Categories: Cars

ไขข้อสงสัย! อายุการใช้งานยางรถยนต์กี่ปีควรเปลี่ยนใหม่

รู้หรือไม่! ว่ารถยนต์ที่เราขับขี่กันในชีวิตประจำวันไม่ว่าจะไปเรียน ไปทำงาน หรือใช้ออกเดินทางไปท่องเที่ยว นอกจะต้องตรวจเช็คระยะกันเป็นประจำ เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง หรือเปลี่ยนแบตเตอรี่แล้วนั้น ตัวยางรถยนต์เองก็มีวันหมดอายุ ซึ่งเราจะพาชาวแอพส้มไปคลายข้อสงสัยว่าอายุการใช้งานยางรถยนต์กี่ปีถึงควรเปลี่ยน สังเกตอย่างไร พร้อมทริคเลือกยางรถยนต์ให้มีประสิทธิภาพใช้งานได้ยาว ๆ ที่อย่ารอช้าไปเริ่มกันเลย!

ยางรถยนต์ใช้ได้กี่ปีและวิธีการประเมินสภาพยางเบื้องต้นด้วยตนเอง

ควรเปลี่ยนยางรถยนต์เมื่อไหร่ ? ยางรถยนต์ส่วนใหญ่จะมีอายุการใช้งานอยู่ที่ประมาณ 4-5 ปี โดยนับตั้งแต่เริ่มใช้งาน หรือเฉลี่ยอยู่ที่ 50,000-80,000 กิโลเมตรขึ้นไป แต่หากไม่ได้ขับบ่อยอาจจะมีระยะการใช้งานนานกว่านั้น ซึ่งมีทริคในการตรวจสอบยางรถยนต์ง่าย ๆ ดังนี้

  1. เช็กลมยาง ก่อนตัดสินใจจะเปลี่ยนยาง ควรตรวจเช็กลมยางทุกครั้งก่อนออกเดินทาง หรืออย่างน้อยเดือนละครั้งซึ่งปกติลมยางจะลดลงด้วยตัวเองประมาณ 2-3 ปอนด์ต่อตารางนิ้วต่อเดือน โดยสามารถดูความดันของยางรถยนต์ได้จากคู่มือประจำรถ ขอบประตูฝั่งคนขับ หรือฝาครอบถังน้ำมัน ค่าความดันมาก หรือน้อยขึ้นอยู่กับรุ่นและประเภทของรถ ยกตัวอย่าง รถนาย A เติมลมยางล่าสุดความดันอยู่ที่ 32 ปอนด์ ผ่านไป 1 เดือนอาจจะลดลงมาเหลือประมาณ 29-30 ปอนด์ได้นั่นเอง แต่หากขณะที่เติมตัวเลขแสดงต่ำกว่า 20 หรือเหลือเลขตัวเดียว รวมถึงขณะเติมเลขยังคงลดลงอาจจะหมายถึงยางคุณอาจจะรั่วซึม ควรเข้าศูนย์ หรืออู่เพื่อเช็คให้ละเอียด
  2. เช็กความลึกของดอกร่องยาง เป็นเรื่องที่สำคัญไม่แพ้กันซึ่งสามารถตรวจสอบได้ง่าย ๆ เพื่อตัดสินใจเปลี่ยนยางได้ถูกต้องและปกติแล้วจะมีการควรตรวจเช็กตามระยะทาง ทุกๆ 10,000 กิโลเมตร โดยปกรณ์ที่ใช้ ควรใช้เกจ์วัดความลึกดอกยางโดยเฉพาะเพื่อความแม่นยำที่เริ่มจากการเลื่อนปุ่มสีดำ ยืดเข็มวัดให้สุด จิ้มอุปกรณ์ที่ใช้วัดไปบนตำแหน่งร่องยางที่ลึกที่สุด เทียบกับความสูงของยางด้านบนสุด ถ้าความลึกของร่องดอกยางต่ำกว่า 2 มม. แสดงว่าถึงเวลาต้องเปลี่ยนยางเพราะหากปล่อยทิ้งไว้อาจนำไปสู่อุบัติเหตุได้ง่าย
  3. เช็กความเสียหายของยาง ทำได้ง่าย ๆ จากการมองสภาพยางภายนอกว่ามีลักษณะยวบยาบไม่แข็งแรงเหมือนเดิมหรือไม่ หรือมีรอยขีดข่วน มีรอยของมีคม ถ้าใช่ ควรนำไปปะ หรือเปลี่ยนยางโดยทันทีและทางที่ดีหมั่นเช็กสภาพยางรถยนต์ด้วยตัวเองทุกครั้ง รวมถึงเข้าศูนย์บริการตามกำหนด

