Moms & Kids

แนะนำ เครื่องปั๊มนมยี่ห้อไหนดี มีคุณภาพ พกพาสะดวก และปั๊มง่าย

สำหรับครอบครัวของคุณพ่อคุณแม่มือใหม่ที่เพิ่งมีลูกน้อยหรือเตรียมตัวเป็นว่าที่พ่อแม่ของลูกน้อยนั้น ช่วงนี้ก็คงเป็นช่วงที่วุ่นกับการเตรียมตัวหลายอย่างเพื่อลูกน้อยสุดรักของเรากันใช่ไหมล่ะครับ ทั้งเสื้อผ้า อุปกรณ์ต่างๆ อีกสารพัด และมีอีกอุปกรณ์หนึ่งที่คุณพ่อคุณแม่หลายท่านก็อาจจะเล็งๆ กันไว้อยู่ว่าควรจะซื้อดีไหม นั่นก็คือ “เครื่องปั๊มนม” ที่เป็นอีกเครื่องมืออำนวยความสะดวกให้กับคุณแม่ยุคใหม่ให้สามารถปั๊มน้ำนมสำรองไว้ใช้ยามฉุกเฉินหรือในช่วงเวลาที่ไม่สะดวก เช่น จำเป็นต้องออกนอกบ้านเป็นประจำอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ หรือเป็นช่วงที่รับประทานยาที่จำเป็น ไม่สามารถหลีกเลี่ยงการทานได้ เครื่องปั๊มนมก็จะช่วยให้คุณแม่มือใหม่มีนมเก็บไว้ให้ลูกน้อยได้ดื่มอยู่แบบไม่ขาด เพื่อการเติบโตที่ดีของลูกน้อย แต่แน่นอนว่า ในตลาดก็มีเครื่องปั๊มนมมากมายหลายแบรนด์ แตกต่างกันทั้งราคาและคุณภาพ จนอาจจะทำให้คุณพ่อคุณแม่มือใหม่สงสัยว่า แล้วจะเลือกเครื่องปั๊มนมยี่ห้อไหนดีล่ะ ? 

เครื่องปั๊มนมแบบธรรมดาและไฟฟ้า แตกต่างกันอย่างไร

เครื่องปั๊มนมแบบธรรมดากับแบบไฟฟ้านั้น แน่นอนว่าแค่ชื่อก็มีความแตกต่างกันแล้ว เครื่องปั๊มนมแบบธรรมดานั้นก็อาจจะเป็นแค่เครื่องมือปั๊มนมที่อาศัยแรงมนุษย์ในการใช้งาน ส่วนเครื่องปั๊มนมไฟฟ้านั้นก็ตามชื่อ คือใช้ไฟฟ้าในการทำงาน แต่เรามาดูรายละเอียดเต็มๆ ของเครื่องปั๊มนมแต่ละแบบกันดีกว่าว่าจะมีจุดเด่นหรือข้อสังเกตอย่างไรบ้าง

  • เครื่องปั๊มนมธรรมดา เครื่องปั๊มนมประเภทนี้จะทำงานด้วยแรงมือมนุษย์ มีจุดเด่นคือ
    • สามารถใช้งานที่ไหนก็ได้ ไม่ต้องเสียบสาย
    • ข้อจำกัดเรื่องสถานที่ในการใช้งานน้อยกว่า
    • ราคาไม่สูงมาก
    • ปริมาณน้ำนมที่ได้ก็ไม่แตกต่างกันมากนัก

แต่ข้อสังเกตของเครื่องปั๊มนมธรรมดาก็คือ

  • คุณแม่ต้องออกแรงในการปั๊มนมด้วยตัวเอง
  • อาจจะทำอย่างอื่นไปพร้อมกับปั๊มนมไม่ได้
  • เครื่องปั๊มนมไฟฟ้า เครื่องปั๊มนมไฟฟ้านั้น ทำงานด้วยแรงจากไฟฟ้า มีจุดเด่นคือ
    • ไม่ต้องใช้แรงในการทำงาน
    • ช่วยประหยัดเวลาในการปั๊มนมลงได้
    • ปริมาณนมที่ได้มีแนวโน้มที่จะมากกว่าการปั๊มด้วยมือ
    • เครื่องบางรุ่นมีขนาดเล็ก สามารถใส่พกพาได้ หรือใส่ในบราได้เลยไม่ต้องถือ

