หูฟังเป็นแก็ตเจ็ตสำคัญเลยสำหรับสายเอนเตอร์เทนเมนต์ที่มักใช้มือถือหรือแท็ปเล็ตเพื่อความบันเทิง แล้วยังใช้อำนวยความสะดวกกับการรับสายโทรศัพท์ได้ด้วย จึงไม่น่าแปกใจเลยที่ใคร ๆ ต่างก็เลือกหูฟังเป็นอุปกรณ์เสริมแบบที่ขาดไม่ได้ แต่หูฟังแบบเดิมก็จัดเก็บยาก แถมโทรศัพท์รุ่นใหม่ ๆ ก็ไม่มีช่องเสียบหูฟังที่รองรับอีกแล้ว หูฟังแบบไร้สายจึงเป็นตัวเลือกที่สะดวกกว่ากันมาก ปัจจุบันก็มีหูฟังไร้สายให้เราเลือกกันมากมายในราคาที่ย่อมเยาลงกว่าเดิม ในแบบที่หลักร้อยก็สามารถซื้อหามาใช้งานได้แล้ว ในแบบที่ไม่ต้องนั่งแกะสายหูฟังแบบเดิมที่พันกันยอย่างไม่จบไม่สิ้นอีกต่อไป และ Xiaomi ก็เป็นหนึ่งในแบรนด์หูฟังที่ขึ้นชื่อเรื่องความล้ำของเทคโนโลยีและคุณภาพของสินค้า ทั้งยังมาพร้อมกับราคาเบา ๆ ให้เราได้จับจองไปลองใช้แบบสบายกระเป๋า คราวนี้เราจึงขอมาชวนป้ายยากับ 7 หูฟังไร้สาย Xiaomi รุ่นไหนดี 2023 ที่ Shopee รวบรวมมาฝากกัน
หัวข้อต่างๆ ของบทความนี้
ก่อนที่เราจะไปถึงรีวิวหูฟัง Xiaomi ลองมาดูกันก่อนเลยว่าจะมีวิธีเลือกหูฟัง Xiaomi true wireless กันยังไงบ้าง เพื่อให้เราซื้อหาไปใช้งานได้แบบถูกใจและไม่เปลืองงบประมาณจนเกินความจำเป็น และเหล่านี้คือปัจจัยที่เราควรคำนึงถึงก่อนการซื้อหาหูฟังไร้สาย Xiaomi มาใช้งานกัน
หูฟังไร้สายที่เราเห็น ๆ กันอยู่นี้ จริง ๆ แล้วยังสามารถแบ่งออกตามประเภทการใช้งานที่มีการออกแบบไว้เป็นการเฉพาะ เช่น หูฟัง sport สามารถใช้งานกับกิจกรรมที่มีการเคลื่อนไหวอย่างหนักหน่วง กันเหงื่อกันน้ำได้ดี ขณะที่หูฟัง Travel จะมีการออกแบบให้สามารถใช้งานแบตได้ยาวนาน สวมใส่ได้นานโดยไม่รู้สึกอึดอัด และหูฟังแบบ Casual ที่ออกแบบเพื่อการใช้งานทั่วไป การเลือกหูฟังไร้สายให้เหมาะกับการใช้งานช่วยยืดอายุการใช้งานของหูฟังให้ใช้ได้ยาวนานตามคุณสมบัติของหูฟังอย่างแท้จริง
ปกติแล้วแบตเตอรี่หูฟังไร้สายมักมีอายุการใช้งาน 2 – 30 ชั่วโมงต่อการชาร์จ ซึ่งความอึดของแบตเตอรี่ก็จะมีผลต่อขนาดและน้ำหนักของหูฟังด้วย หูฟังขนาดเล็กมักมีอายุการใช้งาน 2 – 7 ชั่วโมงต่อการชาร์จ (ใช้งานต่อเนื่อง) ซึ่งเพียงพอต่อการใช้งานประจำวันทั่วไป ขณะที่หูฟัง Travel อาจมีอายุการใช้งานยาวนาน 20 – 30 ชั่วโมง แต่ก็แลกมาด้วยขนาด น้ำหนัก และราคาที่เพิ่มขึ้น
