Health

เคล็ด(ไม่) ลับกับวิธีการรักษาเริมที่ปากอย่างไร ไม่ให้เป็นซ้ำอีก

เริม (Herpes) โรคผิวหนังที่สามารถติดต่อได้หากไม่ระวัง ซึ่งพบได้บ่อยมาก และเมื่อเป็นแล้วหลายคนรู้สึกอายกับการไปโรงพยาบาลทั้งที่ความจริงแล้ว โรคเริม หรือเริมที่ปาก สามารถเกิดได้ทั้งหญิงและชายหากร่างกายอ่อนแอ และได้รับเชื้อเข้ามา วันนี้เราจึงขอนำทุกคนมาทำความรู้จักกับโรคเริม รวมไปถึงสาเหตุ อาการ วิธีการรักษา ข้อควรปฏิบัติ และวิธีป้องกันเพื่อช่วยให้ห่างไกลโรค หรือรู้วิธีการรับมืออย่างถูกต้อง 

เริมเกิดจาก

เริมที่ปาก คือโรคติดต่อทางผิวหนัง โดยเกิดจากเชื้อไวรัสชนิดเฮอร์ปีส์ซิมเพล็กซ์ (Herpes simplex virus – HSV) จากรอยโรค หรือการสัมผัสสารคัดหลั่งของผู้ป่วยเริมคนอื่น ๆ ของผิวหนัง เช่น การดื่มน้ำ หรือใช้ของร่วมกับผู้ป่วยไม่ว่าจะเป็นช้อน ส้อม แก้วน้ำ ผ้าขนหนู ลิปสติก หรืออุปกรณ์อื่น ๆ ทั้งภายในบ้าน หรือสถานที่สาธารณะทั่ว ๆ ไป รวมไปถึงการมีเพศสัมพันธ์กับผู้ที่มีเชื้อไวรัส ก็อาจได้รับเชื้อเข้าสู่ร่างกายเช่นกัน

อาการของเริมที่ปาก

ถ้าพูดถึงเริมที่ปากในสมัยอดีตจะมีการวิพากษ์วิจารณ์ค่อนข้างรุนแรง รวมถึงผู้ที่เป็นจะรู้สึกอาย และเสียบุคลิกซึ่งเริมจะมีอาการ ดังต่อไปนี้ 

  • จะมีระยะฟักตัวประมาณ 2-3 วัน หรืออาจนานถึง 20 วัน โดยสามารถพบได้ทุกเพศทุกวัยในระยะแรก
  • ระยะแรกจะมีลักษณะเป็นตุ่มน้ำพองใส ๆ บริเวณเยื่อบุของริมฝีปาก เหงือก ลิ้น และเพดานปาก หากแตกจะมีลักษณะเป็นแผลตื้น อีกทั้งยังมีลักษณะอาการเหงือกบวมแดง รวมไปถึงอาจมีกลิ่นปาก
  • จะมีลักษณะเป็นแผลบวมแดง ตุ่มพองด้านในเป็นน้ำใส ๆ และมักรู้สึกคันซึ่งบางคนอาจจะมีตุ่มด้านในช่องปากร่วมด้วย
  • ช่วงประมาณ 4-5 วันแรกมักจะมีอาการระคายเคือง และเจ็บคอ รวมถึงอาการทั่วไปจะมีไข้ วิงเวียนศีรษะ อ่อนเพลีย หรือปวดศีรษะรวมถึงเมื่อยตามตัว ซึ่งลักษณะอาการปวดจะไม่เจ็บเท่าบริเวณอวัยวะเพศ
  • หากเป็นแผลก็สามารถหายไปเองประมาณ 7 -10 วัน สำหรับในผู้ป่วยบางรายแผลอาจจะเน่าเปื่อยภายในช่องปากซึ่งมักเรียกว่า “เริมในช่องปากชนิดเป็นซ้ำ” ทั้งนี้บางคนอาจจะมีแผลเริมขึ้นได้ที่จมูก และใบหน้า
  • เริมสามารถหายได้เองในช่วงระยะเวลา 5-10 วันแต่อาจจะเกิดซ้ำได้หากได้รับการพักผ่อนที่ไม่เพียงพอ เครียด หรือมีประจำเดือน รวมไปถึงเป็นไข้หวัดต่าง ๆ

