแบบทนไม่ได้คือ 10 และไม่ปวดเลยคือ 0 คุณปวดอยู่ที่ระดับใด

2. ระบุตัวการ สาเหตุ หรือ ตัวกระตุ้นที่เป็นไปได้

ลองคิดถึงอาหารที่พึ่งกินมาไม่นาน กิจกรรม หรือความเครียดที่เพิ่งเกิดขึ้น ซึ่งอาจกระตุ้นให้เกิดความเจ็บปวด การระบุสาเหตุที่เป็นไปได้จะช่วยให้คุณจดจำ ทดสอบ และอาจสามารถช่วยป้องกันการปวดท้องในอนาคตได้ด้วยการลดตัวต้นเหตุ

3. ปรับเปลี่ยนอาหาร

เลือกทานอาหารที่ย่อยง่าย เช่น ข้าว ข้าวต้ม หรือกล้วย หลีกเลี่ยงอาหารรสเผ็ด มันเยิ้ม หรือมีกรดมากเกินไปที่อาจทำให้ระคายเคืองกระเพาะอาหารมากขึ้น อย่างส้มตำ น้ำพริก ของดอง ชาบูหม่าล่า ให้งดก่อนเลย

4. ดื่มน้ำให้เพียงพอ

ดื่มน้ำปริมาณมากเพื่อให้ร่างกายไม่ขาดน้ำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากอาการปวดเกิดขึ้นพร้อมกับอาเจียนหรือท้องเสีย หากท้องเสียควรทานน้ำเกลือแร่เพื่อเติมน้ำให้ร่างกาย ดื่มน้ำที่อุณหภูมิห้องหรืออุ่นเพียงเล็กน้อย ไม่ต้องดื่มน้ำร้อนหรือเย็น หรือลองจิบชาสมุนไพร เช่น เปปเปอร์มินต์หรือขิง ซึ่งขึ้นชื่อเรื่องคุณสมบัติผ่อนคลาย ร่วมด้วยก็ได้

5. ซื้อยาจากร้านขายยา

ยาลดกรด หรือ ยาช่วยย่อย สามารถช่วยทำให้กรดในกระเพาะเป็นกลางและบรรเทาอาการอาหารไม่ย่อยได้

ยาที่จำหน่ายหน้าเคาน์เตอร์ เช่น ไอบูโพรเฟนหรืออะเซตามิโนเฟน (หรือที่รู้จักกันในชื่อ พาราเซตามอล) อาจช่วยรักษาอาการปวดเล็กน้อยได้ แต่ควรหลีกเลี่ยงหากคุณสงสัยว่าอาการปวดของคุณเกี่ยวข้องกับแผลในกระเพาะอาหาร

6. ใช้ความร้อนหรือเย็น

วางแผ่นความร้อนบนหน้าท้องของคุณสำหรับอาการปวดคล้ายตะคริว หรือ ปวดประจำเดือน หรือใช้การประคบเย็นเพื่อลดการอักเสบหรือบวมหากบริเวณท้องคุณปวดช้ำ

7. การพักผ่อน ผ่อนคลาย ทำสมาธิ

หยุดพักและให้ร่างกายของคุณได้พักผ่อน อย่าขยับตัวหรือใช้ความคิดมาก เพราะความเครียดอาจทำให้ปัญหากระเพาะอาหารรุนแรงขึ้นได้ ดังนั้นให้ลองฝึกเทคนิคการผ่อนคลาย เช่น การหายใจเข้าลึกๆ หรือการทำสมาธิ

8. หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ บุหรี่ กัญชา

ทั้งแอลกอฮอล์และบุหรี่ สารเสพติด รวมถึงบุหรี่ไฟฟ้า อาจทำให้เยื่อบุกระเพาะอาหารหรือระบบทางเดินหายใจระคายเคืองได้ การหลีกเลี่ยงสิ่งเหล่านี้อาจช่วยบรรเทาอาการปวดได้

9. ลองกินโพรไบโอติก

โพรไบโอติกสามารถส่งเสริมสมดุลของแบคทีเรียในลำไส้และอาจเป็นประโยชน์ต่อปัญหาทางเดินอาหารบางอย่าง

10. ติดตามอาการ ทำการจด

หากอาการปวดท้องของคุณเริ่มเกิดขึ้นหลายวัน หรือมีอาการขึ้นๆลงๆ เป็นบ้างไม่เป็นบ้าง ลองติดตามอาการของคุณ รวมถึงประเภทของความเจ็บปวด ระยะเวลา และปัจจัยที่เกี่ยวข้อง ข้อมูลนี้อาจมีประโยชน์เมื่อปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกร

