Categories: Makeup & Hairs

ผมแตกปลายเกิดจากอะไร? ป้องกันและรักษายังไง? พร้อมไอเทมดูแลเส้นผมสุดปัง!

ผมแตกปลาย เป็นอีกหนึ่งปัญหาโลกแตกที่คอยกวนใจใครหลายคน และยังสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกเพศทุกวัย โดยเฉพาะสาว ๆ ที่มีผมยาว ซึ่งหลายคนเลือกแก้ปัญหาผมแตกปลายด้วยการตัดปลายผมที่แห้งเสียทิ้ง และต้องคอยตัดปลายผมทิ้งอยู่บ่อย ๆ แต่รู้หรือไม่ว่า ปัญหานี้สามารถแก้ไขได้โดยไม่จำเป็นต้องตัดผมให้สั้น! เพียงแค่ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมบางอย่าง หรือมีการดูแลเส้นผมด้วยการเลือกใช้แชมพู หรือทรีตเมนต์บำรุงผม ที่เหมาะสมกับปัญหาเส้นผม เพื่อให้ผมกลับมาแข็งแรงและสวยเงางามได้อีกครั้ง

บทความนี้ Shopee จะเผยสาเหตุ ผมแตกปลายเกิดจากอะไร ผมแตกปลายมีกี่ลักษณะ เพื่อให้รู้ต้นตอของปัญหา และสามารถเลือกวิธีดูแลได้อย่างถูกจุด พร้อมแนะนำ 7 ผลิตภัณฑ์บำรุงผม ที่ช่วยให้ผมกลับมานุ่มสลวยอีกครั้ง และตอบทุกข้อสงสัยเกี่ยวกับปัญหาผมแตกปลาย ใครกำลังเจอปัญหาผมแตกปลาย แล้วอยากจะมีผมสวย ๆ ห้ามพลาดบทความนี้เลย!

หัวข้อต่างๆ ของบทความนี้

ผมแตกปลายเกิดจากอะไร

ผมแตกปลาย คือ ผมชั้นนอกถูกทำลาย ปลายผมชั้นในที่อ่อนแอกว่าจึงแตกออกเป็นสองแฉกหรือมากกว่านั้น มีลักษณะคล้ายกับกิ่งไม้ ทำให้ผมแห้งเสีย แข็งกระด้าง เส้นผมเปราะบาง ขาดความเงางาม และขาดหลุดร่วงได้ในที่สุด ซึ่งเกิดขึ้นได้จากการที่คิวติเคิลที่ปกคลุมผมส่วนนอก หรือเกล็ดผมหลุดออกจากเส้นผม และทำให้เส้นผมปราศจากเกาะป้องกันในที่สุด ซึ่งปัญหาผมแตกปลายส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นกับผมที่แห้ง และเส้นผมที่แตกปลายไปแล้ว ก็ไม่สามารถกลับมาติดกันใหม่เหมือนเดิมได้

ผมแตกปลายมีกี่ลักษณะ

เชื่อว่าหลายคนอาจคิดว่าปัญหาผมแตกปลายก็เหมือน ๆ กันทั้งนั้น แต่จะบอกว่าผมแตกปลายไม่ได้มีแค่แบบเดียว แต่ผมแตกปลายมีถึง 6 แบบเลยด้วยกัน ซึ่งแต่ละแบบก็บ่งบอกถึงระดับความรุนแรงและสาเหตุที่แตกต่างกัน ดังนั้น การทำความเข้าใจลักษณะของผมแตกปลายเป็นยังไง มาดูกัน

1. Baby Spilt

ผมแตกปลาย มีลักษณะแยกเป็น 2 แฉกที่ปลายผมเล็กน้อย มีความลึกไม่เกิน 0.5 เซนติเมตร ซึ่งเป็นผมแตกปลายระดับแรก ที่กำลังบ่งบอกว่ากำลังขาดสารอาหาร ทั้งนี้ ผมแตกปลายเกิดจากอะไร มาจากเส้นผมไม่แข็งแรงและแห้งเสีย สามารถบำรุงได้ด้วยการเติมความชุ่มชื้นให้เส้นผมด้วยการใช้ครีมนวดผมหลังสระผมทุกครั้ง

2. Y Spilt

ผมแตกปลายประเภทนี้ มีลักษณะคล้ายกับ Baby Spilt คือ ปลายผมจะแยกออกเป็น 2 แฉกคล้ายตัว Y และมีความยาวช่วงที่แตกประมาณ 1 ซม. โดยสาเหตุหลักมาจากการขาดความชุ่มชื้น และการเสียดสี ซึ่งผมแตกปลายลักษณะนี้ยังถือว่าไม่รุนแรงมาก หากบำรุงผมอย่างสม่ำเสมอ มีโอกาสที่ผมจะกลับมาดูดีได้เหมือนเดิมได้

3. Taper

ลักษณะผมแตกปลาย Taper คือ ปลายผมจะไม่ได้แยกออกเป็นแฉก แต่ว่าปลายผมจะที่มีความบางเหมือนผมโดนตัดออก โดยเกิดจากเส้นผมที่โดนสารเคมีมากเกินไปจนทำให้ชั้นผมถูกทำลาย ซึ่งเป็นสัญญาณเตือนที่กำลังบอกว่าเส้นผมกำลังขาดสารอาหารหนักมาก และไม่สามารถเจริญเติบโตได้อีก ต่อให้บำรุงแค่ไหนก็ไม่มีประโยชน์อะไรเลย ทางออกเดียวคือต้องตัดปลายผมเสียออกเท่านั้น

