เบื่อขนมเข่งนึ่ง? ลอง 4 สูตรขนมเข่งทอด ทำง่าย อร่อยจนหยุดไม่อยู่!

หลังตรุษจีน ขนมเข่งเหลือเยอะใช่ไหม? เบื่อขนมเข่งแบบนิ่ม ๆ ลองแปลงร่างเป็นเมนูทอดแสนอร่อย กรอบนอกนุ่มใน ทำง่าย ๆ ที่บ้านกัน! ขนมเข่ง ขนมมงคลของชาวจีนที่ใช้ในเทศกาลสำคัญ โดยเฉพาะตรุษจีน มีลักษณะเป็นแป้งข้าวเหนียวผสมน้ำตาล นึ่งจนสุก เหนียวนุ่ม เป็นสัญลักษณ์ของความหวานชื่น ราบรื่น และอุดมสมบูรณ์ วันนี้ขอเสนอ 4 สูตรขนมเข่งทอดสุดครีเอท เพิ่มรสชาติและเนื้อสัมผัสที่แตกต่าง ไม่จำเจและอร่อยถูกใจแน่นอน!

ขนมเข่งทอดเบค่อน

ส่วนผสมขนมเข่งทอดพันเบค่อน

1. ขนมเข่ง 1 ชิ้น หั่นเป็นชิ้นพอคำ 4 ชิ้น
2. เบคอน 2 ชิ้น หั่นครึ่ง 4 ชิ้น
3. น้ำมันพืชเล็กน้อย
4. น้ำผึ้ง (สำหรับราดเพิ่มรสชาติ)

วิธีทำ ขนมเข่งทอดพันเบค่อน

1. หั่นขนมเข่งเป็นชิ้นพอดีคำ ขนาดประมาณ 1-1.5 นิ้ว หนาประมาณ ½ – ¾ นิ้ว (หรือตามชอบ) การหั่นให้มีขนาดเท่ากันจะช่วยให้สุกพร้อมกัน
2. หั่นเบคอนครึ่งหนึ่ง หรือตามความยาวที่ต้องการให้พอดีกับขนมเข่ง
3. นำเบคอนพันรอบขนมเข่ง โดยพยายามพันให้แน่นพอประมาณ เพื่อไม่ให้หลุดขณะทอด ใช้ไม้จิ้มฟันกลัดตรงปลายเบคอนที่พันทับกัน เพื่อยึดให้เบคอนอยู่ทรง
4. ตั้งกระทะบนเตา ใช้ไฟอ่อนถึงปานกลาง ใส่น้ำมันพืชเพียงเล็กน้อย พอเคลือบกระทะก็เพียงพอ เพราะระหว่างทอดเบคอนจะปล่อยน้ำมันออกมาอีก
5. เมื่อกระทะเริ่มร้อน นำขนมเข่งที่พันเบคอนลงไปจี่ในกระทะ
   • เคล็ดลับ: ทดสอบโดยการหย่อนเบคอนชิ้นเล็กๆ ลงไป ถ้าเบคอนเริ่มมีฟองเล็กน้อย แสดงว่ากระทะร้อนพอดี
6. คอยพลิกกลับด้านขนมเข่งอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้เบคอนเหลืองกรอบทั่วทุกด้าน ใช้เวลาประมาณ 2-3 นาทีต่อด้าน หรือจนกว่าเบคอนจะกรอบตามชอบ
7. เมื่อเบคอนเหลืองกรอบ ตักขนมเข่งขึ้นพักบนกระดาษอเนกประสงค์ เพื่อซับน้ำมันส่วนเกินออก
8. ก่อนเสิร์ฟ ดึงไม้จิ้มฟันออก ระวังความร้อน
9. จัดขนมเข่งทอดเบคอนใส่จาน เสิร์ฟพร้อมน้ำผึ้ง หรือซอสมะเขือเทศ ตามความชอบ

---

ขนมเข่งสูตรชุบไข่ทอด

Cr: flickr

ส่วนผสม ขนมเข่งสูตรชุบไข่ทอด

1. ขนมเข่ง 3 ชิ้น ควรแช่เย็นในตู้เย็นอย่างน้อย 1 คืนก่อนนำมาทอด เพื่อให้ขนมเข่งอยู่ตัว หั่นง่าย และไม่เละขณะทอด
2. น้ำมันสำหรับทอด
3. ไข่ไก่ 1 ฟอง

