เมื่อวันที่ 22 ตุลาคม 2563 ที่ผ่านมา ทาง Shopee ได้จัดกิจกรรมประกาศผลกิจกรรม Shopee 9.9 Contest 2020: Shopping New Normal โดยมีนักศึกษาและอาจารย์มาร่วมงานมากกว่า 40 คน เพื่อมาลุ้นผลไปพร้อม ๆ กันว่าทีมไหนจะเป็นผู้ชนะเลิศอันดับ 1 คว้าทุนการศึกษาจำนวน 35,000 บาท พร้อมโอกาสในการฝึกงานกับ Shopee จากผลงานกว่า 1,337 ผลงาน เดินทางมาสู่ 13 รางวัลสุดท้าย เรียกได้ว่างานนีลุ้นสุด ๆ ตั้งแต่รางวัลพิเศษ ไปจนถึงรางวัลชนะเลิศ พร้อมบทสัมภาษณ์ของน้อง ๆ ที่ได้รับรางวัลทุกรางวัล มาเล่าประสบการณ์ในการสมัครและแข่งขันกิจกรรม Shopee 9.9 Contest 2020 ในครั้งนี้
อีกทั้งได้เกียรติจากคุณมีธรรม ณ ระนอง รักษาการผู้ช่วยผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (ETDA) มาพูดบรรยายและมอบรางวัลให้แก่น้อง ๆ พร้อมให้สัมภาษณ์ และเราก็ไม่พลาดที่จะนำภาพบรรยากาศในวันงานมาฝากกัน จะน่าประทับใจขนาดไหน ตามไปดูกันเลย
บทสัมภาษณ์ คุณมีธรรม ณ ระนอง
ผู้เชี่ยวชาญ และรักษาการผู้ช่วยผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (สพธอ.) หรือ ETDA (เอ็ตด้า) กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม

หากต้องอธิบายให้คนที่ไม่เคยรู้จัก ETDA มาก่อน เข้าใจว่า ETDA คืออะไร จะอธิบายว่าอย่างไรคะ
ETDA คือหน่วยงานภาครัฐภายใต้กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม มีหน้าที่ในการส่งเสริมและกำกับดูแลการทำธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ ให้ได้มาตรฐาน มั่นคงปลอดภัย และน่าเชื่อถือ เช่น การทำ e-Commerce การโอนเงินจ่ายเงินออนไลน์ ฯลฯ จึงเป็นพันธกิจของ ETDA ที่จะให้การดำเนินการดังกล่าวเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและน่าเชื่อถือ อันจะส่งผลให้เกิดการขยายตัวทางเศรษฐกิจเพิ่มมากขึ้นจากธุรกรรมอนไลน์ที่เพิ่มขึ้น รองรับการนำดิจิทัลไปใช้ทั้งในภาคเศรษฐกิจและสังคมต่อไป
ETDA มีบทบาทอย่างไรกับอุตสาหกรรม e-Commerce ในประเทศไทยคะ
วันนี้ e-Commerce ใกล้ตัวทุกคน แค่มีโทรศัพท์มือถือและอินเทอร์เน็ต ก็สามารถสร้างอาชีพ สร้างรายได้จากแพลตฟอร์มบนออนไลน์ได้แล้ว บทบาทของ ETDA คือทำอย่างไรที่จะช่วยให้ตลาด e-Commerce นี้โตขึ้น คนที่อยากขายก็ได้รู้เทคนิคการขาย คนที่ซื้อก็มีความเชื่อมั่นและมั่นใจ ขณะที่หน่วยงานทั้งรัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้อง มีข้อมูลหรือ Data ที่เราได้สำรวจมูลค่าตลาดและพฤติกรรมออนไลน์ของคนไทยมาอย่างต่อเนื่อง นำไปวางนโยบายหรือกลยุทธ์การตลาดได้ ทั้งหมดนี้ ทำให้การเข้าถึงแพลตฟอร์มต่าง