4. Incomplete

ผมแตกปลายประเภทนี้มีลักษณะที่เส้นผมมีรอยแยกหรือช่องว่างอยู่ตรงกลาง ไม่ได้แตกออกตั้งแต่ปลายสุดของเส้นผมเหมือนที่คุ้นเคยกัน ซึ่งปัญหาผมแตกปลายชนิดนี้อาจทำให้เกิดผมร่วงได้ง่ายกว่าเดิม วิธีดูแลควรต้องบำรุงตั้งแต่ขั้นตอนการทำความสะอาดเส้นผมไปจนถึงการบำรุงหลังสระผม

5. Tree

ผมแตกปลายประเภทนี้ เส้นผมจะแตกออกเหมือนก้านต้นไม้ที่แตกออกมาหลายแฉก คล้ายกับกิ่งก้านของต้นไม้ที่แตกแขนงออกจากลำต้น เกิดจากเส้นใยของผมเสียหาย เพราะเส้นผมถูกทำร้ายมาเป็นเวลานานและไม่ได้รับการบำรุงผมเท่าที่ควร วิธีดูแลคือเล็มปลายผมที่แตกออกเท่านั้น

6. Feather

ผมแตกปลายประเภทนี้จะมีลักษณะปลายผมแตกแยกออกเหมือนขนนก ซึ่งมีความเสียหายมากกว่าประเภทอื่น ๆ ใครเจอปัญหาผมแตกปลายแบบนี้บอกเลยว่าเกินเยียวยา หากไม่ยอมตัดทิ้งก็อาจจะยิ่งทำให้ผมแตกปลายมากขึ้นเรื่อย ๆ ดังนั้น ผมแตกปลายแบบนี้วิธีแก้ก็คือต้องเล็มปลายผมออกและกลับมาเติมความชุ่มชื้นให้เส้นผมอย่างสม่ำเสมอ

สาเหตุที่ทำให้ผมแห้งเสีย

โดยส่วนใหญ่แล้วปัญหาผมแตกปลายเกิดจากการที่ผมแห้งและผมเสียมากเกินไป จนเคลือบผมชั้นคิวติเคิล (Cuticle) ได้ถูกทำลายจนแตกออก หรือหลุดออกไป ทำให้ผมชั้นในที่อ่อนแออย่างชั้นคอร์เทค (Cortex) จึงถูกฉีกให้แยกออกจากกัน จนเกิดเป็นผมแตกปลายนั่นเอง ซึ่งปัญหาผมแตกปลายเกิดจากอะไร มีด้วยกันหลากหลายสาเหตุ ดังนี้

  • การใช้ความร้อนกับเส้นผมบ่อย ๆ เป็นสาเหตุอันดับต้น ที่ทำให้เกิดผมแตกปลาย ไม่ว่าจะเป็นการใช้เป่าไดร์ด้วยลมร้อน การหนีบหรือม้วนผมด้วยอุณหภูมิที่สูงเกินไป สิ่งเหล่านี้จะทำลายเกล็ดผม (Cuticle) และทำให้ความชุ่มชื้นในเส้นผมระเหยออกไป
  • การใช้สารเคมีกับเส้นผมมากจนเกินไป ไม่ว่าจะเป็นการย้อมสี การฟอกสี หรือการดัดผม โดยสารเคมีเหล่านี้จะเปลี่ยนโครงสร้างของเส้นผมทำให้เส้นผมอ่อนแอลง จนไปทำร้ายเส้นผมอย่างรุนแรงจนทำให้ผมเสีย และผมแตกปลายได้ นอกจากนี้ ยังมีพวกสาร SLS, สารกันเสีย หรือซิลิโคน ที่อยู่ในแชมพู หรือครีมนวด ก็มีส่วนทำให้ผมแห้งเสียได้เช่นกัน
  • สภาวะแวดล้อมที่ทำร้ายเส้นผม เช่น การปล่อยให้ผมต้องเผชิญกับแสงแดดแรง ๆ โดยที่ไม่มีการปกป้องจะทำให้ผมแห้งและสีผมซีดจางลงได้ หรือแม้แต่อยู่ในที่อากาศเย็น อากาศแห้ง ก็จะทำให้ผมเสียความชุ่มชื้นไปเช่นกัน จนทำให้ผมเกิดแห้งเสีย และผมแตกปลายได้ง่าย ๆ
  • สระผมบ่อยมากจนเกินไป อาจจะทำให้เส้นผมสูญเสียความชุ่มชื่น ทำให้หนังศีรษะแห้ง รวมไปถึงน้ำมันตามธรรมชาติที่อยู่ในเส้นผมลดลง และขาดความเงางาม
  • ขาดการดูแลบำรุงเส้นผมที่เหมาะสมและการทำร้ายเส้นผมโดยไม่รู้ตัว ซึ่งการดูแลผมที่ควรทำเป็นปกติ คือ การสระผมสัปดาห์ละประมาณ 3 – 4 ครั้ง โดยการครีมนวดหรือทรีตเมนต์บำรุงผมอย่างสม่ำเสมอ เพื่อช่วยเติมความชุ่มชื้นและสารอาหารที่จำเป็นต่อการฟื้นฟูผม
  • การเสียดสีของเส้นผม เช่น หวีผมรุนแรงในช่วงที่ผมพันกัน หรือการใช้ผ้าขนหนูถูที่ศีรษะแรง ๆ ก็เป็นการทำร้ายผม เพราะทำให้เส้นผมอ่อนแอลง เคลือบผมด้านนอกถูกทำลาย ทำให้ผมแตกปลายได้ง่าย
  • ขาดสารอาหารอย่างวิตามินและโปรตีน ที่ไม่เพียงพอสำหรับหล่อเลี้ยงเส้นผม ก็เป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้ผมแตกปลายได้