วิธีทำ ขนมเข่งสูตรชุบไข่ทอด

1. นำไปแช่ตู้เย็นทิ้งไว้ 1 คืน
2. ล้างขนมเข่งด้วยน้ำสะอาด เพื่อล้างคราบน้ำมัน หรือสิ่งสกปรกที่อาจติดมา
3. ซับขนมเข่งให้แห้งสนิท ด้วยกระดาษซับน้ำมัน การซับให้แห้งเป็นขั้นตอนสำคัญ เพื่อลดการกระเด็นของน้ำมันขณะทอด
4. หั่นขนมเข่งเป็นชิ้นพอดีคำ ประมาณ 8 ชิ้น ตามชอบ
   • เคล็ดลับ: หากหั่นบางเกินไป ขนมเข่งจะไหม้ง่าย หากหั่นหนาเกินไป อาจจะอมน้ำมัน
5. ตอกไข่ใส่ชาม ตีให้เข้ากันเหมือนไข่เจียว ปรุงรสด้วยเกลือเล็กน้อย (ถ้าชอบรสเค็มเล็กน้อยตัดกับความหวานของขนมเข่ง) หรือจะไม่ปรุงรสก็ได้
6. ตั้งกระทะ ใส่น้ำมันพืชลงไป ปริมาณน้ำมันควรท่วมขนมเข่งเล็กน้อย เพื่อให้ขนมเข่งสุกทั่วถึง ใช้ไฟกลางค่อนข้างไปทางแรงเล็กน้อย รอจนน้ำมันร้อน
   • เคล็ดลับซ ทดสอบโดยการหยดไข่ลงไปเล็กน้อย ถ้าน้ำมันเดือดฟู่ขึ้นมา แสดงว่าใช้ได้
7. นำขนมเข่งที่หั่นไว้ ชุบลงในไข่ที่ตีไว้ ให้ไข่เคลือบขนมเข่งทั่วทั้งชิ้น นำขนมเข่งที่ชุบไข่แล้ว ลงทอดในน้ำมันร้อนๆ อย่างระมัดระวัง ทอดจนขนมเข่งเหลืองทอง และกรอบ พลิกกลับด้านให้เหลืองกรอบเท่ากันทั้งสองด้าน
8. ตักขนมเข่งทอดขึ้นพักบนกระดาษซับน้ำมัน เพื่อซับน้ำมันส่วนเกินออก
9. หลังจากทอดครั้งแรก ทิ้งขนมเข่งไว้ให้เย็นสนิท นำขนมเข่งมาชุบไข่ทอดอีกครั้ง แล้วนำลงทอดในน้ำมันร้อนๆ อีกครั้ง วิธีนี้จะช่วยให้ขนมเข่งกรอบนอกนุ่มในมากยิ่งขึ้น

---

ขนมเข่งหม้อทอด

ส่วนผสม ขนมเข่งหม้อทอด

1. ขนมเข่ง 2 ชิ้น

วิธีทำ ขนมเข่งหม้อทอด

1. นำขนมเข่งออกจากห่อ หรือใบตองที่ห่อออก ถ้าขนมเข่งเหนียวมาก อาจนำไปแช่ช่องฟรีซสักพัก (ประมาณ 15-20 นาที) เพื่อให้หั่นง่ายขึ้น แต่ไม่ต้องถึงกับแข็งวางชิ้นขนมเข่งที่หั่นไว้ลงบนแผ่นรองทอด หรือตะแกรง โดยเว้นระยะห่างเล็กน้อย เพื่อให้อากาศร้อนหมุนเวียนได้ทั่วถึง และขนมเข่งไม่ติดกัน
2. ตั้งอุณหภูมิของหม้อทอดไร้น้ำมันที่ 200 องศาเซลเซียส
3. อบขนมเข่งด้านละ 5 นาที (รวมเป็น 10 นาที) เวลานี้เป็นเพียงค่าประมาณ อาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับรุ่นและขนาดของหม้อทอดไร้น้ำมัน รวมถึงความหนาของขนมเข่ง
4. หลังจากอบครบ 5 นาทีแรก ให้เปิดหม้อทอดออกมา พลิกกลับด้านขนมเข่ง เพื่อให้สุกและกรอบเท่ากันทั้งสองด้าน
5. อบต่ออีก 5 นาที หรือจนกว่าขนมเข่งจะมีสีเหลืองทอง และกรอบตามต้องการ
6. หกชอบรสชาติหวาน สามารถเสิร์ฟคู่กับนมข้นหวานได้

---

ขนมเข่งชุปแป้งทอด

Cr: flickr

ส่วนผสม ขนมเข่งชุปแป้งทอด

1. น้ำมันสำหรับทอด 1 ขวดเล็กขึ้นอยู่กับขนาดกระทะ
2. ขนมเข่งหั่นบาง 10 อัน
3. แป้งทอดกรอบ 2 ช้อนโต๊ะ
4. ไข่ไก่ 1 ฟอง
5. เกลือ1/3 ช้อนชา (1 หยิบมือ)
6. น้ำเปล่า 1 ถ้วย