เสียงที่ได้คุณภาพ เบสแน่น กังวานไพเราะ ไม่ได้มาจากคุณภาพของไฟล์เสียงเท่านั้น แต่มาตรฐานการรับส่งสัญญาณของหูฟังไร้สายก็สามารถช่วยขับเน้นหรือลดทอนคุณภาพสียงนี้ลงไปได้ด้วย ซึ่งหูฟังไร้สายที่มีมาตรฐานการรับส่งสัญญาณแบบ SBC เป็นพื้นฐานการรับสัญญาณเสียงที่ไม่ละเอียดมากแต่ช่วยประหยัดพลังงานได้ดี ขณะที่ LDAC (Sony) และ aptX/aptX HD จะเป็นการรับสัญญาณเสียงของหูฟังไร้สายที่เก็บรายละเอียดเสียงได้ดีขึ้น และมาพร้อมกับราคาที่สูงขึ้นเช่นกัน
ที่จะบอกได้ว่าหูฟังไร้สายนั้นสามารถกันฝุ่นได้ไหม ใส่ลงน้ำลึกได้เท่าไหร่ ซึ่งแม้เราจะไม่แนะนำให้ใครใส่หูฟังลงน้ำอยู่แล้ว แต่การเกิดอุบัติเหตุหูฟังตกน้ำก็เกิดขึ้นได้ และคุณสมบัติส่วนนี้จะช่วยเซฟแก็ตเจ็ตของเราได้ ซึ่งความสามารถกันฝุ่น/กันน้ำของหูฟังสามารถสังเกตได้จากค่า IPX
หูฟังไร้สายหลาย ๆ รุ่นมีความสามารถส่งพลังเสียงที่คมชัดยิ่งกว่าเดิมได้ด้วยฟังก์ชั่นตัดเสียงรบกวน (Noise Cancelling) ซึ่งจะช่วยตัดเสียงรบกวนภายนอกออกไปได้ แต่ก็มักมาพร้อมกับราคาที่สูงขึ้น และไม่ใช่หูฟังไร้สายทุกรุ่นจะมีฟังก์ชั่นนี้
ลองมาดูกันต่อเลยว่าคราวนี้เรามีหูฟังไร้สาย Xiaomi True Wireless รุ่นไหนมาฝากกันบ้าง
เป็นการรวบรวมเอาเทคโนโลยีชั้นนำของหูฟังไร้สาย Xiaomi มาไว้ด้วยกัน ด้วยเทคโนโลยีตัดเสียงรบกวนระดับแนวหน้า ตัดเสียงได้สูงสุด 40dB ประกอบด้วย 3+1 โหมด Active Noise Cancelling ได้แก่ Light โหมด ใช้เพื่อความผ่อนคลายเช่นในสวน, Balance ใช้สำหรับตัดเสียงทั่วไปเช่น การเดินทางในชีวิตประจำวัน และ Deep สำหรับตัดเสียงในที่ที่จอแจเสียงดังโดยเฉพาะ
คุณภาพเสียงระดับพรีเมี่ยมรอบทิศทางระดับสตูดิโอ สามารถเชื่อมต่ออุปกรณ์ได้สูงสุด 2 ดีไวซ์ ใช้ได้กับทั้งสมาร์ทโฟน แท็ปเล็ต และคอมพิวเตอร์ กันน้ำกันฝุ่นระดับ IP55 สามารถใช้เข้ายิมกันเหงื่อได้แบบไร้กังวล
ชาร์จได้แบบไร้สาย ดีไซน์เรียบหรู รวมเคสแล้วมีน้ำหนัก 48g แต่หากคิดเป็นแต่ละข้างจะมีน้ำหนักเพียงข้างละ 4.9g ไม่หนัก ให้ความคล่องตัว ออกแบบให้เหมาะกับสรีระสวมใส่สบาย อากาศถ่ายเทได้ดี แบตเตอรี่ใช้ได้ยาวนาน 6 ชั่วโมงต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง และยังรองรับการชาร์จแบบไร้สายได้ด้วย
