Categories: Sports

สุขภาพดีได้ที่บ้าน ไม่ต้องง้อฟิตเนส! 10 ลู่วิ่งไฟฟ้า ยี่ห้อไหนดี วิ่งดี เบิร์นไว ปลอดภัย ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์

การออกกำลังกาย เป็นส่วนสำคัญที่ช่วยให้ร่างกายแข็งแรง แต่ด้วยข้อจำกัดเรื่องเวลา สภาพอากาศ หรือความสะดวกในการเดินทางไปเข้าฟิตเนส เพราะบ้านอยู่ไกลจากฟิตเนส กว่าจะเดินทางไปถึงแล้วกลับบ้านก็ทำให้ท้อจนไม่อยากจะออกกำลังกาย

ทำให้หลายคนมองหาทางเลือกใหม่ ๆ ในการออกกำลังกายที่บ้าน ด้วยการหาซื้อเครื่องออกกำลังกายประเภทต่าง ๆ มาไว้ที่บ้าน เพื่อช่วยให้ออกกำลังกายได้ง่ายขึ้น และอุปกรณ์ออกกำลังกายที่ได้รับความนิยมซื้อมาไว้ที่บ้านกันมากนั่นก็คือ “ลู่วิ่งไฟฟ้า” เป็นหนึ่งในอุปกรณ์ยอดนิยม ที่ตอบโจทย์ได้อย่างลงตัว ด้วยความสามารถในการจำลองการวิ่งหรือเดินได้อย่างอิสระ ไม่ว่าฝนจะตก แดดจะออก หรือเวลาจะดึกแค่ไหน คุณก็สามารถฟิตร่างกายได้ทุกวัน

วันนี้ Shopee อยากจะมาแนะนำ 10 ลู่วิ่งไฟฟ้า ยี่ห้อไหนดี ฟังก์ชันครบ ให้คุณฟิตง่าย ๆ ที่บ้าน มีรุ่นไหน ยี่ห้ออะไรบ้าง ตามไปดูกัน

Cr: freepik.com

หัวข้อต่างๆ ของบทความนี้

รู้จักกับ “ลู่วิ่งไฟฟ้า” คืออะไร

ลู่วิ่งไฟฟ้า (Treadmill) คือเครื่องออกกำลังกายอีกประเภทหนึ่ง ซึ่งเป็นการจำลองการเดิน การวิ่ง หรือจ็อกกิ้ง โดยมีสายพานเคลื่อนที่ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า ผู้ใช้งานสามารถปรับความเร็ว ความชัน และโปรแกรมการออกกำลังกายได้ตามต้องการ จะช่วยให้สามารถควบคุมการฝึกได้อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัยยิ่งขึ้น

วิ่งบนลู่วิ่งไฟฟ้า VS วิ่งกลางแจ้ง ต่างกันยังไง? แบบไหนดีกว่ากัน?

การวิ่งนับเป็นการออกกำลังกายที่ได้รับความนิยม เพราะทำได้ง่ายและมีประโยชน์สุขภาพร่างกายมากมาย แต่หลายครั้งมักจะมีพูดเปรียบเทียบ หรือตั้งคำถามอยู่เสมอว่าการ การวิ่งบนลู่วิ่งไฟฟ้า กับ การวิ่งกลางแจ้ง แบบไหนดีกว่ากันหรือมีความแตกต่างกันยังไง ต้องบอกว่าการวิ่งทั้งสองประเภทนี้จะมีความแตกต่างกันอยู่เล็กน้อย

  • วิ่งบนลู่วิ่งไฟฟ้า สามารถวิ่งได้ทุกเมื่อที่ต้องการ โดยไม่ต้องกังวลว่าฝนตก แดดออก หรือมีฝุ่น pm 2.5 เยอะแค่ไหน เพราะวิ่งอยู่ที่บ้าน อีกทั้งยังสามารถเพิ่มความท้าทายในการวิ่ง ด้วยฟังก์ชันต่าง ๆ เช่น มีการกำหนดความเร็ว ความชัน โปรแกรมการวิ่ง เพื่อจะเพิ่มสมรรถนะการออกกำลังกายให้ไปเป็นตามเป้าหมายที่กำหนดได้อีกด้วย
  • วิ่งกลางแจ้ง อย่างแรกที่ต้องคือสภาพอากาศที่ควบคุมไม่ได้ เช่น ฝุ่นควัน ความร้อนจากแสงแดด หรือฝนตก แต่ก็มีข้อดีตรงที่ว่ายังได้สัมผัสธรรมชาติที่สดชื่น และช่วยให้กล้ามเนื้อแข็งแรงได้ใช้งานทุกส่วนจากการวิ่งต้านแรงลมมากขึ้น จึงช่วยให้ร่างกายเผาผลาญแคลอรี่ได้ดี

วิธีการเลือกลู่วิ่งไฟฟ้า ยี่ห้อไหนดี แบบไหนที่เหมาะสม

ปัจจุบันลู่วิ่งไฟฟ้ามีให้เลือกมากมาย หลากหลายประเภท ซึ่งมีตั้งแต่ขนาดเล็กไปจนถึงขนาดใหญ่ แต่ละรุ่นจะมีฟังก์ชันในการวิ่ง ที่สามารถปรับโหมดได้หลากหลายแบบตามความต้องการ

หากคุณกำลังตัดสินใจว่าจะซื้อลู่วิ่งแต่ไม่รู้ว่าจะเลือกยังไง ต้องพิจารณาปัจจัยอะไรบ้างล่ะก็ เรามีวิธีการเลือกซื้อลู่วิ่งไฟฟ้ามาแนะนำให้กับเพื่อน ๆ ทุกคน เพื่อนำมาประกอบพิจารณาในการตัดสินว่าจะซื้อ ลู่วิ่งไฟฟ้า ยี่ห้อไหนดี มาดูกัน

1. เลือกมอเตอร์ลู่วิ่งไฟฟ้าให้เหมาะสมกับการวิ่ง

มอเตอร์เปรียบเสมือนหัวใจสำคัญสำหรับการทำงานของลู่วิ่งไฟฟ้า เพราะจะมีผลต่อการกำหนดระดับความเร็วในการวิ่งจะมีหน่วยเป็นแรงม้า หากลู่วิ่งไฟฟ้าที่มีมอเตอร์แรงม้าสูงมากเท่าไหร่ก็จะสามารถปรับระดับความเร็วในการวิ่งได้มากยิ่งขึ้น ดังนั้น ควรเลือกขนาดมอเตอร์ให้เหมาะสมกับการวิ่งของคุณ ดังนี้