วิธีทำ ขนมเข่งชุปแป้งทอด

1. นำขนมเข่งออกจากห่อ หรือใบตองที่ห่อออก
2. หั่นขนมเข่งเป็นชิ้นๆ ขนาดตามชอบ โดยทั่วไปนิยมหั่นเป็นแผ่นหนาประมาณ ½ – ¾ เซนติเมตร หรือหั่นเป็นชิ้นสี่เหลี่ยมลูกเต๋า
   • เคล็ดลับ: การนำขนมเข่งที่หั่นแล้วไปผึ่งแดด หรือผึ่งลมสักพัก (ประมาณ 15-30 นาที) จะช่วยลดความชื้นในขนมเข่ง ทำให้เวลาทอดไม่อมน้ำมัน และกรอบนานขึ้น (แต่ถ้าไม่มีเวลาก็ข้ามขั้นตอนนี้ได้)
3. ผสมแป้งชุบทอด: ใส่แป้งทอดกรอบลงในชาม และตอกไข่ไก่ใส่ลงไป ค่อยๆ เติมน้ำสะอาดลงไปทีละน้อย คนให้เข้ากันจนแป้งละลายหมด และมีลักษณะข้นพอประมาณ ไม่เหลวหรือข้นจนเกินไป
   • เคล็ดลับ: ควรคนแป้งไปในทิศทางเดียวกัน เพื่อไม่ให้แป้งเป็นเม็ด หากแป้งข้นเกินไป ให้เติมน้ำสะอาดเพิ่มทีละน้อย หากเหลวเกินไป ให้เติมแป้งทอดกรอบเพิ่ม
   • เคล็ดลับ: หากต้องการให้แป้งกรอบเป็นพิเศษ อาจเติมแป้งมันลงไปเล็กน้อย (ประมาณ 1 ช้อนโต๊ะ) หรือใช้น้ำเย็นจัดในการผสมแป้ง
4. ตั้งกระทะ ใส่น้ำมันสำหรับทอดลงไป ปริมาณน้ำมันควรท่วมขนมเข่ง เพื่อให้สุกทั่วถึง
5. ใช้ไฟกลาง รอจนน้ำมันร้อน (ทดสอบโดยการหยดแป้งลงไปเล็กน้อย ถ้าแป้งฟูขึ้นมา แสดงว่าน้ำมันร้อนได้ที่)
6. นำขนมเข่งที่หั่นไว้ ชุบลงในแป้งที่ผสมไว้ ให้แป้งเคลือบขนมเข่งทั่วทั้งชิ้น
7. นำขนมเข่งที่ชุบแป้งแล้ว ลงทอดในน้ำมันร้อนๆ อย่างระมัดระวัง อย่าใส่ขนมเข่งลงไปในกระทะมากเกินไป เพราะจะทำให้อุณหภูมิน้ำมันลดลง และขนมเข่งอมน้ำมัน
8. ทอดจนขนมเข่งเหลืองกรอบ พลิกกลับด้านให้เหลืองกรอบเท่ากันทั้งสองด้าน ใช้เวลาประมาณ 2-3 นาทีต่อด้าน หรือจนกว่าจะได้สีที่ต้องการ
   • เคล็ดลับ: ระหว่างทอดให้คอยสังเกตความร้อนของน้ำมัน ถ้าไฟแรงเกินไปให้ลดไฟลง เพื่อป้องกันขนมเข่งไหม้ ถ้าไฟอ่อนเกินไป ขนมเข่งจะอมน้ำมัน
9. ตักขนมเข่งขึ้นพักบนกระดาษซับน้ำมัน เพื่อซับน้ำมันส่วนเกินออกให้มากที่สุด
10. จัดขนมเข่งใส่จาน เสิร์ฟขณะร้อนๆ หรืออุ่นๆ จะอร่อยที่สุด สามารถทานคู่กับน้ำจิ้มต่างๆ เช่น น้ำจิ้มบ๊วย น้ำจิ้มไก่ หรือซอสมะเขือเทศ ตามชอบ

เอาใจคนเบื่อขนมเข่งแบบเดิม ๆ ด้วย 4 สูตรขนมเข่งทอดสุดครีเอท! มีทั้งแบบคาวอย่างพันเบคอน แบบหวานชุบไข่ ชุบแป้งทอดกรอบ สำหรับคนอุปกรณ์น้อย และไม่มีทักษะการทำอาหารมากหนัก และกลัวอ้วนไม่ง้อน้ำมัน ให้ทำขนมเข่งสูตรหม้อทอดไร้น้ำมัน ส่วนใครมักทักษะขึ้มาหน่อยจะทำสูตรชุบไข่ ชุบแป้ง ฟันเบ่ค่อนก็ได้ ใครชอบแบบไหนก็เลือกทำ หรือเอาไปต่อยอดได้ตามใจชอบ หวังว่าจะอร่อยและเป็นมงคลรับปีใหม่นี้ ใครอยากเสริมความมงคลด้านอื่น ๆ มาอ่าน สีเสื้อมงคล 2568 หรือติดตามบทความดีๆ เพิ่มเติมได้ที่ Shopee Blog เลย!