11. ไปพบแพทย์หากจำเป็น

หากอาการปวดรุนแรง ต่อเนื่อง (ปวดท้องมากนานกว่า 6 ชั่วโมงแล้วไม่ดีขึ้น) หรือมีอาการที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม (มีไข้ อาเจียนเป็นเลือด อุจจาระสีดำ) ปวดจนขยับตัว/กินอาหาร/หรือนอนไม่ได้ ปวดท้องมากร่วมกับอาเจียนเกิน 3 ครั้ง ปวดร่วมกับมีไข้หรือท้องเสียหนัก ให้ไปพบแพทย์ทันที

12. ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพ

หากอาการปวดยังคงอยู่หรือเกิดขึ้นอีกบ่อยครั้ง ให้ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพเพื่อรับการตรวจและวินิจฉัยอย่างละเอียด


ตำแหน่งปวดท้องกับโรค เป็นไปได้หลายอย่าง อย่ามองข้ามความเสี่ยง

การถอดรหัสอาการปวดท้องตามตำแหน่งเป็นเครื่องมืออันทรงคุณค่าในการระบุปัญหาสุขภาพที่อาจเกิดขึ้น อย่างไรก็ตาม จำเป็นต้องปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพเพื่อรับการวินิจฉัยที่ถูกต้องและการรักษาที่เหมาะสม การใส่ใจกับความแตกต่างของอาการเจ็บท้องจะทำให้คุณสามารถดำเนินการเชิงรุกเพื่อทำความเข้าใจและแก้ไขสาเหตุที่แท้จริงของอาการไม่สบายได้ โปรดจำไว้ว่าร่างกายของคุณมักจะสื่อสารผ่านความเจ็บปวด ขึ้นอยู่กับเราที่จะฟังและตีความสัญญาณที่ร่างกายส่งไป

Credit: 

Shopee TH

Share
Published by
Shopee TH

Recent Posts

ของต้องมี 8 ไอเทมจัดของในรถ หยิบใช้ง่าย เป็นระเบียบเรียบร้อย

เคยรู้สึกไหมว่าทำไมรถรกจังเลย! ข้าวของในรถก็มีมากมายทำให้วางอะไรก็ไม่เป็นระเบียบ เวลาจะหาของอะไรแต่ละอย่างก็ไม่ค่อยจะเจอ เวลาซื้อของมากินก็ไม่มีที่วาง ทำให้กินไม่ถนัดหกเลอะเทอะไปหมด ต้องบอกเลยว่าหลายคนใช้เวลาอยู่บนรถเป็นเวลานานจนรถยนต์แทบจะเป็นบ้านหลังที่สองเลย จึงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรที่โยนสัมภาระข้าวของเพื่ออำนวยความสะดวกมากมายมาไว้ที่รถยนต์ จนทำให้รถดูรกไปหมดเลย วันนี้ Shopee จึงอยากจะมาแนะนำ 8 สุดยอดไอเทม จัดของในรถที่ช่วยให้จัดระเบียบสัมภาระภายในรถยนต์ให้หยิบใช้ง่ายและประหยัดพื้นที่ใช้สอยในรถยนต์ ไม่รอช้าตามเราไปดูกันเลย…

2 days ago

7 เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ ยี่ห้อไหนดี ช่วยลดฝุ่น เพิ่มอากาศสดชื่น

ปัญหามลพิษทางอากาศ อีกหนึ่งปัญหาที่หลายคนจะต้องพบเจอเป็นประจำทุกวันและเป็นปัญหาที่หลีกเลี่ยงได้ยาก ไม่ว่าจะฝุ่น PM 2.5 ควันรถ ควันพิษ หรือกลิ่นไม่พึงประสงค์ต่าง ๆ เมื่อสูดดมเข้าสู่ร่างกายทุกวันก็อาจจะส่งผลต่อสุขภาพได้ โดยเฉพาะใครที่ต้องอยู่บนรถยนต์นานวันละหลายชั่วโมง หากภายในรถยนต์สกปรกหรือว่ามีอากาศไม่สะอาดบริสุทธ์ย่อมจะส่งผลเสียต่อสุขภาพได้ในระยะยาวและยังทำให้ความสุขในการขับขี่ลดลงด้วย ดังนั้นจึงควรมีเครื่องฟอกอากาศในรถ ช่วยกรองอากาศ ดักจับฝุ่น…