แต่ก็อาจจะมีข้อสังเกตเล็กน้อย ก็คือ

  • อาจจะมีข้อจำกัดในการใช้งานสำหรับรุ่นที่ไม่มีแบตเตอรี่ในตัว
  • เสียค่าไฟมากขึ้น (มาก-น้อย ขึ้นอยู่กับการใช้งานว่าถี่แค่ไหน)
  • หากแบตเตอรี่หมดก็ไม่สามารถปั๊มนมได้อย่างต่อเนื่อง

แต่อย่างไรก็ตาม เครื่องปั๊มนมไฟฟ้านั้นก็ยังคงเป็นเครื่องมือที่เราแนะนำสำหรับคุณแม่ยุคใหม่ที่เน้นความสะดวกสบายในการใช้งาน เพราะการมานั่งปั๊มมือนั้น ก็คงไม่ตอบโจทย์ความรวดเร็วในชีวิตของคุณแม่ยุคใหม่สักเท่าไหร่นัก

แนะนำและรีวิวเครื่องปั๊มนม แบบไหนที่ใช่สำหรับคุณ

หลังจากเกริ่นกันมายาวแล้ว ในบทความนี้ Shopee Blog จะมาแนะนำ 5 เครื่องปั๊มนมพร้อมรีวิวเครื่องปั๊มนมแบบสั้นๆ ให้คุณพ่อคุณแม่มือใหม่ทุกท่านมาเลือกสรรกัน ว่าแต่จะมีรุ่นอะไรบ้าง มาเช็คกันเลย

1. Spectra รุ่น S1

เริ่มรุ่นแรกเลยสำหรับเครื่องปั๊มนมไฟฟ้า Spectra รุ่น S1+ ที่มีคุณแม่จาก Pantip หลายเสียงต่างรีวิวเครื่องปั๊มนมรุ่นนี้และยกให้เป็นเครื่องที่มีคุณภาพระดับโรงพยาบาลเลยทีเดียว โดย Spectra รุ่น S1+ มีฟังก์ชั่นที่น่าสนใจ เช่น

  • ระบบการทำงาน : สามารถต่ออุปกรณ์ได้ทั้งปั๊มเดี่ยวและปั๊มคู่
  • โหมดการทำงาน : รองรับ 2 โหมดการทำงาน
    • โหมดนวดเต้า
    • โหมดปั๊มนม
  • ระดับความแรง : ปรับได้ถึง 12 ระดับ
  • ความเร็วการทำงาน :  ความเร็วในการบีบน้ำนม สูงสุด 70 ครั้ง/นาที
  • แบตเตอรี่ : รองรับแบตเตอรี่ในตัว พกพาได้
  • ระยะเวลาการใช้งาน : ใช้งานได้สูงสุด 3 ชั่วโมง/การชาร์จ
  • ฟังก์ชั่นการทำงาน : มีโหมดเมมโมรี่ ช่วยจำโหมดการทำงานล่าสุด,หน้าจอ LCD แสดงการทำงาน และไฟส่องสว่างปรับได้ 2 ระดับ, เสียงเงียบ สามารถใช้งานได้แม้ลูกหลับ
  • ราคา : 11,000 บาท

2. Attitude mom รุ่น New Galaxy II

หากกำลังหาอยู่ว่า จะซื้อเครื่องปั๊มนมยี่ห้อไหนดี Attitude mom รุ่น New Galaxy II ก็เป็นเครื่องปั๊มนมไฟฟ้าอีกรุ่นที่น่าสนใจ และคุณแม่หลายท่านก็ให้ความนิยมกันไม่น้อย โดยมีฟังก์ชั่นที่น่าสนใจ เช่น

