Categories: Cars

ประเภทยางรถยนต์ แบบไหนดี? เทคนิคเลือกยาง เพื่อประสบการณ์การขับขี่

เคยสงสัยไหมว่าทำไมรถของเพื่อนถึงขับได้นุ่มและเงียบกว่า ทั้ง ๆ ที่เป็นรถรุ่นเดียวกัน? คำตอบอาจอยู่ที่ ประเภทยางรถยนต์ ที่เลือกใช้แตกต่างกันนั่นเอง เพราะยางรถยนต์แต่ละเส้นถูกออกแบบมาให้เหมาะกับการใช้งานที่แตกต่างกัน จึงย่อมส่งผลต่อการขับขี่และประสิทธิภาพในการขับรถด้วย ทั้งในเรื่องการควบคุม ความนุ่มนวล และความปลอดภัย ถ้าใครกำลังจะเปลี่ยนยางรถยนต์แต่ไม่รู้จะเริ่มจากตรงไหนดี? เริ่มจากการทำความรู้จักกับ ประเภทยางรถยนต์ เพราะการเลือกยางที่ถูกต้องจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและช่วยเปลี่ยนประสบการณ์การขับขี่ของคุณได้ด้วย พร้อมเรายังแนะนำวิธีการเลือกยางรถยนต์แบบไหน? ให้เหมาะกับรถและสไตล์การขับขี่เพื่อตอบโจทย์การใช้งานได้อย่างตรงจุด ไปดูกันว่าจะมียางรถยนต์แบบไหนบ้าง และมียางรถยนต์ยี่ห้อไหนบ้างที่เราได้คัดเลือกมาแนะนำให้กับทุกคน มาดูกัน!!!

หัวข้อต่างๆ ของบทความนี้

ยางรถยนต์ สำคัญยังไงต่อการขับขี่

ก่อนจะไปทำความรู้จัก ประเภทยางรถยนต์ เรามาดูความสำคัญของยางรถยนต์กันก่อน ว่าส่งผลต่อการขับขี่อย่างไรบ้าง? ยางรถยนต์ไม่ได้เป็นเพียงแค่ส่วนประกอบที่ทำให้รถยนต์เคลื่อนที่ได้เท่านั้น แต่เป็นชิ้นส่วนเดียวของรถยนต์ที่สัมผัสกับพื้นถนนโดยตรงในขณะขับขี่ ฉะนั้น ทุกการควบคุมรถ, การเบรก, การเร่งความเร็ว และการเข้าโค้ง ล้วนแล้วแต่ต้องอาศัยการทำงานของยางทั้งสิ้น โดยความสำคัญของยางรถยนต์เราสรุปมาให้แล้ว ดังนี้

  • ความปลอดภัย : ยางรถยนต์ที่มีสภาพดีและเหมาะสมกับการใช้งานนั้น จะช่วยให้การยึดเกาะถนนเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ลดโอกาสในการเกิดอุบัติเหตุจากการลื่นไถลหรือเสียการควบคุม
  • เพิ่มสมรรถนะในการขับขี่ : ยางรถยนต์ที่ถูกออกแบบมาอย่างเหมาะสมนั้น ก็จะช่วยให้รถมีสมรรถนะที่ดีขึ้น ทั้งในด้านการเข้าโค้ง, การเบรก, และการเร่งความเร็ว
  • ความสะดวกสบาย : ยางรถยนต์ที่มีคุณภาพจะสามารถช่วยซับแรงกระแทกจากพื้นผิวถนนที่ไม่เรียบ ทำให้การเดินทางนุ่มนวลและเงียบสงบยิ่งขึ้น

ยางรถยนต์ คอยช่วยทำหน้าที่อะไรบ้าง?

เมื่อรู้ถึงความสำคัญของยางรถยนต์กันไปแล้ว คราวนี้เรามาดูในส่วนของหน้าที่ของยางรถยนต์กันบ้าง ก็ต้องบอกว่า ยางรถยนต์มีหน้าที่สำคัญหลายอย่าง ที่ช่วยให้รถยนต์สามารถเคลื่อนที่ไปยังจุดหมายปลายทางได้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ งั้นเรามาทำความเข้าใจเกี่ยวกับหน้าที่ของยางกันเถอะ!

  • รองรับน้ำหนักของรถ : ยางรถยนต์จะต้องแบกรับน้ำหนักของรถยนต์, น้ำหนักผู้โดยสาร, และน้ำหนักสัมภาระทั้งหมดที่อยู่ในรถยนต์  ดังนั้น ต้องมีความแข็งแรงและทนทานเพียงพอ
  • ช่วยยึดเกาะถนน : ถือเป็นหน้าที่ที่สำคัญที่สุด เนื่องจากคุณสมบัติยางรถยนต์ที่ดีจะต้องช่วยในการยึดเกาะถนนทั้งในสภาพถนนแห้งและถนนเปียก เพื่อป้องกันการลื่นไถลและทำให้รถสามารถควบคุมได้
  • ซับแรงกระแทกและการสั่นสะเทือน : ด้วยตัวโครงสร้างและลมยางรถยนต์ภายในทำหน้าที่เป็นตัวซับแรงกระแทกจากพื้นผิวถนนที่ไม่เรียบ ช่วยให้การขับขี่นุ่มนวล และลดการสั่นสะเทือนที่ส่งผ่านมายังตัวรถได้ ทั้งนี้ก็ต้องขึ้นอยู่กับประเภทยางรถยนต์ของรถแต่ละรุ่นด้วยเช่นกัน
  • เป็นตัวกลางในถ่ายทอดพลังงานขับเคลื่อนและการเบรก : ยางรถยนต์ทำหน้าที่เปลี่ยนแรงหมุนจากเครื่องยนต์และระบบเบรกไปเป็นการเคลื่อนที่ของรถยนต์ และหยุดรถตามที่เราต้องการ
  • เปลี่ยนทิศทางการขับขี่รถยนต์ตามที่ต้องการได้ : ซึ่งการเปลี่ยนทิศทางของรถยนต์อาศัยการทำงานของยางเป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็นการเลี้ยวเข้าโค้งหรือการหักหลบสิ่งกีดขวาง ยางจะต้องสามารถตอบสนองต่อการบังคับเลี้ยวได้อย่างแม่นยำ

ทำความรู้จัก! ยางรถยนต์มีกี่ประเภท อะไรบ้าง?