2 days ago

รวม 9 ค้อนทุบกระจก วัสดุแข็งแรง ราคาย่อมเยา พร้อมวิธีใช้ค้อนทุบกระจก

เมื่อพูดถึงอุปกรณ์ฉุกเฉินที่รถยนต์ทุกคันควรจะต้องมี หลายคนอาจนึกถึงอุปกรณ์ กล้องติดรถยนต์ ยางอะไหล่สำรอง ปั๊มลมพกพา สายพ่วงแบตเตอรี่ ไฟฉาย และอุปกรณ์อื่น ๆ แต่อีกอุปกรณ์หนึ่งที่สำคัญและควรต้องมีติดรถยนต์ไว้เลยอีกอย่างนั่นก็คือ ค้อนทุบกระจก เป็นอุปกรณ์ฉุกเฉินติดรถยนต์ที่ไว้ใช้ในกรณีฉุกเฉิน เช่น เมื่อรถประตูรถล็อกไม่สามารถเปิดออกได้ หรือรถยนต์เกิดอุบัติเหตุจมน้ำ…

2 days ago

10 พรมปูพื้นรถยนต์ แบบไหนดี เข้ารูป ทนทาน ยกระดับความหรูหราภายในรถยนต์

พรมปูพื้นรถยนต์ อีกหนึ่งอุปกรณ์จำเป็นรถยนต์ทุกคันควรต้องมี! เพราะนอกจากจะช่วยเพิ่มความสวยงามและความหรูหราให้กับรถยนต์แล้ว ก็สามารถช่วยดักจับฝุ่นละอองและสิ่งสกปรกที่ติดมากับรองเท้า เพื่อช่วยให้การขับขี่รถยนต์เป็นไปอย่างปลอดมากยิ่งขึ้น รวมถึงป้องกันการลื่นเวลาก้าวเท้าเข้าสู่ตัวรถยนต์ หากไม่มีผ้ายางรองพื้นรถยนต์หรือพรมรถยนต์ก็จะทำให้ในรถมีฝุ่นและสิ่งสกปรกต่าง ๆ นอกจากนี้ยังช่วยถนอมพื้นรถด้านในให้ดูสะอาดอีกด้วย ซึ่งปัจจุบันพรมปูพื้นรถยนต์มีด้วยกันหลากหลายรูปแบบ ทำให้ผู้ใช้งานรถยนต์มีตัวเลือกมากขึ้น และบทความนี้ Shopee อยากมาจะบอกถึงความสำคัญและประโยชน์ของพรมรถยนต์ วิธีการเลือก…

3 days ago

7 ลุค 7 สไตล์ แต่งตัวไปสวนสัตว์แบบแฟชั่นนิสต้า พร้อมลุยทุกโซน!

ใครบอกว่าไปสวนสัตว์ต้องแต่งตัวธรรมดา เตรียมตะลุยสวนสัตว์กับ 7 ลุคสุดปังที่จะทำให้คุณกลายเป็นแฟชั่นนิสต้าตัวแม่! พร้อมบอกเคล็ดลับการแต่งตัวไปสวนสัตว์ให้เหมาะกับกิจกรรมต่าง ๆ ในสวนสัตว์ เพื่อการเคลื่อนไหวได้คล่องตัวในทุกโซน พร้อมสนุกไปกับการผจญภัยในโลกของสัตว์แบบไม่มีอะไรมาขวางกั้น! คู่มือแต่งตัวไปสวนสัตว์อย่างไรให้คล่องตัว 1. หลีกเลี่ยงสีสันฉูดฉาด: เช่น สีแดง เนื่องจากสีที่สดใสฉูดฉาดอาจดึงดูดความสนใจของสัตว์…

7 days ago

แนะนำ 6 อุปกรณ์ป้องกันน้ำท่วม มีอะไรบ้าง ที่ช่วยปกป้องบ้านคุณให้ปลอดภัย

ในช่วงฤดูฝนหรือเวลาที่เกิดน้ำท่วมฉับพลัน บ้านเรือนและทรัพย์สินมักเสี่ยงต่อการถูกน้ำท่วมได้ง่าย ๆ การมีอุปกรณ์ป้องกันน้ำท่วมที่เหมาะสมจึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้คุณสามารถปกป้องทรัพย์สินและลดความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นได้ แน่นอนว่าการป้องกันน้ำท่วมนั้นสามารถเตรียมการได้ตั้งแต่เนิ่น ๆ และไม่ควรเตรียมตัวในวินาทีสุดท้าย เพราะหากไม่ได้เตรียมตัวไว้ และอยู่ในพื้นที่เสี่ยง ค่าเสียหายที่เกิดขึ้นอาจจะสูงกว่าค่าใช้จ่ายที่ลงทุนไปกับการซื้ออุปกรณ์ป้องกันน้ำท่วม ดังนั้น ในบทความนี้ Shopee Blog จะมาแนะนำ…

2 weeks ago