ผมเสียทั่วไป VS ผมแตกปลาย แตกต่างกันยังไง

หลายคนอาจคิดว่าผมเสียกับผมแตกปลายคือสิ่งเดียวกัน แต่ความเป็นจริงแล้วปัญหาผมเสียกับผมแตกปลายนั้นแตกต่างกันเลย และเพื่อให้เข้าใจได้มากขึ้น เรามาดูข้อแตกต่างกันระหว่างผมเสียกับผมแตกปลาย เพื่อจะได้ดูแลและแก้ไขปัญหาได้อย่างตรงจุดมากขึ้น

  • ผมเสียทั่วไป (Hair Damage) : ภาวะที่เส้นผมโดยรวมขาดความสมบูรณ์และสุขภาพดี เส้นผมจะดูไร้น้ำหนัก แห้ง ชี้ฟู ขาดความเงางาม และอาจเปราะขาดได้ง่ายเมื่อหวีหรือจัดทรงผม โดยสาเหตุของผมเสียมักจะมาจากการที่ เกล็ดผม (Cuticle) ซึ่งทำหน้าที่ปกป้องเส้นผมถูกทำลาย ทำให้เส้นผมสูญเสียความชุ่มชื้นและสารอาหาร
  • ผมแตกปลาย (Split Ends) : ปัญหาผมแตกปลายจะเกิดขึ้นเฉพาะส่วนปลายสุดของเส้นผม โดยปลายผมจะแยกออกเป็นสองแฉก หรือหลายแฉก ทำให้เส้นผมมีลักษณะคล้ายกิ่งไม้ที่แตกกิ่งก้าน ทั้งนี้ ผมแตกปลายเกิดจากอะไร ก็เป็นผลที่ตามมาจากผมเสียทั่วไปที่สะสมมาเป็นเวลานานจนปลายผมไม่สามารถทนต่อความเสียหายได้ไหว
คุณสมบัติผมเสียทั่วไปผมแตกปลาย
ตำแหน่งเกิดขึ้นได้ทั่วทั้งเส้นผมเกิดขึ้นเฉพาะส่วนปลายผม
ความแข็งแรงผมผมเปราะและขาดง่ายตลอดทั้งเส้นปลายผมเป็นส่วนที่อ่อนแอที่สุดและมีโอกาสที่จะแตกและลุกลามขึ้นไปเรื่อย ๆ
สาเหตุการทำลายเกล็ดผมที่ทำให้ผมขาดความชุ่มชื้นความเสียหายสะสมที่รุนแรงจนปลายผมไม่สามารถทนได้
วิธีแก้ฟื้นฟูผมด้วยการบำรุงอย่างล้ำลึกการตัดปลายผมที่เสียออก เป็นวิธีแก้ไขที่ดีที่สุด

freepik.com

10 วิธีป้องกันและรักษาผมแตกปลายให้กลับมาสุขภาพดี

ผมแตกปลาย ถือเป็นสัญญาณเตือนว่าผมของคุณกำลังถูกทำร้ายจนอ่อนแอลง โดยการป้องกันและรักษาผมแตกปลายสามารถทำได้ง่าย ๆ ด้วยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมบางอย่าง และการบำรุงผมอย่างถูกวิธี ซึ่งเรามีวิธีป้องกันและการดูแลรักษาผมแตกปลาย มาแนะนำให้เพื่อน ๆ ดังนี้

1. เล็มปลายผมที่แตกออก

การรักษาผมแตกปลายที่ดีที่สุด คือ เล็มปลายผม หรือ ตัดผมส่วนที่เสียออก เพราะปลายผมที่แตกแล้วไม่สามารถกลับมาประสานกันได้ ดังนั้น ควรจะเล็มปลายผมทุก ๆ 6-8 สัปดาห์ เพื่อกำจัดปลายผมที่แห้งเสียออกไปอย่างต่อเนื่อง

2. ลดการใช้ความร้อนจากการเป่าผม

ความร้อนจากอุปกรณ์จัดแต่งทรงผม ถือเป็นศัตรูตัวฉกาจที่ทำร้ายเส้นผม ดังนั้นบริเวณปลายผมที่แห้งเสียง่ายที่สุด ควรจะหลีกเลี่ยงการเป่าผมด้วยไดร์ ให้เน้นเป่าผมไปที่ส่วนโคนผมแทน หรือหากจำเป็นต้องใช้ไดร์เป่าผม ควรใช้ลมเย็นเพื่อลดการทำร้ายเส้นผม

