10 เครื่องดูดฝุ่นยี่ห้อไหนดี ตอบโจทย์ทั้งบ้านและคอนโดฯ

เป็นอีกหนึ่งเครื่องใช้ไฟฟ้าที่สำคัญสำหรับการใช้งานในบ้าน นอกจากสมาร์ททีวี ตู้เย็น หรือแม้แต่เครื่องซักผ้าแล้ว ปัจจุบันนี้ต้องบอกเลยว่าเครื่องดูดฝุ่นถือว่ามีการพัฒนาให้มีความสามารถและมีบทบาทมากขึ้นในการช่วยทำความสะอาดบ้าน ที่พักอาศัย โดยสามารถจะตอบโจทย์ให้กับแม่บ้านในเรื่องของความสะอาดแล้ว ยังช่วยเรื่องการกำจัดไรฝุ่น และสิ่งสกปรกที่มีขนาดเล็กสำหรับกลุ่มคนที่มีอาการแพ้ฝุ่น และยังสามารถจะเลือกใช้งานบนพื้นที่ต่าง ๆ ได้อย่างเหมาะสม ก่อนที่เราจะเข้าเรื่องเครื่องดูดฝุ่นยี่ห้อไหนดีนั้น มาดูวิธีการเลือกซื้อเครื่องดูดฝุ่นกันก่อน

รู้จักกับเครื่องดูดฝุ่นแต่ละประเภท 

1. เครื่องดูดฝุ่นแบบกล่อง (Canister Vacuum Cleaners)

จะเป็นเครื่องดูดฝุ่นแบบพื้นฐานที่ มีให้เลือกซื้อได้หลากหลาย ทั้งขนาด ประเภทของมอเตอร์และความจุของถังเก็บ จะใช้กำลังไฟค่อนข้างมาก ส่วนใหญ่จะมีพลังดูดสูง ดูดฝุ่นได้เร็วและสะอาดมาก เหมาะสำหรับใช้ดูดฝุ่นในบริเวณพื้นที่กว้าง การเคลื่อนย้ายอาจจะลำบาก เพราะประกอบด้วย 3 ส่วนดังนี้

1. แปรงดูดฝุ่น
2. ด้ามจับ
3. กล่องเก็บฝุ่น

2. เครื่องดูดฝุ่นมือถือ (Handheld Vacuum Cleaner)

เป็นเครื่องดูดฝุ่นขนาดเล็กไร้สาย มีน้ำหนักเบา ชาร์จแบตเตอรี่ได้ ใช้ดูดฝุ่นตามซอกมุมต่าง ๆ ได้ง่ายมากขึ้น เช่น ดูดฝุ่นบนรถยนต์ ดูดฝุ่นบนเฟอร์นิเจอร์ เป็นต้น

3. เครื่องดูดฝุ่นไร้สาย / เครื่องดูดฝุ่นด้ามจับ (Stick Vacuum Cleaner)

เครื่องดูดฝุ่นไร้สายแบบมีด้ามยาว รูปทรงใช้งานได้สะดวกและมีความคล่องตัวกว่าเครื่องดูดฝุ่นแบบกล่องมาก ใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ ไม่มีสายไฟให้เกะกะระหว่างการใช้งาน เหมาะจะใช้ดูดฝุ่นในห้องที่มีพื้นที่ไม่มากนัก

4. หุ่นยนต์ดูดฝุ่น (Robotic Vacuum Cleaner)

หุ่นยนต์ดูดฝุ่น เป็นนวัตกรรมใหม่ที่ช่วยให้การทำความสะอาดบ้านเป็นเรื่องที่ง่ายมากขึ้น สะดวกสบายมากขึ้น เพราะหุ่นยนต์ดูดฝุ่นสามารถทำความสะอาดได้ด้วยตัวเอง เป็นเครื่องดูดฝุ่นอัตโนมัติโดยจะมีเซนเซอร์ตรวจจับสิ่งกีดขวาง และตรวจหาสิ่งสกปรก ในบางรุ่นยังสามารถเคลื่อนที่ไปยังจุดชาร์จแบตได้ด้วยตัวเอง ช่วยลดขั้นตอนความยุ่งยากในการทำความสะอาดได้มากเลย 

