อาการอาหารเป็นพิษ เป็นปัญหาเรื่องท้องไส้อีกอย่างหนึ่งที่เกิดขึ้นได้กับคนทุกเพศทุกวัย ไม่ว่าผู้ใหญ่หรือเด็ก อาการจะมีทั้งแบบรุนแรงและไม่รุนแรง อาการอาหารเป็นพิษนั้นพบมากได้บ่อย ๆ ในเมืองไทยที่เป็นเมืองร้อน ซึ่งเชื้อโรคสามารถเจริญเติบโตได้ดี มาดูกันว่าอาหารเป็นพิษอาการเป็นอย่างไร สาเหตุหลัก ๆ และวิธีการรักษาด้วยตนเองเบื้องต้นมีวิธีรักษาอย่างไร
อาหารเป็นพิษ อาการอย่างไร
อาการอาหารเป็นพิษ เชื้อจะแสดงอาการภายใน 1-2 วัน ขึ้นอยู่กับประเภทและเชื้อโรคที่เข้าไปร่างกาย บางคนอาจจะแสดงอาการภายใน 2- 6 ชั่วโมง ซึ่งอาการจะแบ่งอยู่ออกเป็น 2 แบบ คือ
- อาหารเป็นพิษอาการไม่รุนแรง
- คลื่นไส้ อาเจียนติดต่อกันหลายครั้ง
- ถ่ายเหลว ปวดท้องแบบบิดเกร็งเป็นพัก ๆ
- เหนื่อยง่าย อ่อนเพลีย กระหายน้ำบ่อย
- แขนเป็นเหน็บชา มองเห็นไม่ชัด
- ไม่อยากทานอาหาร เบื่ออาหาร
หากมีอาการไม่รุนแรงสามารถยาแก้อาหารเป็นพิษตามคำแนะนำของแพทย์และเภสัชกร และนอนพักผ่อนให้เพียงพอ ดื่มน้ำสะอาด จิบน้ำบ่อย ๆ จะหายได้เองภายใน 24-48 ชั่วโมง
- อาหารเป็นพิษอาการรุนแรง
- ท้องเสียร่วมกับมีไข้สูงกว่า 38 องศาเซลเซียส
- อาเจียนเป็นเลือดหรือเลือดจนในอุจจาระ
- อาเจียนต่อเนื่องนานกว่า 12 ชั่วโมง
- ภาวะขาดน้ำ เช่น ปากแห้ง ปัสสาวะน้อย
- แขนขาอ่อนแรง หายใจลำบาก ตามัวมองไม่ชัด
- ปวดท้องอย่างรุนแรง ท้องเสียติดต่อกัน 3 วัน
หากมีอาการอาหารเป็นพิษรุนแรงตามที่กล่าวไป ไม่ควรซื้อยาแก้อาหารเป็นพิษมาทานเองเพราะอาจทำให้อาการรุนแรงขึ้น ควรรีบไปพบแพทย์ทันที
อาการอาหารเป็นพิษ มีสาเหตุมาจาก
สาเหตุของอาการอาหารเป็นพิษ เกิดจากการรับประทานอาหารหรือดื่มน้ำที่มีเชื้อโรค สารพิษหรือสารเคมีปนเปื้อน อาหารที่มักทำให้เกิดอาหารเป็นพิษส่วนมากจะเป็น เนื้อสัตว์ อาหารทะเลที่ปรุงไม่สุก อาหารค้างคืน อาหารกระป๋อง เป็นต้น อีกทั้งยังมีเชื้อแบคทีเรียต่าง ๆ ที่ทำให้เกิดอาการได้ เช่น
บาซิลลัสซีเรียส (Bacillus cereus) พบในดิน ข้าว ธัญพืช จะทำให้เกิดอาการคลื่นไส้ ท้องเสียภายใน 1-6 ชั่วโมงหลังจากได้รับเชื้อ
ซาลโมเนลลา(Salmonella) พบได้ในเนื้อสัตว์ สัตว์ปีก ไข่ จะทำให้เกิดอาการปวดท้อง ท้องร่วง เป็นไข้ จะเกิดอาการภายใน 12-36 ชั่วโมง
ชิเกลล่า (Shigella) พบในน้ำดื่มที่ไม่สะอาด และอาหารสด เชื้อนี้สามารถกระจายระหว่างบุคคลได้ จะทำให้เกิดอาหารปวดท้อง คลื่นไส้ อาเจียน
วิธีป้องกันและรักษาอาการอาหารเป็นพิษ
- ไม่ทานอาหารที่มีแมลงวันตอม
- ไม่ควรทานยาเพื่อให้หยุดถ่ายเด็ดขาด
- หลีกเลี่ยงอาหารค้างคืน อาหารสุก ๆ ดิบ ๆ
- รับประทานอาหารอ่อน งดอาหารเผ็ดและย่อยยาก
- ระวังการทานเห็ดบางชนิด โดยเฉพาะเห็ดชนิดที่ไม่รู้จัก
- ล้างมือทุกครั้งก่อนรับประทานอาหารและหลังเข้าห้องน้ำ
- หากทานอาหารกล่อง อาหารถุงแกง ต้องอุ่นร้อนก่อนทานทุกครั้ง
- ล้างผัก ผลไม้ให้สะอาดก่อนทาน เพราะอาจมีารเคมีตกค้างปนเปื้อน
- ดื่มน้ำผสมเกลือแร่สำหรับอาการท้องร่วงท้องเสีย เพื่อชดเชยน้ำที่เสียไป
- ทำอาหารเองโดยเลือกของที่สดใหม่ แยกหมวดหมู่อาหารและเก็บไว้ในตู้เย็น
- ไม่ละลายอาหารแช่แข็ง ผักแช่แข็ง ด้วยการตั้งทิ้งไว้หรือแช่น้ำ ควรอุ่นด้วยไมโครเวฟ
หากมีอาการอาหารเป็นพิษควรดื่มน้ำตามมาก ๆ ถึงแม้จะไม่รู้สึกกระหายน้ำก็ตามเพื่อทดแทนการสูญเสียน้ำทานยาแก้อาหารเป็นพิษเบื้องต้น เช่น เกลือแร่ ยาคาร์บอน เป็นต้น และควรหยุดงาน หยุดเรียนและพักผ่อนดูแลสุขภาพตนเองให้เต็มที่อยู่ที่บ้าน ที่สำคัญคือการทานอาหารที่สดสะอาดสุขอนามัยเพื่อป้องกันอาหารเป็นพิษ เป็นทีนึงแล้วทรมานจริง ๆ เลยนะทุกคน