ๆ บนออนไลน์ง่ายขึ้น แล้วยังถือเป็นโอกาสลดความเหลื่อมล้ำได้อีกด้วย เพราะไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็สามารถเข้าใช้งานแพลตฟอร์มต่าง ๆ ทั้งในแง่ของการค้าขายและการใช้ประโยชน์อื่น ๆ สอดรับกับสถานการณ์แนวโน้มของโลก ที่ดิจิทัลเทคโนโลยีถูกนำมาใช้เพิ่มมากขึ้นโดยเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับโอกาสทางธุรกิจใหม่ ๆ ในโลกออนไลน์
คุณมีธรรม รู้สึกอย่างไรบ้าง ที่ทาง ETDA ได้เข้ามาเป็น Partner กับ Shopee ในการจัดกิจกรรม Shopee 9.9 Contest 2020
รู้สึกดีใจที่ได้เห็นน้อง ๆ นิสิตนักศึกษาเข้ามาร่วมกิจกรรม เป็นการสร้างผลงานที่ผสานทั้งเรื่อง e-Commerce กับความมั่นคงปลอดภัย เพราะฉะนั้นต่อไปในการทำ e-Commerce คงจะต้องดูความน่าเชื่อถือ ความมั่นคงปลอดภัย ซึ่งในท้ายที่สุดแล้ว เมื่อมีความน่าเชื่อถือมากขึ้น คนเข้าสู่ตลาดนี้มากขึ้น และใช้จ่ายกันมากขึ้น มูลค่า e-Commerce ก็จะสูงขึ้น
แล้วมีความคิดเห็นอย่างไรกับผลงานของนิสิตนักศึกษาที่เข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้คะ
แต่ละทีมสร้างผลงานที่น่าสนใจมาก เด็ก ๆ เดี๋ยวนี้สามารถคิดนอกกรอบ มีไอเดียที่ดี สิ่งที่น้อง ๆ คิด บางทีก็เป็นสิ่งที่เราคิดไม่ถึง อาจเป็นนวัตกรรมอย่างหนึ่งที่จะเกิดขึ้นได้จริงในอนาคต รู้จักการนำความรู้ทางวิชาการมาประยุกต์ใช้กับเทคโนโลยี เพื่อให้ได้ผลงานใหม่ ๆ ที่ตรงกับความต้องการของกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย เช่น กลุ่มคนผู้สูงอายุ ที่ส่วนมากจะมีปัญหาในการใช้งานตัวหนังสือที่เล็ก ๆ ทำให้มีการกดสั่งซื้อซ้ำซ้อน ก็ให้ระบบสามารถตรวจสอบและป้องกันปัญหานี้ได้ เป็นต้น โดยภาพรวมแล้วน้อง ๆ มีแนวความคิด และไอเดียดีมากครับ
คุณมีธรรมมองเห็นแนวโน้มของอุตสาหกรรม e-Commerce ในยุค New Normal และในปีถัด ๆ ไปอย่างไรบ้างคะ
ผมว่าจะโตขึ้น และเป็นการโตขึ้นแบบก้าวกระโดดเลยทีเดียว เห็นได้ในช่วงโควิด-19 ที่ผ่านมา คนออกไปไหนไม่ได้ e-Commerce ได้เข้ามาช่วยอำนวยความสะดวก เกิดเป็นปรากฏการณ์ New Normal และสร้างอาชีพใหม่หลายอย่างบนโลกออนไลน์จากวิกฤตนี้ และได้กลายเป็นตัวเร่งสำคัญให้ทุกฝ่ายหันมาเห็นความสำคัญของการใช้เทคโนโลยีรักษาระยะห่าง ยิ่งเมื่ออินเทอร์เน็ตเข้าถึงคนทั่วทุกพื้นที่ e-Commerce กลายเป็นอะไรที่ใกล้ตัวเรามากที่สุด เพราะฉะนั้นผมคิดว่า e-Commerce จะไปได้ไกล แต่อย่างไรก็แล้วแต่ ก็ต้องมีในเรื่องของความน่าเชื่อถือ และปลอดภัยซึ่งเป็นหัวใจหลักที่ต้องช่วยกันดูแลด้วย e-Commerce ถึงจะเดินไปได้ในระยะยาว รวมทั้งเรื่องกฎหมาย เช่น กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ที่จะมีผลใช้บังคับแล้ว เพราะฉะนั้น เรื่องความมั่นคงปลอดภัย และข้อมูลส่วนบุคคล จะต้องมีการดูแล ตรวจสอบ และมีมาตรฐาน เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือและทำให้ทุกคนเกิดความเชื่อมั่นต่ออุตสาหกรรม e-Commerce ครับ
