Categories: Health

หนังโคนเล็บลอก: ปัญหาที่แก้ไขได้ พร้อมวิธีดูแลเล็บให้แข็งแรง

ปัญหาหนังโคนเล็บลอกหรือหนังข้างเล็บลอก เป็นเรื่องที่หลายคนเคยเจอ และอาจก่อให้เกิดความรำคาญและความไม่มั่นใจได้ ปัญหานี้ไม่ได้เกิดจากสาเหตุเดียวเสมอไป แต่มีปัจจัยหลายอย่างที่เกี่ยวข้อง ทั้งพฤติกรรมการใช้ชีวิต และสภาพร่างกายของเราเอง

หนังโคนเล็บลอก เกิดจากอะไร?

หนังโคนเล็บลอก หรือที่เรียกว่า จมูกเล็บ มีหน้าที่ปกป้องรากเล็บ ทำให้เล็บเจริญเติบโตได้อย่างแข็งแรง เมื่อหนังโคนเล็บเกิดการลอก อาจเกิดจากสาเหตุหลักๆ ดังนี้

  • ผิวแห้ง: การขาดความชุ่มชื้นทำให้ผิวหนังรอบเล็บแห้งกรอบและลอกได้ง่าย
  • การสัมผัสสารเคมี: สารเคมีในสบู่ ผงซักฟอก น้ำยาล้างจาน หรือน้ำยาล้างเล็บ สามารถทำให้ผิวหนังรอบเล็บแห้งและเสียได้
  • การติดเชื้อ: เชื้อราหรือแบคทีเรียอาจทำให้เกิดการอักเสบและหนังบริเวณโคนเล็บลอก
  • ขาดวิตามิน: การขาดวิตามินบางชนิด เช่น วิตามินอี หรือธาตุเหล็ก อาจส่งผลต่อสุขภาพของเล็บและผิวหนัง
  • พฤติกรรมการกัดเล็บ: การกัดเล็บเป็นพฤติกรรมที่ทำให้หนังโคนเล็บเสียหายและติดเชื้อได้ง่าย
  • โรคบางชนิด: โรคบางชนิด เช่น โรคสะเก็ดเงิน หรือโรคโลหิตจาง อาจทำให้เกิดปัญหาหนังรอบโคนเล็บลอกได้

หนังโคนเล็บลอก แก้ไขอย่างไร

cr. shutterstock

การแก้ไขปัญหาหนังโคนเล็บฉีกลอกนั้นขึ้นอยู่กับสาเหตุที่แท้จริง แต่โดยทั่วไปแล้ว สามารถทำได้ดังนี้

1. บำรุงผิวให้ชุ่มชื้น

ทาครีมบำรุงมือ หรือน้ำมันมะกอกบริเวณรอบเล็บเป็นประจำ เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวหนัง

Cr. Unsplash

2. หลีกเลี่ยงการสัมผัสสารเคมี

สวมถุงมือยางเมื่อต้องสัมผัสกับน้ำยาทำความสะอาด หรือสารเคมีต่างๆ

Cr. unplash 1, 2

3. รักษาความสะอาด

ล้างมือให้สะอาดด้วยสบู่อ่อนๆ และเช็ดให้แห้งหลังล้างมือ การล้างมือไม่เพียงแต่จะทำให้มือสะอาด ไม่สะสมเชื้อโรค ทั้งที่เล็บ ซอกเล็บ หรือหนังกำพร้ารอบๆเล็บ แต่ยังทำให้สะอาดและมือชุ่มชื้นด้วย

4. ตัดเล็บให้สั้น

การตัดเล็บให้สั้นจะช่วยลดการเสียดสีและป้องกันการติดเชื้อ ลดการเกิดอุบัติเหตุจากเล็บไปเกี่ยวสิ่งไม่พึงประสงค์ได้ หากดูแลตัดเล็บให้เรียบร้อยดี หนังรอบเล็บก็มัก

Cr. pixabay

5. เลิกกัดเล็บ

การกัดเล็บเป็นพฤติกรรมที่ควรหลีกเลี่ยง เพราะไม่ได้ทำให้เล็บเสีนหายอย่างเดียวแต่จะทำให้หนังโคนเล็บเสียหายมากยิ่งขึ้นด้วย

Cr. Unsplash

6. ปรึกษาแพทย์

หากปัญหาหนังโคนเล็บฉีกลอกไม่ดีขึ้น หรือมีอาการอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น ปวด บวม แดง ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับการตรวจวินิจฉัยและรักษา


หนังโคนเล็บ-จมูกเล็บลอก ขาดวิตามินอะไร?