ยางรถยนต์มีกี่ประเภท และคุณสมบัติของยางแต่ละประเภทมีความแตกต่างกันยังไง? หนึ่งในคำถามยอดฮิตของผู้ขับขี่ทั้งมือใหม่และมือโปร เชื่อว่าหลายครั้งที่ถึงต้องเปลี่ยนยางรถยนต์ อาจจะเลือกจากยี่ห้อของยางรถยนต์ และราคาที่คุ้มค่ามากที่สุด โดยไม่ได้คำนึงถึงประเภทยางรถยนต์เลยก็ได้ เพราะคิดว่ายางรถยนต์ก็คงจะเหมือน ๆ กันทั้งล่ะ! ในความเป็นจริงแล้วชนิดของยางรถยนต์แต่ละประเภทได้ถูกออกแบบมาให้เหมาะกับการใช้งานที่แตกต่างกันไป ถ้างั้นเราจะพาทุกคนมาทำความรู้จัก ประเภทยางรถยนต์ พร้อมทั้งบอกถึงคุณสมบัติของยางแต่ละประเภท โดยแบ่งตามการใช้งานหลัก ๆ เป็น 5 ประเภท ดังนี้

1. ยางรถยนต์นุ่มเงียบ

ยางรถยนต์นุ่มเงียบ หรือที่เรียกว่า Comfort Tire เป็นยางรถยนต์ที่นิยมใช้กันมากที่สุด โดยเฉพาะกลุ่มคนในเมืองที่มีไลฟ์สไตล์ไม่ได้โลดโผนมากนัก ซึ่งยางประเภทนี้จะมีผิวสัมผัสหน้ายางจะมีการกระจายแรงกดแบบสม่ำเสมอ ช่วยลดแรงกระแทกได้เป็นอย่างดี มีการเสริมเนื้อยางพิเศษตรงบริเวณแก้มยาง ช่วยทำให้ลดการสั่นสะเทือนได้ดี ทำให้รู้สึกถึงความนุ่มสบาย และยังเกาะถนนได้เป็นอย่างดี เน้นการขับขี่ในเมือง ไม่ควรจะขับขี่บนถนนที่ขรุขระ เพราะจะทำให้ยางแตกและเสื่อมสภาพเร็วนั่นเอง

2. ยางรถยนต์สปอร์ตสมรรถนะสูง

ยางสปอร์ตสมรรถนะสูง หรือ High-Performance Tire เป็นยางรถยนต์ถูกออกแบบมาเพื่อใช้สำหรับรถสปอร์ตราคาแพง ด้วยความสามารถในการยึดเกราะพื้นถนนได้ดี พร้อมสมรรถนะยางที่สูงกว่ายางประเภทอื่น ๆ ทำให้รถเคลื่อนตัวได้เร็วยิ่งขึ้น สามารถขับขี่บนถนนที่เรียบได้เร็วแรงสมใจ อีกทั้ง ดีไซน์ที่สวยโดดเด่ด ที่ช่วยเสริมทำให้รถดูเท่มากยิ่งขึ้น เหมาะสำหรับการขับรถด้วยความเร็วบนพื้นเรียบ แต่ว่าจะรองรับแรงกระแทกได้ไม่มากเท่าไหร่

3. ยางรถยนต์ประหยัดน้ำมัน

ยางประหยัดน้ำมัน หรือ Eco Tire คือยางรถยนต์ที่ได้ถูกออกแบบมาเป็นพิเศษ เพื่อช่วยลดแรงต้านทานการหมุน (Rolling Resistance) ของล้อให้น้อยที่สุด นอกจากนี้ ยางประเภทนี้ยังเป็นมิตรกับโลกอีกด้วย โดยส่วนใหญ่ใช้กับรถ Eco Car ขับขี่ไม่ไกล ใช้รถเป็นประจำในชีวิตประจำวัน ช่วยให้ประหยัดน้ำมันได้มากกว่า และยังปลอดภัยมากขึ้น ด้วยประสิทธิภาพของยางที่ยึดเกาะถนน และมีอายุการใช้งานที่ยาวนานยิ่งขึ้น

4. ยางรถยนต์ RunFlat

ยาง RunFlat คือ ยางที่ได้ถูกออกแบบมาเป็นพิเศษ เพื่อให้รถยนต์ของคุณยังคงวิ่งต่อไปได้แม้จะไม่มีลมยาง ยางแบน ยางรั่ว หรือถูกเจาะยาง ซึ่งจะแตกต่างกับยางทั่วไป ที่ไม่สามารถรับน้ำหนักของตัวรถได้ เมื่อเสียความดันลมยาง และไม่ว่าจะเกิดเหตุฉุกเฉินใดกับยางรถยนต์ ยังคงสามารถขับรถต่อไปได้อย่างปลอดภัย ถือว่าเป็นยางระดับพรีเมียมที่มีความสามารถสูง แน่นอนว่าราคาจะต้องสูงตามไปด้วย โดยส่วนใหญ่ ยาง RunFlat มักจะใช้กับรถยนต์ในกลุ่มพรีเมียมคาร์ รถสปอร์ตซีดานแบรนด์ยุโรป เช่น BMW, Mercedes Benz, Porsche และ Mini

