Pets

วิธีเลี้ยงหนูแฮมสเตอร์อย่างถูกต้อง ลักษณะนิสัย และสายพันธุ์ยอดนิยม!

นอกจากกระต่ายแล้ว สัตว์ฟันแทะที่ได้รับความนิยมอย่างมากอีกหนึ่งชนิดก็คือ หนูแฮมสเตอร์ เหตุผลที่ทำให้หลาย ๆ คนเลือกที่จะเลี้ยงเจ้าหนูแฮมสเตอร์ คงหนีไม่พ้นรูปร่างอ้วนกลม ขนาดเล็กน่ารัก นิสัยเฉพาะตัว และสีสันที่หลากหลาย รวมไปถึงหนูแฮมสเตอร์เป็นสัตว์เลี้ยงที่ใช้พื้นที่น้อย ไม่ส่งเสียงรบกวน อย่างน้อยก็มีแค่เสียง จี๊ดๆๆ ดังบ้างเป็นระยะ ใครที่เริ่มมีใจอยากจะเลี้ยงเจ้าหนูแฮมสเตอร์แล้ว เรามาทำความรู้จัก และมาดูการเลี้ยงหนูแฮมสเตอร์กันก่อนดีกว่า 

ประวัติหนูแฮมสเตอร์

เห็นหนูแฮมสเตอร์เป็นสัตว์ที่ตัวเล็ก ขนปุกปุยแบบนี้ แต่กลับเป็นสัตว์ที่อาศัยอยู่ในทะเลทราย ถูกพบครั้งแรกที่ทะเลทรายซีเรียน ซึ่งเหตุผลที่เจ้าตัวเล็กได้ชื่อว่าแฮมสเตอร์ก็เพราะ คำว่า “แฮมสเตอร์” เป็นภาษาเยอรมันแปลว่า กระพุ้งแก้ม มาจากนิสัยของหนูแฮมสเตอร์ที่ชอบเก็บอาหารไว้ที่กระพุ้งแก้มนั่นเอง 

ลักษณะนิสัยของหนูแฮมสเตอร์

  • การกิน: หนูแฮมสเตอร์มักจะเก็บอาหารไว้ในกระพุ้งแก้ม นอกจากนี้กระพุ้งแก้มสำหรับแม่หนูแฮมสเตอร์ ยังเป็นที่เก็บลูก ๆ เมื่อรู้สึกถึงอันตราย รวมไปถึงหากอากาศร้อน หนูแฮมสเตอร์จะกินอาหารน้อยลง เนื่องจากมันคิดว่าไม่จำเป็นต้องสะสมไขมันในร่างกาย
  • การนอน: หนูแฮมสเตอร์จะใช้เวลากลางวันในการนอน และตื่นมาทำกิจกรรมในตอนกลางคืน เนื่องจากตามธรรมชาติ หนูแฮมสเตอร์อาศัยอยู่ในโพรงดินกลางทะเลทรายที่มีอากาศร้อนตอนกลางวัน และออกหาอาหารตอนกลางคืน
  • การออกกำลังกาย: หนูแฮมสเตอร์ใช้เวลาเยอะไปกับวิ่งการออกกำลังกาย สามารถวิ่งได้ถึง 30 ไมล์ต่อคืน หากหนูแฮมสเตอร์ไม่ได้วิ่งหรือออกกำลังกาย จะทำให้มีผลต่อสุขภาพได้
  • การมองเห็น: หนูแฮมสเตอร์สายตาไม่ดี สามารถมองเห็นได้ไกล ๆ แต่ไม่ชัด และมองไม่เห็นสิ่งที่อยู่ใกล้ จึงอาศัยการฟังและการดมกลิ่นเป็นตัวช่วยในการดำเนินชีวิตแทน
  • การกัดแทะ: แน่นอนว่านิสัยกัดแทะ เป็นส่วนหนึ่งของสัตว์ชนิดนี้ โดยฟันของหนูแฮมสเตอร์จะยาวขึ้นเรื่อย ๆ หากหนูแฮมสเตอร์ไม่ได้กัดแทะหรือลับฟันให้สั้น จะทำให้ปากได้รับบาดเจ็บได้

หนูแฮมสเตอร์มีอายุเท่าไหร่

หนูแฮมสเตอร์สามารถมีอายุขัยได้นานถึง 3 ปีหรือมากกว่านั้น ขึ้นอยู่กับสุขภาพและการเลี้ยงดูของเจ้าของด้วย 