การเลือกเครื่องดูดฝุ่นให้เหมาะกับขนาดพื้นที่ในบ้าน

1. เครื่องดูดฝุ่นสำหรับบ้าน หรือห้องขนาดใหญ่

เครื่องดูดฝุ่นแบบไหนดีที่เหมาะ สำหรับบ้านหรือห้องที่มีขนาดใหญ่ มีพื้นที่กว้างควรเลือกใช้เป็นเครื่องดูดฝุ่นแบบกล่องที่มีพลังดูดสูง จะช่วยให้พื้นที่สะอาดได้ไวกว่าและยังใช้งานได้ต่อเนื่องได้นานกว่า และสามารถเลือกเครื่องดูดฝุ่นแบบกล่องที่มีสายไฟยาวและมีช่องเก็บได้อย่างสะดวกทำให้ใช้งานง่ายไม่ต้องคอยถอดหรือเสียบปลั๊กบ่อย ๆ เวลาเคลื่อนย้ายนั่นเอง  

2. เครื่องดูดฝุ่น คอนโด หรือห้องขนาดกะทัดรัด

สำหรับห้องที่มีพื้นที่จำกัด ควรจะเลือกใช้เครื่องดูดฝุ่นคอนโดไร้สาย แบบด้ามจับ หรือหุ่นยนต์ดูดฝุ่นจะสามารถดูดฝุ่นตามซอกมุมต่าง ๆ ได้ดีกว่าเครื่องดูดฝุ่นประเภทอื่นอีกทั้งสามารถเคลื่อนย้ายได้ง่าย และการจัดเก็บได้ง่ายไม่ใช้พื้นที่มาก 

3. เลือกหัวเครื่องดูดฝุ่นให้เหมาะกับลักษณะพื้นผิวในบ้าน

นอกจากขนาดพื้นที่แล้ว ยังต้องพิจารณาลักษณะพื้นบ้านหรือพื้นห้อง ซึ่งอาจจะเลือกซื้อเครื่องดูดฝุ่นที่มีหัวแปรงดูดหลากหลายแบบที่มาพร้อมกับเครื่อง ซึ่งจะใช้งานได้หลากหลายกว่า

• พื้นไม้ หรือพื้นกระเบื้อง ควรเลือกหัวแปรงนุ่ม ๆ เพื่อไม่ให้เกิดรอยกับพื้นหรือทำให้พื้นไม้เสียหาย
• พื้นมีพรม ควรเลือกหัวเครื่องดูดฝุ่นแบบลูกล้อ จะช่วยทำความสะอาดพื้นพรมได้ดีกว่าแบบอื่น

4. เลือกเครื่องดูดฝุ่นที่มีตัวกรองฝุ่น HEPA ถ้าเป็นไปได้

ปัจจุบันเครื่องดูดฝุ่นมีนวัตกรรมใหม่ ๆ ที่สามารถช่วยตอบโจทย์ให้กับคนที่แพ้ไรฝุ่น หรือมีอาการหอบหืด เป็นภูมิแพ้กับฟีเจอร์ตัวกรองฝุ่น HEPA ช่วยดักจับฝุ่นผงเล็ก ๆ อย่างเกสรดอกไม้ หรือตัวไรฝุ่น เป็นต้น

