ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าอุปกรณ์ชิ้นเล็ก ๆ อย่างหูฟังนั้นช่วยอำนวยความสะดวกในชีวิตประจำวันได้มาก ตั้งแต่การใช้ฟังพอดแคสระหว่างเดินทาง การฟังเพลงระหว่างทำกิจกรรมอื่น ๆ หรือแม้กระทั่งการใช้รับสาย-ประชุมงาน และหูฟังดี ๆ ก็ช่วยให้เราได้อรรถรสของเสียงได้อย่างมาก แต่ด้วยความหลากหลายของหูฟังในปัจจุบันที่มีให้เลือกมากมายทั้งประเภทและยี่ห้อทำให้หลาย ๆ คนอาจไม่รู้ว่าจะต้องเริ่มต้นซื้อที่จุดไหน ตกลงแล้วหูฟังมีกี่แบบให้เลือกกันแน่ และจะเลือกหูฟังแบบไหนดีให้คุ้มค่าตรงใจ ใครที่ยังสงสัยอยู่ก็ตามมาดูในบทความนี้ได้เลย!
หัวข้อต่างๆ ของบทความนี้
เริ่มแรกเราลองมาสำรวจกันดูก่อนเลยว่าในท้องตลาดนั้นหูฟังมีกี่แบบให้เราได้เลือกลองใช้กันบ้าง
มาเริ่มแรกกันด้วยการแบ่งประเภทของหูฟัง ตามรูปแบบดีไซน์ของตัวหูฟัง ซึ่งโดยส่วนมากแล้วจะสามารถแบ่งออกได้เป็น 3 ประเภทหลัก ๆ ไม่ว่าจะเป็น
หูฟัง In-Ear เป็นหูฟังขนาดเล็กที่เราคุ้นเคยกัน มีลักษณะที่ใช้สวมใส่เข้าไปในช่องหู และด้วยขนาดเล็กพกพาง่าย น้ำหนักเบา ให้คุณภาพเสียงดี ทำให้หูฟังชนิดนี้เหมาะสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวัน ทั้งการฟังเพลง ดูหนัง หรือแม้กระทั่งการออกกำลังกาย และยังเป็นประเภทที่ง่ายต่อการเก็บรักษาอีกด้วย แนะนำหูฟังประเภทนี้ เช่น Apple AirPods Pro, Sony WF-1000XM4, Samsung Galaxy Buds Pro หรือ Jabra Elite 75t
ข้อมูล
หูฟัง On-Ear เป็นหูฟังแบบครอบบนหูแต่ไม่ได้ครอบปิดทั้งหู ตัวอุปกรณ์จะมีขนาดใหญ่กว่าหูฟัง In-Ear แต่เล็กกว่าหูฟัง Over-Ear ทำให้สามารถพกพาได้ง่ายกว่าหูฟัง Over-Ear และให้คุณภาพเสียงที่ดีพร้อมกับความสบายในการสวมใส่ แนะนำหูฟังประเภทนี้ เช่น Beats Solo Pro, Sony WH-CH510, JBL Live 400BT
ข้อมูล
หูฟัง Over-Ear เป็นหูฟังที่มีลักษณะครอบปิดทั้งหู ทำให้สามารถตัดเสียงรบกวนจากภายนอกได้ดีเยี่ยมและให้คุณภาพเสียงที่ยอดเยี่ยม มักมีขนาดใหญ่และน้ำหนักมากกว่าหูฟัง In-Ear และ On-Ear แต่ก็แลกมาด้วยประสบการณ์การฟังที่ดียิ่งขึ้น แนะนำหูฟังประเภทนี้ เช่น Sony WH-1000XM4, Bose QuietComfort 35 II, Sennheiser HD 660 S
ข้อมูล
มาถึงการแบ่งประเภทตามรูปแบบถัดมา นั่นก็คือ แบ่งตามลักษณะของการเชื่อมต่อ โดยหลัก ๆ ของการแบ่งประเภทในลักษณะนี้ ณ ปัจจุบัน จะสามารถแบ่งได้ 2 ประเภท คือ