หนูแฮมสเตอร์พันธุ์ต่าง ๆ

ตามธรรมชาติมีหนูแฮมสเตอร์อยู่หลากหลายสายพันธุ์ แต่ที่ถูกนำมาเลี้ยงเป็นสัตว์เลี้ยง มีอยู่ 5 สายพันธุ์ ดังนี้

ซีเรียน แฮมสเตอร์ หรือหนูแฮมเตอร์ ไจแอนท์

หนูแฮมสเตอร์สายพันธ์ซีเรียน หรือโกลเดน เป็นสายพันธุ์ที่มีการเลี้ยงมากที่สุด โดยธรรมชาติมีนิสัยอยากรู้อยากเห็น ขนยาว มีสีขนหลากหลาย ต้องการกรงที่มีพื้นที่ให้วิ่ง ตื่นมาเล่นช่วงเย็นจนถึงกลางคืน เป็นหนูที่ไม่ชอบสังคม ควรเลี้ยงตัวเดียวในกรง ไม่เช่นนั้นจะกัดกันจนบาดเจ็บ หรือเสียชีวิตได้  

  • ขนาดตัว: 12.5 – 17.5 ซม.
  • อายุเฉลี่ย: 2 – 3 ปี
  • หนูแฮมสเตอร์ราคา: 100 – 300 บาท

แคมแบลล์ รัสเชียน แฮมสเตอร์

สำหรับหนูแฮมสเตอร์สายพันธ์นี้มีสีให้เลือกเยอะเช่นกัน มีสีหลัก ๆ อยู่ 4 สี คือ Normal, Satin, Wavy และ Rex แคมแบลล์ รัสเชียน แฮมสเตอร์มักจะตื่นตัวช่วงพลบค่ำและรุ่งเช้า สามารถเลี้ยงรวมกับตัวอื่นได้ 

  • ขนาดตัว: 10 – 12 ซม.
  • อายุเฉลี่ย: 1.5 – 3 ปี
  • หนูแฮมสเตอร์ราคา: 100 – 200 บาท

วินเทอร์ ไวท์ รัสเชียน แฮมสเตอร์

วินเทอร์ ไวท์ รัสเชียน แฮมสเตอร์หรือที่รู้จักในชื่อไซบีเรียน แฮมสเตอร์ สีขนหลัก ๆ คือน้ำตาลสีเทา เมื่อถึงฤดูหนาวขนจะเปลี่ยนเป็นสีอ่อนลง เป็นที่มาของชื่อสายพันธุ์ สามารถเลี้ยงรวมกันได้ 

  • ขนาดตัว: 8 – 10 ซม.
  • อายุเฉลี่ย: 1.5 – 2 ปี
  • หนูแฮมสเตอร์ราคา: 80 – 300 บาท

ไชนีส แฮมสเตอร์


ไชนีส แฮมสเตอร์สายพันธุ์นี้จะมีหางที่ยาวเล็ก หน้ายาว และเพรียวกว่าสายพันธุ์อื่น ตอนยังเด็กหนูแฮมสเตอร์พันธุ์นี้จะค่อนข้างขี้ตกใจ แต่เมื่อโตขึ้นจะใจเย็นและสงบ ในธรรมชาติมีเพียง 2 สีหลัก ๆ เท่านั้น คือน้ำตาลเทา และสีขาว พร้อมแถบสีเข้มคาดตามยาวหลัง

  • ขนาดตัว: 10 – 12 ซม.
  • อายุเฉลี่ย: 2 – 3 ปี
  • หนูแฮมสเตอร์ราคา: 80 – 200 บาท

โรโบรอฟสกี้ แฮมสเตอร์

เป็นสายพันธุ์หนูแฮมสเตอร์ที่เล็กที่สุด แต่มีอายุเฉลี่ยยืนที่สุดในบรรดา 5 สายพันธุ์  และเป็นหนูแฮมสเตอร์ที่ไวที่สุด สีหลัก ๆ คือ สีน้ำตาลทอง ตรงช่วงหลัง มีสีขาวช่วงท้องและแต้มขาวบนดวงตา สามารถเลี้ยงรวมได้

  • ขนาดตัว: 4.5 ซม. ขึ้นไป
  • อายุเฉลี่ย: 3 ปีขึ้นไป
  • หนูแฮมสเตอร์ราคา: 100 – 300 บาท