วิธีการเบื้องต้นในการเลือกซื้อเครื่องดูดฝุ่นแบบไหนดี

1. กำลังการทำงาน สำหรับการใช้งานภายในบ้านทั่วไปที่ไม่สกปรกมาก ใช้เครื่องดูดฝุ่น 800 วัตต์ก็เพียงพอ แต่ถ้าใช้งานหนักขึ้นมาหน่อยก็เลือกเครื่องที่กำลัง 1,000-1,200 วัตต์ขึ้นไปจะตอบโจทย์ได้ดีกว่า
2. ระบบกรองฝุ่น เครื่องดูดฝุ่นจะต้องสามารถกำจัดฝุ่นที่มีขนาดเล็กมาก ๆ ได้และหากมีระบบกรองอากาศด้วยจะดีมาก
3. มอเตอร์ มอเตอร์ที่ดีจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานให้เครื่องดูดฝุ่นมากยิ่งขึ้น เพราะอากาศภายในเครื่องจะหมุนเวียนได้ดีนั่นเอง
4. อุปกรณ์เสริม ควรมีอุปกรณ์เสริมที่จำเป็นต่อการใช้งานอย่างครบถ้วน เช่น หัวดูด หัวดูดแบบแปรง ท่อต่อ เป็นต้น
5. ดูแลรักษาง่าย เครื่องดูดฝุ่นที่ดีควรมีอุปกรณ์ที่ถอดและประกอบกลับคืนได้ง่าย เพื่อสะดวกต่อการดูแลรักษา และสามารถยืดอายุการใช้งานได้นาน

แนะนำ 10 เครื่องดูดฝุ่นยี่ห้อไหนดี ใช้ดี ประจำปี 2021

เครื่องดูดฝุ่นแบบกล่อง

1. Electrolux รุ่น EC31-2BB (1800W)

ราคา 2,173 บาท

เครื่องดูดฝุ่นรุ่นนี้จะเป็นประเภทกล่องเก็บฝุ่น ที่มีขนาด 1.8 ลิตร แผ่นกรอง EPA 12 ที่สามารถจะใช้กรองฝุ่นได้ถึง 4 ขั้นตอน จะมีล้อที่ใหญ่ทำให้เคลื่อนย้ายสะดวกมากขึ้น ช่วยขจัดสิ่งสกปรกได้มากขึ้น ใช้งานง่ายดูดได้ทั้งไปข้างหน้าและด้านหลังแม้ตามผนังและเฟอร์นิเจอร์ ใช้เวลาน้อยลงทั้งบนพื้นแข็งและพรม ฝุ่นละออง เศษผมและเศษอาหารง่าย ตัวอุปกรณ์ผลิตจากวัสดุที่มีคุณภาพดี มีความแข็งแรงทนทานใช้งานได้สะดวก ราคาถือว่ากำลังพอดี

2. Hitachi รุ่น CV-SF18

ราคา 2,055 บาท

Hitachi เครื่องดูดฝุ่น รุ่น CV-SF18 เป็นเครื่องดูดฝุ่นแบบกล่องกำลังไฟ 1,800 วัตต์ ให้พลังดูดไซโคลนกำจัดเศษฝุ่น และความสกปรกบนพื้นห้องได้อย่างรวดเร็วโดยไม่ต้องออกแรง มั่นใจได้ในประสิทธิภาพในการทำความสะอาดและการกำจัดเศษฝุ่นเล็ก ๆ ที่เราอาจจะมองไม่เห็นซึ่งก่อให้เกิดโรคภูมิแพ้แก่ผู้อาศัย โดยมาพร้อมกล่องเก็บฝุ่น ขนาดความจุ 1.6 ลิตร ทิ้งฝุ่นง่าย ไม่ฟุ้งกระจาย และระบบกรองฝุ่น 7 ขั้นตอน พร้อมแผ่นกรองนาโนไททาเนียม ด้วยพลังมอเตอร์แรงสูง สามารถดูดฝุ่นและสิ่งสกปรกพร้อมแยกฝุ่นด้วยพลังไซโคลน ทำให้ฝุ่นถูกแยกเก็บไว้ และเทคโนโลยีบีบอัดฝุ่น ถูกนำมาเก็บไว้ในช่องเก็บฝุ่นบีบอัดให้เป็นก้อน ทำให้การทิ้งฝุ่นไม่ฟุ้งกระจาย

