รู้หรือไม่? สมาร์ทโฟนที่เราใช้ทุกวันนี้ แบ่งออกเป็น 2 ระบบปฏิบัติการหลัก ๆ คือ iOS กับ Android ต้องบอกว่าทั้งสองระบบนี้ถือเป็นคู่แข่งขับเคี่ยวกันมาโดยตลอด แต่เราในฐานะผู้ใช้งานก็มักจะมีคำถามที่ว่าระบบไหนที่ดีกว่ากัน ซึ่งเป็นคำถามที่ตอบได้ยากมาก เพราะทั้งระบบ iOS กับ Android มีจุดเด่นที่ไม่เหมือนกัน ขึ้นอยู่กับว่าจุดเด่นตรงนั้นสามารถตอบโจทย์การใช้งานได้มากที่สุด สำหรับใครกำลังคิดอยากจะซื้อมือถือเครื่องใหม่ แต่ไม่รู้ว่าจะเลือกใช้เป็น iPhone ที่เป็นระบบ iOS หรือมือถือยี่ห้ออื่น ๆ ที่ใช้ระบบ Android อันไหนดี และวันนี้ Shopee จึงพาทุกคนไปทำความรู้จัก iOS กับ Android แล้วระบบ iOS กับ Android ต่างกันอย่างไร และทั้งสองระบบนี้มีข้อดีอย่างไรบ้าง เพื่อให้เพื่อน ๆ ได้ลองนำข้อมูลเหล่านี้ไปพิจารณาก่อนตัดสินใจซื้อ มาดูกัน
หัวข้อต่างๆ ของบทความนี้
ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักระบบปฏิบัติการ iOS กับ Android คืออะไร เพื่อจะได้เข้าใจว่าทำไมระบบ iOS กับ Android จึงมีความแตกต่างกัน
iOS มีชื่อเดิมคือ iPhone OS เป็นระบบปฏิบัติการของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ขนาดพกพา ของ Apple เปิดตัวครั้งแรกเมื่อ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2550 โดยระบบ iOS ทำขึ้นมาเพื่อสมาร์ทโฟน แท็บเล็ต และอุปกรณ์ฟังเพลง และอื่น ๆ ทั้งนี้ หลักการทำงานของ iOS เป็นระบบปฏิบัติการที่สามารถควบคุม แอปพลิเคชัน การทำงานด้านต่าง ๆ โดยสามารถดาวน์โหลดแอปฯ พจาก App Store ของ Apple ซึ่งระบบปฏิบัติการ iOS สามารถใช้งานได้เฉพาะอุปกรณ์ของ Apple เท่านั้น
Android คือ ระบบปฏิบัติการ (OS) หรือแพลตฟอร์ม ที่ใช้ในการควบคุมการทำงานบนอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ ซึ่งระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ ได้เริ่มพัฒนาเมื่อปี พ.ศ. 2550 โดยบริษัทแอนดรอย์ด จากนั้น Google ได้เข้ามาซื้อ Android เพื่อนำมาพัฒนาต่อ และเมื่อปี พ.ศ. 2551 ได้มีการร่วมมือกับกว่า 30 บริษัทชั้นนำ เพื่อพัฒนาระบบแอนดรอย์ดต่อไป โดยระบบปฏิบัติแอนดรอยด์จะเป็นแบบ OpenSource ใครๆ ก็สามารถเข้ามาแก้ไขหรือปรับปรุงเป็นของตัวเองได้
Cr: freepik
เมื่อรู้จักระบบปฏิบัติการ iOS กับ Android กันไปแล้ว คราวนี้เราจะมาเปรียบเทียบเพื่อเห็นว่าระบบ iOS กับ Android ต่างกันอย่างไร ดังนี้
Android จะเป็นแบบ OpenSource ซึ่งใคร ๆ ก็สามารถเข้ามาแก้ไขหรือปรับปรุงเพื่อให้เป็นของตัวเองได้ เราจึงเห็นมือถือหลากหลายยี่ห้อ ได้มีการดัดแปลงมาใช้เป็น Android OS ของยี่ห้อตัวเอง แต่ในขณะที่ระบบ iOS เป็นระบบที่ใช้เฉพาะอุปกรณ์ของ Apple เท่านั้น
ปัจจุบัน Android สามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชันนอก Store ได้แล้ว แต่ในขณะที่ iOS ยังไม่สามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชันนอก App Store ได้ แต่ในอนาคตก็ไม่แน่อาจจะดาวน์โหลดนอก Store ได้
ถ้าพูดถึงการใช้งานระหว่าง iOS กับ Android ต้องบอกว่า Android จะมีความเป็นอิสระในการใช้งานมากกว่า iOS เพราะเปรียบเสมือมีคอมพิวเตอร์เครื่องหนึ่งเลย สามารถปรับแต่งในการตั้งค่าของเครื่องได้ โอนถ่ายข้อมูลง่ายแค่เสียบแฟลชไดร์ฟเท่านั้น แต่ถ้าเป็น iOS เน้นความง่าย แต่ระบบค่อนข้างซับซ้อนมากกว่า ซึ่งจะมีบริการที่เป็นส่วนกลาง เช่น iTunes, Games Center และ iCloud ซึ่งตัวระบบจะมีความเป็นหนึ่งเดียวกันของระบบ ทำให้ผู้ใช้งานรู้สึกง่ายและสะดวก