หนูแฮมสเตอร์ พันธุ์ เชื่องที่สุด

ซีเรียน แฮมสเตอร์ ถือเป็นหนูแฮมสเตอร์ที่เชื่อง ผ่อนคลาย และเป็นมิตรที่สุด เทียบกับสายพันธุ์อื่นเมื่ออยู่ในสถานการณ์ที่ไม่คุ้นชิน รวมไปถึงขนาดตัวที่ใหญ่ ทำให้การดูแล หรือการจับทำได้ง่ายกว่าด้วย 

การเลือกซื้อแฮมสเตอร์

  • เช็กบริเวณทรายรองกรง ไม่ควรเปียก และต้องสะอาด
  • จับหนูแฮมสเตอร์ที่ชอบขึ้นมาสำรวจ โดยรูปร่างของเจ้าหนูไม่ควรอ้วนหรือผอมเกินไป ขนฟู นุ่ม ดูสะอาด และไม่มีบริเวณที่ขนหลุด
  • เช็กบริเวณหู ตา จมูก จะต้องสะอาด ขนรอบตา และจมูกต้องไม่หลุดร่วง หรือไม่ถูกย้อมสี
  • เช็กฟัน ไม่ควรยาวเกินไป ควรมีฟันที่ขนาดพอดีกับปาก ในขณะเดียวกันให้เช็กขนบริเวณคางต้องไปเปียกชื้นเกินไป
  • เช็กจังหวะ และเสียงหายใจ ควรเงียบสงบ ไม่ควรมีเสียงฟึดฟัด หรือเสียงหายใจติดขัด
  • หลังจากนั้นให้วางหนูลง และสังเกตการเคลื่อนตัว ต้องดูตื่นตัว ไม่เชื่องช้าหรือดูอ่อนแอ

เลี้ยงหนูแฮมเตอร์ ต้องมีอะไรบ้าง

  • กรงเลี้ยงหนูแฮมสเตอร์: เป็นกรงแบบซี่ลวด ตู้กระจกแบบตู้ปลา หรือตู้อะคริลิคก็ได้
  • จักรออกกำลังกาย: เลือกขนาดให้เหมาะกับสายพันธุ์
  • ถ้วยอาหาร: แนะนำเป็นถ้วยเซรามิกขนาดเล็ก
  • ขวดน้ำดื่ม: พร้อมน้ำสะอาด ควรเปลี่ยน 3 – 4 วันครั้ง
  • ห้องน้ำหนูแฮมสเตอร์: สำหรับใส่ทรายเพื่อให้หนูแฮมสเตอร์คลุกตัวทำความสะอาด
  • ทรายอาบน้ำ: เป็นทรายละเอียด ไม่ควรใช้ทรายสี เพราะจะทำให้เข้าตาและเกิดอาการแพ้ได้
  • ที่รองกรง: มีทั้งแบบก้านปอ ทิชชู และทรายอนามัย
  • ถ้วยดินเผา: สำหรับเมืองไทยที่อากาศร้อน ควรมีถ้วยดินเผาจะช่วยให้หนูแฮมสเตอร์นอนกลางวันแบบไม่ร้อนเกินไป
  • ไม้ลับฟัน หรือลูกสน: เพื่อให้หนูแฮมสเตอร์ได้ลับฟันให้สั้นและคมตามธรรมชาติ
  • บ้านหนูแฮมสเตอร์: เพื่อไว้เป็นที่หลบ และเอาไว้นอน

อาหารหนูแฮมสเตอร์

  • หารสัตว์เล็กสำเร็จรูป หลัก ๆ จะเป็นธัญพืชหลากหลายชนิด แนะนำซื้อ 2 ยี่ห้อมาผสมกัน เพื่อให้หนูแฮมสเตอร์ได้รับสารอาหารครบถ้วน
  • อาหารอื่น ๆ: แครอท แตงกวา แคนตาลูป แอปเปิล กล้วย พริกหวาน ผักกาด ขึ้นฉ่าย คะน้า กะหล่ำ บรอคโคลี และต้นหญ้าแดนดิไล ให้เป็นขนมสัปดาห์ละ 2 – 3 ครั้ง

อาหารที่ห้ามให้แฮมสเตอร์

  • เปลือกและเมล็ดแอปเปิ้ล เมล็ดองุ่น กระเทียม หัวหอม มะเขือยาว ช็อกโกแลต ถั่วอัลมอนด์ ถั่วลิสง (ถั่วสองชนิดนี้ไม่เป็นพิษ แต่ทำให้น้ำหนักเกินได้)