เครื่องดูดฝุ่นแบบมือถือ

1. Livingmall เครื่องดูดฝุ่นไร้สาย

ราคา 499 บาท

เป็นเครื่องดูดฝุ่นแบบมือถือ ที่สามารถจะพกพาได้ มีดีไซต์ที่สวยงามและมีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร เป็นเครื่องดูดฝุ่นคอนโดที่ถือว่ากะทัดรัดมาก วัสดุที่ใช้ในการผลิตมีคุณภาพ สามารถจะทำความสะอาดได้ทั้งของเหลวหรือขยะแห้ง เหรียญ และทราย เครื่องดูดฝุ่นรุ่นนี้ก็สามารถดูดขึ้นได้ แบบกะทัดรัด พกพาง่าย มีเสียงเบาเวลาทำงาน สามารถทำความสะอาดที่รถยนต์ บ้านและที่ทำงานได้ง่ายมากขึ้น และด้วยพลังดูด 120W มาพร้อมกับใส้กรอง HEPA ที่สามารถล้างน้ำได้ และแบตเตอรี่มีความจุ 2600mAh  แถมหัวดูดหลายชนิด

2. เครื่องดูดฝุ่นในรถยนต์แบบไร้สาย 9000Pa

ราคา 328 บาท

เครื่องดูดฝุ่นแบบมือถือ แรงดูด 9000Pa แบบพกพา สามารถจะเก็บและวางได้ทุกที่ ใช้ได้สะดวกทั้งที่บ้านและพื้นที่เล็ก ๆ ในรถยนต์ มีแผ่นกรอง HEPA อันทรงพลังพร้อมตัวกรอง 3 ตัว เครื่องดูดฝุ่น + ไส้กรองสำรอง*2 + หัวฉีดลมเอนกประสงค์ 2 ชิ้น แผ่นกรองฝุ่นนาโนซักได้หลายครั้ง สามารถจะกรองทำความสะอาด ระบายอากาศ และกันฝุ่นได้เป็นอย่างดี มีดีไซน์กระทัดรัดเบาถึง 300 กรัม ขณะทำงานไม่มีเสียงรบกวน แบตเตอรี่สแตนด์บายได้นาน 30 วัน

เครื่องดูดฝุ่นแบบไร้สาย

1. Airbot Supersonics

ราคา 2,299 บาท

เป็นเครื่องดูดฝุ่นแบบไร้สาย ที่มีพลังดูดสูงสุด 19,000 PA ที่จะทำความสะอาดพื้นที่อยู่อาศัยโดยใช้เวลาเพียงไม่กี่นาทีด้วยตัวเครื่องดูดฝุ่นมีน้ำหนัก 2.0 กิโลกรัม พร้อมกับระบบกรองไอเสียที่มีประสิทธิภาพ เครื่องดูดฝุ่นรุ่นนี้สามารถรองรับฝุ่นได้ประมาณ 0.6 ลิตร เครื่องดูดฝุ่นแบบใช้มือถือ Airbot รุ่นนี้ใช้พลังงานประมาณ 250W สามารถดูดฝุ่นละออง เศษเส้นผม และเศษอาหารแห้งจากพื้นได้อย่างหมดจด

2. Deerma VC01 Vacuum Cleane

ราคา 1,799 บาท

เครื่องดูดฝุ่นยี่ห้อไหนดีที่เหมาะกับสายมินิมอล ขอแนะนำยี่ห้อนี้เลย เป็นเครื่องดูดฝุ่นไร้สาย ที่ได้รับการออกแบบดีไซน์ทันสมัย สีขาวสวย สะอาด เหมาะจะเป็นเครื่องดูดฝุ่นคอนโด ผลิตจากวัสดุที่มีคุณภาพ แข็งแรง ทนทานมาพร้อมกับระบบกรองฝุ่น HEPA Filter ที่กรองฝุ่นละออง สามารถกำจัดไรฝุ่นต่าง ๆ และสิ่งสกปรกได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสะอาดหมดจดไม่ว่าจะเป็นการใช้ดูดฝุ่นที่พื้น โซฟา หรือเบาะบนรถยนต์ ก็สามารถขจัดไรฝุ่นได้ การใช้งานได้หลากหลาย ตั้งแต่เพดานไล่ลงมาจนถึงพื้น มีขนาดกะทัดรัดจัดเก็บง่ายไม่เปลืองเนื้อที่ มือจับออกแบบมาให้กระชับมือไม่ลื่นหลุด และยังใช้งานได้อย่างปลอดภัยด้วยมาตรฐานอุตสาหกรรม