Cr. Unsplash

หนังโคนเล็บหรือจมูกเล็บฉีกอาจเกิดจากการขาดวิตามินบางชนิด เช่น

  • วิตามินอี: ช่วยบำรุงผิวหนังและเล็บให้แข็งแรง
  • ธาตุเหล็ก: ช่วยในการสร้างเซลล์เม็ดเลือดแดงและส่งออกออกซิเจนไปเลี้ยงส่วนต่างๆ ของร่างกาย
  • วิตามินบี: ช่วยในการเผาผลาญอาหารและบำรุงระบบประสาท
  • ไบโอติน: ช่วยบำรุงเส้นผม ขน เล็บแข็งแรง รวมไปถึงผิวหนัง ทำให้ชุ่นชื้น

อาหารที่ควรทานเมื่อผิวหนังรอบเล็บลอก

Cr. unsplash 1,2 pixabay 3,4,5

  • ผักใบเขียว: อุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุ
  • ผลไม้: โดยเฉพาะผลไม้ที่มีสีส้ม เช่น ส้ม กล้วย
  • เมล็ดพืช: เช่น เมล็ดเจีย เมล็ดแฟลกซ์
  • ถั่ว: อุดมไปด้วยโปรตีนและวิตามิน
  • เนื้อสัตว์: เป็นแหล่งของโปรตีนและธาตุเหล็ก

จมูกเล็บฉีกรักษายังไง

cr. shutterstock

การรักษาจมูกเล็บฉีกขึ้นอยู่กับความรุนแรงของอาการ หากเป็นแผลเล็กน้อย สามารถทำความสะอาดแผลด้วยน้ำเกลือและทายาฆ่าเชื้อได้ แต่หากมีอาการบวม แดง หรือปวดมาก ควรปรึกษาแพทย์

การดูแลตัวเองเบื้องต้นจากจมูกเล็บฉีก

  • รักษาความสะอาด: ล้างมือให้สะอาดด้วยสบู่อ่อนๆ และเช็ดให้แห้ง
  • ทายาฆ่าเชื้อ: ทายาฆ่าเชื้อที่แผลเพื่อป้องกันการติดเชื้อ
  • พันแผล: พันแผลด้วยผ้าพันแผลสะอาด
  • หลีกเลี่ยงการแช่น้ำ: หลีกเลี่ยงการแช่มือในน้ำเป็นเวลานาน
  • พักผ่อนให้เพียงพอ: การพักผ่อนให้เพียงพอจะช่วยให้ร่างกายฟื้นตัวได้เร็วขึ้น

คำแนะนำเพิ่มเติมเมื่อจมูกเล็บฉีกไปแล้ว

  • ดื่มน้ำให้เพียงพอ: การดื่มน้ำช่วยให้ร่างกายได้รับความชุ่มชื้น และป้องกันการจมูกเล็บฉีกหรือหนังโคนเล็บฉีกลอกได้บ้างไม่มากก็น้อย
  • รับประทานอาหารที่มีประโยชน์: อาหารที่มีประโยชน์จะช่วยบำรุงผิวหนังและเล็บให้แข็งแรง
  • พักผ่อนให้เพียงพอ: การพักผ่อนที่เพียงพอจะช่วยให้ร่างกายฟื้นฟูได้ดี จมูกเล็บฉีกก็ใช้เวลาไม่นานในการฟื้นตัว
  • หลีกเลี่ยงการกัดเล็บ: การกัดเล็บเป็นพฤติกรรมที่ควรเลิก
  • หลีกเลี่ยงการดึงหนังรอบเล็บเอง: ไม่ควรดึงหนังที่โคนเล็บหรือหนังข้างเล็บออกด้วยตัวเอง เพราะหากจัดการไม่ดี อาจทำให้เกิดแผล และลามไปถึงการติดเชื้อได้ หากรำคาญแนะนำให้นำกรรไกรตัดเล็บหรือกรรไกรตัดหนังกำพร้ามาตัดผิวหนังที่เผยอขึ้นมาทิ้ง
  • ตรวจสุขภาพเป็นประจำ: การตรวจสุขภาพเป็นประจำจะช่วยให้พบปัญหาสุขภาพได้ตั้งแต่ระยะเริ่มต้น

หนังข้างเล็บแข็ง

หนังข้างเล็บแข็งอาจเกิดจากการขาดความชุ่มชื้น หรือการสัมผัสสารเคมีเป็นประจำ การแก้ไขปัญหาหนังข้างเล็บแข็ง สามารถทำได้โดยการทาครีมบำรุงมือ หรือน้ำมันมะกอกบริเวณรอบเล็บเป็นประจำ และหลีกเลี่ยงการสัมผัสสารเคมี


