สำหรับสาวไทยเมื่อพูดถึงการคลอดลูกแล้ว คำที่มักจะได้ยินตามมาติด ๆ ก็คงหนีไม่พ้นการอยู่ไฟที่เรามักจะติดภาพการทำการบำบัดด้วยสมุนไพรไทยในวิธีการแบบโบราณ ๆ แต่ขอบอกเลยว่าปัจจุบันการอยู่ไฟนั้นได้ปรับเปลี่ยนรูปแบบไปมากแล้ว ทำให้แม้คุณแม่ที่คลอดบุตรในสังคมสมัยใหม่ในปัจจุบันก็เข้าถึงการรักษาแบบนี้ได้ และหากคุณแม่ท่านไหนที่กำลังลังเลว่าควรอยู่ไฟหลังคลอดนั้นเป็นยังไง จะอยู่ไฟหลังคลอดดีหรือเปล่า ต้องอยู่ไฟหลังคลอดกี่วัน จะใช้การอบสมุนไพรหลังคลอด จะเลือกสมุนไพรหลังคลอดอย่างไร เรามีคำตอบเตรียมไว้ให้แล้ว
หัวข้อต่างๆ ของบทความนี้
สำหรับแพทย์แผนไทยได้ชื่อว่าเป็นแขนงหนึ่งของการรักษาที่ได้รับความนิยมมากขึ้นในปัจจุบัน และมีภูมิปัญญาที่สืบทอดกันมายวนาน ไม่ว่าจะเป็นด้านการใช้สมุนไพรหรือการกดจุดนวดประคบ ซึ่งทั้งหมดนี้เราก็จะพบได้ในภูมิปัญญาในการฟื้นฟูร่างกายของคุณแม่หลังคลอด ที่เรียกว่าการอยู่ไฟหลังคลอดนี้ด้วย
เนื่องจากภายหลังการคลอด ไม่ว่าจะเป็นการคลอดธรรมชาติหรือผ่าคลอด คุณแม่จะมีสรีระร่างกายที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว มีการปรับสมดุลย์ฮอร์โมน การปรับสมดุลย์ภายใน ที่อาจต้องใช้เวลานานในการกลับเข้าสู่สภาพเดิม ซึ่งการอยู่ไฟจะเข้ามาช่วยเยียวยากล้ามเนื้อที่ถูกใช้อย่างหนักจากการอุ้มท้อง รวมถึงปัญหาการปรับสมดุลย์นีร่างกายเหล่านี้ให้เข้าที่ได้รวดเร็วยิ่งขึ้นด้วยการใช้ความร้อนและสมุนไพรต่าง ๆ เข้าช่วย ทั้งยังช่วยลดอาการหนาวสั่นทั้งสำหรับคุณแม่ในช่วงหลังคลอด ไปจนถึงช่วงวัยหมดประจำเดือนทีเดียว
ในสมัยโบราณมักจะมีการสร้างกระท่อมเล็ก ๆ ไว้เพื่ออยู่ไฟโดยเฉพาะ โดยคุณแม่ที่อยู่ไฟจะนอนผิงไฟอยู่บนกระดานแผ่นเดียวในกระท่อมนั้น หากพื้นกระดานยกสูงแล้วใส่กองไฟก่อไว้ใต้กระดานโดยมีแผ่นสังกะสีรองใต้กระดานอีกทีจะเรียกว่าการอยู่ไฟญวน หรือการอยู่ไฟแคร่ หากนอนบนกระดานที่อยู่ระดับพื้น และก่อกองไฟไว้ข้าง ๆ บริเวณท้อง จะเรียกว่า การอยู่ไฟไทย หรือ อยู่ไฟข้าง ซึ่งส่วนใหญ่แล้วการอยู่ไฟแคร่จะร้อนเกินไป จึงมักพบเห็นการอยู่ไฟข้างเสียเป็นส่วนมาก สำหรับคนทางอีสานจะเรียกการอยู่ไฟหลังคลอดว่าอยู่กรรม ซึ่งคุณแม่คนใดที่ไม่ผ่านการอยู่ไฟจะมีผิวพรรณผอมแห้ง น้ำนมขาด กินผิดสำแดงได้ง่าย ซึ่งนับว่าการอยู่ไฟหลังคลอดเป็นสิ่งที่คุณแม่สมัยก่อนต้องเจอกันมาเป็นเรื่องปกติทีเดียว