Cr: freepik.com

รอบรู้เรื่องยาง อายุการใช้งานยางรถยนต์

อายุการใช้งานยางรถยนต์ สามารถดูวันหมดอายุ MFD (Manufacturing date / Manufactured Date) ได้ที่บริเวณขอบยาง หรือแก้มยาง 

วิธีถอดรหัสตัวเลขบนยางรหัสเป็นไปตามรูปแบบ “WWYY” โดยเลข 2 ตัวแรกบอกว่าเป็นสัปดาห์ที่เท่าไหร่ และเลข 2 ตัวหลังคือ 2 หลักสุดท้ายของปี ค.ศ. ที่ผลิตยาง เช่น 0619” หมายความว่า ยางเส้นนี้ถูกผลิตขึ้นในสัปดาห์ที่ 6 ของปี 2019 ดังนั้นจากวิธีดูยางรถยนต์หมดอายุเราจึงพอบอกได้ว่ายางเส้นนี้ถูกผลิตประมาณสัปดาห์ที่ 2 ของเดือน กุมภาพันธ์ 2019

นอกจากนี้ยังมีรหัสและตัวเลขบนยางที่มีความหมายดังตัวอย่างเช่น P225/70/R16 91S

  • P: ยางประเภทนี้ถูกออกแบบสำหรับใช้กับยางรถยนต์นั่ง รวมถึงยางรถตู้ขนาดเล็ก รถอเนกประสงค์ และรถปิคอัพ แต่ถ้าหากเป็น LT ใช้กับยางรถปิคอัพ
  • 225: ความกว้างของขนาดยาง โดยมีหน่วยเป็นมิลลิเมตร ซึ่งยางรุ่นนี้มีความกว้างอยู่ที่ 225 มิลลิเมตร
  • 70: อัตราส่วนระหว่างความสูงกับความกว้างของยางที่มักจะทำเป็นจำนวนเต็ม โดยการคูณด้วย 100 แล้วเรียกว่า ซีรี่ส์ ซึ่งขนาดยางเท่ากับ 70 ก็คือ ยางสูงเป็น 70% ของความกว้างอัตราส่วนขนาดล้อรถ โดยางที่มีสมรรถนะในการเกาะถนนดีจะซีรีส์ต่ำ ๆ เช่น ซีรีส์ 55 จะเกาะถนนได้ดีกว่าซีรีส์ 70 นั่นเอง
  • R: โครงสร้างยางเรเดียลซึ่งจะเป็นยางที่มีโครงสร้างแบบชั้นผ้าใบเส้นลวดพันอยู่รอบยางทำมุมทะแยงกับเส้นรอบวงของยาง แต่ถ้าเป็น D ก็คือ DIAGONAL หรือ BIAS PLY (ยางผ้าใบ)
  • 16: เส้นผ่านศูนย์กลางของล้อ มีหน่วยเป็นนิ้วซึ่งจะบ่งบอกว่าขนาดของกะทะล้อที่สามารถใส่ประกอบยางได้ เช่น 16 คือ สามารถใส่กับกะทะล้อที่มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 16 นิ้ว หรือเรียกว่า ยางรถยนต์ขอบ 16
  • 91: ดัชนีการรับน้ำหนัก แสดงถึงความสามารถในการรับน้ำหนักซึ่งยางเส้นนี้สามารถรับน้ำหนักได้ 615 กิโลกรัม รถ 1 คันมียาง 4 เส้นก็จะสามารถรับน้ำหนักได้ถึง 2,460 กิโลกรัม
  • S: ดัชนีระบุความเร็วยางแสดงถึงความสามารถในการใช้ความเร็วสูงสุดที่ยางมีขีดความสามารถเช่น S สามารถใช้อัตราความเร็วได้สูงสุด 180 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ในขณะที่ยางที่มีอัตราความเร็วเท่ากับ R สามารถใช้อัตราความเร็วได้สูงสุด 170 กิโลเมตรต่อชั่วโมงซึ่งยางที่มีดัชนีความเร็วสูง ย่อมมีสมรรถนะในการยึดเกาะถนนได้ดี

เลือกยางยนต์อย่างไร ให้ใช้งานได้นาน เหมาะกับสไตล์การขับ

เมื่อทราบถึงอายุการใช้งานยางรถยนต์กันไปแล้ว ก็ขอทิ้งท้ายด้วยทริกการเลือกยางรถยนต์ให้มีประสิทธิภาพ ใช้งานได้อย่างยาวนานและเหมาะกับสไตล์การขับ ดังนี้ 