ชนะเลิศอันดับ 1 : Marvelous


ในฐานะที่เป็นทีมที่ชนะอันดับที่ 1 ได้ไอเดียและแรงบันดาลใจของผลงานชิ้นนี้มาจากไหน พร้อมอธิบาย Concept ผลงานแบบสั้น ๆ
เนื่องจากกลุ่ม Target ของเราเป็นคนต่างจังหวัดอายุต่ำกว่า 24 ปี ซึ่งเป็น New Generation จึงตั้งชื่อแคมเปญในการประกวดผลงานนี้ว่า “New Shopee ช้อปสนุก ช้อปปลอดภัย” เพื่อตอบโจทย์เรื่อง New Normal ด้วย โดยที่เราได้ไปสัมภาษณ์กลุ่มคนแบบ inside และได้ข้อมูลมาว่าคนกลุ่มนี้ค่อนข้างกังวลกับเรื่องความปลอดภัยในการชอป นอกจากนี้ยังต้องการความสนุกสนานในการชอป การตามเทรนด์ต่าง ๆ เราจึงสร้างแคมเปญที่เป็น Tiktok , Shopee Stories หรือการประมูลในราคาถูกสุด เกมที่ให้เก็บ Shopee Coin จุดไฮไลท์ของผลงานเราคือการทำนายดวงที่กลุ่มคนนี้สนใจ นอกจากนี้เรายังให้ความสำคัญกับ Online Security ให้มีการยืนยันตัวตนเพื่อความปลอดภัยยิ่งขึ้นด้วยค่ะ
ได้อะไรจากการแข่งขันครั้งนี้ อยากบอกอะไรกับคนที่อยากมาสมัคร Shopee 9.9.Contest ในปีต่อไป
ได้นำสิ่งที่เรียนมาประยุกต์ การทำ In-depth interview การวิเคราะห์ข้อมูลและประยุกต์กับแคมเปญต่าง ๆ ใน Shopee สิ่งนี้ทำให้เรารู้ว่าการนำมาใช้จริง ๆ ต้องคำนึงถึงอะไรบ้าง ถือว่าเป็นที่ท้าทายและสนุกมาก ๆ เลยค่ะ และ 3 สิ่งที่อยากบอกนะคะคือ 1. ถ้าสนใจให้รีบมาสมัครเลย อย่าลังเล เพราะจะได้ทำในสิ่งที่ไม่เคยทำ 2. ทำให้เต็มที่เพราะเราไม่มีทางรู้ว่าสุดท้ายแล้วผลงานเราจะเป็นยังไง 3. พยายามเน้นความคิดสร้างสรรค์ คิดนอกกรอบให้มาก เพราะถ้าคิดธรรมดาไปอาจจะไปซ้ำกับสิ่งที่มีอยู่แล้วได้
รองชนะเลิศอันดับ 1 : 9 อยากดายง๊านน


ในฐานะที่เป็นทีมที่ได้รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 ได้ไอเดียและแรงบันดาลใจของผลงานชิ้นนี้มาจากไหน พร้อมอธิบาย Concept ผลงานแบบสั้น ๆ
แรงบันดาลใจอย่างแรกเลยก็ เงิน ครับ (หัวเราะ) แล้วก็ทำงานส่งอาจารย์ แต่ว่าด้วยความที่เราเห็นรางวัลและโอกาสในการฝึกงานกับ Shopee พวกเราเลยอยากแข่งขันอย่างจริงจัง ส่วนไอเดีย เราคิดถึงสิ่งที่ใกล้ตัว และเราเล็งเห็นว่ากลุ่มคนแก่นั้นใกล้ตัวเรามากที่สุด เพราะมีทั้งคุณแม่ ปู่ย่าตายาย เราสามารถสอบถามจากเค้าได้โดยตรง