แครอท (Carrot) พืชกินหัวที่มีหลายสีไม่ว่าจะเป็นสีเหลือง แครอทสีม่วง แต่ที่มักพบเห็นโดยส่วนใหญ่คือสีส้ม ซึ่งมีสารเบต้าแคโรทีนที่ช่วยในการบำรุงสายตา ชะลอความแก่ และสรรพคุณอื่น ๆ อีกมากมาย อีกทั้งยังทานได้ง่ายไม่ว่าจะทานสด หรือต้มสุก รวมไปถึงการนำไปทำเป็นเครื่องดื่ม หรืออาหารเพื่อสุขภาพ เรามาดูกันสิว่าเจ้าแครอทนั้นมีโภชนาการดี ๆ เพื่อสุขภาพอย่างไรบ้าง
หัวข้อต่างๆ ของบทความนี้
แครอท (Carrot) คือไม้ล้มลุกชนิดหนึ่งที่ได้รับความนิยมในการรับประทานจากทั่วโลกรวมไปถึงประเทศไทยซึ่งมีชื่อทางวิทยาศาสตร์คือ Daucus carota L. ในวงศ์ Umbelliferae. โดยปลูกไว้เพื่อกินหัว ต้นแครอทจะใช้รากแก้วในการสะสมอาหาร มีลักษณะเป็นทรงยาวหลากหลายสี อาทิเช่น แครอทม่วง เหลือง ส้ม ขาว และแดงโดยให้คุณค่าสารอาหาร และโภชนาการสูงซึ่งอุดมไปด้วยสารเบต้าแคโรทีนเช่นเดียวกับเสาวรส และ ฟักทอง ที่มีทั้งใยอาหาร สารต้านอนุมูลอิสระ แร่ธาตุ และวิตามิน
แครอท ประโยชน์มีมากมายและเป็นผักที่ที่นิยมในหลายประเทศทั่วโลก ประโยชน์ของแครอทมีดังนี้
แครอทมีเบต้าแคโรทีนสูง ซึ่งร่างกายจะเปลี่ยนเป็นวิตามินเอ ช่วยบำรุงสายตาและป้องกันภาวะตาบอดกลางคืน (โรคตาบอดกลางคืนเกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น พันธุกรรม การขาดวิตามินเอ สายตาสั้น หรือ โรคต้อต่างๆ)
วิตามินเอและสารต้านอนุมูลอิสระในแครอทช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน ทำให้ร่างกายแข็งแรง พอมีสารต้านอนุมูลอิสระ ก็จะช่วยลดความเสี่ยงของการทำให้ร่างกายเกิดภาวะเครียด และลดความเสี่ยงโรคอื่นๆที่จะตามมาได้ เช่น โรคมะเร็ง โรคเบาหวาน โรคหัวใจ
แครอทมีไฟเบอร์สูง ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลในเลือดและลดความเสี่ยงของโรคหัวใจ เพราะแครอทมีสารต้านอนุมูลอิสระซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งของโรคหัวใจ
ไฟเบอร์ในแครอทช่วยในการย่อยอาหารและป้องกันอาการท้องผูก
วิตามินเอในแครอทช่วยบำรุงผิวพรรณให้ดูสุขภาพดี ผิวไม่แก่ก่อนวัย และยังลดการเกิดสิว
วิตามินเอ ถือว่ามีความจำเป็นอย่างมากสำหรับคุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์ เพราะวิตามินเอไม่เพียงแต่สร้างภูมิคุ้มกันให้คุณแม่ แต่ยังเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้คุณลูกด้วย แถมยังกระตุ้นการสร้างเซลล์บางชนิดและกระตุ้นการตอบสนองของร่างกายเด็กให้สมบูรณ์อีกด้วย