3. งดการใช้สารเคมีกับเส้นผม

ผมแตกปลายเกิดจากอะไร หนึ่งในสาเหตุที่สำคัญคือ การใช้สารเคมีมากจนเกินไป ดังนั้น ควรจะเลี่ยงการใช้สารเคมีกับเส้นผม ไม่ว่าจะเป็นการทำสีผม การดัดผม หรือการยืดผม เพราะการใช้สารเคมีจากน้ำยาเหล่านี้จะเข้าไปทำลายโครงสร้างเส้นผมจนถึงรากผม ทำให้ผมแห้งเสียขาดความชุ่มชื้นดูแห้งชี้ฟูขึ้นได้อีก

4. หลีกเลี่ยงการสระผมด้วยน้ำอุ่น

การสระผมด้วยน้ำอุ่น เป็นการเปิดเกล็ดผม ทำให้สิ่งสกปรกหรือสารเคมี สามารถเข้าไปทำลายผมชั้นในได้ง่าย แล้วยังทำให้ผมแห้ง ขาดความชุ่มชื้น และทำให้น้ำมันบนหนังศีรษะเสียสมดุล จนอาจเกิดรังแค และทำให้ผมแห้งเสียจนแตกปลายได้ ดังนั้น วิธีป้องกันไม่ผมแตกปลาย คือ ควรหลีกเลี่ยงการสระผมด้วยน้ำอุ่น แล้วสระผมด้วยน้ำเย็นอุณหภูมิห้องแทน

5. การเลือกใช้แชมพูเฉพาะผมแตกปลาย

การเลือกใช้แชมพูให้เหมาะสมกับสภาพปัญหาผมเป็นสิ่งสำคัญ ดังนั้น ใครที่มีปัญหาผมแตกปลายและไม่รู้ว่าจะเลือกแชมพูยี่ห้อไหนดี แนะนำให้เลือกใช้แชมพูสูตรเฉพาะผมแตกปลายจะเป็นการช่วยบำรุงรักษาดูแลได้ตรงจุดมากกว่าแชมพูทั่วไป

อ่านบทความอื่นๆ เพิ่มเติม : ยาสระผมยี่ห้อไหนดี กู้ผมร่วง ผมเสีย ให้ปังแบบไม่ต้องง้อซาลอน

6. ควรใช้ครีมนวดบำรุงเส้นผม

แนะนำใช้ครีมนวดผมสูตรเฉพาะผมแตกปลาย เพื่อเน้นการบำรุงปลายผม เมื่อสระผมสะอาดแล้ว ให้ใช้ครีมนวดชโลมลงบนปลายผม ทิ้งไว้ประมาณ 2 – 3 นาที พร้อมนวดศีรษะเบา ๆ เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับเส้นผม ซึ่งเป็นหนึ่งเคล็ดลับที่จะทำให้ผมไม่แตกปลายและอยู่ได้นานขึ้น

7. หมักผมสูตรแก้ผมแตกปลาย

นอกจากใช้ครีมนวดผมแล้ว อีกหนึ่งเคล็ดลับที่ช่วยทำให้ผมไม่แตกปลาย คือ การหมักผม โดยเลือกใช้สูตรหมักผมที่ช่วยแก้ปัญหา ผมแตกปลาย เช่น น้ำมันมะพร้าว, น้ำผึ้ง และ ไข่เเดง ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยในการแก้ปัญหาผมแห้งเสีย หรือเลือกใช้เบบี้ออยล์ หรือน้ำมันอาร์แกน ในการหมักผม โดยให้หมักประมาณ 10 -15 นาที สัปดาห์ละหนึ่งครั้ง เพื่อบำรุงให้ผมนุ่มชุ่มชื้น และช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับเส้นผม

8. ลดการเสียดสีของเส้นผม

อีกหนึ่งวิธีในการช่วยป้องกันไม่ให้ผมแตกปลายได้ คือ หลีกเลี่ยงการใช้ผ้าขนหนูเช็ดผมแรงเกินไป เพราะอาจจะทำให้สารเคลือบเส้นผมด้านนอกถูกทำลาย และถ้าจะให้ดีควรเลือกใช้เป็นผ้าไมโครไฟเบอร์ เพราะมีคุณสมบัติในการดูดซับน้ำได้ดีกว่าผ้าขนหนูทั่ว ๆ ไป แล้วยังช่วยทำให้ผมแห้งเร็วขึ้น ทำให้ไม่ต้องเช็ดถู เสียดสีเส้นผมแรง ๆ ช่วยลดการทำร้ายเส้นผมลงไปได้

9. ไม่ควรหวีผมในขณะที่ผมเปียก

ในขณะที่ผมเปียก เส้นผมจะมีความอ่อนแอมากที่สุด ดังนั้น หากหวีผมในขณะที่ผมเปียกจะยิ่งทำให้เส้นผมที่อ่อนแออยู่นั้น ฉีกขาดได้ง่ายมากยิ่งขึ้น และและเกิดปัญหาผมแตกปลายได้ จึงแนะนำให้รอให้ผมแห้งเสียก่อน แล้วค่อยหวีผมอย่างเบามือที่สุด เพราะการหวีผมตอนผมแห้ง นอกจากจะไม่ทำร้ายเส้นผมแล้ว ยังทำให้เส้นผมที่พันกัน หลุดออกจากกันได้ง่ายขึ้นด้วย