และได้ข้อสรุปว่ากลุ่มคนเหล่านี้จะมีปัญหาเรื่องการใช้เทคโนโลยี ที่ม่ีความเข้าใจว่าใช้ยาก จะใช้แบบใหม่ไปทำใหม่ แบบเก่าก็ดีอยู่แล้ว เราก็เลยอยากเปิดใจเค้าด้วยสิ่งที่เข้าถึงได้ง่าย เเช่นการทำบุญ เป็นกิมมิคที่คนกลุ่มนี้ชอบอยู่แล้ว ส่วนไอเดียชื่อทีมมีไอเดียคือ เรานำเสียง 9 ซึ่งมาจากมาเพี้ยนเป็น เก๊า อยากได้งาน หมายถึงพวกเราอยากมาทำงานกับ Shopee ค่ะ
ได้อะไรจากการแข่งขันครั้งนี้ อยากบอกอะไรกับคนที่อยากมาสมัคร Shopee 9.9.Contest ในปีต่อไป
ได้ประสบการณ์การคิดงาน การทำงานเป็นทีม และได้รู้จักการเลือกกลุ่มเป้าหมายจากคนใกล้ตัวเพื่อจะหา Inside ได้ง่าย และสิ่งที่อยากบอกคือ ได้ลุ้นในวันงานว่าเราจะได้รางวัลไหน ตื่นเต้นดี และการทำงานในทีมต้องช่วยกัน หากมีข้อติข้อแนะนำอะไรต้องมา Discuss ร่วมกันเพื่อฝึกคิดงานเป็นทีม สุดท้ายนี้คืออยากบอกว่าใครที่อยากมาสมัครในปีหน้า มันไม่ได้ยากอย่าที่คิด บางครั้งเรามีไอเดียตั้งต้นมา มันสามารถเอาไปต่อยอดได้ และพวกพี่ ๆ ก็มีการ Workshop ทาง Webinar อย่างละเอียด ทำให้เราทำงานได้ง่ายขึ้นมาก ๆ เลยค่ะ และเราขอฝากเพจ “โฆษณาอะไรก็ได้” ใน Facebook ด้วยนะคะ ฝากติดตามกันด้วยนะคะ (หัวเราะ)
รองชนะเลิศอันดับ 2 : 9.9 on cloud nine


ในฐานะที่เป็นทีมที่ได้รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 ได้ไอเดียและแรงบันดาลใจของผลงานชิ้นนี้มาจากไหน พร้อมอธิบาย Concept ผลงานแบบสั้น ๆ
ต้องเล่าก่อนเลยว่าเราเลือกกลุ่มเป้าหมายเป็นแม่ลูกอ่อน ซึ่งกลุ่มนี้จะมีอัตราการใช้เงินที่ค่อนข้างมาก ซึ่งถ้าเราสามารถดึงกลุ่มคนนี้มาซื้อของออนไลน์ได้ เค้าจะติดการซื้อของออนไลน์พอสมควร เพราะฉะนั้นเราจึงไปหาข้อมูลจากแหล่งต่าง ๆ เช่น กลุ่ม Facebook หรือว่าตามแอปพลิเคชันของคุณแม่ นอกจากนี้ยังมีการสัมภาษณ์กลุ่มตัวอย่างอีกด้วย ซึ่งทำให้เราได้ Inside ลึกขึ้นและบาง Inside ก็เป็นสิ่งที่คาดไม่ถึง ที่หลาย ๆ ที่อาจจะไม่ได้สรุปข้อมูลออกมา และยังมีความห่วงของแม่ มีความห่วงนู่นนี่เต็มไปหมด ก็เลยเป็นชื่อของผลงานว่า “ 9.9 หายห่วง ทุกเรื่องลูก” ค่ะ
ได้อะไรจากการแข่งขันครั้งนี้ อยากบอกอะไรกับคนที่อยากมาสมัคร Shopee 9.9.Contest ในปีต่อไป
อย่ากลัวที่จะทำ ถ้าเริ่มอยากทำแล้วให้รีบเริ่มทำเลยเพราะว่ามันเป็นโอกาสของเราจริง ๆ ตอนคิดแคมเปญก็อยากคิดให้รอบด้านนิดนึง ว่ามีฟีเจอร์ไหนที่สามารถนำมาเล่นได้ เพราะจริง ๆ แคมเปญพวกนี้สามารถสร้างสรรค์ได้เยอะ ค่อนข้างเปิดกว้างเลยล่ะครับ
บทสัมภาษณ์น้อง ๆ รางวัลชมเชย
คำถาม : ในฐานะที่ทีมของน้อง ๆ สมัครเข้าร่วมกิจกรรม Shopee 9.9 Contest ในปีนี้ มีอะไรจะฝากหรือแนะนำผู้เข้าสมัครในปีหน้าบ้าง