หูฟังแบบแรก จะเป็นหูฟังแบบมีสาย ที่หลายคนคุ้นเคยกันดี เพราะเป็นรูปแบบพื้นฐานของหูฟังที่มีให้ใช้งาน โดยจะใช้การส่งสัญญาณเสียงจากอุปกรณ์ ผ่านสาย เพื่อให้ตัวไดร์เวอร์ในหูฟังสามารถขับเป็นเสียงออกมาให้ผู้ฟังใช้งานได้ หูฟังประเภทนี้มักจะไม่มีแบตเตอรี่ในตัว สามารถใช้งานได้กับอุปกรณ์ได้ทุกเครื่องเท่าที่จะใช้ได้ และรูปแบบของการเชื่อมต่อหลัก ๆ ก็จะมีทั้งการเชื่อมต่อด้วยช่องหูฟังแบบ 3.5 มิลลิิเมตร หรือเชื่อมต่อผ่าน USB รูปแบบต่าง ๆ เช่น USB-C, Lightning และยังมีรูปแบบครบทั้ง In-Ear, On-Ear หรือ Over-Ear
ข้อมูล
หูฟังไร้สายเป็นได้ทั้งหูฟังแบบ In-Ear, On-Ear หรือ Over-Ear แต่จะเป็นหูฟังที่มีจุดเด่นที่มีการใช้เทคโนโลยีบลูทูธ (Bluetooth) หรือวิธีการเชื่อมต่อแบบไร้สายอื่น ๆ เข้ากับอุปกรณ์ส่งสัญญาณเสียง ทำให้ไม่ต้องใช้สายเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ ทำให้การใช้งานสะดวกและคล่องตัวมากขึ้น เหมาะสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวัน การออกกำลังกาย และการเดินทาง แนะนำหูฟังประเภทนี้ เช่น Apple AirPods Pro, Bose QuietComfort Earbuds
ข้อมูล
จริง ๆ แล้วหูฟังประเภทนี้นั้นเป็นส่วนหนึ่งของทุกประเภทที่ผ่านมา แต่เป็นประเภทที่น่าสนใจ เพราะแบ่งตามฟีเจอร์พิเศษที่มีให้ใช้งาน สามารถแบ่งได้หลัก ๆ เป็นดังนี้
เป็นได้ทั้งหูฟังแบบ In-Ear, On-Ear หรือ Over-Ear แต่จะมีฟีเจอร์การตัดเสียงรบกวน (Noise-Cancelling Headphones) ใช้เทคโนโลยีการตัดเสียงรบกวนแบบแอ็คทีฟ (Active Noise Cancelling) เพื่อลดเสียงรบกวนจากภายนอก เช่น เสียงเครื่องยนต์ เสียงพูดคุย หรือเสียงลม ทำให้คุณสามารถฟังเพลง ดูหนัง หรือทำงานได้อย่างเต็มที่โดยไม่ถูกรบกวน ได้ยินเสียงจากหูฟังได้ชัดเจนขึ้น ทำให้เสียงรบกวนภายนอกไม่สามารถรบกวนอรรถรสในการฟังได้ แนะนำหูฟังประเภทนี้ เช่น Bose QuietComfort 35 II, Jabra Elite 85h
ข้อมูล
เป็นหูฟังที่ถูกออกแบบมาเพื่อรองรับการใช้งานร่วมกับการเล่นเกมโดยเฉพาะ สามารถให้คุณภาพเสียงที่ดีเยี่ยมและมักมาพร้อมกับไมโครโฟนที่ช่วยในการสื่อสารกับเพื่อนร่วมทีม การเลือกหูฟังที่เหมาะสมสามารถเพิ่มประสบการณ์การเล่นเกมและช่วยให้คุณมีความได้เปรียบในการแข่งขัน ตัวอย่างหูฟังประเภทนี้ที่น่าสนใจ เช่น Razer BlackShark V2 Pro, Logitech G Pro X Wireless
Credit: Freepik
การเลือกหูฟังที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้เราได้ประสบการณ์การฟังที่ดีที่สุดด้วยการสวมใส่ที่สบายที่สุด การเลือกหูฟังที่เหมาะกับการใช้งานจึงมีหลายปัจจัยที่ต้องคำนึงถึง เช่น