10. รับประทานอาหารบำรุงผม

ผมแตกปลาย วิธีแก้แบบง่าย ๆ คือ การเลือกรับประทานอาหารบำรุงผมที่มีประโยชน์ เพราะสารอาหารเหล่านั้นจะมีส่วนช่วยเข้าไปหล่อเลี้ยง และบำรุงเส้นผมได้ โดยสารอาหารหลัก ๆ ที่มีส่วนสำคัญในการช่วยบำรุงเส้นผม ได้แก่ ไบโอติน กรดโฟลิค วิตามิน B และสารอาหารกลุ่มโปรตีนต่าง ๆ ซึ่งหาสารเหล่านี้ได้จากแหล่งอาหารทั่วไป หรือซื้ออาหารเสริมมารับประทานเพิ่มเติมก็ได้เช่นกัน

รวม 7 ไอเทมกู้ผมเสีย ผมแตกปลาย ให้กลับมาสวยสุขภาพดี

ปัญหาผมเสีย ผมแห้ง หรือผมแตกปลาย เป็นหนึ่งในปัญหากวนใจที่ใครหลายคน แต่ต้องยอมรับว่าปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมให้เลือกมากมาย และผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผม ที่ถูกออกแบบมาเพื่อแก้ปัญหาเฉพาะ ซึ่งวันนี้เราจะมาแนะนำ 7 ผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผม ที่จะช่วยฟื้นฟูผมเสียให้กลับมามีน้ำหนัก นุ่มสลวย และเงางามอย่างที่คุณต้องการ ตามมาช้อปกันเลย

1. OLAPLEX No.3 Hair Perfector

เปิดมาด้วยทรีตเมนต์บำรุงผมตัวเด็ดตัวดังอย่าง OLAPLEX No.3 Hair Perfector ทรีตเมนต์สูตรเข้มข้นที่ไม่ใช่แค่เป็นการเคลือบเส้นผมเท่านั้น แต่ ด้วยเทคโนโลยีสุดล้ำชื่อว่า Bond-Building ตัวช่วยในการซ่อมแซมข้อต่อของโครงสร้างแกนผมที่เปราะบางและแตกหักง่าย ไม่ว่าจะเกิดจากการทำเคมี หรือความร้อนหนัก ๆ โดยจะเข้าไปเชื่อมพันธะไดซัลไฟด์ที่ถูกทำร้ายเสียหาย ให้กลับมาเชื่อมต่อกันอีกครั้ง จากผมที่เคยอ่อนแอและขาดได้ง่ายกลับมาแข็งแรงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งทรีตเมนต์ตัวนี้ไม่ใช่การหมักผมด้วยเคราติน และไม่ใช่การเคลือบผมทั่วไป แต่จะเป็นการฟื้นบำรุงเส้นผม ปรับโครงสร้างจากภายในให้กลับมาแข็งแรง ช่วยป้องกันผมเสียในอนาคต ให้ผมนุ่มลื่น เงางามอย่างเป็นธรรมชาติ เหมาะกับเส้นผมทุกประเภท

คุณสมบัติเด่น

  • ฟื้นฟูผมเสียได้อย่างล้ำลึก ด้วยเทคโนโลยี Bond-Building
  • เหมาะกับผมเสีย ผมทำสี หรือคนที่ใช้สารเคมีกับผมเป็นประจำ
  • ช่วยลดการขาดและเปราะของเส้นผมได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • ราคาประมาณ 1,266 บาท

2. Yves Rocher Brillance Rinsing Vinegar

Yves Rocher Brillance Rinsing Vinegar หรือน้ำส้มสายชูล้างผม เป็นผลิตภัณฑ์ที่หลายคนอาจไม่คุ้นเคยนัก แต่เป็นไอเทมเด็ดที่ช่วยให้ผมสวยได้แบบมีสุขภาพดี โดยทรีตเมนต์บำรุงผมตัวนี้ จะช่วยขจัดคราบสกปรก ดีท็อกซ์ คราบความมัน รังแค หรือแม้แต่คราบน้ำหินปูนที่มาจากน้ำก็สามารถขจัดได้อย่างดี ด้วยส่วนผสมของ Agave Fructans ที่ช่วยกระตุ้นโลหิตบริเวณหนังศีรษะให้ไหลเวียนดีขึ้น ส่งผลให้แกนผมยึดเกาะกับรากผมได้แน่นขึ้น เมื่อเกล็ดผมจะเปิดออก Rinsing Vinegar จะทำหน้าที่ช่วยปิดเกล็ดผม ทำให้ผมเงางาม มีน้ำหนัก และช่วยลดการชี้ฟูอย่างเห็นได้ชัด

คุณสมบัติเด่น

  • ช่วยทำให้ผมเรียบลื่นและลดการชี้ฟู
  • สูตรเส้นผมเปล่งประกายเงางามทันทีที่ใช้
  • เพิ่มความเงางามผมได้อย่างเป็นธรรมชาติ
  • มีกลิ่นหอมสดชื่นของราสเบอร์รี่ และไม่ฉุนเหมือนน้ำส้มสายชูทั่วไป
  • ราคาประมาณ 599 บาท

