เชื่อว่าเพื่อน ๆ หลายคนที่มีรถมอเตอร์ไซค์เป็นของตัวเอง ไม่ว่าจะเอาไว้ขี่ไปทำงาน ขี่ไปเรียน หรือเป็นไรเดอร์ส่งของ อาจจะเคยเจอกับคำถามโลกแตกที่วนเวียนอยู่ในหัวว่า ต้องเปลี่ยนน้ำมันเครื่องมอเตอร์ไซค์ทุกกี่โลกันแน่? บางคนก็บอกว่ารอให้ครบระยะตามคู่มือสิ บางคนบอกว่าดูที่สีน้ำมัน หรือบางคนลากยาวจนลืมเปลี่ยน มารู้ตัวอีกทีเครื่องก็เริ่มส่งเสียงดังประท้วงเสียแล้ว
การดูแลรักษารถคู่ใจให้ใช้งานได้ยาวนาน จุดเริ่มต้นที่ง่ายและสำคัญที่สุดคือน้ำมันเครื่องนี่แหละ การละเลยเรื่องเล็กน้อยนี้อาจนำไปสู่ “เรื่องใหญ่” ที่ต้องเสียเงินซ่อมหลักพันหลักหมื่นได้เลย วันนี้ Shopee Blog จะพาเพื่อน ๆ ไปเจาะลึกทุกเรื่องที่ต้องรู้เกี่ยวกับการเปลี่ยนน้ํามันเครื่องมอเตอร์ไซค์ รับรองว่าอ่านจบแล้ว จะดูแลรถเก่งขึ้นทันตาเห็นแน่นอน
หัวข้อต่างๆ ของบทความนี้
ก่อนที่เราจะไปดูตัวเลขระยะทางที่แน่นอน เพื่อน ๆ ต้องเข้าใจก่อนว่าทำไมของเหลวสีอำพันในเครื่องยนต์นี้ถึงมีความสำคัญนักหนา เปรียบเทียบง่ายๆ น้ำมันเครื่องก็เหมือนเลือดที่หล่อเลี้ยงร่างกายมนุษย์ ถ้าเลือดดี ร่างกายก็แข็งแรง ถ้าเลือดข้นหรือมีน้อย ร่างกายก็ทำงานผิดปกติ เครื่องยนต์ก็เช่นเดียวกัน
น้ำมันเครื่องไม่ได้มีหน้าที่แค่ทำให้ลื่นเท่านั้น แต่มันทำหน้าที่หลายอย่างพร้อมกันในขณะที่เพื่อน ๆ บิดคันเร่ง
น้ำมันเครื่องมีอายุการใช้งาน เมื่อโดนความร้อนสูง ๆ เป็นเวลานาน โมเลกุลของน้ำมันจะเริ่มเสื่อมสภาพ ความหนืดจะลดลง (ใสขึ้นเหมือนน้ำเปล่า) หรือข้นเหนียวจนเป็นโคลน ทำให้ประสิทธิภาพในการหล่อลื่นและระบายความร้อนลดลงอย่างน่าตกใจ
ถ้าเพื่อน ๆ ฝืนใช้รถทั้งที่น้ำมันเครื่องหมดสภาพ สิ่งที่จะตามมาคือหายนะของคนรักรถ
มาถึงคำถามสำคัญ “เปลี่ยนน้ำมันเครื่องมอเตอร์ไซค์ทุกกี่โล” คำตอบนี้ไม่ได้มีตัวเลขเดียวตายตัวสำหรับทุกคน เพราะมันขึ้นอยู่กับประเภทของรถและพฤติกรรมการใช้งาน เพื่อน ๆ ลองมาเช็กกันดูว่ารถของตัวเองจัดอยู่ในกลุ่มไหน
สำหรับเพื่อน ๆ ที่ขี่รถมอเตอร์ไซค์ทรงครอบครัว (Family bike) รถบังลมทั่วไปที่มีเกียร์ หรือรถสปอร์ตที่มีคลัตช์มือ เครื่องยนต์กลุ่มนี้มักจะใช้น้ำมันเครื่องไปหล่อเลี้ยงทั้งชุดเครื่องยนต์ ชุดคลัตช์ และชุดเกียร์ (Wet Clutch)
ใครที่ใช้รถออโตเมติก ขี่ง่าย บิดอย่างเดียว (เช่น PCX, Click, Scoopy, Grand Filano) ต้องใส่ใจเป็นพิเศษ เพราะรถกลุ่มนี้มีรอบเครื่องยนต์ที่สูงกว่ารถเกียร์ในความเร็วที่เท่ากัน
กลุ่มนี้คือเพื่อน ๆ ไรเดอร์ (Grab, Lineman, ShopeeFood) หรือคนที่ต้องขี่รถข้ามจังหวัด ขี่ไปกลับที่ทำงานไกล ๆ วันละหลายสิบกิโลเมตร หรือต้องบรรทุกของหนัก