สำหรับการอยู่ไฟหลังคลอดแบบร่วมสมัย สาวไทยยังคงได้รับอิทธิพลจากภูมิปัญญาโบราณโดยประยุกต์อุปกรณ์ของใช้ให้กลายเป็นสิ่งที่หาได้ง่ายและอำนวยความสะดวกได้มากขึ้น โดยอาจไม่ต้องสร้างกระท่อมใหม่ แต่อาศัยห้องที่สามารถเก็บความร้อน และอาจเปลี่ยนจากการให้ความร้อนแบบอบตัวเหมือนคนสมัยโบราณ ให้กลายมาเป็นการให้ความร้อนเฉพาะจุดที่ตรงกับโจทย์มากกว่า
การอยู่ไฟหลังคลอดแบบร่วมสมัยยังประกอบด้วยกรรมวิธีหลากหลายที่นำมาใช้ช่วยเสริมประสิทธิภาพการรักษา เช่น
สำหรับคำถามที่ว่าอยู่ไฟหลังคลอดกี่วัน คำตอบคือคุณแม่ที่อยู่ไฟจะต้องใช้เวลาอยู่ในกระท่อมอยู่ไฟหลังคลอดนาน 7 – 15 วันโดย ห้ามอาบน้ำเย็น ห้ามสระผม ห้ามดื่มน้ำเย็น ห้ามรับประทานอาหารแสลง
การอยู่ไฟหลังคลอดแบบร่วมสมัยยังอาศัยการอาบ – อบ – ประคบ สมุนไพรควบคู่กันไปด้วย เพื่อเสริมประสิทธิภาพในการรักษาและเยียวยาร่างกายของคุณแม่หลังคลอด และวิธีที่ได้รับความนิยมสูงก็หนีไม่พ้นการอบสมุนไพรหลังคลอด ที่มีการใช้สมุนไพรที่มีฤทธิ์ทางยาหลากหลาย ซึ่งหากคุณแม่สงสัยว่ามีการใช้สมุนไพรอยู่ไฟหลังคลอดอะไรบ้าง เหล่านี้คือลิสต์สมุไพรที่เรามักจะได้เจอในการอยู่ไฟหลังคลอดค่ะ
ซึ่งจากที่กล่าวมาเราจะพบสมุนไพรอยูไฟหลังคลอดที่ใช้บ่อย เช่น มะกรูด ตะไคร้ ที่ช่วยกระตุ้นระบบทางเดินหายใจ, ไพล ช่วยลดการปวดเมื่อกล้ามเนื้อ, ขมิ้นชัน ช่วยบรรเทาอาการเคล็ดขัดยอก, การบูร พิมเสน, หัวหอมแดง, ใบมะขาม, ใบส้มป่อย, ซึ่งล้วนดีต่อการขับของเสียออกจากร่างกาย เยียวยาและบรรเทาความปวดเมื่อย และคืนความสดชื่นให้กับร่างกายของคุณแม่ได้เป็นอย่างดี
เป็นอย่างไรบ้างคะกับภูมิปัญญาแพทย์แผนไทยกับการอยู่ไฟหลังคลอด ซึ่งไม่เพียงแต่เยียวยา ช่วยให้คุณแม่ผ่อนคลายหลังจากอุ้มท้องมายาวนานกว่า 9 เดือน ยังเป็นการกระตุ้นการทำงาน ปรับสมดุลย์ เพิ่มน้ำนมและขับของเสียออกจากร่างกาย ช่วยให้คุณแม่กลับสู่ร่างกายที่พร้อมขึ้นเร็วกว่าเดิม นอกจากนี้สมุนไพรต่าง ๆ ที่นำมาใช้ยังเป็นตัวยาที่ดีต่อร่างกายทั้งสิ้น เรียกว่าการอยู่ไฟในปัจจุบันเป็นทางเลือกที่คุณแม่หลังคลอดควรต้องได้ลองสักครั้งนะคะ
ไปเที่ยวคนเดียวก็สนุกได้! แต่จะให้ขาดรูปสวยๆ ไปได้ยังไง? หรืออยากรีวิวอาหาร รีวิวสินค้าให้ดูโปร แต่ไม่มีคนช่วยถ่ายให้ ทำไงดี? ปัญหาเหล่านี้จะหมดไป แค่มี 'ไม้เซลฟี่' คู่ใจ! ไม่ว่าจะถ่ายภาพนิ่งหรือวิดีโอ ก็ทำได้ง่ายๆ ด้วยมือถือเครื่องเดียว! วันนี้เราจะมาแนะนำ…
ไม่ต้องเสียเวลาหาที่จอดรถ! รวม 10 คาเฟ่ลับใกล้รถไฟฟ้าสายสีเหลือง ที่ต้องไปเช็กอิน เดินทางสะดวก ถ่ายรูปสวย สายคอนเทนต์ห้ามพลาด!