  • ระบบการทำงาน : ระบบการทำงานแบบ 2 มอเตอร์ แยกการทำงานได้อย่างอิสระ
  • โหมดการทำงาน : รองรับ 5 โหมดการทำงาน
    • Expression ช่วยระบายน้ำนม
    • Massage ช่วยนวดกระตุ้นเพื่อเพิ่มปริมาณน้ำนม
    • 2 in 1 รวมการทำงานทั้งการดูดและกระตุ้น โดยจะกระตุ้นน้ำนม 8 ครั้ง และดูดน้ำนม 1 ครั้ง
    • Double frequency โหมดนี้จะรีดน้ำนมจนหมดเต้า ป้องกันเต้านมอักเสบ
    • Spin โหมดสปินหรือปั่นจี๊ด (เหมือนการปั่นที่หัวนม เพื่อไปกระตุ้นการผลิตน้ำนม และทำให้น้ำนมไหลมากยิ่งขึ้น)
  • ระดับความแรง : ปรับความแรงได้สูงสุด 7 ระดับ (ในโหมด Expression, 2 in 1, Double frequency)
  • ความเร็วการทำงาน : ความเร็วในการบีบน้ำนม สูงสุด 137 ครั้ง/นาที (ในโหมด 2 in 1)
  • แบตเตอรี่ : ในตัว ชาร์จไฟ 4-5 ชั่วโมง/ครั้ง
  • ระยะเวลาการใช้งาน : ใช้ได้สูงสุด 8 ชั่วโมง/การชาร์จ (ในโหมดปั๊มเดี่ยว) และ 4 ชั่วโมง/การชาร์จ (โหมดปั๊มคู่)
  • ฟังก์ชั่นการทำงาน : มีปุ่ม Switch สลับข้างในการปั๊มได้ใน 1 คลิก, สามารถปั๊มพร้อมกันได้ทั้ง 2 ข้าง, ขนาดเล็กกระทัดรัด สามารถพกพาได้สะดวก
  • ราคา : 17,900 บาท

3. Malish รุ่น Elena

สำหรับรุ่นนี้ก็เป็นอีกรุ่นของเครื่องปั๊มนม ที่ถ้าเหล่าคุณแม่กำลังคิดกันอยู่ว่า จะซื้อเครื่องปั๊มนมยี่ห้อไหนดี เราก็ขอแนะนำ Malish รุ่น Elena เป็นเครื่องปั๊มนมที่บอกได้เลยว่าคุณภาพนั้นเกรดโรงพยาบาลเลยทีเดียว ไปส่องดีเทลกันว่า Malish รุ่น Elena จะเป็นอย่างไร

  • ระบบการทำงาน : ระบบกระบอกสูบ ดูดแบบนุ่มนวล
  • โหมดการทำงาน : รองรับ 2 โหมดการทำงาน
    • โหมดกระตุ้นน้ำนม ให้น้ำนมไหลออกมาได้ง่ายขึ้น
    • โหมดปั๊มน้ำนม ที่รีดออกมาได้ลึกและน้ำนมไหลออกมาได้สะดวก
  • ระดับความแรง : ปรับความแรงได้สูงสุด 12 ระดับ
  • ความเร็วการทำงาน : ความเร็วในการบีบน้ำนม สูงสุด 70 ครั้ง/นาที
  • แบตเตอรี่ : แบตเตอรี่ในตัว สามารถใช้งานได้แม้ไม่ได้เสียบปลั๊ก
  • ระยะเวลาการใช้งาน : ใช้ได้สูงสุดประมาณ 3 ชั่วโมง/การชาร์จ
  • ฟังก์ชั่นการทำงาน : บีบน้ำนมนุ่มนวล, เสียงเงียบ ไม่รบกวนลูกน้อยที่นอนหลับอยู่, กรวยปั๊มนมเป็นซิลิโคนนุ่ม รองรับการเอนหลังปั๊มได้ 45 องศา, มีไฟส่องสว่างรอบตัวเครื่อง
  • ราคา : 6,990 บาท