น้องพรพิชชา ถิรนุทธิ
ผลงาน: SHOPEE 9.9 “Senior Super Save”

จากที่ได้เข้ามาร่วมกิจกรรม Shopee 9.9 Contest รู้สึกว่าได้เปิดประสบการณ์ใหม่ ๆ ได้ทำ Research เกี่ยวกับ Insight กลุ่มต่าง ๆ โดยเริ่มตั้งแต่แรกเลยคือการตั้ง Criteria ว่าเราจะเลือกกลุ่มเป้าหมายกลุ่มไหน และอยากให้เพื่อน ๆ กล้าเข้ามาสมัคร ไม่ว่าจะเป็นติดปัญหาอะไร อย่างเอมที่อ่านเงื่อนไขตอนแรกว่าไม่ให้สมัครแบบทีมเดียวกันแต่ต่างมหาวิทยาลัย เลยตัดสินใจสมัครคนเดียว
Team Shop (kub nong mai) Pee
ผลงาน: “SHOP (KUB NONG MAI) PEE” ช้อปกับน้องมั้ยพี่!!! ช้อปปี้จัดให้

อย่างแรกคืออยากให้ออกจาก Comfort Zone ไม่ต้องคิดมากว่าเราจะเหมาะกับงานนี้หรือเปล่า หรือเรามีความสามารถพอจะทำงานนี้หรือเปล่า Just do it เลย
รวมถึงการ Challenge เพราะจริง ๆ พวกเราเรียนอยู่ในภาควิชาอื่น ที่ไม่ใช่สายมาร์เก็ตติ้ง แล้ว Shopee 9.9 Contest ก็เปิดกว้างให้ทุกคน ทำให้เราได้ลองอะไรใหม่ ๆ
สุดท้ายอยากให้ลองมาสมัครดู เพราะโครงการนี้ก็สนุกดี เป็นพื้นที่ให้เราได้แสดงความคิดสร้างสรรค์ แล้วก็ค่อนข้างน่าสนใจ
Team Dumpling Consulting
ผลงาน: Shopee Mom’s Club X 9.9 ก้าวสำคัญเพื่อลูกน้อย

อยากให้เผื่อเวลาในการทำ Artwork เพราะอย่างพวกเราใช้เวลาในการคิดกลยุทธ์ และหาข้อมูลกันนานมาก แล้วก็ให้เวลากับการทำ Artwork น้อย ทำให้เราต้องเร่งทำ Artwork ในตอนท้าย เพราะจริง ๆ Artwork เป็นสิ่งสำคัญ ถือเป็น Finished Product ที่กรรมการ และคนอื่น ๆ ได้เห็นผลงานที่เราทำมา ต่อให้คิดมาดีมาก ๆ แต่ว่า Artwork ไม่ดึงดูดพอก็ส่งผลได้เช่นกัน
อยากแนะนำในส่วนของการวิเคราะห์ พยายามเป็น Data-Driven เพื่อหา Insight จริง ๆ โดยการไปสัมภาษณ์ หรือหา Secondary research และการเข้าไปคุยกับผู้เชี่ยวชาญในด้านนั้นก็ได้ เพราะการที่เรามีข้อมูลมากพอ ทำให้เราเข้าใจสิ่งที่กลุ่มเป้าหมายอยากได้จริง ๆ ทั้ง Pain point และตอบโจทย์ที่ทาง Shopee ตั้งไว้ ถึงแม้ว่าจะต้องคิดสิ่งที่เป็น Creative Marketing เพื่อดึงดูดคนเข้ามา แต่ว่าสุดท้ายก็ต้องอิงตาม Research และข้อมูลมารองรับสิ่งที่เราจะใส่ลงไป
พยายามใช้งาน Resource ของ Shopee ให้เยอะ ๆ บางที่ที่ Shopee เป็น Partner อยู่แล้ว เราอาจจะทำอะไรเพิ่มได้ เช่นการใช้ AirPay หรือส่วนอื่น ๆ ภายใต้ SEA ให้เกิดประโยชน์ รวมถึงการ Explore สิ่งที่ Shopee มีอยู่แล้วใน App ก็เป็นจุดเริ่มต้นที่ดี ทำให้บางอย่างที่เราคิดมา แต่เค้ามีอยู่แล้ว เราก็ค่อยคิดต่อว่าเราไปเล่นอะไรกับตรงนั้นได้เพิ่มไหม