  • ลู่วิ่งไฟฟ้า ที่มีกำลังแรงม้า 1.0-2.0 HP เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้น หรือคนที่เน้นการเดินหรือจ็อกกิ้งเบา ๆ
  • ลู่วิ่งไฟฟ้า ที่มีกำลังแรงม้า 2.0-2.5 HP เป็นมาตรฐานที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการวิ่งอย่างจริงจัง หรือใช้งานเป็นประจำ
  • ลู่วิ่งไฟฟ้า ที่มีกำลังแรงม้า 2.5 HP ขึ้นไป เหมาะสำหรับนักวิ่งที่ต้องใช้ความเร็วสูง หรือคนที่มีน้ำหนักตัวมาก เพื่อความทนทานของมอเตอร์

2. ขนาดของสายพานของลู่วิ่งไฟฟ้า

ขนาดสายพานของลู่วิ่งไฟฟ้าก็มีความสำคัญต่อการตัดสินใจซื้อเช่นกัน หากลู่วิ่งมีความกว้างมากเท่าไหร่ก็จะยิ่งทำให้วิ่งสบายขึ้น และมีความปลอดภัยมากขึ้น

แนะนำให้เลือกลู่วิ่งไฟฟ้าที่มีสายพานกว้างประมาณ 45-50 ซม. เหมาะสำหรับการวิ่ง ส่วนความยาวของสายพานยิ่งยาวก็ยิ่งเหมาะสำหรับคนที่ช่วงขายาว หรือคนที่ต้องการวิ่งด้วยความเร็วสูง แนะนำให้เลือกความยาวประมาณ 120-130 ซม. ขึ้นไป

3.เลือกลู่วิ่งไฟฟ้าตามน้ำหนักตัวของผู้วิ่ง

น้ำหนักตัวของผู้วิ่งจะต้องมีความสัมพันธ์กับมอเตอร์ของลู่วิ่งไฟฟ้า โดยวิธีการคำนวณง่าย ๆ คือ ให้เอาน้ำหนักจริง คูณ 3 และนำไป หาร 2 จะได้น้ำหนักที่แท้จริงที่ลู่วิ่งจะรองรับได้ เช่น ผู้วิ่งมีน้ำหนัก 70 กก. คือ 70 x 3 / 2 = 105 กก. เมื่อได้ตัวเลขแล้ว ก็สามารถนำตัวเลขดังกล่าว ไปเปรียบเทียบกับสเปกลู่วิ่งไฟฟ้าที่ต้องการได้เลย ซึ่งวิธีการคำนวณคร่าว ๆ มาให้แล้ว ดังนี้

  • วิ่งลู่ไฟฟ้าสามารถรองรับได้ 50 – 80 กก. ควรเลือกมอเตอร์ขนาด 2.0 – 2.75 แรงม้า
  • วิ่งลู่ไฟฟ้าสามารถรองรับได้ 80 – 100 กก. ควรเลือกมอเตอร์ขนาด 3.0 แรงม้า
  • วิ่งลู่ไฟฟ้าสามารถรองรับได้ 100 – 150 กก. ควรเลือกมอเตอร์ขนาด 4.0 แรงม้า

4. ฟังก์ชันเสริมเพื่อประสิทธิภาพการใช้งาน

อีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่จะต้องนำมาพิจารณาในการตัดสินใจว่าเลือกซื้อ ลู่วิ่งไฟฟ้า ยี่ห้อไหนดี เพราะส่วนช่วยให้คุณสามารถบรรลุเป้าหมายในการวิ่งที่วางไว้ได้มากยิ่งขึ้น โดยฟังก์ชันที่แนะนำ คือ สามารถปรับระดับความชันได้หลายระดับ หรือเลือกรุ่นที่สามารถวัดค่าการเต้นของหัวใจหรือวัดชีพจร วัด BMI วัดไขมันได้ หรือเลือกรุ่นที่มีโปรแกรมวิ่งหลากหลายและวิเคราะห์กำลังวิ่งของตัวเองได้นั่นเอง

5. ขนาดของลู่วิ่งไฟฟ้าที่เหมาะสมกับพื้นที่ในการใช้งาน

ขนาดของลู่วิ่งไฟฟ้ามีความสำคัญต่อการตัดสินใจซื้อ! ควรเลือกขนาดลู่วิ่งที่เหมาะสมพื้นที่ในการใช้งาน ถ้าหากมีพื้นที่ค่อนข้างจำกัด แนะนำให้เลือกลู่วิ่งไฟฟ้าที่สามารถพับเก็บได้ ทำให้ลู่วิ่งมีขนาดกะทัดรัดน้ำหนักเบา และหยิบใช้งานได้สะดวก แถมยังช่วยประหยัดพื้นที่ในการจัดเก็บด้วย เหมาะสำหรับคนที่อาศัยอยู่บ้านหรือคอนโด แต่ถ้าบ้านมีพื้นที่กว้าง ก็สามารถเลือกลู่วิ่งขนาดใหญ่ได้เลย