3. FINO Premium Touch Hair Mask

มาต่อกันที่ FINO Premium Touch Hair Mask มาสก์บำรุงผมจากญี่ปุ่นที่โด่งดัง ที่ยกให้เป็นหนึ่งในตัวเต็ง ตัวตึงในตำนาน! ที่ไม่ว่ากี่โพลก็ขอยกให้ตัวนี้เลย! ด้วยส่วนผสมของ Royal Jelly EX, PCA และ Lipidure EX ที่ช่วยในการซ่อมแซมเส้นผมแตกปลาย ผมแห้งเสียที่เกิดจากความร้อน และสารเคมี ให้ผมกลับมามีสุขภาพดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดตั้งแต่ครั้งแรกที่ใช้เลย หลังใช้ผมจะนุ่มลื่น มีน้ำหนัก สวย สุขภาพดี ตั้งแต่โคนจรดปลาย แถมยังมีกลิ่นหอมติดผมอีกด้วย

คุณสมบัติเด่น

  • เหมาะกับคนที่มีปัญหาผมแห้งเสีย, ชี้ฟู, และขาดน้ำหนัก
  • ช่วยบำรุงผมให้กลับมานุ่มสลวยและเงางามอย่างเร่งด่วน
  • ฟื้นฟูและบำรุงผมที่มีปัญหาจากการทำสี ดัด และความร้อน
  • สามารถใช้ได้ทั้งหลังสระผมและใช้เป็นครีมสำหรับอบไอน้ำ
  • ราคาประมาณ 349 บาท

4. Tsubaki Premium Repair Mask

อีกหนึ่งทรีตเมนต์บำรุงผม ตัวเด็ด! ตัวดังจากแบรนด์ TSUBAKI มาสก์บำรุงผมที่จากประเทศญี่ปุ่น ที่ควรค่าแก่การซื้อ! สำหรับ Tsubaki Premium Repair Mask เป็นมาสก์บำรุงตัวนี้มีนวัตกรรม Continuous Three-Phase Technology ช่วยให้สารบำรุงซึมซาบเข้าสู่เส้นผมได้อย่างรวดเร็วและล้ำลึก ไม่ต้องหมักทิ้งไว้นานก็สามารถเห็นผลได้ ด้วยส่วนผสมหลักอย่าง น้ำมันสึบากิ, โปรตีนไข่มุก และรอยัลเจลลี่ ที่ช่วยซ่อมแซมเส้นผมที่แห้งเสีย ทำให้ผมที่เคยชี้ฟูกลับมานุ่มลื่น มีน้ำหนัก และจัดทรงง่ายขึ้น เหมาะกับผมที่ต้องการดูแลพิเศษโดยเฉพาะ

คุณสมบัติเด่น

  • ซ่อมแซมเส้นผมที่แห้งเสีย ทำให้ผมที่เคยชี้ฟูกลับมานุ่มลื่น
  • ผสานนวัตกรรมที่ช่วยซึมซาบสารบำรุงเข้าสู่เส้นผมได้อย่างล้ำลึก
  • ช่วยบำรุงให้เส้นผมนุ่มสลวยเปล่งประกายเงางาม ดูสวยสุขภาพดี
  • ราคาประมาณ 559 บาท

5. NIGAO Speed Repair Hair Treatment

ทรีตเมนต์บำรุงผมที่ถูกพูดถึงอย่างมาก โดยเฉพาะในวงการช่างผม แน่นอนว่าจะต้องเป็น NIGAO Speed Repair Hair Treatment ด้วยคุณสมบัติที่โดดเด่นในการฟื้นฟูผมเสียอย่างรวดเร็ว และเห็นผลลัพธ์ตั้งแต่ครั้งแรกที่ใช้ จึงทำให้ผลิตภัณฑ์ตัวนี้เป็นที่นิยม สำหรับคนที่ต้องการกู้ชีพผมพังแบบเร่งด่วน ด้วยส่วนผสมจากพืชและพืชธรรมชาติ ที่ช่วยกักเก็บความชุ่มชื้น ฟื้นฟูผมเสีย แล้วยังช่วยบำรุงเส้นผมและหนังศีรษะ พร้อมมีกลิ่นหอมอ่อน ๆ ที่ติดทนอยู่บนเส้นผมตลอดทั้งวัน

คุณสมบัติเด่น

  • เหมาะสำหรับคนที่มีปัญหาผมแห้งเสีย แตกปลาย ชี้ฟู
  • ส่วนผสมหลักจากพืชและพืชธรรมชาติ ที่ช่วยกักเก็บความชุ่มชื้น ฟื้นฟูผมเสีย มีกลิ่นหอมอ่อน ๆ
  • สารสกัดจากดอกลาเวนเดอร์ และวิตามิน B5 ช่วยกักเก็บความชุ่มชื้น ช่วยให้ผมมีสุขภาพดี
  • สารสกัดจากพืชซีบัคธอร์น ที่มีกรดไขมันไม่อิ่มตัวและวิตามิน A, E ช่วยบำรุงรากผมให้แข็งแรง
  • ราคาประมาณ 350 บาท