การเลือกหูฟังที่เข้ากับไลฟ์สไตล์ทำให้การใช้หูฟังไม่กลายเป็นภาระหรือเป็นเรื่องลำบาก โดยเราควรตั้งเป้าหมายว่าจะนำหูฟังมาใช้ในช่วงไหนบ้าง เช่น ใช้ในชีวิตประจำวัน ใช้เล่นเกม หรือใช้รับโทรศัพท์/คุยงาน ก็ควรเลือกประเภทของหูฟัง คุณภาพเสียง ความสบายในการสวมใส่ให้ตรงกับสภาพของการใช้งานจริงเป็นหลัก
การชาร์จแบตเป็นเรื่องหนึ่งที่เราควรคำนึงถึง ควรเลือกอายุการใช้งานของแบตเตอรี่ที่ยาวนาน มีระยะเวลาชาร์จที่รวดเร็ว และมีเคสชาร์จหรือวิธีการชาร์จที่สะดวก
สำรวจความต้องการใช้งานว่าเราต้องใช้ฟีเจอร์พิเศษอื่น ๆ เช่น ไมโครโฟน ระบบตัดเสียงรบกวน ระบบเสียงรอบทิศทาง หรือการเชื่อมต่อไร้สายหรือไม่
การรับประกันหลังการขายเป็นการให้ความมั่นใจได้ว่าการใช้งานหูฟังจะอยู่กับเราไปได้นานพอ ควรเลือกหูฟังที่มีการรับประกันที่น่าเชื่อถือและมีระยะเวลารับประกันอย่างน้อย 1 ปี โดยอย่าลืมตรวจสอบความพร้อมของศูนย์บริการและการซ่อมแซมด้วย
เพราะหูฟังในท้องตลาดมีหลายแบรนด์หลายประเภทให้เลือก ซึ่งเราคงได้ทราบกันแล้วว่าหูฟังมีกี่แบบกันแน่ ที่สำคัญกว่านั้นคือการเลือกหูฟังที่เหมาะกับความต้องการและลักษณะการใช้งาน ซึ่งเราควรให้ความสำคัญกับประเภทของหูฟัง คุณภาพเสียง ความสบายในการสวมใส่ ฟีเจอร์พิเศษ แบตเตอรี่ และการรับประกัน เพื่อให้ได้หูฟังที่ตรงกับความต้องการและเพิ่มประสบการณ์การฟังของคุณให้ดีที่สุด ถึงตรงนี้หากใครที่ยังไม่จุใจกับบทความที่ Shopee คัดมาให้ในคราวนี้ก็สามารถเข้าไปอัปเดตบทความต่อได้เลยที่ Shopee Blog! หรือเลือกซื้อเลือกช้อปหูฟังสำหรับเล่นเกม หรือเครื่องอ่านแผ่นซีดี ต่อได้เลยที่ Shopee!
เคยรู้สึกไหมว่าทำไมรถรกจังเลย! ข้าวของในรถก็มีมากมายทำให้วางอะไรก็ไม่เป็นระเบียบ เวลาจะหาของอะไรแต่ละอย่างก็ไม่ค่อยจะเจอ เวลาซื้อของมากินก็ไม่มีที่วาง ทำให้กินไม่ถนัดหกเลอะเทอะไปหมด ต้องบอกเลยว่าหลายคนใช้เวลาอยู่บนรถเป็นเวลานานจนรถยนต์แทบจะเป็นบ้านหลังที่สองเลย จึงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรที่โยนสัมภาระข้าวของเพื่ออำนวยความสะดวกมากมายมาไว้ที่รถยนต์ จนทำให้รถดูรกไปหมดเลย วันนี้ Shopee จึงอยากจะมาแนะนำ 8 สุดยอดไอเทม จัดของในรถที่ช่วยให้จัดระเบียบสัมภาระภายในรถยนต์ให้หยิบใช้ง่ายและประหยัดพื้นที่ใช้สอยในรถยนต์ ไม่รอช้าตามเราไปดูกันเลย…
ปัญหามลพิษทางอากาศ อีกหนึ่งปัญหาที่หลายคนจะต้องพบเจอเป็นประจำทุกวันและเป็นปัญหาที่หลีกเลี่ยงได้ยาก ไม่ว่าจะฝุ่น PM 2.5 ควันรถ ควันพิษ หรือกลิ่นไม่พึงประสงค์ต่าง ๆ เมื่อสูดดมเข้าสู่ร่างกายทุกวันก็อาจจะส่งผลต่อสุขภาพได้ โดยเฉพาะใครที่ต้องอยู่บนรถยนต์นานวันละหลายชั่วโมง หากภายในรถยนต์สกปรกหรือว่ามีอากาศไม่สะอาดบริสุทธ์ย่อมจะส่งผลเสียต่อสุขภาพได้ในระยะยาวและยังทำให้ความสุขในการขับขี่ลดลงด้วย ดังนั้นจึงควรมีเครื่องฟอกอากาศในรถ ช่วยกรองอากาศ ดักจับฝุ่น…