เปรียบเทียบ! 10 ลู่วิ่งไฟฟ้า ยี่ห้อไหนดี ตอบโจทย์การใช้งานมากที่สุด

ยี่ห้อ/รุ่นจุดเด่นมอเตอร์แรงม้าความเร็วขนาดสายพานรองรับน้ำหนักราคา
KEEP GOING MAXลู่วิ่งขนาดใหญ่ วิ่งได้สบาย และควบคุมปรับระดับความเร็วด้วยรีโมทไร้สาย3.5HP6 กิโลเมตร/ชั่วโมง50 ซม.100 กก.2,594 บาท
BG Treadmill รุ่น M2หน้าจอ LCD ขนาดใหญ่ มี Safety Key ป้องกันอันตราย และเคลื่อนย้ายได้ง่าย2.0HP1.0-12.0 กิโลเมตร/ชั่วโมง100 x 36 ซม.120 กก.3,809 บาท
XQIAO SmartRun Treadmillขนาดกะทัดรัด ประหยัดพื้นที่ในการใช้งาน พร้อมเทคโนโลยีแบบ Silkworm ช่วยถนอมข้อเข่าในการวิ่ง2.0HP1-12 กิโลเมตร/ชั่วโมง42 x 120 ซม.100 กก.7,290 บาท
POWER REFORM รุ่น Python-X RZ-150หน้าจอ LCD 5 นิ้ว มอเตอร์ระดับ 3.0 ทำความเร็วได้ดี ปรับความชันได้มากถึง 18 ระดับ 3HP0.8-16 กิโลเมตร/ชั่วโมง42 x 124 ซม.110 กก.13,740 บาท
XIAOMI KINGSMITH Walking Pad R1 Proพับเก็บได้แบบ 180 องศา ประหยัดพื้นที่ และมีล้อเลื่อน สะดวกในการเคลื่อนย้าย1HP12 กิโลเมตร/ชั่วโมง440 มม.110 กก.13,840 บาท
XUTI รุ่น XT-ET300PROวิ่งกว้างทำให้วิ่งสบาย ปรับได้ 2 โหมด มีมอเตอร์ที่มีประสิทธิภาพสูง และปรับความเร็วได้3.5HP0.8-14 กิโลเมตร/ชั่วโมง122 x 42 ซม.110 กก.14,990 บาท
Horizon TR3.0จอแสดงผลใหญ่มองชัด พร้อมโปรแกรมออกกำลังกายหลากหลาย2.0HP0.8-16 กิโลเมตร/ชั่วโมง127 x 40.6 ซม.113 กก.14,900 บาท
Kingsmith WalkingPad G1หน้าจอ LED แสดงข้อมูลครบถ้วน ยังมีระบบลดแรงกระแทกเพื่อปกป้องข้อต่อ สามารถพับเก็บได้1.0HP12 กิโลเมตร/ชั่วโมงไม่ระบุ110 กก.15,800 บาท
MERRIRA รุ่น MX-910มอเตอร์แรง ทำความเร็วได้ดี เชื่อมต่อลำโพงกับสมาร์ตโฟนได้ และโปรแกรมการออกกำลังกายถึง 16 โปรแกรม4.8HP1-20 กิโลเมตร/ชั่วโมง48 x 135 ซม.140 กก.19,650 บาท
CORE-FITNEES ลู่วิ่ง FIT RUNรองรับน้ำหนักได้เยอะ เหมาะกับคนที่มีร่างกายใหญ่ สามารถใช้ได้กำลังแรงม้าสูง และปรับความชันได้มากถึง 18 ระดับ5HP1-20 กิโลเมตร/ชั่วโมง150 x 52 ซม.150 กก. 32,900 – 34,590บาท

แปะลิสต์ 10 ลู่วิ่งไฟฟ้า ยี่ห้อไหนดี ฟังก์ชันครบ ออกกำลังกายที่บ้านได้ง่าย ๆ

ใครที่ยังตัดสินใจไม่ว่าจะเลือกลู่วิ่ง ยี่ห้อไหนดี ด้วยความที่ลู่วิ่งไฟฟ้ามีให้เลือกมากมาย หลายรุ่น หลายยี่ห้อ ยังมีให้เลือกหลายราคา จนทำให้ตัดสินใจไม่ถูกเลยว่าจะซื้อยี่ห้อไหนดี และเพื่อช่วยให้ตัดสินใจเลือกซื้อ ลู่วิ่งไฟฟ้า ยี่ห้อไหนดี ได้ง่ายขึ้น Shopee จึงคัดมาให้แบบเน้น ๆ มีด้วยกัน 10 ลู่วิ่งไฟฟ้า รุ่นยอดนิยม ที่มีตั้งแต่ขนาดเล็กไปจนถึงขนาดใหญ่ ราคาถูกไปจนถึงราคาแพง พร้อมเปรียบเทียบให้เห็นกันชัด! ลู่วิ่งไฟฟ้า ยี่ห้อไหนดี ทั้งสเปก คุณสมบัติ และราคาให้เห็นกันชัด ๆ ไปเลย เพื่อช่วยให้ตัดสินใจซื้อได้ง่ายขึ้น มีรุ่นไหน ยี่ห้ออะไร มาดูกัน

1. ลู่วิ่งไฟฟ้า KEEP GOING MAX

ถ้าใครกำลังมองหาลู่วิ่งไฟฟ้า ขนาดกะทัดรัด เหมาะสำหรับใช้ในคอนโด หรือพื้นที่จำกัด ราคาไม่แพง แต่ยังคงเต็มไปด้วยประสิทธิภาพและฟังก์ชันในการวิ่ง เลือกซื้อ ลู่วิ่งไฟฟ้า ยี่ห้อไหนดี แนะนำเป็น KEEP GOING MAX ลู่วิ่งไฟฟ้าแบบเรียบแบน ออกแบบมาได้น่าใช้งานมีขนาดกำลังดีไม่เปลืองพื้นที่

เหมาะสำหรับคนที่มีพื้นที่จำกัดในการออกกำลังกาย เพราะสามารถพับเก็บได้ง่าย จุดเด่นคือมีจอ LCD แสดงผล ที่มองเห็นได้ชัดเจนเข้าใจง่าย ตัวเครื่องยังสามารถดูดซับแรงกระแทกได้ดี ช่วยป้องกันเข่าจากการบาดเจ็บ อีกทั้งลู่วิ่งที่มีขนาดใหญ่ที่กว้างถึง 500 มม. ทำให้วิ่งได้สบาย และสามารถรองรับน้ำหนักได้ 100 กรัม เป็นอีกรุ่นที่ดีและราคาถูกน่าซื้อ!

รายละเอียดลู่วิ่งไฟฟ้า KEEP GOING MAX

  • ฟีเจอร์เด่น: ลู่วิ่งขนาดใหญ่ วิ่งได้สบาย และสามารถควบคุมปรับระดับความเร็วด้วยรีโมทไร้สาย
  • กำลังแรงม้า: 3.5HP
  • ความเร็ว: 6 กิโลเมตร/ชั่วโมง
  • ขนาดสายพาน: 50 ซม.
  • รองรับน้ำหนัก: รองรับน้ำหนักสูงสุด 100 กิโลกรัม
  • การรับประกัน: รับประกันมอเตอร์นาน 10 ปี
  • ราคาประมาณ: 2,594 บาท (ราคาเดิม 4,999 บาท)