5. ยางรถยนต์ออฟโรด

ยางออฟโรด คือ ยางที่ได้ถูกออกแบบมาสำหรับรถยนต์ที่ขับขี่บนสภาพถนนที่ขรุขระและไม่เรียบ เช่น เส้นทางที่เป็นดินโคลน, กรวด, ทราย หรือหิน เหมาะสำหรับสไตล์การขับขี่แบบสมบุกสมบัน บุกป่า ขึ้นเขาลงห้วย ก็ต้องเลือกยางประเภทนี้เลย ซึ่งยางประเภทนี้มักจะใช้กับรถกระบะทั่วไป SUV และ CUV เพื่อประสิทธิภาพในการขับขี่ ด้วยความยางประเภทนี้จะค่อนข้างแข็งแรง ขับได้ทุกพื้นผิว ไม่ว่าจะเป็นเปียกหรือแห้ง ลาดชัน ยึดเกาะได้ดี มีแรงเกาะถนนได้เป็นอย่างดีเยี่ยม ตอบสนองกับพวงมาลัยได้ดี 

ก่อนเปลี่ยนยาง! 5 วิธีเลือกยางรถยนต์ให้เหมาะกับการใช้งาน

ยางรถยนต์ เป็นหนึ่งในส่วนประกอบที่สำคัญที่สุดของรถ เพราะเป็นจุดเดียวที่สัมผัสกับพื้นถนนโดยตรง ดังนั้น การเลือกยางที่เหมาะสมจึงไม่ใช่แค่เรื่องของความปลอดภัยในการขับขี่เท่านั้น แต่ยังส่งผลต่อสมรรถนะการขับขี่และอายุการใช้งานของรถอีกด้วย ซึ่งเราจะพาคุณไปดูวิธีการเลือกยางให้เหมาะสมกับการใช้งาน เพื่อให้คุณได้ยางรถยนต์ที่คุ้มค่าและตอบโจทย์การใช้งานมากที่สุด

1. เลือกยางรถยนต์ให้เหมาะสมกับการใช้งาน

อันดับแรกก่อนจะเปลี่ยนยาง คือต้องมีความเข้าใจประเภทยางรถยนต์เบื้องต้นกันก่อน เนื่องจากยางรถยนต์มีหลายประเภท และยางแต่ละประเภทถูกออกแบบมาเพื่อการใช้งานที่แตกต่างกันไป หากใช้รถยนต์บนถนนเรียบอยู่เป็นประจำ เราแนะนำให้เลือกยางที่มีดอกละเอียด ร่องยางแคบและถี่ ช่วยให้ผิวหน้ายางยึดเกาะถนนได้ดี และมีประสิทธิภาพในการรีดน้ำ แต่ถ้าใช้งานบนถนนขรุขระเป็นประจำ ควรเลือกยางที่มีดอกยางขนาดใหญ่และร่องห่าง ช่วยสกัดโคลน หิน และไม่ทำให้ติดตามร่องยาง โดยให้เลือกยางตามลักษณะการใช้งานและสภาพถนน ดังนี้

  • เน้นการขับในเมือง : ยางธรรมดาที่เน้นความนุ่มนวล และยางประหยัดน้ำมัน ก็เพียงพอแล้ว
  • ขับเร็ว ชอบเข้าโค้ง : ยางสมรรถนะสูงจะให้การยึดเกาะพื้นถนนได้ดีกว่าและมั่นใจในเรื่องความปลอดภัยมากกว่า
  • ขับบนถนนขรุขระ หรือทางลูกรังบ่อย : ยางสำหรับรถกระบะ หรือ ยางกึ่งออฟโรดจะทนทานต่อแรงกระแทกได้ดีกว่า

2. ขนาดของยางรถยนต์ที่เหมาะสม

ต่อมาก็มาในเรื่องของขนาดยางรถยนต์ ควรเลือกขนาดที่เหมาะสมต่อการใช้งาน ซึ่งคุณสามารถดูได้จากป้ายที่ติดอยู่บริเวณเสาประตูฝั่งคนขับ หรือในคู่มือรถยนต์ ว่ารถของคุณใช้ขนาดยางอยู่ที่เท่าไหร่ แนะนำให้เลือกซื้อยางยี่ห้อ รุ่น ขนาด ให้เหมือนกันทั้ง 4 เส้น ที่สำคัญควรเปลี่ยนพร้อมกันทั้ง 4 เส้น มากกว่าเปลี่ยนทีละคู่หรือสลับหน้าหลัง เพื่อช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถควบคุมรถได้ดีกว่า อุ่นใจทุกการเดินทาง

วิธีการคำนวณความสูงของยางรถยนต์เบื้องต้น เช่น ล้อยางรถยนต์ขนาด 205/55 R16 91V ก่อนอื่นจะต้องแปลงรหัส คือ

  • 205 = ความกว้างหน้ายาง (มิลลิเมตร)
  • 55 = ความสูงของแก้มยางที่มีหน่วยเป็นเปอร์เซ็นต์
  • R16 = เส้นผ่าศูนย์กลางของขนาดล้อ
  • 91 = ดัชนีการรับน้ำหนัก (Load Index)
  • V = ดัชนีความเร็ว (Speed Index)

3. ดอกยางรถยนต์

หลังจากพิจารณาจากการใช้งานในการขับขี่ และเลือกขนาดของยางรถยนต์แล้ว อย่าลืม! เลือกดอกยางให้เหมาะสมต่อการใช้งานด้วย โดยดอกยางจะสามารถแบ่งออกได้เป็น 3 แบบ ดังนี้