ซึ่งลักษณะอาการของเริมที่กล่าวมาทั้งหมดนี้เมื่อหายแล้วสามารถกลับมาเป็นซ้ำได้เนื่องจากเชื้อไวรัสสามารถอยู่ในร่างกายได้ตลอดชีวิต หากไม่ทำการรักษาที่ถูกต้องแต่โดยปกติเมื่อเป็นซ้ำอาการจะไม่รุนแรงเท่ากับครั้งแรก ถ้าหากบุคคลใดเป็นภายซ้ำภายในระยะหนึ่งปีมากกว่า 6 ครั้งแนะนำให้ไปพบแพทย์เพื่อทำการรักษา

วิธีการรักษาเริมที่ปาก

แม้จะเป็นโรคที่รักษาแล้วไม่หาย และอาจกลับมาเกิดโรคซ้ำได้ แต่สิ่งที่ดีคือการรู้จักปฏิบัติตน และดูแลรักษาแผลให้ถูกต้อง โดยมีวิธีในการรักษาโดยแบ่งออกเป็น 2 กรณี ดังนี้

วิธีการรักษาด้วยตนเอง

ซึ่งเป็นการปฏิบัติเพื่อดูแลตนเองเบื้องต้นโดยเริ่มที่

  • การทำให้แผลแห้งอยู่เสมอ โดยการเช็ดด้วยผ้าขนหนูที่สะอาดหลังอาบน้ำทุกครั้งเพื่อป้องกันไม่ให้แผลชื้น
  • พยายามไม่ไปแกะ หรือเกาบริเวณแผลซึ่งควรจะตัดเล็บให้สั้นอย่างสม่ำเสมอ
  • น้ำเกลือ อย่างน้ำเกลือ klean & kare หรือน้ำต้มสุก สามารถนำมาใช้ในการเช็ดทำความสะอาดแผลได้
  • หากมีการจับต้องแผลควรไปล้างมือโดยทันทีเพื่อป้องกันการนำมือไปสัมผัสกับบริเวณส่วนอื่น ๆ ของร่างกาย

วิธีการรักษาเริมที่ปากทางการแพทย์

เมื่อพบตุ่มใสซึ่งเป็นระยะเริ่มต้นของเริม แนะนำให้ไปพบแพทย์เพื่อการวินิจที่ถูกต้องแน่นอนโดยการวินิจฉัยหาเริมที่ปากนั้นได้แก่ การวิเคราะห์ถึงลักษณะของผื่น การเพาะเชื้อ หรือการตรวจทดสอบด้วยวิธี Tznack test หากผลออกมาว่าเป็นเริมควรได้รับยาในการรักษาระยะเฉียบพลันโดยทันที ส่งผลให้หายเร็วกว่าปกติ ดังนั้นจึงควรมาพบเเพทย์เมื่อมีอาการ 

โรคแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นเมื่อเป็นโรคเริมที่ปาก

  • อาจจะตาบอดได้หากได้เชื้อจากการสัมผัสสู่ดวงตา
  • สามารถแพร่เชื้อไปยังเนื้อเยื่อข้างเคียงได้
  • มีการติดเชื้อแบคทีเรียบริเวณผื่น หรืออาจจะกลับมาเป็นซ้ำ
  • สำหรับผู้ที่มีความบกพร่อง หรือภูมิคุ้มกันกันต่ำเมื่อได้รับเชื้อเข้าไปอาจจะส่งผลเสียต่อร่างกายถึงขั้นเสียชีวิตได้