หากอยากเลี้ยงหนูแฮมสเตอร์ ต้องเรียนรู้นิสัยเฉพาะของแต่ละสายพันธุ์ด้วย

ถึงแม้หนูแฮมสเตอร์จะน่ารักน่าเลี้ยงแค่ไหน แต่หนูแฮมสเตอร์ก็เป็นสัตว์เลี้ยงที่มีนิสัยเฉพาะ พฤติกรรมบางอย่างที่แตกต่างจากสัตว์เลี้ยงตัวอื่น ๆ ทั้งอาหารการกิน เวลาการใช้ชีวิต และไม่ใช่หนูแฮมสเตอร์ทุกสายพันธุ์จะสามารถเลี้ยงรวมกันได้ ดังนั้นใครที่ตกหลุมรักเจ้าหนูแฮมสเตอร์แก้มตุ๋ยตัวนี้แล้ว ก็อย่าลืมสละเวลาศึกษาการเลี้ยงหนูแฮมสเตอร์ เพื่อให้น้องอยู่กับเราได้นาน ๆ

ที่มา: theanimalfiles.com, thesprucepets.com

Nin ST

Joined SEO team in 2023, Nin enjoyed creating lifestyle, home & living, and pets-related articles for share as she has furbabies herself - 4 fluffy British short-hair cats :)

Share
Published by
Nin ST

Recent Posts

10 เครื่องประดับแบรนด์ไทยที่สาวๆต้องเลิฟ! ราคาดีใส่ง่าย ได้ลุคไม่ซ้ำ

รวม 10 เครื่องประดับแบรนด์ไทยดีไซน์เก๋ ราคาหลักร้อย–พันต้นๆ แนะนำสร้อยคอแบรนด์ หลักพัน และกำไลข้อมือแบรนด์ ราคาไม่แพง พร้อมทริคเลือกให้เหมาะกับสไตล์คุณ

15 hours ago

รวมลิสต์ประเทศที่ไม่ต้องขอวีซ่า บินง่าย แพ็คกระเป๋าได้เลย!

35 ประเทศไม่ต้องขอวีซ่า เที่ยวได้เลย ไม่ต้องรอ พร้อมทำความเข้าใจเงื่อนไข และข้อควรรู้ต่าง ๆ รวมถึงขั้นตอนการเดินทางแบบเข้าใจง่าย มั่นใจได้ทุกทริป!

4 days ago

ทำนายฝันเห็นแมว หมายถึงอะไร ? พร้อมเลขเด็ด เลขนำโชคที่ห้ามพลาด!

เปิดตำรา! รวมคำทำนายฝันเห็นแมว แปลว่าอะไร? พร้อมตีเลขเด็ด เลขนำโชคให้ลุ้นกันแบบไม่มีกั๊ก คนชอบทำนายฝัน ห้ามพลาด!

4 days ago

รวม 300 แคปชั่นคําคมรถซิ่งเด็ด ๆ เรียกยอดไลก์ ให้คนรู้ว่ารถเราแรง

รวมคําคมรถซิ่ง จัดเต็มครบทุกสายทั้งตลกฮา เท่ เสี่ยวไว้จีบสาว เน้นให้กำลังใจ หรือน้อยใจเพราะโดนเทจัดเต็มถึง 300 แคปชั่น ไว้โพสต์เรียกไลก์ได้ทุกวัน

1 week ago

เปิดลิสต์! 10 น้ำยาบ้วนปาก ยี่ห้อไหนดี ใช้แล้วสดชื่น ปากสะอาด ลดกลิ่นปากชัวร์!

เลือกน้ำยาบ้วนปาก ยี่ห้อไหนดี? กับ 10 แบรนด์น้ำยาบ้วนปาก พร้อมแชร์ใช้ และ Tips การดูแลช่องปากแบบครบสูตร ฟันแข็งแรง เหงือกสุขภาพดี ยิ้มได้อย่างมั่นใจ

1 week ago

เคล็ดลับผิวสวย! เจลว่านหางจระเข้ ทาหน้า ช่วยอะไร ? ใช้ยังไงให้ผิวฉ่ำโกลว์ สุขภาพดี

ประโยชน์เจลว่านหางจระเข้ทาหน้า ช่วยอะไรบ้าง? แปะวิธีใช้ที่ถูกต้อง และเคล็ดลับผิวสวยผิวปัง! พร้อมแนะนำ 10 เจลว่านหางจระเข้ยี่ห้อไหนที่ใช้แล้วดีจริง ๆ

1 week ago