หากพูดถึงด้านความปลอดภัยของ iOS กับ Android ก็ต้องยอมรับ iOS จะมีความปลอดภัยมากกว่า Android เนื่องจาก iOS เป็นระบบปิดที่ไม่ใครสามารถเข้าไปจัดการได้นอกจาก Apple จะแตกต่างจากระบบปฏิบัติการ Android ที่แอปพลิเคชันจะต้องขอสิทธิ์ทุกอย่างตั้งแต่แรก และหากผู้ใช้จะติดตั้งแอปพลิเคชันก็จะต้องยอมรับสิทธิ์ทั้งหมดที่แอปพลิเคชั่นนั้นร้องขอ โดยไม่สามารถเลือกว่าจะอนุญาตให้แอปพลิเคชันมีสิทธิ์แค่อย่างใดอย่างหนึ่งได้
ถ้าพูดในเรื่องนี้ก็คงต้องยกให้กับ Android เพราะจะมีการทำงานที่เป็นแบบ Full Multitask คือ แอปพลิเคชันที่มีหลายฟังก์ชันในตัวเดียวกัน การทำงานคล้ายกับคอมพิวเตอร์ที่มีระบบการทำงานหลายอย่างพร้อมกัน หรือเรียกว่า “Multitasking” แต่ระบบ iOS จะเป็นแบบ Semi Multitask คือทำงานเฉพาะแอปพลิเคชันที่เปิดอยู่ให้มีความสำคัญสูงสุดนั่นเอง
ฟังก์ชันการทำงานของระบบระหว่าง iOS กับ Android ต้องบอกว่า iOS นั้นมีฟังก์ชันการทำงานที่หลากหลายน้อยกว่า Android เนื่องจากแหล่งความคิดสร้างสรรค์มาจากแหล่งเดียว ซึ่งแตกต่างกับ Android ที่มีฟังก์ชันในการทำงานที่หลากหลาย เนื่องจากเป็นระบบปฏิบัติการเป็นแบบเปิด จึงทำให้มีนักพัฒนาคนนอกเข้ามาช่วยสร้างสรรค์ฟังก์ชันของ Android
iOS จะมีการอัปเดตได้ยาวนานกว่า Android เนื่องจาก iOS ได้ถูกออกแบบมาเพื่อใช้งานสำหรับอุปกรณ์ของ Apple เท่านั้น ทำให้สามารถเข้าถึงฮาร์ดแวร์ได้โดยตรง ซึ่งแตกต่างกับ Android ที่ไม่ได้ออกแบบมาเพื่อการใช้งานของมือถือยี่ห้อใดยี่ห้อหนึ่ง
คราวนี้เรามาดูกันสิว่า ข้อดีของ iOS และข้อดีของ Android มีอะไรบ้าง เพื่อจะได้ช่วยให้คุณตัดสินใจได้ง่ายขึ้นว่าจะเลือกใช้ระบบปฏิบัติการไหนดี
Cr: pixabay
หลังจากได้อ่านบทความนี้จบแล้ว หวังว่าทุกคนคงเข้าใจระบบ iOS กับ Android มากยิ่งขึ้น คราวนี้คงกันแล้วว่าระบบ iOS กับ Android ต่างกันอย่างไร ซึ่งถ้าจะให้เราแนะนำก็ต้องบอกว่าทั้งสองระบบนี้มีจุดเด่นและข้อดีที่แตกต่างกัน ใครใช้อุปกรณ์ตัวอื่นของ Apple ไม่ว่าจะเป็น iPad, Mac, หรือ Apple Watch การเลือกที่จะใช้ iPhone ระบบปฏิบัติการ iOS ก็จะช่วยให้การใช้งานของคุณง่ายยิ่งขึ้น แต่ถ้าใครชอบความเป็นอิสระ มีลูกเล่นการใช้งานที่หลากหลาย แนะนำเลือกเป็นมือถือระบบปฏิบัติการ Android ก็น่าจะตอบโจทย์ในการใช้งานของคุณได้ดี ส่วนใครสนใจซื้อมือถือและอุปกรณ์เสริม เช่น คีย์บอร์ดมือถือ ก็เข้ามาเลือกช้อปที่ Shopee ได้เลย มีให้เลือกหลายยี่ห้อ โปรโมชั่นและโค้ดส่วนลดมากมายรอคุณอยู่ นอกจากนี้หากต้องการอ่านรีวิว 10 มือถือ 5G ราคาไม่เกิน 5000 หรือ มือถือ 5G ราคาไม่เกิน 10000 หรือ ไอแพดรุ่นไหนดี สามารถติดตามอ่านบทความดี ๆ ได้ที่ Shopee Blog
ไปเที่ยวคนเดียวก็สนุกได้! แต่จะให้ขาดรูปสวยๆ ไปได้ยังไง? หรืออยากรีวิวอาหาร รีวิวสินค้าให้ดูโปร แต่ไม่มีคนช่วยถ่ายให้ ทำไงดี? ปัญหาเหล่านี้จะหมดไป แค่มี 'ไม้เซลฟี่' คู่ใจ! ไม่ว่าจะถ่ายภาพนิ่งหรือวิดีโอ ก็ทำได้ง่ายๆ ด้วยมือถือเครื่องเดียว! วันนี้เราจะมาแนะนำ…
ไม่ต้องเสียเวลาหาที่จอดรถ! รวม 10 คาเฟ่ลับใกล้รถไฟฟ้าสายสีเหลือง ที่ต้องไปเช็กอิน เดินทางสะดวก ถ่ายรูปสวย สายคอนเทนต์ห้ามพลาด!