ใครที่ดื่มนมแล้วรู้สึกท้องอืด ท้องเฟ้อ รู้สึกเสียดท้อง ไปจนถึงท้องเสียอาจหมายถึงคุณกำลังแพ้แลคโตสซึ่งพบได้ในนมวัวนั่นเอง แล้วจะทำอย่างไร? ให้เปลี่ยนมาดื่มนมแบบไม่มีน้ำตาลแลคโตส หรืแลคโตสฟรีแทนที่ไม่ต้องกังวลเพราะดื่มง่าย คุณประโยชน์เทียบเท่านมวัวทั่วไป ที่จะบอกเล่าว่าแลคโตสฟรี คืออะไร และหากสนใจเลือกซื้อแลคโตสฟรี ยี่ห้อไหนดี? ที่ได้ทั้งความอร่อย น้ำตาลน้อย ไขมันต่ำ…
ยุคดิจิทัลหลายคนต้องใช้เวลาอยู่หน้าจออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์มากขึ้น เช่น สมาร์ตโฟน คอมพิวเตอร์ แท็บเล็ต ทีวี หรืออื่น ๆ เรียกได้ว่าจ้องหน้าคอมหรือมือถือตั้งแต่เช้าจนตอนนอนเลย ซึ่งส่งผลทำให้เกิดอาการปวดตา ตาพร่าลาย ดวงตาเมื่อยล้า หรือทำให้มีปัญหาสายตาในภายหลัง แว่นกรองแสงสีฟ้า จึงกลายเป็นอีกหนึ่งไอเทมที่ได้ความสนใจเป็นอย่างมาก…
สำหรับสายเที่ยว หรือคนที่ต้องเดินทางบ่อย ๆ นอกจากรู้ว่า ไอเทมของพกขึ้นเครื่องบินไฟลท์ยาวมีอะไรบ้างแล้วนั้น อีกสิ่งที่ต้องรู้และปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัดเลยก็คือ การห้ามนำสิ่งของหลายอย่างขึ้นเครื่องบิน เพราะสิ่งของต้องห้ามจะไม่ได้รับอนุญาตให้นำขึ้นเครื่องด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัย ใครชอบเดินทางมาดูกันว่าของที่ห้ามเอาขึ้นเครื่องบินนั้นมีอะไรบ้าง รวมถึงของเหลวขึ้นเครื่องได้เท่าไหร่ ครีม 100 กรัม ขึ้นเครื่องได้ไหม และบุหรี่ไฟฟ้าขึ้นเครื่องได้ไหม…
ขนเยอะเกิ๊น! ต้องทำไงดีเนี่ย! เบื่อที่ต้องไปคลินิก ราคาแพงเกินไป ครั้นจะถอนเองก็ไม่ไหว หรือจะโกนก็ไม่กล้า เป็นอีกหนึ่งปัญหาที่กวนใจสาว ๆ ต้องบอกว่าเดี๋ยวนี้มีนวัตกรรมการกำจัดขนมีให้เลือกหลากหลายแบบมากขึ้น และหนึ่งในวิธีที่ได้รับความนิยมในการกำจัดขนมากที่สุดก็คือ “การเลเซอร์ขน” โดยปัจจุบันเครื่องเลเซอร์ขนมีให้เลือกหลายรูปแบบ และมีขนาดเล็ก เพื่อให้สามารถกำจัดขนเองที่บ้านได้ง่าย ๆ…