สำหรับหูฟังไร้สาย Xiaomi ตัวนี้มาขึ้นชื่อมาก ๆ กับดีไซน์ที่เรียบหรูดูคลาสสิค และความอึดของแบตเตอรี่ที่สามารถใช้งานได้ยาวนานสูงสุดถึง 32 ชั่วโมง กับหูฟังไร้สาย Xiaomi Buds 3 ที่มาพร้อมกับพลังเสียงระดับพรีเมี่ยม สามารถตัดเสียงรบกวนได้สูงสุด 40dB
ตัวหูฟังใช้งานง่าย สามารถเชื่อมต่อด้วยระบบ Bluetooth 5.2 กับอุปกรณ์ได้ถึง 2 เครื่องพร้อมกัน และยังรองรับการชาร์จแบบไร้สาย ที่การชาร์จครั้งละ 3 – 4 ชั่วโมงสามารถใช้งานต่อเนื่องได้สูงสุด 32 ชั่วโมงเลยทีเดียว เรียกได้ว่าสามารถใช้งานข้ามวันได้แบบไม่มีปัญหา และเหมาะมาก ๆ กับผู้ที่ต้องใช้งานหูฟังเป็นเวลานานแต่ไม่ชอบการที่ต้องคอยชาร์จบ่อย ๆ
เป็นหูฟังไร้สาย Xiaomi ที่มาพร้อมกับการใช้งานเบา ๆ ด้วยราคาย่อมเยาที่หาไม่ได้จากที่ไหน หูฟังไร้สาย Redmi Buds 3 Lite สามารถใช้ได้ทั้งในวันเบา ๆ และการสวมใส่สำหรับการออกกำลังกาย ด้วยการออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์ หูฟังแต่ละข้างมีน้ำหนักเบาเพียง 4.2g ช่วยให้หูฟังไม่หลุดจากหูได้ง่าย สวมใส่สบายและปลอดภัย
ตัวหูฟังเชื่อมต่อด้วย Bluetooth 5.2 ให้การเชื่อมต่อที่เสถียรยิ่งขึ้น ให้เสียงคมชัดโดดเด่น และสามารถป้องกันฝุ่น/น้ำระดับ IP54 ป้องกันตัวเครื่องได้แบบมืออาชีพ รองรับการสวมใส่ไปยิมได้สบาย ๆ การชาร์จสามารถรองรับการชาร์จแบบไร้สาย และด้วยการชาร์จ 1.5 -2 ชั่วโมงต่อครั้ง สามารถใช้งานต่อเนื่อได้ยาวนานสูงสุด 18 ชั่วโมงเมื่อรวมกล่องชาร์จ โดยทั้งหมดนี้มาในราคาเบา ๆ เพียง 595 บาทเท่านั้น
หูฟังไร้สาย Xiaomi Redmi Buds 3 Pro เป็นหูฟังรุ่นไร้สายรุ่นกลาง ๆ ที่มีส่วนผสมของทั้งเทคโนโลยีสุดล้ำ และราคาที่น่าคบหาเอาไว้ด้วยกัน กับตัวหูฟังที่ดีไซน์โค้งมนน่ารักน่าใช้ แต่ละข้างมีน้ำหนักเบาเพียง 4.9g แต่อัดแน่นด้วยคุณสมบัติของฟังก์ชั่นการตัดเสียงรบกวนด้วยระบบ AI ที่ตัดเสียงรบกวนได้สูงสุด 35 dB ปรับตั้งค่าได้ 3 รูปแบบ คือ Light, Balance และ Deep
ด้วยการเชื่อมต่อผ่าน Bluetooth 5.2 ทำให้ได้สัญญาณเสียงที่สเถียร เชื่อมต่ออุปกรณ์ได้สูงสุด 2 เครื่อง รองรับการชาร์จแบบไร้สาย และสามารถใช้ได้นานสูงสุด 28 ชั่วโมง (รวมการชาร์จกับตัวเคส) ทำให้หูฟังไร้สาย xiaomi รุ่นนี้เหมาะกับการใช้งานได้ครอบคลุมความต้องการได้ ในราคาที่ไม่แพงเลย