  • ดอกยางแบบสมมาตร (Symmetric Treads) : ลวดลายของดอกยางจะมีขนาดเล็กและละเอียด ลักษณะของลายเหมือนกันทั้งฝั่งซ้ายและฝั่งขวา สามารถสลับยางได้ทุกตำแหน่ง ทำให้ใช้งานได้นาน ในขณะวิ่งบนท้องถนนจะทำให้มีเสียงเงียบ เหมาะสำหรับรถยนต์ที่ใช้งานทั่วไป วิ่งบนถนนเรียบ ไม่ขรุขระ และเหมาะสำหรับการขับขี่ในระยะใกล้
  • ดอกยางแบบไม่สมมาตร (Asymmetric Treads) : ลวดลายของดอกยางบนหน้ายางทั้งสองฝั่งจะไม่เหมือนกัน ซึ่งด้านในดอกยางได้ออกแบบมาเพื่อการขับขี่บนทางตรงและใช้ความเร็วสูง ส่วนด้านนอกดอกยางออกแบบมาเพื่อการยึดเกาะถนนเมื่อเข้าโค้งได้ดี มีคุณสมบัติคือช่วยเพิ่มสมรรถนะในการยึดเกาะกับพื้นถนน และช่วยให้รถทรงตัวในขณะเข้าโค้งได้ดียิ่งขึ้น เหมาะสำหรับรถยนต์ที่ต้องการสมรรถนะสูงในการขับขี่ทั้งทางตรงและเข้าโค้ง และคนที่ชื่นชอบขับขี่ด้วยความเร็ว
  • ดอกยางแบบทิศทางเดียว (Directional Treads) : ลวดลายของดอกยางจะชี้ไปในทิศทางเดียวกันทั่วทั้งยาง มีคุณสมบัติในการระบายน้ำหรือรีดน้ำได้ดี และสามารถเกาะพื้นถนนเปียกได้อย่างมีประสิทธิภาพ เหมาะสำหรับใช้งานบนถนนเปียก หรือใช้ความเร็วสูง รวมถึงการขับขี่ถนนทางตรงที่มีระยะทางไกล

4. เช็กอายุและสภาพของยางรถยนต์

ยางรถยนต์มีอายุการใช้งานจำกัด แม้จะไม่ได้ใช้งานเลยก็ตาม ยางรถยนต์ที่ผลิตมาเกิน 5 – 6 ปี ควรจะมีการตรวจสอบก่อนใช้งาน ก่อนตัดสินใจซื้อยางรถยนต์ ควรเช็กวันที่ผลิตบนแก้มยาง โดยจะระบุ WW/YY หมายถึงสัปดาห์และปีที่ผลิต หากคุณเลือกใช้งานยางมือสอง หรือยางเก่าที่ผลิตค้างมานานหลายปี แนะนำให้ตรวจสอบสภาพยางก่อนตัดสินใจซื้อ เพื่อให้ได้ยางที่มีคุณภาพและใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพ

5. ราคาและการรับประกันของยางรถยนต์

ปัจจุบันยางรถยนต์มีให้เลือกหลายยี่ห้อ มีราคาหลากหลาย ตั้งแต่หลักพันไปจนถึงหลักหมื่นต่อเส้น แต่การเลือกยางที่ถูกที่สุด อาจจะไม่ใช่ทางเลือกที่ดีที่สุดเสมอไป ควรจะพิจารณายางที่มีคุณภาพเหมาะสมกับงบประมาณและลักษณะการใช้งานของคุณ เพื่อให้คุณได้ยางรถยนต์ที่ดีและคุ้มค่ามากที่สุด สำคัญอย่าลืม! เช็กการรับประกันยางรถยนต์จากผู้ผลิตและศูนย์บริการรถยนต์

แนะนำ 10 ยางรถยนต์ แบบไหนดี ทนทาน เกาะถนนดีเยี่ยม

เมื่อทำความรู้จักประเภทยางรถยนต์แต่ละชนิดกันไปแล้ว รวมถึงวิธีการเลือกซื้อยางแบบไหนที่เหมาะกับการใช้งานกันไปแล้ว แต่ยังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะซื้อยางรถยนต์แบบไหนดี ที่เหมาะสมกับการใช้งาน มีความทนทาน เกาะถนนได้ดี ด้วยความที่มียางรถยนต์ให้เลือกหลายประเภทจากยี่ห้อต่าง ๆ มากมาย เพื่อช่วยให้เพื่อน ๆ ตัดสินใจได้ง่ายขึ้น เราจึงได้คัดมาให้แล้ว 10 ยางรถยนต์ ยี่ห้อยอดนิยม มีประเภทยางรถยนต์ให้เลือกหลากหลาย จะมียางแบบไหน ยี่ห้ออะไรบ้าง มาดูกัน

1. Bridgestone ECOPIA EP300

สำหรับใครขับรถทางไกลบ่อย ต้องการประหยัดเงินค่าน้ำมัน แนะนำให้เปลี่ยนมาใช้ยางรถยนต์ Bridgestone ECOPIA EP300 รุ่นนี้เลย ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยี Nano Pro-Tech TM ที่ออกแบบเนื้อยางสูตรพิเศษที่ช่วยลดแรงต้านทานการหมุน ทำให้รถของคุณใช้น้ำมันน้อยลง จึงช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในระยะยาวได้จริง อีกทั้ง ยางยังมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน การขับขี่ที่สบายกว่า พร้อมทั้งมีการออกแบบดอกยางแบบ Round Rib Edge ที่ช่วยให้การเข้าโค้งและเปลี่ยนทิศทางทำได้ดีขึ้นอีกด้วย

คุณสมบัติของยางรถยนต์

  • ประหยัดน้ำมันได้มากกว่า
  • เกาะถนนยิ่งขึ้น ปลอดภัยยิ่งกว่า
  • ยืดอายุการใช้งานให้ยาวนานกว่า
  • ประเภทยางรถยนต์ประหยัดน้ำมัน และยางรถยนต์นุ่มเงียบ
  • ราคาประมาณ 11,600 – 16,560 บาท / จำนวน 4 เส้น