4. NATUR รุ่น D-5

สำหรับรุ่นนี้ก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกของผู้ที่กำลังมองหาเครื่องปั๊มนมราคาถูกและเป็นแบรนด์ที่ไว้ใจได้ นั่นก็คือ NATUR รุ่น D-5 ที่มาในราคาสุดคุ้มค่า คุณแม่หลายท่านรีวิวเครื่องปั๊มนมรุ่นนี้กันแล้วว่าคุณภาพโอเคสมราคา Shopee Blog จึงไม่พลาดที่จะหยิบมาแนะนำทุกท่านกันจ้า

  • ระบบการทำงาน : ระบบ 2 มอเตอร์ แบบปั๊มคู่ สามารถแยกการทำงานซ้ายขวาได้อิสระ
  • โหมดการทำงาน : รองรับ 2 โหมดการทำงาน
    • โหมดกระตุ้น ช่วยให้คุณแม่หลั่งน้ำนมออกมาได้ง่ายขึ้น
    • โหมดปั๊ม ที่สามารถรีดน้ำนมออกมาได้ง่ายดาย
  • ระดับความแรง : ปรับความแรงได้สูงสุด 9 ระดับ
  • ความเร็วการทำงาน : ความเร็วในการบีบน้ำนม สูงสุด 99 ครั้ง/นาที
  • แบตเตอรี่ : แบตเตอรี่ในตัว สามารถใช้งานได้แม้ไม่ได้เสียบปลั๊ก
  • ระยะเวลาการใช้งาน : ใช้ได้สูงสุดประมาณ 2 ชั่วโมง/การชาร์จ
  • ฟังก์ชั่นการทำงาน : มีระบบจดจำโหมดล่าสุดที่ใช้งาน และสามารถกลับมาใช้งานต่อได้, มีระบบปิดอัตโนมัติเมื่อไม่ใช้งานเกิน 30 นาที, ทำงานเงียบ ไร้เสียงรบกวน, น้ำหนักเบา 400 กรัม พกพาง่าย
  • ราคา : 2,399 บาท

5. Spectra รุ่น Wearable

สำหรับใครที่กำลังมองหาเครื่องปั๊มนมยี่ห้อไหนดีที่มีขนาดเล็ก และสามารถพกพาได้อย่างสะดวกสบาย เราขอแนะนำ Spectra รุ่น Wearable ที่มาในขนาดเล็กกระทัดรัด แต่คุณภาพและฟีเจอร์อัดแน่นจัดเต็ม เรามาส่องรีวิวเครื่องปั๊มนมรุ่นนี้กันดีกว่าว่า มีอะไรที่น่าสนใจกันบ้าง

  • ระบบการทำงาน : ระบบ 1 มอเตอร์ แบบปั๊มเดี่ยว
  • โหมดการทำงาน : รองรับ 4 โหมดการทำงาน
    • โหมดกระตุ้นน้ำนม กระตุ้นให้น้ำนมไหลออกได้สะดวกมากขึ้น
    • โหมดปั๊มนม ที่ช่วยรีดน้ำนมออกมาได้อย่างเต็มที่
    • โหมดเพิ่มน้ำนม ช่วยให้น้ำนมที่ออกจากเต้ามีปริมาณเพิ่มมากขึ้น
    • โหมดเคลียร์น้ำนมค้างเต้า ช่วยรีดน้ำนมในเต้าที่ค้างอยู่ให้ออกมาหมดเกลี้ยง
  • ระดับความแรง : สามารถปรับความแรงได้สูงสุด 5 ระดับ
  • ความเร็วการทำงาน : ความเร็วในการบีบน้ำนม สูงสุด 100 ครั้ง/นาที
  • แบตเตอรี่ : แบตเตอรี่ในตัว สามารถใช้งานได้แม้ไม่ได้เสียบปลั๊ก
  • ระยะเวลาการใช้งาน : มีระบบตัดการทำงานเมื่อใช้ครบ 30 นาที
  • ฟังก์ชั่นการทำงาน : ขนาดเล็ก สวมในบราก็สามารถใช้งานได้ทันที, ขนาดเล็ก ไม่เทอะทะ, สามารถใช้พร้อมกัน 2 เครื่องเพื่อปั๊มนมจากทั้ง 2 ข้างได้ทันที, อุปกรณ์สามารถใช้งานเป็นขวดนมได้ทันที, พกพาสะดวกมากเพราะมีขนาดที่เล็ก
  • ราคา : 6,990 บาท/ชิ้น