6 ไอเทมแนะนำ ป้องกันจมูกเล็บฉีก

1. ครีมบำรุงมือ

ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวหนังรอบเล็บ  ช่วยให้มือของคุณนุ่มนวล ชุ่มชื้น และมีสุขภาพดีค่ะ ข้อดีหลักๆ ได้แก่:

  • เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวมือ: ครีมบำรุงมือจะช่วยเติมความชุ่มชื้นให้กับผิวมือที่แห้งกร้าน ทำให้ผิวเนียนนุ่มและเรียบลื่น
  • ปกป้องผิวมือจากมลภาวะ: สารบำรุงต่างๆ ในครีมจะช่วยสร้างเกราะป้องกันผิวมือจากมลภาวะ ฝุ่นละออง และแสงแดด ทำให้ผิวแข็งแรงขึ้น
  • ลดการเกิดริ้วรอย: การบำรุงผิวมืออย่างสม่ำเสมอจะช่วยชะลอการเกิดริ้วรอยก่อนวัย ทำให้มือดูอ่อนเยาว์
  • บำรุงเล็บและหนังรอบเล็บ: ครีมบำรุงมือหลายสูตรมีส่วนผสมที่ช่วยบำรุงเล็บและหนังรอบเล็บให้แข็งแรง ลดปัญหาเล็บเปราะ เล็บแตก และหนังรอบเล็บแห้ง
  • ผ่อนคลายผิวมือ: การนวดมือเบาๆ ขณะทาครีมจะช่วยให้รู้สึกผ่อนคลายและลดความตึงเครียด

นอกจากนี้ ครีมบำรุงมือยังมีประโยชน์อื่นๆ อีกมากมาย เช่น:

  • ช่วยให้ผิวมือเรียบเนียน: ครีมบำรุงมือบางชนิดมีส่วนผสมของสารที่ช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่า ทำให้ผิวมือเรียบเนียนขึ้น
  • ลดรอยดำและรอยแดง: ครีมบำรุงมือบางชนิดมีส่วนผสมที่ช่วยลดรอยดำ รอยแดง และรอยแผลเป็น
  • มีกลิ่นหอมสดชื่น: ครีมบำรุงมือหลายชนิดมีกลิ่นหอมที่ช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย

การเลือกครีมบำรุงมือ

ควรเลือกครีมบำรุงมือที่เหมาะกับสภาพผิวของตัวเอง โดยพิจารณาจาก

  • สภาพผิว: ถ้าผิวแห้งมาก ควรเลือกครีมที่มีความเข้มข้นสูง ถ้าผิวมัน ควรเลือกครีมที่เนื้อบางเบา
  • ปัญหาผิว: ถ้ามีปัญหาผิวแห้งกร้านมาก ควรเลือกครีมที่มีส่วนผสมของสารบำรุง เช่น เซราไมด์ หรือไฮยาลูรอนิค แอซิด
  • ส่วนผสม: หลีกเลี่ยงครีมที่มีส่วนผสมของน้ำหอมหรือสีสังเคราะห์ หากมีผิวแพ้ง่าย

วิธีใช้ครีมบำรุงมือ

ควรทาครีมบำรุงมือเป็นประจำ วันละ 2-3 ครั้ง โดยเฉพาะหลังล้างมือ หรือหลังสัมผัสน้ำบ่อยๆ เพื่อให้ผิวมือชุ่มชื้นอยู่เสมอ

2. น้ำมันมะกอก

น้ำมันมะกอกในที่นี้ไม่ได้ซื้อมากินหรือทำกับข้าวแต่อย่างใด แต่ให้ซื้อแบบทาเพื่อบำรุงผิวหนัง เพราะน้ำมันมะกอกมีคุณสมบัติช่วยบำรุงผิวหนังและเล็บให้แข็งแรง และสวยงาม น้ำมันมะกอกอุดมไปด้วยวิตามินและสารต้านอนุมูลอิสระ ที่ช่วยบำรุงผิวและเล็บได้เป็นอย่างดี

ประโยชน์ของน้ำมันมะกอกต่อมือและเล็บ

  • เพิ่มความชุ่มชื้น: น้ำมันมะกอกช่วยเติมความชุ่มชื้นให้กับผิวมือและเล็บที่แห้งกร้าน ทำให้ผิวเนียนนุ่มและเล็บไม่เปราะ
  • บำรุงเล็บให้แข็งแรง: วิตามินและสารอาหารในน้ำมันมะกอกช่วยบำรุงเล็บให้แข็งแรง ลดปัญหาเล็บแตก เล็บลอก และเล็บเหลือง
  • ลดการเกิดหนังกาง: น้ำมันมะกอกช่วยให้หนังรอบเล็บนุ่มชุ่มชื้น ลดปัญหาหนังกางและหนังรอบเล็บฉีกขาด
  • ชะลอการเกิดริ้วรอย: สารต้านอนุมูลอิสระในน้ำมันมะกอกช่วยชะลอการเกิดริ้วรอยที่มือ
  • บำรุงผิวให้เรียบเนียน: น้ำมันมะกอกช่วยผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว ทำให้ผิวมือเรียบเนียนขึ้น
  • ป้องกันการติดเชื้อ: น้ำมันมะกอกมีคุณสมบัติในการฆ่าเชื้อแบคทีเรีย ช่วยป้องกันการติดเชื้อที่มือและเล็บ