  1. ประเภทของรถยนต์ รถยนต์แต่ละรุ่นมีสเปคของยางมาตรฐานที่ติดกับรถยนต์จึงไม่ควรละเลย หรือเลือกตามความชอบเท่านั้น เช่น รถยนต์รถขนาดเล็ก แต่ชอบยางหน้ากว้างอาจส่งผลให้รถอืดในช่วงออกตัว พวงมาลัยหนักและกินน้ำมันมากขึ้น
  2. สไตล์การขับขี่ หากคุณชอบขับขี่ด้วยความเร็วสูง ต้องการเลี้ยวโค้งแบบคล่องตัว แนะนำยางรถยนต์ประเภทสปอร์ตเพราะยึดเกาะถนนได้ดี เข้าโค้งได้อย่างมั่นใจและควบคุมรถได้อย่างแม่นยำ
  3. การใช้งานรถยนต์บนท้องถนน หากวิ่งบนถนนลาดยางทั่วไปต้องการความนุ่มสบายในการขับขี่ แนะนำยางประเภทนุ่มที่ได้ความเงียบและโยนตัวน้อย แต่หากคุณต้องวิ่งบนสภาพถนนที่ไม่ดี เจอเส้นทางขรุขระบ่อย ๆ หรือบรรทุกของหนัก ยางประเภทนุ่มเงียบก็จะไม่เหมาะเพราะอาจเกิดการบวม หรือระเบิดได้ แนะนำให้มองหายางรถยนต์ Heavy Duty เพราะมีความทนทานและแก้มยางสูงซึ่งช่วยลดแรงสะเทือน รวมถึงรักษายางไม่ให้เกิดความเสียหายได้ง่าย
  4. สภาพอากาศ ประเทศไทยอากาศมีแค่ร้อนกับฝนซึ่งยางรถยนต์ในไทยก็ออกแบบมาให้ใช้งานได้บนพื้นถนนแห้ง หรือเปียกอยู่แล้ว แต่หากเผลอไปซื้อยางที่เหมาะกับหิมะมาละก็จะทำให้ประสิทธิภาพการขับขี่ลดลงและควบคุมรถได้ยากมากยิ่งขึ้น

Cr: freepik.com

มาถึงตรงนี้คงจะทราบกันแล้วว่าอายุการใช้งานยางรถยนต์จะเฉลี่ยอยู่ที่ 4-5 ปีซึ่งนับตั้งแต่วันที่เริ่มใช้งานยาง หรือเฉลี่ยอยู่ที่ 50,000-80,000 กิโลเมตรขึ้นไปซึ่งเราสามารถเช็กยางเบื้องต้นได้ด้วยตนเองจากการเช็กลมยาง ความลึกของดอกร่องยางแลความเสียหายของยางจากสภาพภายนอก นอกจากนี้รหัสและตัวเลขบนล้อยางยังช่วยบอกให้ทราบถึงประสิทธิภาพของยางก่อนเปลี่ยน 

พร้อมทริคในการเลือกยางที่ควรพิจารณาให้เหมาะสมกับสเปคยางที่ทางผู้ผลิตแนะนำ เข้ากับสไตล์การขับขี่และการใช้งานบนท้องถนน รวมถึงสภาพอากาศในการขับขี่ของแต่ละภูมิประเทศซึ่งสามารถหาซื้อยางรถยนต์ได้ง่าย ๆ ที่ Shopee พร้อมรับสาระและความรู้ดี ๆ เกี่ยวกับการเลือกยางรถยนต์ยี่ห้อไหนดี หรือคู่มือการตรวจสภาพรถยนต์ ก่อนเดินทางได้ง่าย ๆ ที่ Shopee Blog 

Pang

Share
Published by
Pang

Recent Posts

แนะนำอนิเมะ Netflix ห้ามพลาด! อัปเดตใหม่ น่าดู ปี 2025

นี่คือลิสต์ แนะนำอนิเมะ Netflix สุดปัง ที่จะทำให้ปี 2025 ของคุณเต็มไปด้วยความสนุก ตื่นเต้น ฟิน อิน มันส์ ฮา ไม่ว่าคุณจะเป็นแฟน อนิเมะญี่ปุ่น ตัวยง…

8 hours ago

ใช้อะไรล้างรถได้บ้าง? รวมอุปกรณ์ล้างรถแบบครบชุด พร้อมพิกัดช้อปเลย!