เมื่อพูดถึงอุปกรณ์ฉุกเฉินที่รถยนต์ทุกคันควรจะต้องมี หลายคนอาจนึกถึงอุปกรณ์ กล้องติดรถยนต์ ยางอะไหล่สำรอง ปั๊มลมพกพา สายพ่วงแบตเตอรี่ ไฟฉาย และอุปกรณ์อื่น ๆ แต่อีกอุปกรณ์หนึ่งที่สำคัญและควรต้องมีติดรถยนต์ไว้เลยอีกอย่างนั่นก็คือ ค้อนทุบกระจก เป็นอุปกรณ์ฉุกเฉินติดรถยนต์ที่ไว้ใช้ในกรณีฉุกเฉิน เช่น เมื่อรถประตูรถล็อกไม่สามารถเปิดออกได้ หรือรถยนต์เกิดอุบัติเหตุจมน้ำ…
พรมปูพื้นรถยนต์ อีกหนึ่งอุปกรณ์จำเป็นรถยนต์ทุกคันควรต้องมี! เพราะนอกจากจะช่วยเพิ่มความสวยงามและความหรูหราให้กับรถยนต์แล้ว ก็สามารถช่วยดักจับฝุ่นละอองและสิ่งสกปรกที่ติดมากับรองเท้า เพื่อช่วยให้การขับขี่รถยนต์เป็นไปอย่างปลอดมากยิ่งขึ้น รวมถึงป้องกันการลื่นเวลาก้าวเท้าเข้าสู่ตัวรถยนต์ หากไม่มีผ้ายางรองพื้นรถยนต์หรือพรมรถยนต์ก็จะทำให้ในรถมีฝุ่นและสิ่งสกปรกต่าง ๆ นอกจากนี้ยังช่วยถนอมพื้นรถด้านในให้ดูสะอาดอีกด้วย ซึ่งปัจจุบันพรมปูพื้นรถยนต์มีด้วยกันหลากหลายรูปแบบ ทำให้ผู้ใช้งานรถยนต์มีตัวเลือกมากขึ้น และบทความนี้ Shopee อยากมาจะบอกถึงความสำคัญและประโยชน์ของพรมรถยนต์ วิธีการเลือก…
ใครบอกว่าไปสวนสัตว์ต้องแต่งตัวธรรมดา เตรียมตะลุยสวนสัตว์กับ 7 ลุคสุดปังที่จะทำให้คุณกลายเป็นแฟชั่นนิสต้าตัวแม่! พร้อมบอกเคล็ดลับการแต่งตัวไปสวนสัตว์ให้เหมาะกับกิจกรรมต่าง ๆ ในสวนสัตว์ เพื่อการเคลื่อนไหวได้คล่องตัวในทุกโซน พร้อมสนุกไปกับการผจญภัยในโลกของสัตว์แบบไม่มีอะไรมาขวางกั้น! คู่มือแต่งตัวไปสวนสัตว์อย่างไรให้คล่องตัว 1. หลีกเลี่ยงสีสันฉูดฉาด: เช่น สีแดง เนื่องจากสีที่สดใสฉูดฉาดอาจดึงดูดความสนใจของสัตว์…
ในช่วงฤดูฝนหรือเวลาที่เกิดน้ำท่วมฉับพลัน บ้านเรือนและทรัพย์สินมักเสี่ยงต่อการถูกน้ำท่วมได้ง่าย ๆ การมีอุปกรณ์ป้องกันน้ำท่วมที่เหมาะสมจึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้คุณสามารถปกป้องทรัพย์สินและลดความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นได้ แน่นอนว่าการป้องกันน้ำท่วมนั้นสามารถเตรียมการได้ตั้งแต่เนิ่น ๆ และไม่ควรเตรียมตัวในวินาทีสุดท้าย เพราะหากไม่ได้เตรียมตัวไว้ และอยู่ในพื้นที่เสี่ยง ค่าเสียหายที่เกิดขึ้นอาจจะสูงกว่าค่าใช้จ่ายที่ลงทุนไปกับการซื้ออุปกรณ์ป้องกันน้ำท่วม ดังนั้น ในบทความนี้ Shopee Blog จะมาแนะนำ…