สุดท้ายคือการเลือกกลุ่ม Target ควรเลือกกลุ่มที่เรามีความสนใจมากที่สุด กลุ่มที่เราใกล้ชิด หรือว่ากลุ่มที่เราคิดว่าจะไปหาข้อมูลมาได้ง่ายที่สุด แล้วมาหาไอเดียต่ออีกทีหนึ่ง คิดว่ามันจะง่ายขึ้น ถ้าเราเลือกกลุ่มเป้าหมายที่ใกล้กับเรา
Team DoubleW
ผลงาน: How to make men yours
อยากบอก 3 ข้อสั้น ๆ เลยคือ
1. อย่ากลัวไปก่อน อยากให้ทุกคนได้ลองมาสัมผัสประสบการณ์และโอกาสดีๆ แบบนี้
2. ไอเดียไม่จำเป็นต้องยิ่งใหญ่แต่ให้ Practical
3. สู้ให้ถึงที่สุด อย่าเพิ่งถอดใจกลางทาง (ปลายทางคือรางวัลของคนช่างฝัน เว่อร์มาก1)
Team ใครเขานอนกัน
ผลงาน: Shopee 9.9 เอาไปเลย เอาไปได้เลย

อันนี้เป็นการแข่งขันทางด้าน Marketing อย่างที่พี่เขาบอกว่าทุกอย่างก็ควรเริ่มต้นที่การ Research ผมไม่รู้ว่าโจทย์ปีหน้าจะเป็นยังไง แต่อยากให้ค่อย ๆ ดูไป ว่า Shopee ต้องการอะไร กลุ่มเป้าหมายที่เราเลือกคือใคร ปกติเขามีพฤติกรรมการใช้ชีวิตแบบไหนบ้าง ถ้าให้ดีขึ้นไปอีก เมื่อเราคิดแคมเปญแล้ว ให้ดูรวมไปกับองค์ประกอบต่าง ๆ ของบริษัท ว่าทำให้ก้าวหน้าหรือดีกว่าเดิมหรือไม่ ถ้าดีก็ทำไปเลย แต่หลัก ๆ ก็ให้เน้น Research ก่อน ค่อย ๆ หาข้อมูลดี ๆ แล้วระดมสมอง ค่อย ๆ คิด ถ้ายังคิดไม่ได้ ก็ให้พักก่อน หากิจกรรมอื่นทำแล้วค่อยกลับมาคิดต่อ
การคิดแคมเปญมันเกี่ยวข้องกับ Creative Process ถ้าเกิดว่าคิดไม่ออก หรือตัน เราต้องอย่าฝืน ให้ไปพักผ่อนก่อน อย่างทีมเราไอเดียที่ได้ออกมา พวกเราไม่ได้เครียดเลย มักจะมาจากตอนที่เราเดินเล่นอยู่ หรือผ่อนคลาย อยากแนะนำว่าไม่ต้องเครียดมาก แต่ก็ให้มีเป้าหมายเอาไว้ เพราะยิ่งเครียด จะยิ่งกดดันตัวเองให้ตัน คิดไม่ออก
หลังจากที่คิดแคมเปญเสร็จแล้ว ให้กลับมานั่งคิดอีกครั้งในมุมของกลุ่มเป้าหมายดูว่างงไหม ตรงกับ Pain Point หรือเปล่า สิ่งที่สื่อไปถึงผู้รับสารไหม ไม่มีแคมเปญไหมคิดเสร็จในหนึ่งวัน มันต้องอาศัยเวลาแล้วค่อย ๆ ปรับเปลี่ยนกันไป
สุดท้ายคือการที่เราได้แรงบันดาลใจจากคนอื่น หรือการไปศึกษางานแม้แต่ของคู่แข่ง มันไม่ใช่เรื่องน่าอาย เพราะการที่เรานึกไม่ออก..ก็ไม่เป็นไร เราสามารถไปศึกษาได้ มันไม่ใช่การ Copy ของเขา เราควรนำมาปรับใช้กับงาน แล้วใส่ความเป็นตัวเอง ตัวตนของบริษัท รวมถึงส่วนต่าง ๆ ที่จะทำให้บริษัทก้าวไปข้างหน้าลงไป เท่านั้นก็จะได้ Original Campaign ของเราแล้ว
บทสัมภาษณ์น้อง ๆ รางวัล Special Prizes
คำถาม : ในฐานะที่ทีมของน้อง ๆ สมัครเข้าร่วมกิจกรรม Shopee 9.9 Contest ในปีนี้ มีอะไรจะฝากหรือแนะนำผู้เข้าสมัครในปีหน้าบ้าง
Team ช้อปซี่
ผลงาน: Shopee 9.9 “Shopee big surprise” ดีลใหม่ รุ่นใหญ่ชอบ