ดังนั้น จึงไม่ควรมองข้ามเมื่อสังเกตพบว่า ตนเองมีความรู้สึกคล้ายลักษณะอาการข้างต้นโดยแนะนำให้ไปพบแพทย์โดยทันทีเพื่อการรักษาที่รวดเร็ว และมีอัตราโรคแทรกซ้อนเกิดขึ้นได้น้อยลง

ข้อควรปฏิบัติ และวิธีการป้องกันโรคเริม

เริมเป็นโรคที่กลับมาเป็นซ้ำได้ โดยบางครั้งไม่ได้มีอาการแสดงโดยทันทีทำให้อาจแพร่เชื้อไปสู่ผู้อื่นได้ จึงควรรู้จักวิธีป้องกัน และข้อควรปฏิบัติในการดูแลตนเองให้ปลอดภัย และห่างไกลโรคเริม

  1. หลีกเลี่ยงการสัมผัสสารคัดหลั่งต่าง ๆ เช่น น้ำเหลือง และน้ำลายจากการไอจาม หรือแผลของผู้ป่วย เช่น ตุ่มตามผิวหนัง หรือเยื่อเมือกต่าง ๆ
  2. ควรเลี่ยงการใช้งานสิ่งของ หรือเครื่องใช้ร่วมกับผู้อื่น เช่น จานชาม ช้อนส้อม แก้วน้ำ ผ้าเช็ดตัว เสื้อผ้า และมีดโกน
  3. ควรรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ครบทั้ง 5 หมู่ตลอดจนการนอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอ
  4. การรับประทานยาต้านไวรัสทุกวันจะช่วยลดการแพร่เชื้อสู่ผู้อื่น แต่อาจจะส่งผลข้างเคียงต่อผู้ป่วย ดังนั้นจึงควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้ยา
  5. หลีกเลี่ยงการเที่ยวสถานบริการ รวมถึงการมีเพศสัมพันธ์ที่มิใช่สามี หรือภรรยาของตนเอง หรือถ้าหากหลีกเลี่ยงไม่ได้ควรมีการสวมใส่ถุงยางอนามัยอย่างถูกวิธีทุกครั้ง และควรงดการมีเพศสัมพันธ์ทางปาก (Oral-genital contact)
  6. ไม่แนะนำให้เจาะปากเนื่องจากเชื้อไวรัสอาจจะแพร่กระจายสู่ผู้อื่นได้ จากสารคัดหลั่ง เช่น น้ำลาย หรือเนื้อเยื่อภายในช่องปาก

เป็นเริมที่ปากห้ามกินอะไร

  • เครื่องดื่มต่าง ๆ ทั้ง ชา กาแฟ น้ำอัดลม และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด
  • ของแปรรูปต่าง ๆ เช่น ของหมักดอง รวมไปถึงอาหารกระป๋อง เบคอน เนยเทียม และชีส ฯลฯ
  • อาหารทะเล และเนื้อสัตว์ ทั้ง หอย กุ้ง หมึก แมงดา ปลาทู ปลาซาบะ ไข่หอยเม่น เนื้อไก่ วัว รวมไปถึงเครื่องในของสัตว์ทุกชนิด
  • ผัก และผลไม้ เช่น ทุเรียน ลองกอง เงาะ ลำไย ลิ้นจี่ มะพร้าว หน่อไม้ กระถิน สะตอ ชะอม กะหล่ำปลี แครอท ฯลฯ
  • อาหารรสจัดทุกชนิด

เราก็ได้รู้ไปแล้วว่าเริมเกิดจากอะไร เริมอาการอย่างไร จะเห็นได้ว่าเริมที่ปากเป็นโรคติดต่อที่สามารถเกิดซ้ำได้ และยังสามารถกระจายไปสู่ผู้อื่นจึงจำเป็นต้องรู้จักวิธีป้องกัน วิธีการปฏิบัติตนในการดูแลรักษาสุขภาพรวมไปถึงการสังเกตลักษณะอาการหากอยู่ในกลุ่มเสี่ยงซึ่งควรรีบไปพบแพทย์เพื่อทำการรักษาโดยเร็วที่สุด สุดท้ายนี้ แม้ว่าเริมจะยังไม่มีวัคซีนในการรักษาแต่ก็สามารถลดอาการต่าง ๆ ลงได้โดยเริ่มจากปรับเปลี่ยนพฤติกรรม และการสร้างวินัยต่าง ๆ  ด้วยตัวคุณเอง