ปั๊มน้ำนมแล้ว เก็บรักษาอย่างไรดี

หลักจากที่คุณแม่เลือกซื้อเครื่องปั๊มนมมาใช้งานกันแล้ว การเก็บรักษาน้ำนมนั้นก็ถือเป็นอีกเรื่องที่สำคัญ เพราะแน่นอนว่าคุณแม่มือใหม่ส่วนมากที่ใช้งานเครื่องปั๊มนมนั้น ก็มักจะใช้ในแง่ของการเก็บน้ำนมให้ลูกน้อยได้กินในยามที่เราไม่อยู่นั่นเอง แน่นอนว่าการเก็บรักษานมนั้นเป็นเรื่องที่ทั้งคุณพ่อและคุณแม่ต้องรู้ เพราะจะได้รักษาน้ำนมแม่ให้มีคุณภาพดีและอยู่ได้นานมากขึ้น เกริ่นกันมายาวขนาดนี้แล้ว เรามาดูกันดีกว่าว่า การเก็บรักษานมในแต่ละแบบนั้น เก็บได้นานเท่าไหร่ มาดูกัน

  • เก็บไว้ในอุณหภูมิห้องที่ 25 องศาเซลเซียส สามารถเก็บไว้ได้ได้ประมาณ 4 ชั่วโมง
  • เก็บไว้ในตู้เย็นช่องธรรมดา สามารถเก็บไว้ได้ประมาณ 4 วัน
  • เก็บไว้ในช่องแช่แข็ง สามารถเก็บไว้ได้ประมาณ 2 สัปดาห์

ทั้งนี้นมแม่ที่เก็บในห้องแช่แข็งควรเก็บไว้ในถุงเก็บน้ำนม เพราะผลิตมาโดยเฉพาะในการเก็บน้ำนมแม่ ไม่มีสารเคมีตกค้างและสารอันตรายอื่น ๆ เก็บในอุณหภูมิเย็นจัดได้

วิธีการนำน้ำนมแช่แข็งออกมาใช้

สำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่เก็บน้ำนมในช่องแช่แข็งเพื่อให้อยู่ได้นานนั้น เราจะพาทุกท่านไปดูกันว่า ถ้าเก็บแช่เย็นจนแข็งแล้ว จะนำนมออกมาใช้งาน หรือละลายนมได้อย่างไรให้ยังคงคุณค่าทางโภชนาการที่ดีและไม่บูดไปเสียก่อน ซึ่งมีหลักๆ 2 วิธีที่เราแนะนำ ก็๕ือ

  • นำน้ำนมที่แช่ในช่องแช่แข็งมาใส่ในตู้เย็นช่องธรรมดา ใช้เวลาประมาณ 12 ชั่วโมงจะละลายเป็นน้ำนมปกติ
  • นำน้ำนมแช่แข็งที่อยู่ในถุงหรือขวด มาวางในถ้วยที่ใส่น้ำอุ่นที่อุณหภูมิประมาณ 37 องศาเซลเซียส

ข้อความระวังคือไม่ควรปล่อยให้น้ำนมละลายเองที่อุณหภูมิห้อง และห้ามนำเข้าไมโครเวฟหรือใส่ลงในน้ำเดือด เพราะจะทำให้คุณค่าทางโภชนาการลดลง รวมถึงน้ำนมแช่แข็งที่ผ่านการละลายแล้ว ไม่ควรนำเข้าไปแช่แข็งอีกรอบ