2. NEXEN รุ่น NFERA SU4

ชวนมาเปิดประสบการณ์การขับขี่ยอดเยี่ยม จากยาง NEXEN รุ่น NFERA SU4 เป็นหนึ่งในยางที่ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องในตลาดบ้านเรา ด้วยจุดเด่นเน้นประสิทธิภาพการขับขี่ และราคาที่เข้าถึงง่าย โดยยางรุ่นนี้เป็นยางสมรรถนะสูงพิเศษ ยึดเกาะพื้นผิวถนนได้ดีทั้งสภาพแห้งและเปียก ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการเบรกและการเข้าโค้ง ด้วยดีไซน์ร่องดอกยางแบบพิเศษ ที่มีร่องรีดน้ำขนาดใหญ่ถึง 4 ร่อง ช่วยในการระบายน้ำ ทำให้ลดความเสี่ยงในการเกิดอาการเหินน้ำ เมื่อขับขี่บนถนนเปียก นอกจากนี้ ยังมีการออกแบบไหล่ยางให้แข็งแรงขึ้นเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการควบคุมทิศทาง และให้การยึดเกาะที่ดีในขณะเข้าโค้ง รวมถึงยังช่วยลดการใช้เชื้อเพลิงและการปล่อย CO2 ส่งผลให้ประหยัดน้ำมันได้อีกด้วย

คุณสมบัติของยางรถยนต์

  • ช่วยประหยัดน้ำมัน
  • ให้ความรู้สึกนุ่มนวลเป็นพิเศษ
  • ช่วยยึดเกาะพื้นผิวถนนได้ดีทั้งสภาพแห้งและเปียก
  • เพิ่มเสถียรภาพในการขับขี่ความเร็วสูง ด้วยโครงสร้างหน้ายางที่แข็งแรง
  • ประเภทยางรถยนต์สปอร์ตสมรรถนะสูง และยางรถยนต์นุ่มเงียบ
  • ราคาประมาณ 8,400 – 14,560 บาท / จำนวน 4 เส้น

3. DUNLOP รุ่น SP SPORT LM705

สำหรับ DUNLOP รุ่น SP SPORT LM705 ที่มีความโดดเด่นในเรื่องความนุ่มเงียบระดับพรีเมียม ด้วยการออกแบบโครงสร้างยางและดอกยางใหม่ที่ช่วยลดแรงสั่นสะเทือนจากพื้นผิวถนนได้ดี ทำให้รู้สึกผ่อนคลายทุกครั้งในการขับขี่ เหมาะสำหรับคนที่ใช้รถในชีวิตประจำวัน หรือคนที่ต้องการความสบายในการขับขี่ แม้จะเน้นความนุ่ม ประสิทธิภาพในการยึดเกาะพื้นถนนไม่ได้ลดลง โดยเฉพาะขับขี่บนถนนเปียก เพราะมีร่องยางที่ได้ถูกออกแบบมาเพื่อรีดน้ำได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดอาการเหินน้ำ ทำให้ขับขี่ได้อย่างมั่นใจในทุกสภาพอากาศ และยางรุ่นนี้ก็ยังใช้ส่วนผสมเนื้อยางที่พัฒนาขึ้นใหม่ เพื่อให้ทนทานต่อการสึกหรอมากขึ้น และมีการกระจายแรงกดที่หน้ายางอย่างสม่ำเสมอ ที่ส่งผลให้อายุการใช้งานยาวนานขึ้นและช่วยให้คุณประหยัดค่าใช้จ่ายในระยะยาว

คุณสมบัติของยางรถยนต์

  • ช่วยดูดซับแรงสั่นสะเทือน ขับขี่นุ่ม เสียงเงียบ
  • มีเทคโนโลยี Shinobi ออกแบบแก้มยางให้โค้งมน เพิ่มความนุ่มสบาย
  • ลายดอกยางแบบไม่สมมาตร ช่วยกระจายแรง และเสริมสมรรถนะการขับ
  • ผลิตด้วยเทคโนโลยี Comfort & Quiet สูตรเนื้อยางเสริมความนุ่มนวล ที่ลดเสียงรบกวน
  • ประเภทยางรถยนต์สปอร์ตสมรรถนะสูง และยางรถยนต์นุ่มเงียบ
  • ราคาประมาณ 10,560 – 16,160 บาท / จำนวน 4 เส้น

4. MICHELIN รุ่น ENERGY XM2+

MICHELIN รุ่น ENERGY XM2+ มาพร้อมเทคโนโลยี Micro-Adaptive Compound เป็นเนื้อยางที่มีความยืดหยุ่นสูง ทำให้ยางสามารถปรับตัวเข้ากับพื้นผิวถนนได้ดีขึ้น ยึดเกาะพื้นถนนเปียกได้เป็นอย่างดี และช่วยลดระยะเบรกให้สั้นลงทำให้คุณขับขี่ได้อย่างมั่นใจในทุกสภาพอากาศ นอกจากนี้ ยางยังมีอายุการใช้งานที่ยาวนานกว่ายางรุ่นก่อนหน้านี้ ด้วยการนำเทคโนโลยี Dura-Flex มาใช้ เพื่อที่จะช่วยเสริมความแข็งแรงของแก้มยาง ทำให้สามารถทนทานต่อการกระแทกและแรงบิดต่าง ๆ ได้ดีขึ้น รวมถึงเนื้อยาง Full Silica สูตรใหม่ลิขสิทธิ์เฉพาะมิชลินที่ให้ความยืดหยุ่นสูงช่วยให้หน้ายางปรับสภาพและยึดเกาะพื้นถนนได้อย่างเต็มที่ ที่สำคัญยังช่วยประหยัดน้ำมันได้อีกด้วย

คุณสมบัติของยางรถยนต์

  • ประหยัดน้ำมัน เทคโนโลยีที่ช่วยลดการเสียดสี
  • ขับขี่นุ่มสบาย เพิ่มความสะดวกสบายในการขับขี่
  • เบรกสั้น มั่นใจ ทั้งยางใหม่และยางที่ใกล้หมดดอก
  • ยางรถยนต์รุ่นนี้ยังสามารถรองรับการใช้งานรถไฟฟ้า
  • ประเภทยางรถยนต์ประหยัดน้ำมัน
  • ราคาประมาณ 1,600 – 19,360บาท / จำนวน 4 เส้น