แหล่งข้อมูล : bangkoksafeclinic, paolohospital, cheewajit, poonrada

Nin ST

Joined SEO team in 2023, Nin enjoyed creating lifestyle, home & living, and pets-related articles for share as she has furbabies herself - 4 fluffy British short-hair cats :)

Share
Published by
Nin ST

Recent Posts

หอมจริงไม่จกตา! 11 แป้งเด็กยี่ห้อไหนหอม เนื้อเนียนละเอียด อ่อนโยนต่อผิว และปลอดภัย

เปรียบเทียบชัด ๆ 11 แป้งเด็กยี่ห้อไหนหอม ติดทนนานตลอดวัน ช่วยให้ผิวลูกนุ่มสบาย ไม่ระคายเคือง ปลอดภัยต่อผิวบอบบาง และวิธีเลือกแป้งให้เหมาะกับผิวลูก

18 mins ago

MBTI คืออะไร? รู้จัก 16 ประเภทแบบทดสอบบุคลิกภาพ ที่ช่วยให้รู้จักตัวเองมากขึ้น

ทำความรู้จักแบบทดสอบบุคลิกภาพ MBTI คืออะไร มีอะไรบ้าง ? เพื่อช่วยให้คุณเข้าใจตัวเองและผู้อื่นได้อย่างลึกซึ้ง สู่สายอาชีพที่เหมาะสม พร้อมวิธีทำแบบทดสอบ

2 days ago

10 สำลีเช็ดหน้ายี่ห้อไหนดี ใช้ง่าย ถนอมผิว สาว ๆ เทให้ใจ

เจาะลึกรีวิว 10 สำลีเช็ดหน้ายี่ห้อไหนดี ใช้ง่าย ถนอมผิว ไม่ระคายเคือง พร้อมแนะนำวิธีเลือกสำลีเช็ดเครื่องสำอางสำหรับผิวมัน แห้ง และผิวแพ้ง่าย

2 days ago

มาสคาร่ายี่ห้อไหนดี? รวม 10 รีวิวมาสคาร่าไม่แพนด้าปัดแล้วสวย ติดทนนานตลอดทั้งวัน

รวมรีวิวมาสคาร่าตัวท็อป 10 รุ่นฮิต พร้อมเคล็ดลับการเลือกมาสคาร่าให้เหมาะกับแต่ละลุค และเทคนิคปัดมาสคาร่าไม่แพนด้า ติดทนตลอดวัน

2 days ago

สเปรย์ล็อคเมคอัพยี่ห้อไหนดี? รีวิวตัวดังพร้อมเปรียบเทียบแบบจัดเต็ม!

รวมรีวิว 10 สเปรย์ล็อคเมคอัพยี่ห้อไหนดีที่เราแนะนำ พร้อมเปรียบเทียบ Setting Spray ยี่ห้อไหนดีที่รีวิวมาแล้วว่าติดทน สวยเป๊ะ สเปรย์ล็อคเมคอัพใช้ดีไม่ติดแมส

2 days ago

ปักหมุดสถานีชาร์จรถไฟฟ้าใกล้ฉัน รวมพิกัดทั่วไทย 2568

รวมข้อมูลสถานีชาร์จรถไฟฟ้าในไทย แนะนำประเภทตู้ EV Charger Station พร้อมวิธีคำนวณค่าไฟและเปรียบเทียบสถานีชาร์จรถไฟฟ้า-ค่าบริการ ให้ได้สถานีบริการที่คุ้มค่า

2 days ago