อย่างแรกที่อยากบอกคือ เหตุผลที่เข้ามาร่วมกิจกรรมนี้ เพราะคิดว่า Shopee เป็นบริษัท E-commerce ที่ใหญ่ และมีลูกเล่นมากมายที่ในวัยนักศึกษาก็สามารถคิดได้ สามารถเข้าใจได้ง่าย และเดี๋ยวนี้ก็มี Ticktok, IG filter ที่เราสามารถใส่ Creativity เข้าไปด้วย ทำให้นำมาใส่ในแผนการตลาดได้
อยากแนะนำเรื่องวิธีการเลือกกลุ่มเป้าหมาย ขั้นตอนแรกคือ เราจะดูกลุ่มเป้าหมายที่เค้ากำหนดมาทั้งหมด แล้วหาข้อดีข้อเสียของแต่ละกลุ่มเป้าหมาย แล้วดูว่าเราอยู่ใกล้ชิด หรือจะหาข้อมูลจากกลุ่มไหนได้มากที่สุด เพื่อเอามาทำงานของเราค่ะ นอกจากนี้การทำ Customer Insight ก็เป็นส่วนสำคัญ อย่างกลุ่มของพวกเราที่มีการเก็บข้อมูลผ่าน Google Form โดยตั้งคำถามให้ตรงกลุ่มเป้าหมาย เพื่อจะได้เข้าใจกลุ่มเป้าหมายที่เราตั้งไว้มากขึ้น
Team Sixty-Two
ผลงาน: SHOPEE MAN 9.9 เวิร์คกิ้งแมน ช้อปปิ้งมันส์

ทำตัวให้เหมือนเป็นลูกค้าในกลุ่มนั้นเอง แล้วเราจะเข้าใจลูกค้าว่าเค้าคิดยังไง รวมถึงควรทำ Research และหา Insight ให้มาก เพราะรู้สึกว่าทีมที่ชนะเค้าศึกษากลุ่มเป้าหมายมาอย่างละเอียดมาก ๆ และแก้ได้อย่างตรงจุดจริง ๆ เพราะรู้เลยว่าทีมเราไม่ได้ Research เยอะเท่าคนอื่น
และอยากให้มาลองเข้าร่วมกิจกรรมดู ถึงแม้จะมีคนสมัครเยอะ มีการแข่งขันสูง แต่ว่าแค่เราได้ลอง ไม่ว่ายังไงเราก็จะได้อะไรบางอย่างกลับมา ทั้งประสบการณ์ ได้รู้ข้อจำกัดของตัวเอง แล้วก็รู้จักการทำงานร่วมกับเพื่อนมากขึ้นค่ะ
Team Lovebirds
ผลงาน: Shopee 9.9 โควิดอีกยาว แต่คุณแม่ต้องก้าวต่อไปด้วยกัน

แนะนำทีมที่จะเข้ามาสมัครในปีหน้านะคะ ถือว่าเราแนะนำในส่วนที่ทีมเราควรปรับปรุงแล้วกันค่ะ รู้สึกว่าทีมของเราตีโจทย์ยังไม่ครอบคลุม ไปโฟกัสที่ Marketing แต่ตัว Online Security ยังไม่ได้ให้ความสำคัญมากพอ ทั้ง ๆ ที่มันควรจะให้ความสำคัญเท่า ๆ กัน นอกจากนี้ให้ดูด้วยว่าไอเดียที่เราคิดออกมา นอกจากมีความครีเอทีฟ ก็ต้องสามารถนำไปใช้ได้จริงด้วย เพราะว่าบางไอเดียมีความครีเอทีฟมาก แต่พอเอาไปใช้จริงก็อาจจะใช้ไม่ได้ ต้องคิดว่าถ้านำไปใช้จริง จะทำเงินได้หรือเปล่า อยากให้ตอนทำงาน มองในมุมของกรรมการที่ตัดสินด้วย อย่างที่พี่ปีเตอร์พูดเมื่อกี้เรื่อง ROI (Return on Investment) ตอนทีมเราทำ เราก็คิดตลอดว่าถ้าเราจะให้เงินรางวัลขนาดนี้ แล้ว Shopee จะได้อะไร Shopee จะแบกความเสี่ยงอะไร ให้เอาตัวเองไปลองเป็นกรรมการ ว่าทาง Shopee มองหาอะไร ต้องเสียอะไร แล้วจะได้กำไรจากอะไร