2. ลู่วิ่งไฟฟ้า BG Treadmill รุ่น M2

สำหรับ BG Treadmill รุ่น M2 ได้ออกแบบมาเพื่อเป็นลู่วิ่งไฟฟ้า สำหรับใช้ในบ้านโดยเฉพาะ เน้นความสมดุลระหว่างฟังก์ชันการใช้งานที่ครบครัน มาพร้อมดีไซน์ทันสมัยและราคาเข้าถึงได้ จึงทำให้เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นอยากจะออกกำลังกาย ตัวเครื่องมีขนาดใหญ่ โครงสร้างแข็งแรง สามารถเคลื่อนที่ได้ง่าย พับเก็บสะดวก ทำให้ไม่เปลืองพื้นที่ในการเก็บ ฟังก์ชันการใช้งานจัดเต็ม ไม่ว่าเป็นหน้าจอแสดงผลสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่มองเห็นข้อมูลชัดเจน การนับปริมาณแคลอรี การนับชีพจร ความเร็วในการวิ่ง ฯลฯ สามารถปรับระดับความเร็วได้ 12 ระดับ เพิ่มความท้าทายด้วยการปรับความชันได้ 3 ระดับ รองรับน้ำหนัก 120 กิโลเมตร แข็งแรงทนทานไม่พังง่ายแม้จะต้องเจอกับแรงกระแทกจากการวิ่งเยอะ ๆ อีกทั้งยังมีช่องใส่ของมาให้อีกด้วย

รายละเอียดลู่วิ่งไฟฟ้า BG Treadmill รุ่น M2

  • ฟีเจอร์เด่น: ลู่วิ่งมีล้อเลื่อน เพิ่มความสะดวกในการเคลื่อนย้าย ปรับความเร็วและปรับความชันได้ พร้อมหน้าจอ LCD ขนาดใหญ่ มี Safety Key ป้องกันอันตรายจากการใช้งาน
  • กำลังแรงม้า: 2.0HP
  • ความเร็ว: 1.0-12.0 กิโลเมตร/ชั่วโมง
  • ขนาดสายพาน: 100 x 36 ซม.
  • รองรับน้ำหนัก: รองรับน้ำหนักสูงสุด 120 กิโลกรัม
  • การรับประกัน: รับประกันมอเตอร์นาน 6 เดือน
  • ราคาประมาณ: 3,809 บาท (ราคาเดิม 4,999 บาท)

3. ลู่วิ่งไฟฟ้า Xiaomi XQIAO SmartRun Treadmill

ลู่วิ่งไฟฟ้า Xiaomi รุ่นไหนดี ใช้งานง่าย ไม่ต้องประกอบให้ยุ่งยาก แนะนำเป็น XQIAO SmartRun Treadmill ลู่วิ่งไฟฟ้าดีไซน์มินิมอล ขนาดกะทัดรัด ใช้พื้นที่เพียง 0.5 ตารางเมตร ตัวลู่วิ่งทำจากจากวัสดุดีทนทาน น้ำหนักเบา พับเก็บได้ง่าย พร้อมเทคโนโลยี Silkworm ช่วยลดแรงกระแทกจากการวิ่งได้ดี ถนอมข้อเข่าทำให้ไม่ส่งผลเสียในอนาคต แผงควบคุมลู่วิ่งใช้งานง่าย มีจอ LED ขนาดใหญ่ ไว้สำหรับแสดงผลในขณะวิ่ง ตัวสายพานกว้าง 42 ซม. ทำงานด้วยมอเตอร์ขนาด 2 แรงม้า และทำความเร็วสูงสุดได้ 12 กิโลเมตร/ชั่วโมง และรองรับน้ำหนักได้ถึง 100 กิโลกรัมอีกด้วย

รายละเอียดลู่วิ่งไฟฟ้า Xiaomi XQIAO SmartRun Treadmill

  • ฟีเจอร์เด่น: มีเทคโนโลยีแบบ Silkworm ช่วยถนอมข้อเข่าในระยะยาว ประหยัดพื้นที่ในการใช้งาน สายพานมีความหน่วงเล็กน้อยทำให้วิ่งได้มั่นคงขึ้น และพับเก็บได้
  • กำลังแรงม้า: 2HP
  • ความเร็ว: 1-12 กิโลเมตร/ชั่วโมง
  • ขนาดสายพาน: 42 x 120 ซม.
  • รองรับน้ำหนัก: รองรับน้ำหนักสูงสุด 100 กิโลกรัม
  • การรับประกัน: รับประกันมอเตอร์นาน 1 ปี
  • ราคาประมาณ: 7,290 บาท (ราคาเดิม 15,990 บาท)

4. ลู่วิ่งไฟฟ้า POWER REFORM รุ่น Python-X RZ-150

สำหรับ ลู่วิ่งไฟฟ้า POWER REFORM รุ่น Python-X RZ-150 ที่มีความโดดเด่นในเรื่องการรองรับน้ำหนักมากถึง 110 กิโลกรัม เหมาะสำหรับคนที่มีน้ำหนักไม่เกิน 80 กิโลกรัม กำลังแรงม้าสูงถึง 3.0 HP ทำความเร็วสูงสุด 16 กิโลเมตร/ชั่วโมง มีระบบวัดอัตราการเต้นของหัวใจ หน้าจอ LCD 5 นิ้ว ที่จะแสดงข้อมูลครบถ้วน ความเร็ว เวลา ระยะทาง แคลอรี ชีพจร ฯลฯ อีกทั้งยังระบบรองรับแรงกระแทก Spring Shock Absorption 8 จุด ลดแรงกระแทกที่ เข่า และข้อเท้า สามารถปรับเปลี่ยนระดับความชันอัตโนมัติได้มากถึง 18 ระดับ นอกจากนี้ก็ยังสามารถเชื่อมต่อ ZWIFT Run เกมวิ่งออนไลน์ ไปพร้อม ๆ กับเพื่อนได้อีกด้วย และรุ่นนี้มีระบบอัจฉริยะที่หากประสบอุบัติเหตุล้มเครื่องจะหยุดทำงานทันทีอยู่ด้วยเพิ่มความปลอดภัย ถ้าไม่รู้ว่าจะเลือก ลู่วิ่งไฟฟ้า ยี่ห้อไหนดี ฟังก์ชันหลากหลาย ราคาไม่แพงมาก แนะนำรุ่นนี้เลย