หวังว่าคุณแม่มือใหม่ หรือมือเก่าก็ตามที่กำลังมองหาเครื่องปั๊มนมไฟฟ้า และไม่รู้จะซื้อเครื่องปั๊มนมยี่ห้อไหนดี คงได้ยี่ห้อที่ถูกใจ ทั้งราคาและฟังก์ชั่น พร้อมได้ความรู้เรื่องวิธีเก็บน้ำนมแม่ หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับเหล่าคุณแม่ทุกคน และเพื่อให้ลูกน้อยได้รับสารอาหารจากนมอย่างครบถ้วน

อ้างอิง : medela.com, womenshealth.gov

Shopee TH

Share
Published by
Shopee TH

Recent Posts

ของต้องมี 8 ไอเทมจัดของในรถ หยิบใช้ง่าย เป็นระเบียบเรียบร้อย

เคยรู้สึกไหมว่าทำไมรถรกจังเลย! ข้าวของในรถก็มีมากมายทำให้วางอะไรก็ไม่เป็นระเบียบ เวลาจะหาของอะไรแต่ละอย่างก็ไม่ค่อยจะเจอ เวลาซื้อของมากินก็ไม่มีที่วาง ทำให้กินไม่ถนัดหกเลอะเทอะไปหมด ต้องบอกเลยว่าหลายคนใช้เวลาอยู่บนรถเป็นเวลานานจนรถยนต์แทบจะเป็นบ้านหลังที่สองเลย จึงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรที่โยนสัมภาระข้าวของเพื่ออำนวยความสะดวกมากมายมาไว้ที่รถยนต์ จนทำให้รถดูรกไปหมดเลย วันนี้ Shopee จึงอยากจะมาแนะนำ 8 สุดยอดไอเทม จัดของในรถที่ช่วยให้จัดระเบียบสัมภาระภายในรถยนต์ให้หยิบใช้ง่ายและประหยัดพื้นที่ใช้สอยในรถยนต์ ไม่รอช้าตามเราไปดูกันเลย…

2 days ago

7 เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ ยี่ห้อไหนดี ช่วยลดฝุ่น เพิ่มอากาศสดชื่น

ปัญหามลพิษทางอากาศ อีกหนึ่งปัญหาที่หลายคนจะต้องพบเจอเป็นประจำทุกวันและเป็นปัญหาที่หลีกเลี่ยงได้ยาก ไม่ว่าจะฝุ่น PM 2.5 ควันรถ ควันพิษ หรือกลิ่นไม่พึงประสงค์ต่าง ๆ เมื่อสูดดมเข้าสู่ร่างกายทุกวันก็อาจจะส่งผลต่อสุขภาพได้ โดยเฉพาะใครที่ต้องอยู่บนรถยนต์นานวันละหลายชั่วโมง หากภายในรถยนต์สกปรกหรือว่ามีอากาศไม่สะอาดบริสุทธ์ย่อมจะส่งผลเสียต่อสุขภาพได้ในระยะยาวและยังทำให้ความสุขในการขับขี่ลดลงด้วย ดังนั้นจึงควรมีเครื่องฟอกอากาศในรถ ช่วยกรองอากาศ ดักจับฝุ่น…

2 days ago

รวม 9 ค้อนทุบกระจก วัสดุแข็งแรง ราคาย่อมเยา พร้อมวิธีใช้ค้อนทุบกระจก

เมื่อพูดถึงอุปกรณ์ฉุกเฉินที่รถยนต์ทุกคันควรจะต้องมี หลายคนอาจนึกถึงอุปกรณ์ กล้องติดรถยนต์ ยางอะไหล่สำรอง ปั๊มลมพกพา สายพ่วงแบตเตอรี่ ไฟฉาย และอุปกรณ์อื่น ๆ แต่อีกอุปกรณ์หนึ่งที่สำคัญและควรต้องมีติดรถยนต์ไว้เลยอีกอย่างนั่นก็คือ ค้อนทุบกระจก เป็นอุปกรณ์ฉุกเฉินติดรถยนต์ที่ไว้ใช้ในกรณีฉุกเฉิน เช่น เมื่อรถประตูรถล็อกไม่สามารถเปิดออกได้ หรือรถยนต์เกิดอุบัติเหตุจมน้ำ…