หูฟังไร้สาย Xiaomi Redmi Buds 3 เป็นอีกหนึ่งรีวิวหูฟังไร้สาย Xioami ราคาต่ำพันที่มาพร้อมกับลูกเล่นเทคโนโลยี Qualcomm® cVc™ Echo Cancelling and Noise Suppression ช่วยตัดเสียงรบกวนได้ดี เชื่อมต่อกับอุปกรณ์ด้วยระบบ Bluetooth 5.2 ให้ความสเถียรของสัญญาณเสียง โดยสามารถรับสัญญาณได้ไกล 10 เมตร กันน้ำกันฝุ่นได้ระดับ IP54
แบตเตอรี่ที่มากับหูฟังยังเป็นชนิด Lithium-ion คุณภาพสูง รองรับการชาร์จ 1.5 – 2.5 ชั่วโมงต่อครั้งก็สามารถใช้งานได้ยาวนานกว่า 20 ชั่วโมง (รวมกล่องชาร์จ) ซึ่งนับเป็นคุณสมบัติที่ช่วยให้ผู้ใช้ไม่ต้องชาร์จบ่อย ภายใต้ราคาน่ารักที่ใครก็สามารถซื้อหามาลองใช้ได้ นับเป็นหูฟัง Xiaomi True Wireless อีกตัวที่ไม่ควรพลาด
มาถึงรีวิวหูฟังไร้สาย Xiaomi รุ่นตัวท็อปกันบ้างกับ Xiaomi FlipBuds Pro หูฟัง Xiaomi true wireless ดีไซน์พรีเมี่ยมที่มาพร้อมกับคุณภาพเสียงคมชัด ให้เสียงเบสได้หนักแน่น จากชิปเซ็ตเสียง Qualcomm QCC5151 Ultra Dynamic ขนาด 11 มม. ทั้งยังสามารถตัดเสียงรบกวนจากระบบ Active Noise Cancelling ได้สูงสุดถึง 40 dB เชื่อมต่อผ่าน Blutooth 5.2 ได้กับ 2 อุปกรณ์สลับกันได้แบบสะดวกสุด ๆ
สำหรับแบตเตอรี่ หูฟังไร้สาย Xiaomi FlipBuds Pro ตัวนี้ใช้แบตเตอรี่ที่มีฟังก์ชั่นการชาร์จไวที่ชาร์จเพียง 5 นาที ก็สามารถใช้งานต่อได้ถึง 2 ชั่วโมง หรือเป็นการชาร์จปกติที่ 1.5 – 2.5 ชั่วโมง ก็สามารถใช้ต่อได้ยาวนานสูงสุด 28 ชั่วโมงกันไปเลย หลายคนอาจเห็นดีไซน์แวววาวโดดเด่นสะดุดตาของกล่องชาร์จ Xiaomi FlipBuds Pro แล้วต้องบอกเลยว่าหูฟังรุ่นนี้ไม่ได้มีดีแค่สวย แต่ยังครบทุกคุณสมบัติการใช้งานอีกด้วย
หูฟังไร้สาย Mi True Wireless Earbuds Basic 2 เป็นอีกหนึ่งตัวที่มาด้วยเราคาที่ไม่แรงแต่ครบด้วยคุณสมบัติการเล่นเสียง ด้วยไดร์เวอร์เสียงหูฟังแบบ Dynamic ขนาด 14.2 มม. ให้เนื้อเสียงเป็นธรรมชาติ ให้เสียงแบบ Stereo รอบทิศทาง เพิ่มอรรถรสในการฟังเพลงหรือชมภาพยนตร์ให้เต็มอิ่มยิ่งขึ้น เชื่อมต่อกับอุปกรณ์ได้หลากหลาย ตั้งแต่สามาร์ทโฟนไปจนถึงโน๊ตบุ๊ค เพียงแค่เชื่อมต่อผ่านระบบบลูทูธได้เท่านั้น