รถที่สะอาดเงางามเป็นความสุขของคนรักรถ แล้วจะใช้อะไรล้างรถได้บ้าง? นี่อาจดูเป็นคำถามธรรมดาๆ แต่จริงๆ แล้วอุปกรณ์ล้างรถมีส่วนสำคัญต่อความสะอาดและความเงางามของรถมากขนาดที่หากใช้ผิดอาจทำให้สีรถหมอง เพิ่มรอยขีดข่วน หรือแม้กระทั่งทำลายพื้นผิวรถได้โดยไม่รู้ตัว! หลายคนยังอาจสงสัยด้วยว่าใช้น้ำยาล้างจานล้างรถได้ไหม หรือใช้ของในบ้านแทนน้ำยาล้างรถได้หรือเปล่า คราวนี้ Shopee จะมาแนะนำอุปกรณ์ล้างรถครบชุดที่จะช่วยให้การล้างรถเป็นเรื่องง่าย พร้อมแนะนำว่าห้ามใช้อะไรล้างรถ เพื่อให้รถของคุณสะอาดเงางามได้แบบมืออาชีพ! ใช้อะไรล้างรถได้บ้าง…

13 hours ago

โบว์ เมลดาจอมขโมยซีน! เธอลูกครึ่งอะไร ความน่ารักนี้มาจากไหนตามมาดู

สาวคนนี้ไม่ใช่แค่สวยธรรมดา แต่คือระดับทำให้คนดูทั้งบ้านทั้งเมืองเผลอยิ้มตามแบบไม่รู้ตัว! โบว์ เมลดาน่ารักมากเสน่ห์ในแบบที่ขโมยหัวใจแฟนๆ ได้ตั้งแต่วันแรกที่ก้าวเข้าสู่วงการ ไม่ว่าจะบทใสๆ หรือจะแสบๆ ซนๆ ก็เอาอยู่หมด! แต่ด้วยชื่อและหน้าลูกครึ่งทำให้หลายคนนึกสงสัยว่าโบว์ เมลดา ลูกครึ่งอะไร? ใช่สายฝ. เต็มตัว หรือแค่หน้าลูกครึ่งแต่หัวใจไทยแท้?…

13 hours ago

บอกลาปัญหาผมเสีย! หวีขนหมูป่า ดียังไง ช่วยบำรุงผมให้เงางาม ลดผมร่วง เพิ่มวอลลุ่ม

เบื่อไหมกับปัญหาผมเสีย ชี้ฟูจัดทรงยาก และขาดหลุดร่วง? อยากมีผมสวยสุขภาพดี แต่ไม่รู้ว่าจะต้องทำยังไง? วันนี้ Shopee มีเคล็ดลับดี ๆ อยากจะมาบอกต่อให้กับสาว ๆ ทุกคนนั่นก็คือ “หวีขนหมูป่า” ไอเทมเด็ดที่ช่วยที่ทำให้เส้นผมเรียบตรง มีน้ำหนัก…

13 hours ago

5 วิธีขี่มอเตอร์ไซค์ลุยน้ำให้ปลอดภัย รถไม่พัง ตรวจเช็กยังไง?

หลายคนอาจเคยประสบปัญหาฝนตก ถนนเปียก น้ำรอการระบาย ทำให้มีน้ำท่วมขัง ยิ่งฝนตกต่อเนื่องนาน ๆ น้ำก็เริ่มมีระดับสูงขึ้นและหลายคนก็อยากจะรีบกลับบ้าน เพราะกลัวรอนานจะไม่สามารถผ่านเส้นทางได้ แล้วถ้าหากใครต้องขี่มอเตอร์ไซค์ลุยน้ำ จะทำอย่างไรให้ปลอดภัย รถไม่ดับกลางทางซึ่งเราได้รวม 6 วิธีที่จะช่วยให้คุณขับรถลุยน้ำได้อย่างปลอดภัย พร้อมทริคในการเช็กรถมอเตอร์ไซค์เบื้องต้นหลังจากขับรถลุยน้ำที่สามารถทำเองได้    cr.…

14 hours ago

10 จั๊มสตาร์ทรถยนต์ รุ่นไหนดี? ที่พกพาง่าย ใช้งานสะดวก

แบตเตอรี่รถยนต์ เป็นหนึ่งในอุปกรณ์ที่สำคัญที่จัดเก็บพลังงานและใช้ในการสตาร์ทรถยนต์พร้อมทั้งจ่ายกระแสไฟไปยังส่วนต่างๆ ของรถยนต์ แต่ก็มีโอกาสในการสตาร์ทรถไม่ติดเนื่องจากแบตเตอรี่มีพลังงานที่ลดน้อยลง การมีจั๊มสตาร์ทรถยนต์ติดไว้จะช่วยทำการชาร์จรถในยามฉุกเฉินได้ซึ่งจั๊มสตาร์ทรถยนต์ รุ่นไหนดี ? รุ่นไหนน่าซื้อ พกพาง่าย ใช้งานสะดวกเราคัดมาฝากแล้ว ไปดูกันเลย cr. freepik.com จั๊มสตาร์ทรถยนต์คืออะไร ทำหน้าที่อย่างไร…

15 hours ago