นอกจากนี้อยากแนะนำเรื่องการทำงานภายในทีม คือควรคุยกันเยอะ ๆ แชร์ไอเดียกัน อย่างทีมเราสนิทกันอยู่แล้วก็โอเค แต่ถ้าทีมแข่งของคนอื่นที่มีการฟอร์มทีมขึ้นมาใหม่ หรือเป็นเพื่อนที่ยังไม่สนิทกันขนาดนั้น ทำให้ติดเรื่องความเกรงใจกัน แต่อยากแนะนำให้กล้าที่จะพูดออกมา เพื่อให้ได้ไอเดียที่หลากหลายและครอบคลุมที่สุด
และอย่ายึดติดกับผลงานของผู้ชนะในปีก่อนมาก เพราะโจทย์ในแต่ละปีไม่เหมือนกัน ถ้าเรายึดติดมาก มันอาจจะทำให้เราตีโจทย์ของเราผิดได้ อย่างถ้ามาดูของปีนี้อาจจะเกี่ยวกับการดึงลูกค้าใหม่ แต่มันอาจจะไม่ใช่ Key ของปีเรา คือมันจะมีอะไรที่ไม่เหมือนกัน อยากให้อ่านโจทย์ดี ๆ
อีกอย่างคือหากในปีหน้ายังมีการทำเป็นโปสเตอร์ อยากให้หาหนึ่งคนในทีมที่มีหัวทาง Visualize เพราะจริง ๆ มันก็สำคัญเวลานำเสนองาน จะทำให้ผลงานดูโดดเด่นมากขึ้น
Team Takoyaki
ผลงาน: Mommy Shop Shop! แม่จ๋าหนูอยากช้อป!

อยากแรกคืออยากให้เลือกกลุ่มเป้าหมายดี ๆ เพราะมันจะทำให้เราทำงานง่ายด้วย อย่างการเลือกกลุ่มเป้าหมายให้มีความใกล้ชิดกับเรา หรือเราสามารถเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งได้ จะทำให้เราง่ายต่อการหา Insight และจะได้ข้อมูลที่ละเอียดมากขึ้น และหลังจากได้ Insight มาแล้ว ก็อยากให้วิเคราะห์ดี ๆ ว่าแต่ละอย่างมีความเชื่อมโยงกันยังไง และการจะทำผลงานออกมา อยากให้พยายามเชื่อมโยงกับ Insight ที่ได้ อันนี่ถือเป็นข้อบกพร่องของทีมเราที่เราได้เรียนรู้มา รวมถึงการที่เรามีไอเดียแต่ดันไปเจอว่ามีคนทำเยอะแล้ว อย่ากลัวว่าจะซ้ำกับคนอื่น ถ้ามันจำเป็นต่อโจทย์ ก็ใส่ลงไป
นอกจากนี้ตอนทำงาน ก็ให้คิดนอกกรอบไปก่อน อย่าเพิ่งให้อะไรมาตีกรอบไอเดียเรา จะทำให้เรามีความคิดสร้างสรรค์มากขึ้น และทำให้เราโดดเด่นจากทีมอื่นมากขึ้น อย่างเวลาเราคิดนอกกรอบแล้วได้ไอเดียที่น่าสนใจแล้ว เราค่อยนำหลักความเป็นจริง และ Mechanic มาตีกรอบมันอีกที หรือแนะนำง่าย ๆ คือ ตอนเริ่มอย่าเพิ่งเปิดดูงานปีที่แล้ว
Team Team In it for the Beer
ผลงาน: Shopee 9.9 Let’s shop together ชวนวัยรุ่นทั่วไทย ช้อปสนุก ปลอดภัย ครบ จบ ทุกไลฟ์สไตล์

แนะนำเรื่องการเขียนกลยุทธ์ให้ชัด และต้องมี KPI (Key Performance Indicator) ของแต่ละตัวที่ชัดเจน การวางแผนงานก็ควรมองธุรกิจให้เป็นธุรกิจ ไม่ใช่มองเพียงแค่การสื่อสารเพื่อธุรกิจเพียงอย่างเดียว สุดท้ายฝากเรื่องความกล้าที่จะทำ ให้ลองจับเทรนด์ ณ ตอนนั้นแล้วนำมาปรับใช้กับโจทย์ให้มันกลมกว่านี้ค่ะ
ภาพบรรยากาศวันงาน
เห็นภาพบรรยากาศความประทับใจในวันประกาศผลกันไปแล้ว ดูตื่นเต้นและลุ้นกันมาก ๆ เลย หวังว่าจะสนุกกับการประกวดครั้งนี้กันนะคะ
Discussion about this post