หูฟังสามารถกันน้ำกันฝุ่นได้ในระดับ IPX4 ใช้เวลาในการชาร์จที่ 1.5 – 2.5 ชั่วโมง สามารถใช้งานได้สูงสุด 20 ชั่วโมง ถือว่าเป็นหูฟังคุณภาพดีที่ให้การใช้งานแบบสมบุกสมบัน พร้อมสำหรับการใช้งานทั่วไปในชีวิตประจำวันที่ไม่จำเป็นต้องชาร์จบ่อย ถือเป็นอีกรุ่นหนึ่งที่สะดวกสุด ๆ ในราคาเบา ๆ เพียง 1,190 บาท
และทั้งหมดนี้ก็คือรีวิวหูฟังไร้สาย Xiaomi ที่เรานำมาฝากกันในคราวนี้ ซึ่งทั้งหมดนี้ก็คือหูฟัง Xiaomi true wireless ที่ให้ความสะดวกในการใช้งาน และให้พลังเสียงคมชัด ด้วยคุณสมบัติหลากหลาย ในช่วงราคาที่แตกต่างกันไฟ ซึ่งหวังว่าลิสต์นี้จะช่วยให้เพื่อน ๆ ตัดสินใจซื้อหาหูฟังไร้สาย Xiaomi มาใช้งานได้แบบถูกใจแถมสบายกระเป๋า ถ้าตัดสินใจได้แล้วก็อย่าลืมคลิกไปเลือกซื้อกันได้เลย อ่านบทความรีวิวแกดเจ็ต รีวิวแล็ปท็อป ได้ที่ Shopee Blog
อ้างอิง:
Feature Image credit : Freepik
เคยรู้สึกไหมว่าทำไมรถรกจังเลย! ข้าวของในรถก็มีมากมายทำให้วางอะไรก็ไม่เป็นระเบียบ เวลาจะหาของอะไรแต่ละอย่างก็ไม่ค่อยจะเจอ เวลาซื้อของมากินก็ไม่มีที่วาง ทำให้กินไม่ถนัดหกเลอะเทอะไปหมด ต้องบอกเลยว่าหลายคนใช้เวลาอยู่บนรถเป็นเวลานานจนรถยนต์แทบจะเป็นบ้านหลังที่สองเลย จึงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรที่โยนสัมภาระข้าวของเพื่ออำนวยความสะดวกมากมายมาไว้ที่รถยนต์ จนทำให้รถดูรกไปหมดเลย วันนี้ Shopee จึงอยากจะมาแนะนำ 8 สุดยอดไอเทม จัดของในรถที่ช่วยให้จัดระเบียบสัมภาระภายในรถยนต์ให้หยิบใช้ง่ายและประหยัดพื้นที่ใช้สอยในรถยนต์ ไม่รอช้าตามเราไปดูกันเลย…
ปัญหามลพิษทางอากาศ อีกหนึ่งปัญหาที่หลายคนจะต้องพบเจอเป็นประจำทุกวันและเป็นปัญหาที่หลีกเลี่ยงได้ยาก ไม่ว่าจะฝุ่น PM 2.5 ควันรถ ควันพิษ หรือกลิ่นไม่พึงประสงค์ต่าง ๆ เมื่อสูดดมเข้าสู่ร่างกายทุกวันก็อาจจะส่งผลต่อสุขภาพได้ โดยเฉพาะใครที่ต้องอยู่บนรถยนต์นานวันละหลายชั่วโมง หากภายในรถยนต์สกปรกหรือว่ามีอากาศไม่สะอาดบริสุทธ์ย่อมจะส่งผลเสียต่อสุขภาพได้ในระยะยาวและยังทำให้ความสุขในการขับขี่ลดลงด้วย ดังนั้นจึงควรมีเครื่องฟอกอากาศในรถ ช่วยกรองอากาศ ดักจับฝุ่น…