5. Yokohama ยางรถยนต์ รุ่น V552

ใครกำลังมองหายางรถยนต์ที่ให้ความสบายในการขับขี่เป็นหลัก Yokohama ยางรถยนต์ รุ่น V552 อีกหนึ่งตัวเลือกอันดับต้น ๆ ที่หลายเลือกใช้กัน และยังถูกพูดถึงอยู่เสมอในกลุ่มยางพรีเมียมคอมฟอร์ท (Premium Comfort) ความนุ่มเงียบที่เหนือระดับ ถือเป็นจุดเด่นของยางรุ่นนี้เลย มาพร้อมกับคอนเซ็ปต์ “Dramatic Silence” ช่วยลดเสียงรบกวนจากพื้นถนนได้ดี ด้วยการออกแบบดอกยางที่มีบล็อกขนาดแตกต่างกันมากถึง 144 บล็อก เพื่อช่วยกระจายความถี่เสียง ทำให้เสียงรบกวนในห้องโดยสารลดลงอย่างเห็นได้ชัด และไม่ใช่แค่นุ่มเงียบแต่ก็ยังมีความปลอดภัย ด้วยการออกแบบดอกยางที่เพิ่มการยึดเกาะถนนทั้งในสภาพแห้งและเปียก

คุณสมบัติของยางรถยนต์

  • ขับขี่เงียบ ลดเสียงจากการหมุนของยาง
  • การยึดเกาะถนนดีเยี่ยม เพิ่มความมั่นคงในการขับขี่
  • ขับขี่นุ่มนวล เหมาะสำหรับในการขับขี่ระยะทางไกล
  • ประเภทยางรถยนต์นุ่มเงียบ
  • ราคาประมาณ 3,550 – 12,000 บาท / จำนวน 1 เส้น

6. PIRELLI รุ่น CINTURATO ROSSO

Pirelli เป็นแบรนด์ยางรถยนต์ระดับโลกที่มีชื่อเสียงมาอย่างยาวนานในฐานะยางสมรรถนะสูงในสนามแข่ง สำหรับยาง PIRELLI รุ่น CINTURATO ROSSO เป็นยางน้องใหม่ในตระกูล Cinturato ที่เน้นความสะดวกสบายในระหว่างการขับขี่ในชีวิตประจำวันหรือเดินทางระยะไกล โดยเป็นการนำเทคโนโลยีจากสนามแข่งมาปรับใช้กับการใช้งานในชีวิตประจำวัน เพื่อตอบโจทย์ผู้ขับขี่รถยนต์ทั่วไปที่ต้องการยางรถยนต์คุณภาพดี ในราคาที่เข้าถึงได้ง่ายขึ้น แม้ไม่ใช่ยางสปอร์ตแท้ ๆ แต่ก็ยังให้ความรู้สึกที่มั่นคง ด้วยการออกแบบของหน้ายางให้มีพื้นที่สัมผัสกับถนนมากขึ้น ทำให้การเข้าโค้งหรือเปลี่ยนเลนทำได้อย่างมั่นใจและไม่รู้สึกยวบยาบ และยึดเกาะได้ดีเยี่ยมทั้งบนถนนเปียกและถนนแห้ง

คุณสมบัติของยางรถยนต์

  • การยึดเกาะถนนเปียกได้ค่อนข้างดี
  • นุ่มเงียบและขับสบาย ช่วยลดเสียงรบกวนในห้องโดยสาร
  • มีความทนทานต่อการสึกหรอและมีอายุการใช้งานที่ยาวนานขึ้น
  • ประเภทยางรถยนต์แบบ Premium Touring Summer ที่เน้นความสบายและสมรรถนะ
  • ราคาประมาณ 11,360 – 22,160 บาท / จำนวน 4 เส้น

7. GOODYEAR รุ่น EAGLE F1 SPORT

ใครกำลังมองหายางสมรรถนะสูงที่ให้ความเร้าใจ แต่ยังใช้งานในชีวิตประจำวันได้ดี GOODYEAR รุ่น EAGLE F1 SPORT คือคำตอบที่น่าสนใจ ด้วยการผสมผสานเทคโนโลยีจากสนามแข่งสู่ท้องถนน ทำให้ยางรุ่นนี้มีความโดดเด่นในหลาย ๆ ด้าน ด้วยเอกลักษณ์เฉพาะของลายหน้ายาง ที่ออกแบบมาคล้ายกับกรงเล็บของนกอินทรี จึงช่วยเสริมความแข็งแรงบริเวณไหล่ยาง ช่วยทำให้ยางยึดเกาะพื้นถนนได้อย่างมั่นใจ ไม่ว่าจะเข้าโค้งหรือจะเบรกกะทันหันก็สามารถควบคุมทิศทางได้ดีเยี่ยม ยังเทคโนโลยี Dynamic Braking ช่วยเพิ่มผิวสัมผัสยางกับพื้นถนนให้มากยิ่งขึ้น และได้เลือกใช้เนื้อยางซิลิกาสูตรพิเศษ ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการเบรกที่ดีเยี่ยม ให้คุณมั่นใจในทุกสภาพถนนทั้งถนนเปียกและถนนแห้ง พร้อมเสริมแผ่นยางสูตรพิเศษเพื่อดูดซับเสียงสะท้อน ทำให้รู้สึกเงียบและเพิ่มความสะดวกสบายในการขับขี่

คุณสมบัติของยางรถยนต์

  • ควบคุมทิศทางดีเยี่ยม
  • การยึดเกาะถนนที่ดี
  • เข้าโค้งได้แม่นยำ
  • ประเภทยางรถยนต์สปอร์ตสมรรถนะสูง
  • ราคาประมาณ 11,360 – 13,760 บาท / จำนวน 4 เส้น