เครื่องดูดฝุ่นหุ่นยนต์

1. หุ่นยนต์ดูดฝุ่น ASTON SMART ROBOT

ราคา 790 บาท

เครื่องดูดฝุ่นยี่ห้อไหนดีที่เป็นแบบหุ่นยนต์ดูดฝุ่นอัตโนมัติ ทำความสะอาดอัจฉริยะ ยี่ห้อ Aston ถือว่าเป็นผู้ช่วยเเม่บ้านได้เป็นอย่างดี การทำงานแบบฝุ่นไร้สาย ขนาดกระทัดรัด น้ำหนักเบา พกพาไปใช้งานได้ทุกพื้นที่ สามารถจะทำงานได้เองโดยไม่ต้องควบคุม มีระบบเปลี่ยนเส้นทางเมื่อเจอสิ่งกีดขวาง ตัวเครื่องสามารถจะเดินทางได้รอบทิศทาง 360 องศา ทำงานได้หลายพื้นผิว เหมากับแม่บ้านสมัยยุคดิจิทัลอย่างมาก

2. AUTOBOT รุ่น Smart Mark 3

ราคา 5,590 บาท

เป็นเครื่องดูดฝุ่นแบบหุ่นยนต์ที่มีจุดเด่นทั้งการดูดฝุ่นและถูพื้นในเวลาเดียวกัน พร้อมกับระบบเข็มทิศนำทาง Gyro ที่ใช้ทำ G-Mapping + Automatic ช่วยให้ดูดฝุ่นแบบไม่หลงทาง ไม่ซ้ำที่เดิม สามารถเชื่อมต่อกับสมาร์ตโฟนเพื่อควบคุมการทำงานโดยสามารถจะสั่งงานได้สะดวกจากที่ไหนก็ได้ มีฟีเจอร์การใช้งานที่หลากหลาย พร้อมถังเก็บฝุ่นและถังใส่น้ำที่สามารถจะถอดจากตัวเครื่องได้ เพราะมีการอัปเกรดแท้งค์น้ำแยกกับถังเก็บฝุ่น ช่วยให้ถอดเฉพาะแท้งค์น้ำมาเติม หรือถอดทำความสะอาดได้  แบตเตอรี่ใช้ต่อเนื่องได้ Max mode 80 นาที Auto mode 110 นาที สามารถเดินกลับแท่นชาร์จเองได้แบบอัตโนมัติ

เครื่องดูดฝุ่นแบบไหนดี ที่เหมาะกับการใช้งานของคุณ?

เป็นอย่างไรบ้างกับเคล็ดไม่ลับในการเลือกซื้อเครื่องดูดฝุ่น เครื่องดูดฝุ่นแบบไหนดี ให้เหมาะกับในแต่ละพื้นที่การใช้งาน ซึ่งจะเป็นเครื่องดูดฝุ่นแบบไหนดี จะเป็นการใช้งานพื้นที่กว้าง ๆ หรือพื้นที่ห้องขนาดเล็ก ก็มีคำตอบมาให้หมด รวมถึงการแนะนำเครื่องดูดฝุ่นจากแบรนด์ดัง ที่มีให้เลือกซื้อได้หลากหลายกับเครื่องดูดฝุ่นยี่ห้อไหนดี ที่หลาย ๆ คนกำลังตามหา บอกได้เลยว่าราคาจับต้องได้แน่นอน