เมื่อพูดถึงอุปกรณ์ฉุกเฉินที่รถยนต์ทุกคันควรจะต้องมี หลายคนอาจนึกถึงอุปกรณ์ กล้องติดรถยนต์ ยางอะไหล่สำรอง ปั๊มลมพกพา สายพ่วงแบตเตอรี่ ไฟฉาย และอุปกรณ์อื่น ๆ แต่อีกอุปกรณ์หนึ่งที่สำคัญและควรต้องมีติดรถยนต์ไว้เลยอีกอย่างนั่นก็คือ ค้อนทุบกระจก เป็นอุปกรณ์ฉุกเฉินติดรถยนต์ที่ไว้ใช้ในกรณีฉุกเฉิน เช่น เมื่อรถประตูรถล็อกไม่สามารถเปิดออกได้ หรือรถยนต์เกิดอุบัติเหตุจมน้ำ…
พรมปูพื้นรถยนต์ อีกหนึ่งอุปกรณ์จำเป็นรถยนต์ทุกคันควรต้องมี! เพราะนอกจากจะช่วยเพิ่มความสวยงามและความหรูหราให้กับรถยนต์แล้ว ก็สามารถช่วยดักจับฝุ่นละอองและสิ่งสกปรกที่ติดมากับรองเท้า เพื่อช่วยให้การขับขี่รถยนต์เป็นไปอย่างปลอดมากยิ่งขึ้น รวมถึงป้องกันการลื่นเวลาก้าวเท้าเข้าสู่ตัวรถยนต์ หากไม่มีผ้ายางรองพื้นรถยนต์หรือพรมรถยนต์ก็จะทำให้ในรถมีฝุ่นและสิ่งสกปรกต่าง ๆ นอกจากนี้ยังช่วยถนอมพื้นรถด้านในให้ดูสะอาดอีกด้วย ซึ่งปัจจุบันพรมปูพื้นรถยนต์มีด้วยกันหลากหลายรูปแบบ ทำให้ผู้ใช้งานรถยนต์มีตัวเลือกมากขึ้น และบทความนี้ Shopee อยากมาจะบอกถึงความสำคัญและประโยชน์ของพรมรถยนต์ วิธีการเลือก…
ใครบอกว่าไปสวนสัตว์ต้องแต่งตัวธรรมดา เตรียมตะลุยสวนสัตว์กับ 7 ลุคสุดปังที่จะทำให้คุณกลายเป็นแฟชั่นนิสต้าตัวแม่! พร้อมบอกเคล็ดลับการแต่งตัวไปสวนสัตว์ให้เหมาะกับกิจกรรมต่าง ๆ ในสวนสัตว์ เพื่อการเคลื่อนไหวได้คล่องตัวในทุกโซน พร้อมสนุกไปกับการผจญภัยในโลกของสัตว์แบบไม่มีอะไรมาขวางกั้น! คู่มือแต่งตัวไปสวนสัตว์อย่างไรให้คล่องตัว 1. หลีกเลี่ยงสีสันฉูดฉาด: เช่น สีแดง เนื่องจากสีที่สดใสฉูดฉาดอาจดึงดูดความสนใจของสัตว์…
ในช่วงฤดูฝนหรือเวลาที่เกิดน้ำท่วมฉับพลัน บ้านเรือนและทรัพย์สินมักเสี่ยงต่อการถูกน้ำท่วมได้ง่าย ๆ การมีอุปกรณ์ป้องกันน้ำท่วมที่เหมาะสมจึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้คุณสามารถปกป้องทรัพย์สินและลดความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นได้ แน่นอนว่าการป้องกันน้ำท่วมนั้นสามารถเตรียมการได้ตั้งแต่เนิ่น ๆ และไม่ควรเตรียมตัวในวินาทีสุดท้าย เพราะหากไม่ได้เตรียมตัวไว้ และอยู่ในพื้นที่เสี่ยง ค่าเสียหายที่เกิดขึ้นอาจจะสูงกว่าค่าใช้จ่ายที่ลงทุนไปกับการซื้ออุปกรณ์ป้องกันน้ำท่วม ดังนั้น ในบทความนี้ Shopee Blog จะมาแนะนำ…