8. Yokohama ยางรถยนต์ รุ่น G005

สำหรับสายลุย สายผจญภัย ที่กำลังมองหายางออฟโรดตัวจริง Yokohama ยางรถยนต์ รุ่น G005 คือเพื่อนร่วมทางที่จะพาคุณไปได้ทุกที่ ซึ่งยางรุ่นอยู่ในตระกูลยาง Mud-Terrain ออกแบบมาเพื่อรับมือกับเส้นทางออฟโรดสุดโหด ไม่ว่าจะเส้นทางที่เต็มไปด้วยโคลน หิน และทราย ก็สามารถขับขี่ได้อย่างฉลุย แต่ทั้งนี้ก็ยังสามารถขับขี่บนถนนปกติได้ดีเหมือนกัน ในส่วนของแก้มยางออกแบบให้มีความแข็งแกร่งเป็นพิเศษ เพื่อรองรับแรงกระทำจากการใช้งาน นอกจากนี้ดีไซน์แก้มยางก็มีความที่แตกต่างกันในด้านซ้ายและขวา ทำให้คุณสามารถเลือกฝั่งแก้มยางให้เข้ากับบุคลิกรถได้ ส่วนของดอกยางมีขนาดใหญ่และลึกเป็นพิเศษ ช่วยให้มีแรงตะกุยสูง สามารถตะกุยดินโคลนและไต่หินได้อย่างมีประสิทธิภาพ แม้จะเป็นยาง Mud-Terrain ที่มีดอกยางดุดัน แต่บอกเลยว่าเรื่องเสียงรบกวนคือเงียบมาก ๆ

คุณสมบัติของยางรถยนต์

  • ลุยทางวิบากได้ดี โครงสร้างแข็งแรงทนทาน ต้านการสึกหรอ
  • บล็อกดอกยางถูกปรับแต่งให้ยึดเกาะทางวิบากได้ดี ช่วยให้มีแรงตะกุยดินในสภาพถนนขรุขระ
  • มีความนุ่มสบาย เสียงรบกวนน้อย ด้วยการออกแบบดอกยางให้มีระยะห่าง และที่มีจำนวนไม่มาก
  • มาพร้อมกับเทคโนโลยี Geo – Shield ทำให้โครงสร้างยางแข็งแรงทนทาน มีอายุการใช้งานยาวนาน
  • ประเภทยางรถยนต์ออฟโรด
  • ราคาประมาณ 7,950 – 13,200 บาท / จำนวน 1 เส้น

9. MICHELIN รุ่น PRIMACY3 ZP RUN FLAT

มาต่อกันที่ยางรถยนต์ MICHELIN รุ่น PRIMACY3 ZP RUN FLAT ซึ่งเป็นยางที่ได้มีการนำเอาคุณสมบัติของยาง Comfort และยาง Run Flat เข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว ตอบโจทย์คนที่ต้องการความสบายในการขับขี่และความปลอดภัยไปพร้อมกันในการเดินทาง ด้วยเทคโนโลยี Run Flat ที่ช่วยให้คุณยังคงสามารถขับต่อไปได้แม้จะยางรั่ว ไม่เพียงเท่านั้นก็ยังมีความนุ่มเงียบและขับสบาย ด้วยเทคโนโลยี MICHELIN Primacy ที่ช่วยให้มีความนุ่มและลดเสียงรบกวน ทำให้ขับขี่เงียบและผ่อนคลาย อีกทั้ง ยังมีคุณสมบัติที่ยึดเกาะที่ดีทั้งบนถนนแห้งและเปียก ช่วยให้การเบรกและเข้าโค้งทำได้อย่างมั่นใจ และด้วยส่วนผสมเนื้อยางที่คิดค้นมาเป็นพิเศษ จึงทำให้ยางมีความทนทานต่อการสึกหรอ และมีอายุการใช้งานที่ยาวนานกว่ายางทั่วไป

คุณสมบัติของยางรถยนต์

  • ขับขี่ได้นุ่มเงียบและขับสบาย
  • ดอกยางให้มีความนุ่มนวลที่โดดเด่นกว่ารันแฟลตทั่วไป
  • ปลอดภัยทั้งเบรกและการรีดน้ำบนถนนเปียกหรือถนนแห้ง เข้าทุกโค้งด้วยความมั่นใจ
  • ยางรถยนต์รุ่นนี้ยังสามารถรองรับการใช้งานรถไฟฟ้า
  • ประเภทยางรถยนต์ยาง RunFlat
  • ราคาประมาณ 9,172 บาท / จำนวน 1 เส้น

10. HANKOOK รุ่น iON evo AS

ใครที่ขับรถ EV หรือรถยนต์ที่ต้องการความเงียบและประหยัดพลังงาน แนะนำยางรถยนต์รุ่นนี้เลย HANKOOK รุ่น iON evo AS ด้วยการพัฒนามาเพื่อรถยนต์ไฟฟ้าโดยเฉพาะ แต่ก็ยังสามารถใช้ได้ดีกับรถยนต์เครื่องยนต์สันดาปทั่วไปเลย ซึ่งจุดเด่นของยางรุ่นนี้คือเป็นเรื่องของความนุ่มเงียบ ด้วยเทคโนโลยี Noise Guard และ Opti Pitch ที่ช่วยลดเสียงรบกวนจากพื้นถนนได้อย่างมีประสิทธิภาพ จึงทำให้ห้องโดยสารเงียบสงบขึ้นอย่างชัดเจน ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญสำหรับรถ EV ที่ไม่มีเสียงเครื่องยนต์รบกวน นอกจากนี้ ยังช่วยประหยัดพลังงาน ด้วยการใช้เทคโนโลยี Evolution ซึ่งเป็นส่วนผสมเนื้อยางที่มีซิลิกาและวัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ช่วยลดแรงต้านทานการหมุนได้ดี ทำให้รถวิ่งได้ระยะทางที่ไกลขึ้นต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง และก็ยังยึดเกาะถนนที่ดีทั้งบนพื้นแห้งและเปียกได้ดีอีกด้วย ใครกำลังมองหายางสำหรับรถไฟฟ้า ที่ทั้งดีและถูก แนะนำรุ่นนี้เลย