วิธีใช้น้ำมันมะกอกบำรุงมือและเล็บ

  • ทาโดยตรง: หลังอาบน้ำ หรือก่อนนอน หยดน้ำมันมะกอกเล็กน้อยบนฝ่ามือและเล็บ แล้วนวดเบาๆ
  • ผสมกับน้ำตาล: ทำสครับขัดมือ โดยผสมน้ำมันมะกอกกับน้ำตาลทรายแดง ขัดเบาๆ เพื่อขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว
  • แช่มือ: ผสมน้ำมันมะกอกกับน้ำอุ่น แช่มือประมาณ 15-20 นาที เพื่อให้ผิวและเล็บซึมซับสารอาหาร
  • ผสมกับน้ำผึ้ง: ผสมน้ำมันมะกอกกับน้ำผึ้ง ทาลงบนเล็บและหนังรอบเล็บ ทิ้งไว้ประมาณ 10 นาที แล้วล้างออก

ข้อควรระวังในการใช้น้ำมันมะกอกบำรุงจมุกเล็บฉีก

  • ใช้อย่างสม่ำเสมอ: เพื่อให้เห็นผลที่ดี ควรใช้น้ำมันมะกอกบำรุงมือและเล็บอย่างสม่ำเสมอ
  • เลือกใช้น้ำมันมะกอกบริสุทธิ์: เพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุด ควรใช้น้ำมันมะกอกบริสุทธิ์ 100%

3. ออยล์บำรุงเล็บ

ออยล์บำรุงเล็บมักมีส่วนผสมของน้ำมัน ไม่ว่าจะเป็นน้ำมันมะกอก น้ำมันจมูกข้าวสาลี นำมันมะพร้าว และอาจมีส่วนผสมของวิตามินอีเพื่อบำรุงเพิ่มเติมด้วย ให้หยดออยล์บำรุงเล็บลงบนเล็บและหนังรอบๆเล็บ ทาวันละครั้งหรือสองครั้ง เช้าและเย็น

ข้อดีของออยล์บำรุงเล็บ

  • เพิ่มความชุ่มชื้น: ออยล์บำรุงเล็บจะช่วยเติมความชุ่มชื้นให้กับเล็บและหนังรอบเล็บ ทำให้เล็บไม่แห้งกร้านและเปราะ
  • บำรุงเล็บให้แข็งแรง: ออยล์บำรุงเล็บส่วนใหญ่จะมีส่วนผสมของวิตามินและแร่ธาตุที่ช่วยบำรุงเล็บให้แข็งแรง ลดปัญหาเล็บแตก เล็บลอก
  • ป้องกันหนังกาง: ช่วยให้หนังรอบเล็บนุ่มชุ่มชื้น ลดปัญหาหนังกางและหนังรอบเล็บฉีกขาด
  • ทำให้เล็บเงางาม: ออยล์บำรุงเล็บบางชนิดมีส่วนผสมที่ช่วยให้เล็บเงางาม ดูสุขภาพดี
  • มีกลิ่นหอมสดชื่น: ออยล์บำรุงเล็บหลายชนิดมีกลิ่นหอมที่ช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย

ส่วนผสมสำคัญในออยล์บำรุงเล็บ

  • น้ำมันมะกอก: ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นและบำรุงเล็บให้แข็งแรง
  • น้ำมันอาร์แกน: มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง ช่วยบำรุงเล็บให้แข็งแรงและปกป้องเล็บจากความเสียหาย
  • น้ำมันจมูกข้าวสาลี: ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับเล็บและหนังคิวติเคิล
  • วิตามินอี: ช่วยบำรุงเล็บให้แข็งแรงและป้องกันเล็บจากความเสียหาย
  • โปรตีน: ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับเล็บ

วิธีใช้ออยล์บำรุงเล็บ

  1. ทำความสะอาดเล็บ: ล้างมือให้สะอาดและเช็ดให้แห้ง
  2. หยดออยล์: หยดออยล์บำรุงเล็บลงบนเล็บและหนังคิวติเคิล
  3. นวดเบาๆ: นวดเบาๆ ให้ทั่วเล็บและหนังคิวติเคิล
  4. ทาเป็นประจำ: ควรทาออยล์บำรุงเล็บวันละ 1-2 ครั้ง หรือตามคำแนะนำบนฉลากผลิตภัณฑ์