รายละเอียดลู่วิ่งไฟฟ้า POWER REFORM รุ่น Python-X RZ-150

  • ฟีเจอร์เด่น: ลู่วิ่งมีมอเตอร์ระดับ 3.0 ทำความเร็วได้ดี ปรับความชันได้มากถึง 18 ระดับ  และสามารถเชื่อมต่อ ZWIFT Run เกมวิ่งออนไลน์ไปพร้อม ๆ กับเพื่อน
  • กำลังแรงม้า: 3HP
  • ความเร็ว: 0.8-16 กิโลเมตร/ชั่วโมง
  • ขนาดสายพาน: 42 x 124 ซม.
  • รองรับน้ำหนัก: รองรับน้ำหนักสูงสุด 110 กิโลกรัม
  • การรับประกัน: รับประกันมอเตอร์นาน 1 ปี
  • ราคาประมาณ: 13,740 บาท (ราคาเดิม 29,990 บาท)

5. ลู่วิ่งไฟฟ้า XIAOMI KINGSMITH Walking Pad R1 Pro

ต่อกันด้วย ลู่วิ่งไฟฟ้า Xiaomi รุ่นไหนดี น่าซื้อใช้งาน! แนะนำ ลู่วิ่งไฟฟ้า XIAOMI KINGSMITH Walking Pad R1 Pro ที่ออกแบบมาเพื่อคนรักสุขภาพที่อยากออกกำลังกายแบบ Indoor ทั้งวิ่งและเดินได้ง่าย ๆ ที่บ้าน ด้วยโหมดเดินหรือวิ่งได้ตามต้องการ ส่วนสายพาน 4 เลเยอร์ ช่วยซัพพอร์ตเข่าและข้อเท้า ที่มาพร้อมประสิทธิภาพสูงด้วยมอเตอร์ AC พลังงานสูง ทำงานเงียบ ไร้เสียงรบกวนและกระจายความร้อนได้ดี ทำให้ใช้งานได้ยาวนาน ปลอดภัยต่อการใช้งาน ด้วยระบบ EVA และ Safety Clip สามารถวางมือถือและแท็บเล็ตในตัวในขณะใช้งานได้ ซึ่งลู่วิ่งนี้จะควบคุมการใช้งานได้ 3 วิธี คือ โหมดแมนนวลที่ควบคุมด้วยรีโมท ควบคุมผ่านแอปพลิเคชัน KS Fit และโหมดอัตโนมัติควบคุมด้วยเท้า ส่วนโหมดความเร็วก็สามารถปรับได้ 2 แบบ มีหน้าจอแสดงผล LED ให้ความคมชัด และสามารถพับเก็บได้แบบ 180 องศา น้ำหนักเบา มีล้อลากที่ช่วยให้เคลื่อนย้ายง่าย โดยที่ไม่ต้องออกแรงยกเลย

รายละเอียดลู่วิ่งไฟฟ้า XIAOMI KINGSMITH Walking Pad R1 Pro

  • ฟีเจอร์เด่น: พับเก็บได้แบบ 180 องศา ประหยัดพื้นที่ มีล้อเลื่อน สะดวกในการเคลื่อนย้าย และรองรับน้ำหนักได้มากถึง 110 กก.
  • กำลังแรงม้า: 1HP
  • ความเร็ว: 12 กิโลเมตร/ชั่วโมง
  • ขนาดสายพาน: 440 มม.
  • รองรับน้ำหนัก: รองรับน้ำหนักสูงสุด 110 กิโลกรัม
  • การรับประกัน: รับประกันมอเตอร์นาน 1 ปี
  • ราคาประมาณ: 13,840 บาท (ราคาเดิม 20,900 บาท)

6. ลู่วิ่งไฟฟ้า XUTI รุ่น XT-ET300PRO

อยากเปลี่ยนบ้านให้กลายเป็นฟิตเนส สามารถออกกำลังกายได้ทุกเมื่อที่ต้องการ แนะนำให้เลือกซื้อ ลู่วิ่งไฟฟ้า XUTI รุ่น XT-ET300PRO ติดบ้านไว้เลย! มาพร้อมดีไซน์สวยทันสมัย มอเตอร์ที่มีประสิทธิภาพสูง ด้วยกำลังม้า 3.5HP ปรับความเร็วสูงสุด 14 กิโลเมตร/ชั่วโมง ทำงานด้วยความเงียบไร้เสียงรบกวน ทำให้การวิ่งราบเรียบไม่มีสะดุด ตัวโครงสร้างแข็งแรง ทนทาน ขนาดพื้นที่วิ่ง 122 x 42 ซม. เพิ่มความสะดวกสบายในการวิ่งมากขึ้น ลู่วิ่งสามารถรองรับแรงกระแทกได้ดี รองรับน้ำหนักได้สูงสุด 110 กก. มาพร้อมฟีเจอร์ที่หลากหลาย และหน้าจอแสดงผล LED ขนาดใหญ่ บอกข้อมูลทั้งเวลา ความเร็ว แคลอรี่ อัตราการเต้นของหัวใจ และระยะทาง สามารถเชื่อมต่อกับ ZWIFT รองรับการเชื่อมต่อกับโทรศัพท์มือถือ Bluetooth และแอปพลิเคชัน ZWIFT มีล้อเลื่อน สามารถพับเก็บได้ เพื่อความสะดวกในการเก็บและการใช้งาน

รายละเอียดลู่วิ่งไฟฟ้า XUTI รุ่น XT-ET300PRO

  • ฟีเจอร์เด่น: ลู่วิ่งกว้างทำให้วิ่งสบาย ช่วยป้องกันการลื่น สามารถปรับได้ 2 โหมด คือ ปรับความเร็ว และความชันอัตโนมัติ และเชื่อมต่อกับโทรศัพท์มือถือ Bluetooth ได้ด้วย
  • กำลังแรงม้า: 3.5HP
  • ความเร็ว: 0.8-14 กิโลเมตร/ชั่วโมง
  • ขนาดสายพาน: 122 x 42 ซม.
  • รองรับน้ำหนัก: รองรับน้ำหนักสูงสุด 110 กิโลกรัม
  • การรับประกัน: รับประกันมอเตอร์นาน 7 ปี
  • ราคาประมาณ: 14,990 บาท (ราคาเดิม 18,990 บาท)

7. ลู่วิ่งไฟฟ้า Horizon TR3.0

หากกำลังมองหา ลู่วิ่งไฟฟ้า ยี่ห้อไหนดี มีฟังก์ชันเสริมในเรื่องความสะดวกสบาย สามารถวิ่งออกกำลังทั่วไปได้ แนะนำเป็น ลู่วิ่งไฟฟ้า Horizon TR3.0 รุ่นนี้เลย! เหมาะสำหรับนักวิ่งที่กำลังเตรียมความพร้อมในการวิ่ง หรือคนเพิ่งเข้าสู่วงการวิ่งใหม่ๆ ดีไซน์มินิมอล สเปกเครื่องจัดเต็ม ด้วยโปรแกรมออกกำลังกายมากถึง 35 โปรแกรม และมีโหมดวิ่งให้เลือกหลากหลาย ใช้งานง่ายไม่ซับซ้อนมือใหม่ก็สามารถใช้ได้สบาย พร้อมจอแบบ LED ขนาดใหญ่ ที่ใช้งานง่าย สามารถเชื่อมต่อ Bluetooth พับเก็บได้สะดวก ประหยัดพื้นที่ มีความปลอดภัย และราคาที่คุ้มค่าน่าซื้อ!