แครอทมีสรรพคุณทางยาหลายประการที่ช่วยในการรักษาและป้องกันโรคต่าง ๆ
สำหรับแครอทสามารถรับประทานได้ทั้งแบบดิบและสุก เพียงแต่บางคนอาจจะชอบกินแบบสุกหรือดิบแตกต่างกันไปในความชอบของแต่ละคน หากใครถามว่าแครอทกินดิบได้ไหม บอกเลยว่ากินดิบได้และมีประโยชน์มากมาย เช่น
อย่างไรก็ตาม ควรระวังการกินแครอทดิบในปริมาณมากเกินไป เพราะอาจทำให้เกิดภาวะคาโรทีนีเมีย (Carotenemia) ซึ่งก็คืออาการผิวหนังเปลี่ยนเป็นสีเหลือง แต่ภาวะนี้ไม่เป็นอันตรายและสามารถหายได้เมื่อหยุดกินแครอทในปริมาณมาก (ฟักทองเองก็เช่นกัน กินมากตัวเหลืองนะ!) ที่สำคัญก่อนจะนำแครอทมารับประทานควรล้างในน้ำเกลือ หรือน้ำส้มสายชูอย่าง 5 นาทีเพื่อกำจัดสารเคมี
จากการศึกษาพบว่าแครอทต้มสรรพคุณจะช่วยเพิ่มสารต้านอนุมูลอิสระที่เรียกว่า แคโรทีนอยด์ ได้มากกว่าการทานแครอทแบบดิบ เนื่องจากร่างกายสามารถดูดซึมได้ง่ายกว่า โดยผนังเซลล์ที่แข็งมากของแครอทจะถูกสลายเมื่อผ่านความร้อนในอุณหภูมิสูงทำให้ได้คุณค่าทางสารอาหารที่เพิ่มขึ้นมากกว่าแบบดิบที่ดูดซึมได้เพียง 25% รวมไปถึงเมื่อนำไปต้มแล้ว จะให้รสชาติที่หวานกว่า เนื่องมีการแตกตัวเป็นน้ำตาลเชิงเดี่ยว แม้อาจจะไม่ถูกใจสำหรับหลายท่านที่ชอบทานสดเนื่องจากเมื่อนำไปต้มรสชาติจะเปลี่ยนไป แต่ถึงอย่างไรก็สามารถลองปรับเป็นอาหารหลากหลายเมนู เพื่อช่วยเพิ่มความรู้สึกแปลกใหม่ในการรับประทานได้มากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังมีงานวิจัยของนิวคาสเซิ่ลได้ทดลองให้หนูกินสารฟอลคารินอลในแครอทที่ผ่านการหั่นเป็นชิ้นแล้วนำไปต้ม พบว่า มีการพัฒนาของเนื้อร้ายหรือเซลล์มะเร็งที่ลดลง และมีประสิทธิภาพดีกว่าการทานแครอทดิบอีกด้วย
หลายท่านอาจจะทราบดีว่าน้ำแครอทมีผลดีต่อสุขภาพ เราได้รวบรวมประโยชน์ของแครอทมาฝากถึง 5 ข้อ ดังนี้
สำหรับท่านใดที่เป็นโรคมะเร็ง (Cancer) ทั้งที่กำลังรับการรักษาหรือหายแล้ว แต่มีต้องการดูแลสุขภาพ มีการศึกษาอย่างจริงจังจาก Gurson Theraphy ถึงประโยชน์ของการรับประทานน้ำแครอทสกัดเย็นแครอทที่มีสารอาหารสำคัญ คือ “ฟอลคารินอล” ช่วยในการต่อต้านเซลล์มะเร็งให้มีจำนวนที่ลดลง รวมไปถึงลดศักยภาพของเซลล์มะเร็งในการพัฒนาไปสู่ตำแหน่งอื่น ๆ ของร่างกาย ทั้งนี้ ควรปรึกษาแพทย์เพิ่มเติมเพื่ออัปเดทความรู้เฉพาะทางการแพทย์และงานวิจัยล่าสุด