ข้อดีของการใช้ออยล์บำรุงเล็บเมื่อเทียบกับการใช้น้ำมันมะกอก

  • สูตรเฉพาะ: ออยล์บำรุงเล็บมีสูตรที่พัฒนาขึ้นมาเพื่อบำรุงเล็บโดยเฉพาะ มีส่วนผสมที่หลากหลายและเข้มข้นกว่า
  • สะดวกในการใช้: ออยล์บำรุงเล็บบรรจุในขวดขนาดพกพา สะดวกในการพกพาและใช้งาน
  • มีกลิ่นหอม: ออยล์บำรุงเล็บมีกลิ่นหอมหลากหลาย ช่วยให้การบำรุงเล็บเป็นเรื่องสนุก

4. กรรไกรตัดเล็บ

ใช้ตัดเล็บให้สั้นและเรียบร้อยด้วยกรรไกรตัดเล็บและอุปกรณ์ตัดแต่งเล็บ ปัจจุบันคุณจะสามารถหาซื้อชุดตัดแต่งเล็บที่มีกรรไกรตัดเล็บมากกว่าหนึ่งแบบ และอาจมีอุปกรณ์เสริมในการจัดตัดแต่งเล็บอีกด้วย จะมีอะไรบ้างลองดูได้ดังนี้

กรรไกรตัดเล็บ มีกี่แบบ?

โดยทั่วไปแล้ว กรรไกรตัดเล็บสามารถแบ่งออกได้เป็นหลายประเภทตามรูปทรงและการใช้งาน เช่น

  • กรรไกรตัดเล็บแบบตรง: เป็นแบบที่เราคุ้นเคยกันดี มีลักษณะใบมีดตรง เหมาะสำหรับตัดเล็บทั่วไป
  • กรรไกรตัดเล็บแบบโค้ง: มีใบมีดโค้งตามรูปทรงของเล็บ ทำให้ตัดเล็บได้ง่ายและเรียบเนียน
  • กรรไกรตัดเล็บแบบปากเฉียง: มีใบมีดเฉียง เหมาะสำหรับตัดเล็บที่หนาหรือเล็บเท้า
  • กรรไกรตัดหนัง: ใช้สำหรับตัดหนังที่ตายแล้วรอบเล็บ หรือหนังกาง
  • กรรไกรตัดเล็บเด็ก: มีขนาดเล็กและปลายมน เหมาะสำหรับตัดเล็บเด็ก

เซ็ตตัดแต่งเล็บ มีอะไรบ้าง?

นอกจากกรรไกรตัดเล็บแล้ว ในเซ็ตตัดแต่งเล็บมักจะมีอุปกรณ์อื่นๆ เพิ่มเติม เช่น

  • ตะไบเล็บ: ใช้สำหรับขัดเล็บให้เรียบเนียนและมีรูปทรงที่สวยงาม
  • คีมตัดหนัง: ใช้สำหรับตัดหนังที่ตายแล้วรอบเล็บ
  • มีดขูดหนัง: ใช้สำหรับขูดหนังที่ตายแล้วบริเวณขอบเล็บ
  • ไม้ดันหนัง: ใช้สำหรับดันหนังรอบเล็บให้หลุดออก
  • แหนบ: ใช้สำหรับดึงขนที่ฝังในหรือเศษหนังเล็กๆ น้อยๆ
  • เครื่องเจียรเล็บไฟฟ้า: ใช้สำหรับขัดเล็บให้เรียบเนียนและเงางาม

แต่ละชิ้นใช้ทำอะไร?

  • กรรไกรตัดเล็บ: ใช้สำหรับตัดเล็บให้สั้นลง
  • ตะไบเล็บ: ใช้สำหรับขัดเล็บให้เรียบเนียนและมีรูปทรงที่สวยงาม
  • คีมตัดหนัง: ใช้สำหรับตัดหนังที่ตายแล้วรอบเล็บ
  • มีดขูดหนัง: ใช้สำหรับขูดหนังที่ตายแล้วบริเวณขอบเล็บ
  • ไม้ดันหนัง: ใช้สำหรับดันหนังรอบเล็บให้หลุดออก
  • แหนบ: ใช้สำหรับดึงขนที่ฝังในหรือเศษหนังเล็กๆ น้อยๆ
  • เครื่องเจียรเล็บไฟฟ้า: ใช้สำหรับขัดเล็บให้เรียบเนียนและเงางาม