ใครที่ดื่มนมแล้วรู้สึกท้องอืด ท้องเฟ้อ รู้สึกเสียดท้อง ไปจนถึงท้องเสียอาจหมายถึงคุณกำลังแพ้แลคโตสซึ่งพบได้ในนมวัวนั่นเอง แล้วจะทำอย่างไร? ให้เปลี่ยนมาดื่มนมแบบไม่มีน้ำตาลแลคโตส หรืแลคโตสฟรีแทนที่ไม่ต้องกังวลเพราะดื่มง่าย คุณประโยชน์เทียบเท่านมวัวทั่วไป ที่จะบอกเล่าว่าแลคโตสฟรี คืออะไร และหากสนใจเลือกซื้อแลคโตสฟรี ยี่ห้อไหนดี? ที่ได้ทั้งความอร่อย น้ำตาลน้อย ไขมันต่ำ…
ยุคดิจิทัลหลายคนต้องใช้เวลาอยู่หน้าจออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์มากขึ้น เช่น สมาร์ตโฟน คอมพิวเตอร์ แท็บเล็ต ทีวี หรืออื่น ๆ เรียกได้ว่าจ้องหน้าคอมหรือมือถือตั้งแต่เช้าจนตอนนอนเลย ซึ่งส่งผลทำให้เกิดอาการปวดตา ตาพร่าลาย ดวงตาเมื่อยล้า หรือทำให้มีปัญหาสายตาในภายหลัง แว่นกรองแสงสีฟ้า จึงกลายเป็นอีกหนึ่งไอเทมที่ได้ความสนใจเป็นอย่างมาก…
สำหรับสายเที่ยว หรือคนที่ต้องเดินทางบ่อย ๆ นอกจากรู้ว่า ไอเทมของพกขึ้นเครื่องบินไฟลท์ยาวมีอะไรบ้างแล้วนั้น อีกสิ่งที่ต้องรู้และปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัดเลยก็คือ การห้ามนำสิ่งของหลายอย่างขึ้นเครื่องบิน เพราะสิ่งของต้องห้ามจะไม่ได้รับอนุญาตให้นำขึ้นเครื่องด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัย ใครชอบเดินทางมาดูกันว่าของที่ห้ามเอาขึ้นเครื่องบินนั้นมีอะไรบ้าง รวมถึงของเหลวขึ้นเครื่องได้เท่าไหร่ ครีม 100 กรัม ขึ้นเครื่องได้ไหม และบุหรี่ไฟฟ้าขึ้นเครื่องได้ไหม…
ขนเยอะเกิ๊น! ต้องทำไงดีเนี่ย! เบื่อที่ต้องไปคลินิก ราคาแพงเกินไป ครั้นจะถอนเองก็ไม่ไหว หรือจะโกนก็ไม่กล้า เป็นอีกหนึ่งปัญหาที่กวนใจสาว ๆ ต้องบอกว่าเดี๋ยวนี้มีนวัตกรรมการกำจัดขนมีให้เลือกหลากหลายแบบมากขึ้น และหนึ่งในวิธีที่ได้รับความนิยมในการกำจัดขนมากที่สุดก็คือ “การเลเซอร์ขน” โดยปัจจุบันเครื่องเลเซอร์ขนมีให้เลือกหลายรูปแบบ และมีขนาดเล็ก เพื่อให้สามารถกำจัดขนเองที่บ้านได้ง่าย ๆ…