2 days ago

10 พรมปูพื้นรถยนต์ แบบไหนดี เข้ารูป ทนทาน ยกระดับความหรูหราภายในรถยนต์

พรมปูพื้นรถยนต์ อีกหนึ่งอุปกรณ์จำเป็นรถยนต์ทุกคันควรต้องมี! เพราะนอกจากจะช่วยเพิ่มความสวยงามและความหรูหราให้กับรถยนต์แล้ว ก็สามารถช่วยดักจับฝุ่นละอองและสิ่งสกปรกที่ติดมากับรองเท้า เพื่อช่วยให้การขับขี่รถยนต์เป็นไปอย่างปลอดมากยิ่งขึ้น รวมถึงป้องกันการลื่นเวลาก้าวเท้าเข้าสู่ตัวรถยนต์ หากไม่มีผ้ายางรองพื้นรถยนต์หรือพรมรถยนต์ก็จะทำให้ในรถมีฝุ่นและสิ่งสกปรกต่าง ๆ นอกจากนี้ยังช่วยถนอมพื้นรถด้านในให้ดูสะอาดอีกด้วย ซึ่งปัจจุบันพรมปูพื้นรถยนต์มีด้วยกันหลากหลายรูปแบบ ทำให้ผู้ใช้งานรถยนต์มีตัวเลือกมากขึ้น และบทความนี้ Shopee อยากมาจะบอกถึงความสำคัญและประโยชน์ของพรมรถยนต์ วิธีการเลือก…

3 days ago

7 ลุค 7 สไตล์ แต่งตัวไปสวนสัตว์แบบแฟชั่นนิสต้า พร้อมลุยทุกโซน!

ใครบอกว่าไปสวนสัตว์ต้องแต่งตัวธรรมดา เตรียมตะลุยสวนสัตว์กับ 7 ลุคสุดปังที่จะทำให้คุณกลายเป็นแฟชั่นนิสต้าตัวแม่! พร้อมบอกเคล็ดลับการแต่งตัวไปสวนสัตว์ให้เหมาะกับกิจกรรมต่าง ๆ ในสวนสัตว์ เพื่อการเคลื่อนไหวได้คล่องตัวในทุกโซน พร้อมสนุกไปกับการผจญภัยในโลกของสัตว์แบบไม่มีอะไรมาขวางกั้น! คู่มือแต่งตัวไปสวนสัตว์อย่างไรให้คล่องตัว 1. หลีกเลี่ยงสีสันฉูดฉาด: เช่น สีแดง เนื่องจากสีที่สดใสฉูดฉาดอาจดึงดูดความสนใจของสัตว์…

7 days ago

แนะนำ 6 อุปกรณ์ป้องกันน้ำท่วม มีอะไรบ้าง ที่ช่วยปกป้องบ้านคุณให้ปลอดภัย

ในช่วงฤดูฝนหรือเวลาที่เกิดน้ำท่วมฉับพลัน บ้านเรือนและทรัพย์สินมักเสี่ยงต่อการถูกน้ำท่วมได้ง่าย ๆ การมีอุปกรณ์ป้องกันน้ำท่วมที่เหมาะสมจึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้คุณสามารถปกป้องทรัพย์สินและลดความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นได้ แน่นอนว่าการป้องกันน้ำท่วมนั้นสามารถเตรียมการได้ตั้งแต่เนิ่น ๆ และไม่ควรเตรียมตัวในวินาทีสุดท้าย เพราะหากไม่ได้เตรียมตัวไว้ และอยู่ในพื้นที่เสี่ยง ค่าเสียหายที่เกิดขึ้นอาจจะสูงกว่าค่าใช้จ่ายที่ลงทุนไปกับการซื้ออุปกรณ์ป้องกันน้ำท่วม ดังนั้น ในบทความนี้ Shopee Blog จะมาแนะนำ…

2 weeks ago