คำแนะนำเพิ่มเติมในการดูแลตัดตกแต่งเล็บ

  • ควรตัดเล็บให้สั้นพอดี ไม่ควรตัดสั้นเกินไป
  • ตัดเล็บให้เป็นเส้นตรง ไม่ควรตัดมนมากเกินไป
  • หลังตัดเล็บ ควรใช้ตะไบเล็บขัดให้เรียบเนียน

5. ถุงมือยาง

ป้องกันมือจากการสัมผัสสารเคมี ถุงมือยาง มีหลายแบบ หลายประเภท และมีการออกแบบมาเพื่อตอบสนองความต้องการในการใช้งานที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งแต่ละประเภทก็จะมีคุณสมบัติและข้อดีที่แตกต่างกันไปค่ะ

การแบ่งประเภทของถุงมือยาง

โดยทั่วไปแล้ว ถุงมือยางสามารถแบ่งออกได้ตามวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิต และวัตถุประสงค์ในการใช้งาน ดังนี้ค่ะ

ประเภทของถุงมือยางตามวัตถุดิบ

  • ถุงมือยางธรรมชาติ: ผลิตจากน้ำยางธรรมชาติ มีความยืดหยุ่นสูง ใส่สบาย แต่อาจมีคนแพ้ละอองยางได้
  • ถุงมือยางสังเคราะห์: ผลิตจากวัสดุสังเคราะห์ เช่น ไนไตรล หรือ PVC มีความทนทานต่อสารเคมีได้ดีกว่า และลดความเสี่ยงต่อการแพ้

ประเภทของถุงมือยางตามวัตถุประสงค์ในการใช้งาน

  • ถุงมือยางทางการแพทย์: ใช้ในโรงพยาบาล คลินิก และงานที่เกี่ยวข้องกับสุขอนามัย
  • ถุงมือยางสำหรับงานอุตสาหกรรม: ใช้ในโรงงานอุตสาหกรรมต่างๆ เพื่อป้องกันมือจากสารเคมี สารกัดกร่อน และสิ่งสกปรก
  • ถุงมือยางสำหรับงานบ้าน: ใช้ในการทำความสะอาดบ้าน หรืองานที่สัมผัสกับน้ำและสารเคมี
  • ถุงมือยางสำหรับงานครัว: ใช้ในการเตรียมอาหาร เพื่อป้องกันมือจากเชื้อโรคและสารเคมี

ปัจจัยที่ควรพิจารณาในการเลือกซื้อถุงมือยาง

  • วัตถุประสงค์ในการใช้งาน: เลือกให้เหมาะสมกับงานที่ทำ เช่น งานทางการแพทย์ งานอุตสาหกรรม หรือ งานบ้าน
  • วัสดุ: เลือกวัสดุที่เหมาะสมกับสารเคมีที่ต้องสัมผัส เช่น ไนไตรลเหมาะสำหรับสารเคมี
  • ขนาด: เลือกขนาดที่พอดีกับมือ เพื่อความสะดวกในการใช้งาน
  • ความหนา: เลือกความหนาที่เหมาะสมกับระดับการป้องกันที่ต้องการ
  • ความรู้สึกสัมผัส: เลือกถุงมือที่มีความรู้สึกสัมผัสที่เหมาะสมกับงานที่ทำ
  • ราคา: เปรียบเทียบราคาจากหลายๆ แบรนด์ เพื่อเลือกซื้อในราคาที่เหมาะสม

ข้อควรระวังในการใช้งานถุงมือยาง

  • ตรวจสอบความเสียหาย: ก่อนใช้งานทุกครั้ง ควรตรวจสอบว่าถุงมือมีรอยร้าวหรือฉีกขาดหรือไม่
  • เปลี่ยนถุงมือใหม่: เมื่อถุงมือสกปรกหรือชำรุด ควรเปลี่ยนใหม่ทันที
  • ล้างมือให้สะอาด: หลังจากถอดถุงมือออก ควรล้างมือให้สะอาดด้วยสบู่และน้ำ

6. ไม้ดันหนังโคนเล็บ

ไม้ดันหนัง หรือ ไม้ดุนหนังเล็บ (หากเป็นไม้ อาจจะเรียกว่า ไม้ส้มทำเล็บ) ช่วยดันหนังคิวติเคิลออกเบาๆ (หนังคิวติเคิล (Cuticle) หรือที่หลายคนเรียกว่า หนังก้นเล็บ หรือหนังโคนเล็บ นั้นมีลักษณะเป็นแผ่นบางๆ โปร่งใส อยู่บริเวณโคนเล็บ และขอบเล็บ หน้าที่หลักคือการป้องกันไม่ให้เชื้อโรคหรือสิ่งสกปรกเข้าไปทำอันตรายต่อรากเล็บ ซึ่งเป็นส่วนที่เล็บของเราเจริญเติบโต)