รายละเอียดลู่วิ่งไฟฟ้า Horizon TR3.0

  • ฟีเจอร์เด่น: จอแสดงผลใหญ่มองชัด พร้อมโปรแกรมออกกำลังกายหลากหลาย สามารถเชื่อมต่อ Bluetooth พับเก็บได้สะดวก ประหยัดพื้นที่
  • กำลังแรงม้า: 2.0HP
  • ความเร็ว: 0.8-16 กิโลเมตร/ชั่วโมง
  • ขนาดสายพาน: 127 x 40.6 ซม.
  • รองรับน้ำหนัก: รองรับน้ำหนักสูงสุด 113 กิโลกรัม
  • การรับประกัน: รับประกันมอเตอร์นาน 1 ปี
  • ราคาประมาณ: 14,900 บาท (ราคาเดิม 17,900 บาท)

8. ลู่วิ่งไฟฟ้า Kingsmith WalkingPad G1

ลู่วิ่งไฟฟ้า Kingsmith Walking Pad G1 เป็นลู่วิ่งไฟฟ้าอีกรุ่นที่น่าซื้อ! เหมาะสำหรับมือใหม่ที่อยากจะมีเครื่องออกกำลังกายไว้ที่บ้าน ลู่วิ่งไฟฟ้า ที่มาพร้อมดีไซน์เรียบง่ายและทันสมัย สายพานกว้างพิเศษ ทำให้วิ่งได้สบายมากขึ้น พับเก็บได้ สะดวกสบาย ประหยัดพื้นที่ พับได้ 180 องศา ช่วยลดพื้นที่และเพิ่มพื้นที่ใช้งานภายในบ้านได้อย่างมาก โครงสร้างแข็งแรง สามารถที่จะรองรับน้ำหนักได้ถึง 110 กิโลกรัม พร้อมโหมดการออกกำลังกายที่หลากหลายสำหรับผู้ใช้งานทุกระดับ มีระบบลดแรงกระแทก เพื่อปกป้องข้อต่อ มอเตอร์ไร้แปรงถ่านที่มีเสียงเงียบ หน้าจอ LED แสดงผลชัดเจน และสามารถควบคุมการทำงานผ่านแอปฯ KSFIT ได้อีกด้วย

รายละเอียดลู่วิ่งไฟฟ้า Kingsmith WalkingPad G1

  • ฟีเจอร์เด่น: ลู่วิ่งมีด้วยกัน 2 โหมด คือ โหมดวิ่ง และโหมดเดิน สามารถพับได้ 180 องศา ช่วยลดพื้นที่และเพิ่มพื้นที่ใช้งานภายในบ้านได้อย่างมาก
  • กำลังแรงม้า: 1HP
  • ความเร็ว: 12 กิโลเมตร/ชั่วโมง
  • ขนาดสายพาน: 120 x 44 ซม.
  • รองรับน้ำหนัก: รองรับน้ำหนักสูงสุด 110 กิโลกรัม
  • การรับประกัน: รับประกันมอเตอร์นาน 1 ปี
  • ราคาประมาณ: 15,800 บาท (ราคาเดิม 27,990 บาท)

9. ลู่วิ่งไฟฟ้า MERRIRA รุ่น MX-910

ขยับมากันที่ ลู่วิ่งไฟฟ้าสำหรับคนชอบออกกำลังกาย หรือนักออกกำลังกายมืออาชีพ แนะนำให้เลือกเป็น ลู่วิ่งไฟฟ้า MERRIRA รุ่น MX-910 ที่มาพร้อมมอเตอร์กำลังสูงสุด 4.8 แรงม้า ปรับความเร็วได้ 1-20 กม/ชม. และปรับความชันอัตโนมัติ Auto-Incline มากถึง 20 ระดับ ได้ง่าย ๆ เพียงกดปุ่ม โปรแกรมการออกกำลังกาย 16 โปรแกรม ระบบรองรับการกระแทกแบบโช้คคู่ ช่วยรับแรงกระแทกที่ เข่า ข้อเท้า และ มีหน้าจอแสดงผล LED ขนาดใหญ่ถึง 7 นิ้ว ที่บอกข้อมูลทั้งความเร็ว ความชัน เวลา ระยะทาง แคลอรี่ และอัตราการเต้นของหัวใจ ทั้งยังสามารถเชื่อมต่อ Zwift ได้ และสามารถเชื่อมต่อบลูทูธลำโพงได้อีกด้วย

รายละเอียดลู่วิ่งไฟฟ้า MERRIRA รุ่น MX-910

  • ฟีเจอร์เด่น: ลู่วิ่งคุณภาพดีมอเตอร์ระดับ 4.8 ทำความเร็วได้ดี เชื่อมต่อลำโพงกับสมาร์ตโฟนได้ และใช้งานง่ายฟังก์ชันไม่ซับซ้อน มีจอแสดงผลใหญ่มองชัด พร้อมโปรแกรมออกกำลังกายหลากหลาย
  • กำลังแรงม้า: 4.8HP
  • ความเร็ว: 1-20 กิโลเมตร/ชั่วโมง
  • ขนาดสายพาน: 48 x 135 ซม.
  • รองรับน้ำหนัก: รองรับน้ำหนักสูงสุด 140 กิโลกรัม
  • การรับประกัน: รับประกันมอเตอร์นาน 7 ปี
  • ราคาประมาณ: 19,650 บาท (ราคาเดิม 39,800 บาท)