ในส่วนของฟักทองและแครอท ถือเป็นคู่ผักที่สามารถนำมาดัดแปลงได้อย่างหลากหลายเมนูซึ่งเราได้ยกตัวอย่างมาฝากถึง 5 เมนูสุดปังที่เหมาะกับเด็ก ๆ
Cr. Unsplash
พบว่า แครอทที่มีสารเบต้าแคโรทีนในกลุ่ม Provitamin ที่มีสารรงควัตถุหรือสารดูดกลืนแสงมาก เมื่อรับประทานเข้าไปภายในร่างกายเบต้าแคโรทีนจะถูกเปลี่ยนเป็นวิตามินเอ (Vitamin A) ซึ่งเป็นสารที่จำเป็นต่อร่างกาย แต่ถ้าหากร่างกายได้รับในปริมาณที่มากเกินไปก็จะส่งผลกระทบทำให้เกิดผิวสีเหลือง (xanthoderma) โดยได้รับการอ้างอิงข้อมูลจากเว็บไซต์ MedlinePlus.com ของสหรัฐอเมริกาที่ได้มีการรายงานเกี่ยวกับการบริโภคเบต้าแคโรทีนในระยะเวลาที่ยาวนานอย่างมีนัยสำคัญอันเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้สีผิวเปลี่ยนเป็นสีเหลือง หรือส้มได้ ซึ่งพบได้มากในทารก และเด็กเล็ก แต่ยังไม่มีปริมาณการบริโภคเบต้าแคโรทีนที่แนะนำต่อวันอย่างชัดเจน และไม่แนะนำให้ประชาชนทั่วไปทานเบต้าแคโรทีนเป็นอาหารเสริม เนื่องจากในชีวิตประจำวันเรามักจะได้รับวิตามินอย่างเพียงพอจากการทานอาหารมื้อหลักอยู่แล้ว
จบลงไปแล้วกับแครอท (Carrot) ที่ได้รวบรวมข้อมูลมาฝากแก่คุณผู้อ่านทุกท่านคงจะได้สาระ และประโยชน์ดีจากข้อมูลเพื่อช่วยในการเลือกรับประทานได้อย่างถูกวิธี ไม่ว่าจะกินสด หรือแปรรูปโดยการนำไปประกอบเป็นอาหารทั้งคาวหวาน หรือนำไปทำเป็นเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ แต่ทั้งนี้ควรระมัดระวังปริมาณในการรับประทานแต่ละวันที่อาจจะมากเกินไป และไม่ควรทานติดต่อกันเป็นประจำทุกวัน ควรสลับกับการรับประทานผัก และผลไม้อื่น ๆ ร่วมด้วย เพื่อเพิ่มความหลากหลายของสารที่ให้ทั้งผลดีต่อสุขภาพและไม่จำเจ
แหล่งข้อมูล : today.line.me, healthcoachnatalie.com, cooking.kapook.com
Feature Image credit : Freepik
เริ่มต้นปีใหม่กันแล้ว นอกจากการเช็คสภาพเครื่องยนต์ น้ำมันเครื่อง การต่อภาษีรถยนต์และ พ.ร.บ. รถยนต์เป็นเรื่องที่เจ้าของรถทุกคนต้องทำทุกปีตามกฎหมาย เพื่อให้การขับขี่เป็นไปอย่างปลอดภัยและถูกต้องตามกฎ วันนี้เรารวบรวมข้อมูลทั้งหมดเกี่ยวกับการต่อภาษีและ พ.ร.บ. รถยนต์ รวมถึงเอกสาร ที่ต้องใช้และราคา สำหรับปี 2568 มาให้แล้ว…