โดยทั่วไปแล้ว ไม้ดันหนังโคนเล็บสามารถแบ่งออกได้ตามลักษณะของปลายที่ใช้ดันหนัง ดังนี้ค่ะ

  • ปลายแบน: เป็นแบบที่พบเห็นได้บ่อยที่สุด มีลักษณะปลายแบนเรียบ เหมาะสำหรับดันหนังเบาๆ และทั่วถึง
  • ปลายแหลม: มีปลายแหลมเล็กน้อย ช่วยให้ดันหนังได้ลึกและเข้าถึงซอกเล็กๆ ได้ดี
  • ปลายสองด้าน: มีทั้งปลายแบนและปลายแหลมในอันเดียวกัน สามารถเลือกใช้ได้ตามความเหมาะสม
  • ปลายช้อน: มีลักษณะคล้ายช้อนเล็กๆ ช่วยดันหนังและยกหนังขึ้นมาได้พร้อมกัน
  • ปลายส้อม: มีลักษณะเป็นส้อมเล็กๆ ใช้สำหรับดันหนังและแยกหนังที่ติดกัน

วัสดุที่ใช้ทำไม้ดันหนังโคนเล็บ

  • สแตนเลส: เป็นวัสดุที่นิยมใช้มากที่สุด เพราะมีความแข็งแรง ทนทาน ไม่เป็นสนิม และสามารถฆ่าเชื้อได้ง่าย
  • ไม้: มีน้ำหนักเบา แต่ไม่ทนทานเท่าสแตนเลส และอาจมีการบิดเบี้ยวได้ง่าย
  • พลาสติก: มีน้ำหนักเบา ราคาถูก แต่ความทนทานอาจไม่เท่าวัสดุอื่นๆ

ปัจจัยที่ควรพิจารณาในการเลือกไม้ดันหนังโคนเล็บ

  • วัตถุประสงค์ในการใช้งาน: หากต้องการดันหนังเบาๆ ก็เลือกปลายแบน แต่ถ้าต้องการดันหนังลึกๆ ก็เลือกปลายแหลม
  • วัสดุ: เลือกวัสดุที่แข็งแรง ทนทาน และเหมาะกับการใช้งาน
  • ขนาด: เลือกขนาดที่พอดีกับมือและใช้งานได้สะดวก
  • ราคา: เปรียบเทียบราคาจากหลายๆ ร้านค้า เพื่อเลือกซื้อในราคาที่เหมาะสม

ข้อควรระวังในการใช้งานไม้ดันหนังโคนเล็บ

  • ฆ่าเชื้อ: ก่อนและหลังการใช้งานทุกครั้ง ควรทำความสะอาดและฆ่าเชื้อไม้ดันหนัง
  • ใช้อย่างเบามือ: ไม่ควรดันหนังแรงเกินไป อาจทำให้เกิดการอักเสบได้
  • หากมีเลือดออก: ควรหยุดการใช้งานทันที และปรึกษาแพทย์

บอกลาจมูกเล็บฉีก ไม่ยาก

ปัญหาหนังโคนเล็บลอกเป็นปัญหาที่สามารถแก้ไขได้ โดยการดูแลผิวหนังรอบเล็บให้ชุ่มชื้น หลีกเลี่ยงการสัมผัสสารเคมี และรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ หากปัญหาไม่ดีขึ้น ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับการตรวจวินิจฉัยและรักษา

Shopee TH

Share
Published by
Shopee TH

Recent Posts

เลือกหลอดไฟแบบไหนดี? เปิดเคล็ดลับเลือกให้ถูกใจใช้เหมาะกับงาน!

การเลือกหลอดไฟแบบไหนดีที่เข้ากับการตกแต่งบ้านหรือที่ทำงาน อาจดูเหมือนเป็นเรื่องง่าย แต่รู้ไหมว่าแสงจากหลอดไฟที่แตกต่างกันก็สามารถสร้างบรรยากาศที่แตกต่าง เช่น ทำให้รู้สึกกระตือรือร้น หรือช่วยให้ผ่อนคลายได้! ไม่ว่าจะเป็นแสงไฟเดย์ไลท์ คูลไวท์ หรือ warm light ซึ่งแต่ละแบบมีสีและการใช้งานที่แตกต่างกัน มาดูกันว่าแสงจากหลอดไฟแต่ละประเภทเหมาะกับการใช้งานแบบไหน และจะเลือกสีหลอดไฟอย่างไรให้ตอบโจทย์การใช้งานได้ตรงใจที่สุด! จิตวิทยาว่าด้วยสี:…

1 day ago

วิธีดูแลรถหลังน้ำท่วม รถน้ำท่วมแล้วต้องทำยังไงมาดูกัน!