10. ลู่วิ่งไฟฟ้า CORE-FITNEES ลู่วิ่ง FIT RUN

หากคุณเป็นคนที่ชื่นชอบกีฬาวิ่ง หรือชอบไปแข่งขันวิ่งมาราธอนเป็นประจำ อยากจะมาวิ่งออกกำลังกายที่บ้าน แต่ไม่รู้ว่าจะเลือก ลู่วิ่งไฟฟ้า ยี่ห้อไหนดี ที่ออกแบบมาให้เหมาะกับการฝึกวิ่ง ขอแนะนำเป็น ลู่วิ่งไฟฟ้า CORE-FITNEES ลู่วิ่ง FIT RUN รุ่นนี้เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ! ด้วยฟังก์ชันที่สามารถปรับระดับความชันได้ถึง 18 ระดับ เพื่อเพิ่มกำลังขา ทำความเร็วได้ถึง 20 กิโลเมตร/ชั่วโมง และยังสามารถรองรับน้ำหนักได้มากถึง 150 กิโลกรัม พร้อมด้วยระบบโช้คอัพ ป้องกันสั่นสะเทือนลดการบาดเจ็บได้มีประสิทธิภาพ ทำให้วิ่งเต็มได้อย่างกำลัง ได้โดยลดโอกาสบาดเจ็บที่เข่าหรือช่วงขา อีกทั้งยังมีระบบ Low noise เสียงเบาต่อคนรอบข้างด้วย

รายละเอียดลู่วิ่งไฟฟ้า CORE-FITNEES ลู่วิ่ง FIT RUN

  • ฟีเจอร์เด่น: ปรับความชันได้มากถึง 18 ระดับ ออกแบบมาให้เหมาะกับการฝึกวิ่งโดยเฉพาะ สามารถใช้งานได้ทั้งในบ้าน ในระดับฟิตเนสหรือโรงแรม
  • กำลังแรงม้า: 5HP
  • ความเร็ว: 1-20 กิโลเมตร/ชั่วโมง
  • ขนาดสายพาน: 150 x 52 ซม.
  • รองรับน้ำหนัก: รองรับน้ำหนักสูงสุด 150 กิโลกรัม
  • การรับประกัน: รับประกันมอเตอร์นาน 5 ปี
  • ราคาประมาณ: 32,900 – 34,590 บาท

คุณสามารถเลือกซื้อ ลู่วิ่งไฟฟ้า ยี่ห้อไหนดี ที่ตอบโจทย์การใช้งานและคุ้มค่ามากที่สุด

  • ใครมือใหม่ที่อยากเริ่มต้นออกกำลังกายด้วยการวิ่ง แนะนำเป็น XIAOMI KINGSMITH Walking Pad R1 Pro หรือ Kingsmith WalkingPad G1 เพราะมีกำลังแรงม้าไม่สูงมากเท่าไหร่ ทำให้วิ่งได้ง่ายขึ้น
  • อยากวิ่งออกกำลังกายที่บ้าน แต่มีงบน้อยไม่เกินหมื่น แนะนำเป็นลู่วิ่งไฟฟ้า KEEP GOING MAX หรือ BG Treadmill รุ่น M2 หรือจะเป็น XQIAO SmartRun Treadmill รุ่นนี้ แต่อาจจะต้องซื้อต้องที่ลดราคาก็จะได้ในราคาไม่เกินหมื่นบาท!
  • หากมีพื้นที่ค่อนข้างจำกัด แนะนำให้เลือกลู่วิ่งไฟฟ้าที่พับเก็บได้ง่าย เพราะทำให้ประหยัดพื้นที่ในการจัดเก็บ ซึ่งมีให้เลือกหลายรุ่น หลายราคา ถ้าเป็นลู่วิ่งไฟฟ้าในกลุ่มราคาย่อมเยา แนะนำเป็น KEEP GOING MAX หรือ XQIAO SmartRun Treadmill ส่วนลู่วิ่งไฟฟ้าในราคากลาง ๆ ไปจนถึงราคาสูงจะมี XIAOMI KINGSMITH Walking Pad R1 Pro , XUTI รุ่น XT-ET300PRO , XUTI รุ่น XT-ET300PRO และ Kingsmith WalkingPad G1 เลือกได้เลย
  • หากต้องการลู่วิ่งที่สามารถปรับระดับความชันได้ หรือปรับความเร็วได้ เพื่อให้การวิ่งได้ประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น แนะนำเป็น BG Treadmill รุ่น M2 , POWER REFORM รุ่น Python-X RZ-150 , MERRIRA รุ่น MX-910 และ CORE-FITNEES ลู่วิ่ง FIT RUN
  • สำหรับใครมีน้ำหนักตัวค่อนข้างเยอะ แนะนำให้เลือกลู่วิ่งไฟฟ้า MERRIRA รุ่น MX-910 และ CORE-FITNEES ลู่วิ่ง FIT RUN เพราะทั้งสองรุ่นนี้สามารถรองน้ำหนักได้มากถึง 140 – 150 กิโลกรัมเลย

ประโยชน์ของการมีลู่วิ่งไฟฟ้าที่บ้าน

ใครยังคิดลังเลใจว่าจะซื้อลู่วิ่งไฟฟ้ามาไว้ที่บ้านดีไหม? หรือว่าจะไปวิ่งนอกบ้านดี ถ้าอย่างนั้นลองมาดูประโยชน์การมีลู่วิ่งไฟฟ้าที่บ้านว่าดียังไง เพื่อประกอบการตัดสินใจในการเลือกซื้อ ลู่วิ่งไฟฟ้า ยี่ห้อไหนดี มาไว้ที่บ้าน

  • สะดวกสบาย ใช้งานได้ทุกเมื่อ: ไม่ต้องกังวลเรื่องสภาพอากาศ ไม่ว่าฝนจะตก แดดร้อน หรือมลภาวะภายนอกจะหนักแค่ไหน ก็ยังสามารถออกกำลังกายได้ทุกเวลาที่ต้องการ ไม่ว่าจะเช้าตรู่หรือดึกดื่น
  • ช่วยควบคุมการออกกำลังกายได้อย่างเต็มที่: ลู่วิ่งไฟฟ้าจะสามารถปรับความเร็ว ความชัน และเลือกโปรแกรมการออกกำลังกายที่เหมาะสมกับระดับความฟิตและเป้าหมายของคุณได้
  • ช่วยลดแรงกระแทก ถนอมข้อต่อ: โดยส่วนใหญ่แล้วลู่วิ่งไฟฟ้ามีระบบรองรับแรงกระแทกที่ดีกว่าการวิ่งบนพื้นถนนแข็ง ๆ ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงต่อการบาดเจ็บของข้อเข่า ข้อเท้า และสะโพก
  • เพิ่มประสิทธิภาพการเผาผลาญ: การวิ่งถือเป็นการออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอ ช่วยเผาผลาญแคลอรี่ ลดไขมัน และเสริมสร้างระบบหัวใจและหลอดเลือดให้แข็งแรง
  • ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ: ส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย ตั้งแต่กล้ามเนื้อขา สะโพก และแกนกลางลำตัวให้แข็งแรงขึ้น