6. GO HAIR Nourishing Biotin Treatment

ใครมีปัญหาผมแตกปลาย ผมแห้งเสีย และผมขาดหลุดร่วง แนะนำทรีตเมนต์บำรุงผมตัวนี้ GO HAIR Nourishing Biotin Treatment อีกหนึ่งทรีตเมนต์บำรุงผมที่ถูกพูดถึงอย่างกว้างขวาง ด้วยส่วนผสมของ Biotin ช่วยเสริมสร้างเคราติน เพิ่มความแข็งแรงให้เส้นผม หรือวิตามิน H ที่มีคุณสมบัติในการช่วยบำรุงเส้นผมโดยเฉพาะ นอกจากนี้ยังมีส่วนผสมอื่น ๆ อย่างสารสกัดสาหร่ายทะเลฮอกไกโด Vitamin A, C, E, K และ B-complex ช่วยในการดูแลเส้นผม หนังศีรษะและรากผม ทำให้ผมหนาแข็งแรง เงางามและสุขภาพดี เนื้อสัมผัสที่เข้มข้นแต่ไม่เหนียวเหนอะหนะ มีกลิ่นหอมอ่อน ๆ ที่ช่วยให้รู้สึกผ่อนคลายขณะใช้งานอีกด้วย

คุณสมบัติเด่น

  • เนื้อสัมผัสที่เข้มข้นแต่ไม่เหนียวเหนอะหนะ
  • สามารถใช้แทนครีมนวดผมได้เลยหลังสระผม
  • ฟื้นฟูผมเสีย ชี้ฟู กลับมานุ่มลื่น มีน้ำหนัก และจัดทรงง่ายขึ้น
  • ช่วยให้เส้นผมแข็งแรงขึ้นจากรากจรดปลาย และลดปัญหาผมขาดหลุดร่วง
  • ราคาประมาณ 290 บาท

7. Oriental Princess ซีรั่มบำรุงผม Cuticle Professional Hair Serum

ปิดท้ายกันด้วย Oriental Princess ซีรั่มบำรุงผม Cuticle Professional Hair Serum ด้วยคุณสมบัติที่ช่วยทำให้ผมนุ่มลื่นและเงางามทันทีที่ใช้ ทำให้เป็นไอเทมที่ขาดไม่ได้สำหรับคนที่มีปัญหาผมแตกปลายหรือผมแห้งเสีย ด้วยเทคโนโลยี Natural Keratin Repair Plus E สามารถดูแลเส้นผม ที่ถูกทำลายได้ลึกถึงโครงสร้างชั้นใน ทำให้เส้นผมแข็งแรง เซรั่มมีเนื้อสัมผัสบางเบา ซึมซาบเร็ว ไม่เหนียวเหนอะหนะ แต่สามารถเคลือบและบำรุงเส้นผมได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ผมจากที่เคยแห้งเสียและชี้ฟูกลับมานุ่มสลวยในทันที สาว ๆ คนไหนที่ทำสีผมบ่อย ๆ หรือผมเสียจากโดนเคมี แล้วอยากจะมีผมสวย ๆ แนะนำให้ซื้อเซรั่มตัวนี้เลย รับรองไม่ผิดหวัง แถมยังช่วยปกป้องเส้นผมจากการโดนแดดอีกด้วย

คุณสมบัติเด่น

  • ช่วยลดผมเสีย ชี้ฟู จัดทรงยาก ผมแตกปลาย
  • ช่วยเคลือบเกล็ดผม ทำให้ผมดูเงางามและมีสุขภาพดีขึ้น
  • มีกลิ่นหอมอ่อน ๆ สดชื่น ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์
  • สามารถใช้ได้ทั้งหลังสระผมขณะผมหมาด ๆ หรือผมแห้ง
  • ราคาประมาณ 355 บาท

ตอบทุกข้อสงสัยเกี่ยวกับปัญหาผมแตกปลาย

Q: ผมแตกปลายเกิดจากอะไร?

A: ผมแตกปลาย คือ ภาวะที่ปลายผมแห้งและถูกทำลายจนแยกออกเป็น 2 แฉก หรือ หลายแฉก โดยเกิดจากการที่เกล็ดผม (Cuticle) ซึ่งทำหน้าที่ปกป้องเส้นผมถูกทำลาย ทำให้ความชุ่มชื้นในเส้นผมระเหยออกไป

Q: สาเหตุหลัก ๆ ของผมแตกปลายมีอะไรบ้าง?

A: โดยสาเหตุหลัก ๆ ที่ทำให้ผมแตกปลายมาจากความร้อน สารเคมี การดูแลผิดวิธี และปัจจัยภายนอก

Q: ผมแตกปลายสามารถหายเองได้ไหม?

A: ไม่สามารถหายเองได้ เพราะปลายผมที่แตกแล้วไม่สามารถกลับมาประสานกันได้ วิธีเดียวที่แก้ไขได้ดีคือ การตัดผมส่วนที่เสียออก

Q: ควรตัดผมบ่อยแค่ไหนถึงจะแก้ปัญหาผมแตกปลายได้?

A: ควรเล็มปลายผมทุก ๆ 6-8 สัปดาห์ เพื่อกำจัดปลายผมที่แห้งเสียออกไปอย่างต่อเนื่อง

Q: ควรใช้ผลิตภัณฑ์อะไรในการบำรุงผมแตกปลาย?