นอกจากประเภทรถแล้ว สภาพแวดล้อมก็มีผล
ถ้าเพื่อน ๆ เผลอลืมเปลี่ยนจนเกินระยะ จะมีสัญญาณเตือนบางอย่างที่รถพยายามบอกเรา ถ้าเจออาการน้ำมันเครื่องแห้ง มอเตอร์ไซค์เหล่านี้ ให้รีบจอดและตรวจสอบทันที ห้ามฝืนขี่ต่อเด็ดขาด
เมื่อน้ำมันเครื่องน้อยลงหรือเสื่อมสภาพ ฟิล์มน้ำมันที่เคลือบชิ้นส่วนต่าง ๆ จะหายไป ทำให้เกิดเสียงดัง “แกร๊ก ๆ ๆ” หรือเสียงโลหะกระทบกัน โดยเฉพาะเวลาสตาร์ตตอนเช้าหรือตอนเครื่องเย็น เสียงจะดังชัดเจนมาก และอาจจะเบาลงนิดหน่อยเมื่อเครื่องร้อน แต่ก็ไม่ควรวางใจ
ความรู้สึกตอนบิดคันเร่งจะเปลี่ยนไป รถจะดูตื้อ ๆ อืด ๆ เร่งไม่ค่อยขึ้นเหมือนเดิม หรือมีอาการเครื่องสะดุดในบางจังหวะ เพราะแรงเสียดทานในเครื่องยนต์สูงขึ้น เครื่องยนต์ต้องออกแรงสู้กับแรงเสียดทานมากกว่าปกติเพื่อขับเคลื่อนล้อ
รถรุ่นใหม่ ๆ จะมีไฟเตือนรูปกาน้ำมันเครื่อง หรือไฟความร้อนโชว์บนหน้าปัด ถ้าน้ำมันเครื่องแห้ง การระบายความร้อนจะล้มเหลว ทำให้เครื่องยนต์ร้อนจัด (Overheat) ได้ง่าย ๆ ถ้าเห็นไฟนี้โชว์ ต้องจอดทันที!
อาการทางกายภาพที่ชัดเจนที่สุดคือ ระดับน้ำมันที่ก้านวัดหายไป บางครั้งอาจเกิดจากแหวนลูกสูบหลวมทำให้น้ำมันเครื่องเล็ดลอดเข้าไปเผาไหม้ (รถควันขาว) หรือมีรอยรั่วซึมหยดลงพื้น
เพื่อไม่ให้สับสน Shopee Blog สรุปมาให้เป็น Checklist ง่าย ๆ เพื่อน ๆ สามารถใช้เกณฑ์เหล่านี้ตัดสินใจได้เลยว่า น้ำมันเครื่องมอเตอร์ไซค์ ควรเปลี่ยนหรือยัง?
วิธีมาตรฐานที่สุดคือดูเลขไมล์ จดบันทึกไว้เสมอว่าเปลี่ยนครั้งล่าสุดที่เลขไมล์เท่าไหร่ แล้วบวกเพิ่มไปตามระยะที่แนะนำ (1,500 – 3,000 กม.) พอถึงกำหนดก็เปลี่ยนเลย ไม่ต้องรอให้อาการออก
ลองดึงก้านวัดน้ำมันเครื่องออกมาเช็ด แล้วจุ่มวัดดูอีกที สังเกตสีของน้ำมัน
สำหรับสายจอด หรือใช้น้อยมาก ๆ ขี่แค่ไปซื้อแกงหน้าปากซอย ถึงแม้เลขไมล์จะไม่ถึงเกณฑ์ แต่ควรเปลี่ยนถ่ายอย่างน้อยทุก ๆ 3 – 4 เดือน เพื่อป้องกันน้ำมันเสื่อมสภาพจากการทำปฏิกิริยากับอากาศและความชื้น
การเลือกเกรดน้ำมันก็มีผลต่อระยะเวลาเปลี่ยนถ่าย
การเปลี่ยนน้ำมันเครื่องเป็นหัวใจสำคัญ แต่ถ้าอยากให้รถอยู่กับเพื่อน ๆ ไปนาน ๆ จนลูกบวช ลองทำตามเคล็ดลับเพิ่มเติมเหล่านี้ดู
อย่าดูแค่ราคาถูก! ให้ดูที่ค่าความหนืด (SAE) เช่น 10W-30, 10W-40 และมาตรฐาน (API, JASO) ให้ตรงกับคู่มือรถ รถออโต้ต้องใช้มาตรฐาน JASO MB ส่วนรถเกียร์ต้องใช้ JASO MA/MA2 ห้ามเติมสลับกันเด็ดขาด เพราะอาจทำให้คลัตช์ลื่นในรถเกียร์ได้ หากใครกำลังลังเลว่าจะซื้อน้ำมันเครื่องรถมอเตอร์ไซค์ ยี่ห้อไหนดี สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่ Shopee Blog