ทั้งหมดนี้คือ 10 ลู่วิ่งไฟฟ้า ยี่ห้อไหนดี ที่ช้อปปี้ได้คัดสรรมาแนะนำให้กับทุกคน พร้อมเปรียบเทียบจุดเด่นของลู่วิ่งไฟฟ้ายี่ห้อต่าง ๆ แต่ละรุ่นมีจุดเด่นและฟีเจอร์การใช้งานที่แตกต่างกัน ในบางรุ่นสามารถตรวจจับชีพจรได้ง่าย ๆ จากราวจับ หรือในบางรุ่นก็สามารถปรับความชันได้และปรับความเร็วในการวิ่งได้ หรือบางรุ่นก็สามารถที่จะเชื่อมต่อและควบคุมผ่านสมาร์ตโฟนได้ รวมถึงบางรุ่นยังสามารถพับเก็บได้ด้วย

ใครกำลังมองหาลู่วิ่งไฟฟ้า เพื่อมาออกกำลังกายวิ่งที่บ้านหรือคอนโด ก็สามารถเลือกจากที่เรารีวิวนี้ได้เลย แล้วถ้าตัดสินใจได้แล้ว แต่ไม่รู้ลู่วิ่งไฟฟ้า ซื้อที่ไหน ได้ในราคาสุดคุ้ม ต้องที่ Shopee รวบรวมลู่วิ่งไฟฟ้าหลากหลายรุ่น จากแบรนด์ชั้นนำต่าง ๆ พร้อมอุปกรณ์ออกกำลังกายอื่น ๆ อีกมากมาย หรืออยากได้เทคนิคการออกกำลังกายในเมืองที่ทำได้โดยไม่ต้องพึ่งอุปกรณ์ , รองเท้าแบตมินตัน รุ่นไหนโดนใจแบบไหนใช่เลย! , รองเท้าวิ่ง ยี่ห้อไหนดี หรืออยากอ่านรีวิวสินค้าอื่น ๆ ติดตามอ่านได้ที่ Shopee มีบทความสาระน่ารู้ให้อ่านอีกเพียบ!

Noina

น้อยหน่าชอบแบ่งปันเรื่องราวดี ๆ ชอบหาของกินอร่อย ๆ สนุกสนานกับการได้ลองทำสิ่งใหม่ ๆ ที่ไม่เคยทำมาก่อน และหาแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์บทความ

Share
Published by
Noina

Recent Posts

10 บทสวดเรียกลูกค้า เสกความปังจนหัวกระไดไม่แห้ง ลองแล้วขายดีจริง!

รวมบทสวดเรียกลูกค้า รวมของดีเรียกลูกค้าเข้าร้าน เสริมดวงค้าขายให้เฮง! ทั้งคาถาเงินล้าน คาถาหัวใจเศรษฐี คาถาบูชาพระสีวลี มูง่าย ๆ เรียกลูกค้าเข้าร้านได้จริง

1 day ago

มาป้ายยา! 28 สินค้าไทยที่คนต่างชาติชอบ และเลิฟสุด ๆ

เช็กลิสต์ 28 สินค้าไทยที่คนต่างชาติชอบ มีอะไรบ้าง! พร้อมเหตุผลที่ของฝากยอดฮิตจากไทยเหล่านี้ถึงเป็น Must Buy สำหรับนักท่องเที่ยว!

1 day ago

แอร์เย็นฉ่ำ ค่าไฟไม่พุ่ง! 8 วิธีง่าย ๆ เปิดแอร์ยังไงให้ประหยัดไฟ พร้อมแนะนำแอร์รุ่นประหยัดไฟ ที่ห้ามพลาด!

8 เทคนิคง่ายๆ เปิดแอร์ยังไงให้ประหยัดไฟ ช่วยลดค่าไฟได้จริง! พร้อมแนะนำแอร์รุ่นประหยัดไฟ 2025 คุ้มค่าน่าลงทุน และคำถามยอดฮิตเกี่ยวกับการเปิดแอร์

1 day ago

กู้ผิวโทรมให้ปัง! 11 มาส์กหน้ายี่ห้อไหนดี ช่วยฟื้นฟู ทำให้ผิวดูอิ่มฟู เนียนนุ่ม ฉ่ำเด้ง สวยจริงไม่จกตา!

เปิดลิสต์ 11 มาสก์หน้ายี่ห้อไหนดี ที่ช่วยฟื้นฟูผิวให้ เรียบเนียนขึ้น เปลี่ยนผิวคุณให้สวยปัง! พร้อมไขข้อข้องใจ มาสก์หน้าทุกวันได้ไหม ตัวไหนเหมาะกับคุณ

1 day ago

ปัดแก้มสวยฉ่ำ! 15 บลัชออน ยี่ห้อไหนดี สีสวยชัด ติดทน มีตั้งแต่ราคาเบา ๆ จนถึงเคาน์เตอร์แบรนด์

คัดให้แล้ว 15 บลัชออน ยี่ห้อไหนดี ทั้งเนื้อฝุ่น เนื้อครีม หรือเนื้อลิควิด สีสวยชัด เม็ดสีแน่น เหมาะกับทุกสีผิว พร้อมเทคนิคเลือกบลัชออนให้เข้ากับลุค

3 weeks ago

ไอเทมเด็ดที่สาว ๆ ต้องมี! 12 เครื่องหนีบผม ยี่ห้อไหนดี ร้อนเร็ว ผมไม่เสีย ผมสวยได้ไม่ต้องเข้าร้าน

ผมชี้ฟู ผมหยิก ผมหยักศก ผมลีบแบน จัดทรงยาก นับเป็นปัญหาที่กวนใจของสาว ๆ หลายคน ถ้าปล่อยให้ผมไม่เป็นทรงออกจากบ้าน สาว ๆ หลายคนแก้ปัญหาด้วยกันมัดผม ไม่กล้าปล่อย เพราะไม่มั่นใจ ซึ่งอาจจะทำให้เสียบุคลิกได้…

3 weeks ago