A: ควรใช้ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยบำรุง เพิ่มความชุ่มชื้น และฟื้นฟูเส้นผม เช่น มาสก์ผม, ออยล์ หรือเซรั่มบำรุงปลายผม จะช่วยเคลือบเกล็ดผมและป้องกันไม่ให้ผมแห้งเสียเพิ่มขึ้น

หลังจากที่เพื่อน ๆ ได้รู้กันแล้วว่า ผมแตกปลายเกิดจากอะไร มีสาเหตุอะไรบ้าง รวมถึงวิธีป้องกันและวิธีรักษาผมแตกปลายให้กลับมาสุขภาพดี ใครที่ผมกำลังมีปัญหาผมแตกปลาย หรือผมแห้งเสีย ก็สามารถนำวิธีที่เราแนะนำไปทำตามกันได้เลย ทั้งนี้ทั้งนั้นการบำรุงผมแตกปลายให้ผมกลับมานุ่มสลวยเหมือนเดิมก็จำเป็นต้องใช้เวลา เพราะกว่าจะฟื้นฟูโครงสร้างภายในเส้นผมให้กลับมาแข็งแรงนั้นทำได้ยาก เพราะขึ้นอยู่กับสภาพเส้นผมแต่ละคนด้วย ส่วนใครไม่อยากจะให้ผมแตกปลาย ก็สามารถป้องกันได้ตามวิธีที่เราแนะนำได้เช่นกัน สามารถเข้ามาเลือกซื้อผลิตภัณฑ์บำรุงผม, มาสก์ผม, ออยล์ เซรั่มบำรุงปลายผม หรืออื่น ๆ ทางออนไลน์บน Shopee รวบรวมสินค้ามากมาย พร้อมจัดโปรโมชั่นลดราคาพิเศษ ให้ช้อปได้แบบคุ้ม ๆ

บทความแนะนำ

Noina

น้อยหน่าชอบแบ่งปันเรื่องราวดี ๆ ชอบหาของกินอร่อย ๆ สนุกสนานกับการได้ลองทำสิ่งใหม่ ๆ ที่ไม่เคยทำมาก่อน และหาแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์บทความ

Share
Published by
Noina

Recent Posts

ทาสแมวควรรู้! เทียบอายุแมวกับคน พร้อมวิธีเลี้ยงแมวแต่ละวัยให้อายุยืน

เปิดตารางเปรียบเทียบอายุแมว! เคยสงสัยไหมว่าแมวของคุณเข้าสู่ช่วงวัยรุ่น หรือเข้าสู่วัยเกษียณแล้วหรือยัง? พร้อมเคล็ดลับการดูแลแมวให้อายุยืน หาคำตอบได้ที่นี่!

3 hours ago

มารู้จัก ทวีปยุโรปมีประเทศอะไรบ้าง ช่วยให้วางแผนเที่ยวได้ง่ายและสนุกขึ้น

การเดินทางไปท่องเที่ยวยุโรปคือความฝันของใครหลายคน แล้วถ้าพูดถึงยุโรป หลายคนก็อาจนึกถึงแต่ประเทศยอดฮิตอย่างประเทศฝรั่งเศส, อิตาลี,  สวิตเซอร์แลนด์ เยอรมัน หรืออังกฤษ แต่คุณรู้หรือไม่ว่าทวีปยุโรปนี้มีประเทศซ่อนอยู่มากกว่า 50 ประเทศเลยทีเดียว! มีตั้งแต่ประเทศมหาอำนาจที่มีอิทธิพลต่อโลก ไปจนถึงประเทศเล็ก ๆ ที่เต็มไปด้วยเสน่ห์และเรื่องราวที่น่าสนใจ จนใครหลายคนอยากจะไปเที่ยวสัมผัสความสวยงาม…

11 hours ago

25 คำทำนายฝันเห็นพระสงฆ์ แบบไหนดี แบบไหนร้าย พร้อมเลขเด็ด

ฝันเห็นพระสงฆ์ ทำนายฝันว่าอย่างไร แบบไหนดี แบบไหนร้าย อันไหนต้องระวังรวบรวมมาให้ครบ 25 คำทำนายฝัน พร้อมเลขเด็ด ไว้เปิดดวง รับโชคปัง ๆ

1 day ago

10 วิธีกําจัดปลวก ถาวร ได้ผลดี ไม่กลับมากวนใจ พร้อมไอเท็มแนะนำ

ส่อง 10 วิธีกําจัดปลวก ถาวร อยู่หมัด ไม่ให้กลับมากวนใจ ทำได้ง่าย ๆ ได้ดัวยตัวเอง พร้อม 5 ผลิตภัณฑ์กำจัดปลวกที่อยากแนะนำ ได้ผลจริง

1 day ago

หลังผ่าตัดห้ามกินอะไร ทำไมต้องระวัง พร้อมแนะ 7 อาหารควรเลี่ยง

หลังผ่าตัดห้ามกินอะไร ทำไมถึงระวัง พร้อมแนะ 7 เมนูอาหารและผลไม้ที่ควรหลีกเลี่ยง รวมถึงทริคดูแลร่างกายให้หายเร็วขึ้น แผลกลับมาดีขึ้นสมานเร็วได้ด้วยตนเอง

1 day ago

ไฟฟ้าสถิตคืออะไร? พร้อมวิธีแก้แบบไม่ต้องสะดุ้งอีกต่อไป

ไฟฟ้าสถิตคืออะไร? ไฟฟ้าสถิตเกิดขึ้นได้อย่างไร? ไฟฟ้าสถิตในร่างกายอันตรายไหม? มาดูสาเหตุและวิธีแก้ พร้อมเคล็ดลับป้องกันไม่ให้ถูกช็อตอีกต่อไป!

2 days ago