การเติมน้ำมันเครื่อง “เผื่อ” ไม่ใช่เรื่องดี การเติมล้นเกินไปจะทำให้เครื่องอืด กินน้ำมัน และซีลยางต่างๆ รั่วซึมจากแรงดันที่มากเกินไป ส่วนถ้าเติมน้อยไป เครื่องก็ร้อนและสึกหรอ ควรเติมให้ระดับอยู่ระหว่างขีด Min และ Max ของก้านวัดพอดี
นอกจากน้ำมันเครื่อง ยังมีไส้กรองน้ำมันเครื่องที่ควรเปลี่ยนพร้อมกันทุก ๆ 2 ครั้งของการถ่ายน้ำมันเครื่อง เพื่อไม่ให้สิ่งสกปรกที่กรองไว้กลับมาวนเวียนในเครื่องยนต์อีก การเช็กระยะตามคู่มือจะช่วยให้เราเจอจุดบกพร่องเล็ก ๆ ก่อนที่จะกลายเป็นเรื่องใหญ่
มาถึงตรงนี้ เพื่อน ๆ คงได้คำตอบที่ชัดเจนแล้วว่าควรเปลี่ยนน้ำมันเครื่องมอเตอร์ไซค์ทุกกี่โล สรุปสั้น ๆ อีกครั้งคือ รถใช้งานทั่วไปควรเปลี่ยนทุก 2,000-3,000 กม. รถออโต้หรือใช้งานหนักควรเปลี่ยนทุก 1,500-2,000 กม. หรือสังเกตง่ายๆ ว่าถ้ารู้สึกว่าเกียร์เข้ายาก เครื่องสั่น หรือเสียงดังกว่าปกติ ก็จับเปลี่ยนได้เลยไม่ต้องรอ
การดูแลรถมอเตอร์ไซค์ไม่ใช่เรื่องยากและไม่ต้องรอให้เป็นช่างก็ทำได้ เพียงแค่หมั่นตรวจสอบอาการน้ำมันเครื่องแห้ง มอเตอร์ไซค์ และเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ การลงทุนกับน้ำมันเครื่องหลักร้อย แลกกับการไม่ต้องเสียเงินซ่อมเครื่องหลักพัน ถือเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าที่สุดแล้ว
สุดท้ายนี้ ถ้าเพื่อน ๆ กำลังมองหาน้ำมันเครื่องคุณภาพดี ของแท้ มีให้เลือกทุกเกรดทุกยี่ห้อ อย่าลืมแวะเข้ามาเลือกช้อปได้ที่ Shopee นะ มีโปรโมชั่นดี ๆ รออยู่เพียบ!
บทความแนะนำ
น้ำมันเครื่องกึ่งสังเคราะห์ คืออะไร? ต่างจากสังเคราะห์แท้ยังไง บทความนี้สรุปข้อดี–ข้อเสีย วิธีเลือก และเหมาะกับรถแบบไหน อ่านจบเลือกได้ทันที
เข้าใจสัญลักษณ์บนรีโมทแอร์ บทความนี้รวมทุกสัญลักษณ์ที่ควรรู้ ตั้งแต่โหมดเย็น Dry Fan Auto ไปจนถึง Sleep Mode อ่านจบใช้แอร์ได้อย่างมืออาชีพ
มาดูรายการ ของใส่บาตร ข้าวสารอาหารแห้ง พร้อมแนะนำใส่กี่อย่างถึงจะดี ทั้งสะดวกและได้อานิสงส์เต็มที่ ใส่บาตรให้ได้บุญแล้ว ต้องรู้จักเลือกของถวาย อย่างเหมาะสมด้วย
เล่มเขียวหายไม่ต้องตกใจ! มาดูวิธีขอเล่มทะเบียนมอเตอร์ไซค์ใหม่ ตั้งแต่เอกสารที่ใช้ ขั้นตอนที่ขนส่ง ไปจนถึงค่าใช้จ่าย พร้อมคำแนะนำสำหรับรถมือสอง
แนะนำหม้ออบลมร้อน แบบไหนดี สำหรับคนชอบทำอาหารในบ้าน พร้อมแนะนำรุ่นยอดนิยม ทั้งราคาน่าซื้อ ดีไซน์สวย และฟังก์ชันครบ
รู้จัก Soft Power พลังที่ขับเคลื่อนประเทศผ่านวัฒนธรรม แฟชั่น อาหาร และความคิดสร้างสรรค์ พร้อมยกตัวอย่าง Soft Power ของไทยที่กำลังสร้างชื่อบนเวทีโลก