การลงทุนอาจจะฟังดูซับซ้อนสำหรับมือใหม่ แต่หากเราทำความเข้าใจพื้นฐานและเตรียมตัวให้พร้อม ก็จะช่วยให้การลงทุนของเรามีประสิทธิภาพและมั่นคงมากขึ้น! หากคุณกำลังคิดจะเริ่มลงทุน นี่คือสิ่งที่ควรศึกษาและทำความเข้าใจให้ดี Cr: Freepik สิ่งที่ควรรู้ก่อนลงทุน 1. การตั้งเป้าหมายการลงทุน ก่อนที่จะลงทุนสิ่งแรกที่ต้องทำคือ การตั้งเป้าหมายการลงทุนให้ชัดเจน เช่น ต้องการมีเงินพอสำหรับการเกษียณเดือนละ 20,000…
ช่วงใกล้ถึงเทศกาลปีใหม่ นอกจากของขวัญปีใหม่ที่ผู้คนจะมอบให้แก่กันแล้ว ยังมีของขวัญสำหรับจับฉลากที่หลายคนตามหาอีกด้วย เป็นกิจกรรมสนุก ๆ ในองค์กร บริษัท หรือแม้แต่การจัดงานปีใหม่ในครอบครัว และไอเดียของขวัญจับฉลากที่ Shopee Blog อยากจะแนะนำในปีนี้คือ อุปกรณ์ไอทีและแกดเจ็ตต่าง ๆ เพราะเป็นของที่นำมาใช้งานได้…
อาการปวดเมื่อยตามร่างกาย หนึ่งในปัญหาสุขภาพยอดฮิตของคนในยุคปัจจุบัน และไม่ว่าคุณจะทำอาชีพอะไรก็มีโอกาสปวดเมื่อยตามร่างกายได้ ก็ขึ้นอยู่ว่าจะปวดมากหรือปวดน้อย โดยสาเหตุมาจากการที่ใช้กล้ามเนื้อมัดเดิมซ้ำ ๆ เป็นเวลานาน หรือที่เราเรียกกันว่าออฟฟิศซินโดรม (Office Syndrome) ซึ่งมักพบในกลุ่มวัยทำงาน คนเล่นกีฬา ได้รับบาดเจ็บจากการขยับผิดท่า หรือจากการที่ใช้แรงเยอะจนทำให้ปวดแขนหรือปวดหลังได้ เมื่อมีอาการปวดเมื่อยก็สามารถบรรเทาอาการปวดเบื้องต้นด้วยตัวเองได้ง่าย…
เจ้าแมวเหมียว เป็นสัตว์เลี้ยงแสนน่ารักที่นิยมเลี้ยงกันมาก ด้วยเสน่ห์ความน่ารัก ความขี้อ้อน บวกกับขนปุย ๆ ตัวนุ่มนิ่ม เจอเมื่อไหร่ก็อดไม่ได้ที่จะเข้าไปกอดทันที นอกจากนี้ยังสร้างความเพลิดเพลิน และช่วยให้ผ่อนคลายจากความตึงเครียดได้ด้วย การเลี้ยงดูน้องแมวนอกจากให้อาหารแมวเป็นหลักแล้ว ขนมแมว ถือเป็นอาหารว่างที่น้องแมวทุกสายพันธุ์ชื่นชอบ ด้วยรสชาติที่อร่อยและมีสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพน้องแมวด้วย อีกทั้งการให้ขนมแมวยังเปรียบเสมือนเป็นการให้รางวัลแมวที่ทำตัวน่ารัก…
ลมหนาวเมืองไทยขึ้นชื่อว่าเอาแน่เอานอนไม่ได้ แต่ลมหนาวในออฟฟิศนั้นอย่าได้ท้าทาย! เพราะแอร์ออฟฟิศหนาวมาก! สำหรับสาว ๆ ที่อยากเอาอยู่ทั้งลมแอร์และแฟชั่นสาวออฟฟิศ ปีนี้ถึงเวลาสนุกกับการแต่งตัวสไตล์เปรี้ยวซ่าด้วยคอลแฟชั่นฤดูหนาว (ทิพย์) กันแล้ว! มาปรับลุคหาแฟชั่นกันหนาวที่จะเปลี่ยนวันทำงานธรรมดาให้เป็นรันเวย์ย่อม ๆ แล้วมาดูกันเลยว่าสาว ๆ จะมีวิธีแก้หนาวในห้องแอร์พร้อมรับมือหน้าหนาวทิพย์ด้วยแฟชันกันหนาวอะไรได้บ้าง! 1.…