ประเทศไทยมีอากาศร้อนชื้นและฝนตกบ่อย โดยเฉพาะในฤดูฝนที่มักมีฝนตกหนักจนเกิดน้ำท่วม ซึ่งอาจทำให้รถน้ำท่วมเสียหายได้ หากเกิดเหตุการณ์นี้ สิ่งสำคัญคือการดูแลรถอย่างถูกวิธี เพื่อป้องกันความเสียหายจากน้ำท่วมรถเพิ่มเติม การจัดการอย่างรวดเร็วและถูกต้องจะช่วยให้รถกลับมาใช้งานได้ปลอดภัยและลดปัญหาในระยะยาว มาดูวิธีดูแลรถหลังน้ำท่วมกัน ตั้งแต่การตรวจสอบเบื้องต้นไปจนถึงการป้องกันความเสียหาย แล้วตอบคำถามว่าน้ำท่วมรถประกันจ่ายไหม? จ่ายเท่าไหร่? ในส่วนท้ายของบทความนี้ได้เลย! Cr: Freepik 1.…

1 day ago

ภัยใกล้ตัว! คลิปสั้นชวนคิด เตือนภัยไซเบอร์ป้องกันมิจฉาชีพยุคดิจิทัล

ในยุคดิจิทัลที่เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันมากขึ้นเรื่อย ๆ ปัญหา ภัยไซเบอร์ ก็ตามมาติด ๆ ภัยไซเบอร์ คือ การกระทำที่ผิดกฎหมายในโลกออนไลน์ เช่น การหลอกลวง การขโมยข้อมูลส่วนบุคคล หรือการโจมตีระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งมิจฉาชีพออนไลน์จะใช้ช่องทางต่าง ๆ…

1 day ago

มนุษย์ควรดื่มน้ำวันละกี่มล. ดี? คำนวณง่าย ๆ พร้อมเช็คสัญญาณเตือนภาวะขาดน้ำ!

ควรดื่มน้ำวันละกี่มล. ถึงจะเพียงพอ? คำนวณปริมาณน้ำที่เหมาะสมกับร่างกายของคุณได้ง่าย ๆ พร้อมวิธีสังเกตสัญญาณเตือนภาวะขาดน้ำที่คุณอาจมองข้ามไป

1 day ago

อัปเดต! สมรสเท่าเทียม ล่าสุด เริ่มใช้เมื่อไหร่ สิทธิไหนใช้ได้ทันที

เมื่อความหลากหลายทางเพศถูกเปิดกว้างมากขึ้นในสังคมและหลายประเทศก็สนับสนุนกลุ่ม LGBTQI+ ให้สามารถใช้ชีวิตในฐานะคู่รักได้อย่างถูกต้องตามกฎหมายที่ไม่ได้มีแค่ชายและหญิง แต่ใครก็ได้ที่รักกัน Love is Love โดยไทยเองก็พึ่งออกกฎหมายสมรสเท่าเทียม ล่าสุด ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งข่าวดีที่ในวันนี้จะมาสรุปสาระสำคัญเกี่ยวกับกฎหมายสมรสเท่าเทียมว่าจะเริ่มใช้ได้เมื่อไหร่และสิทธิไหนใช้ได้ทันที พร้อมคำถามที่พบบ่อยที่อย่ารอช้า! ไปดูกันเลย Cr: freepik ส่องกฎหมายใหม่!…

1 day ago

สตาร์ทรถไม่ติดเกิดจากอะไร? พร้อมหาวิธีแก้ไขและทริคในการดูแลรักษารถยนต์

ใครที่ใช้รถเป็นประจำไม่ว่าจะขับไปทำงาน ไปส่งเด็ก ๆ ที่โรงเรียน ขับไปช้อปปิ้งซื้อของต่าง ๆ หรือจะขับไปท่องเที่ยวช่วงวันหยุด แล้ววันดีคืนดีรถคันโปรดดันงอแง สตาร์ทไม่ติด แต่ไม่รู้จะแก้ยังไง วันนี้จะพาไปหาสาเหตุ พร้อมวิธีการแก้ไขเบื้องต้นและทริคการดูแลรักษารถยนต์ง่าย ๆ การดูแลรักษารถยนต์อย่างถูกวิธีจะทำให้คุณใช้รถต่อได้อย่างยาวนาน เข้าใจรถของคุณมากขึ้นและสามารถรับมือได้หากเกิดเหตุการณ์ซ้ำเดิมอีกครั้ง …

2 days ago