คุณสมบัติของยางรถยนต์

  • นุ่มนวลและเงียบ ช่วยลดเสียงรบกวน ในการขับขี่เงียบ
  • ยึดเกาะที่ดีทั้งบนถนนแห้งและเปียก ช่วยให้เบรกและเข้าโค้งได้อย่างมั่นใจ
  • ยางมีอายุการใช้งานที่ยาวนานกว่ายางทั่วไป
  • ประเภทยางรถยนต์ยาง RunFlat
  • ราคาประมาณ 15,320 บาท / จำนวน 2 เส้น

เป็นอย่างไรบ้างกับ 5 ประเภทของยางรถยนต์ ที่ได้เอามาฝากกันในบทความนี้ หวังว่าเพื่อน ๆ จะรู้จักชนิดของยางรถยนต์ประเภท ๆ ได้อย่างเข้าใจมากขึ้น เพื่อจะได้เลือกซื้อยางได้อย่างถูกต้องกับการใช้งานเพื่อการขับขี่ที่ปลอดภัย นอกจากนี้ หากต้องการเปลี่ยนยางรถยนต์เส้นใหม่ แต่ไม่รู้ว่าจะเลือกรุ่นไหน ยี่ห้อไหนดี สามารถเลือกยางรถยนต์จากทั้ง 10 รุ่น ที่เราได้คัดสรรมาแนะนำได้เลย หรือหากอยากจะเปรียบเทียบราคายางรถยนต์ของยี่ห้ออื่น ๆ หรือต้องการซื้ออะไหล่รถยนต์ ของแต่งรถยนต์ หรืออื่น ๆ ที่เกี่ยวกับอุปกรณ์รถยนต์ คุณก็สามารถช้อปผ่านออนไลน์บน Shopee แหล่งรวมสินค้ามากมาย หลากหลายประเภท ครบจบในแอปเดียว! นอกจากได้ช้อปแล้วยังมีบทความดี ๆ เกี่ยวกับรถยนต์ให้คุณอ่านอีกเพียบ! ซึ่งติดตามอ่านได้ที่ Shopee Blog

บทความแนะนำ

Noina

น้อยหน่าชอบแบ่งปันเรื่องราวดี ๆ ชอบหาของกินอร่อย ๆ สนุกสนานกับการได้ลองทำสิ่งใหม่ ๆ ที่ไม่เคยทำมาก่อน และหาแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์บทความ

Share
Published by
Noina

Recent Posts

ยาแนว 1 ถุงใช้ได้กี่ตารางเมตร? วิธีคำนวณง่าย ๆ และรวม 7 ยี่ห้อยาแนว!

ยาแนว 1 ถุงใช้ได้กี่ตารางเมตร เพื่อให้งานออกมาสมบูรณ์แบบที่สุด พร้อมวิธีคำนวณง่าย ๆ ให้เป๊ะ ช่วยประหยัดงบ และเคล็ดลับการยาแนวให้สวยเนี๊ยบ

5 hours ago

ลิสต์ 10 วุ้นเส้นเหนียวนุ่ม แคลอรีต่ำ เคล็ดลับที่เชฟมืออาชีพเลือกใช้ ทำเมนูไหนก็อร่อย!

เคล็ดลับความอร่อยของเมนูวุ้นเส้นอยู่ที่การเลือกวุ้นเส้นเหนียวนุ่มที่ไม่เละง่าย! พร้อมแนะนำ 10 วุ้นเส้นเหนียวนุ่ม ยี่ห้อไหนดี อร่อยง่าย ได้สุขภาพดี

6 hours ago

จัดเต็ม! 10 อาหารเสริมผู้สูงอายุ ยี่ห้อไหนดี ที่ช่วยชะลอวัยให้กลับมาฟิต และสุขภาพแข็งแรง

แนะนำ 10 อาหารเสริมผู้สูงอายุ ยี่ห้อไหนดี เติมเต็มสารอาหาร ช่วยบำรุงสุขภาพ ชะลอความเสื่อมตามวัย พร้อมวิธีเลือกซื้อที่เหมาะสมกับสุขภาพ เพื่อดูแลคนที่คุณรัก

6 hours ago

ผมแตกปลายเกิดจากอะไร? ป้องกันและรักษายังไง? พร้อมไอเทมดูแลเส้นผมสุดปัง!

รวมสาเหตุยอดฮิต! ผมแตกปลายเกิดจากอะไร และ10 วิธีแก้ปัญหาผมแตกปลายได้ง่าย ๆ เพื่อให้ผมกลับมานุ่มสลวย พร้อมแนะนำผลิตภัณฑ์ช่วยฟื้นฟูผมเสีย

23 hours ago

ทาสแมวควรรู้! เทียบอายุแมวกับคน พร้อมวิธีเลี้ยงแมวแต่ละวัยให้อายุยืน

เปิดตารางเปรียบเทียบอายุแมว! เคยสงสัยไหมว่าแมวของคุณเข้าสู่ช่วงวัยรุ่น หรือเข้าสู่วัยเกษียณแล้วหรือยัง? พร้อมเคล็ดลับการดูแลแมวให้อายุยืน หาคำตอบได้ที่นี่!

23 hours ago

มารู้จัก ทวีปยุโรปมีประเทศอะไรบ้าง ช่วยให้วางแผนเที่ยวได้ง่ายและสนุกขึ้น

การเดินทางไปท่องเที่ยวยุโรปคือความฝันของใครหลายคน แล้วถ้าพูดถึงยุโรป หลายคนก็อาจนึกถึงแต่ประเทศยอดฮิตอย่างประเทศฝรั่งเศส, อิตาลี,  สวิตเซอร์แลนด์ เยอรมัน หรืออังกฤษ แต่คุณรู้หรือไม่ว่าทวีปยุโรปนี้มีประเทศซ่อนอยู่มากกว่า 50 ประเทศเลยทีเดียว! มีตั้งแต่ประเทศมหาอำนาจที่มีอิทธิพลต่อโลก ไปจนถึงประเทศเล็ก ๆ ที่เต็มไปด้วยเสน่ห์และเรื่องราวที่น่าสนใจ จนใครหลายคนอยากจะไปเที่ยวสัมผัสความสวยงาม…

1 day ago