สิวขึ้นหลังก็เหมือนกับสิวอื่น ๆ ทุกประการ เพียงแต่จะมีขนาดใหญ่ขึ้นและอยู่ได้นานขึ้น เนื่องจากรูขุมขนที่บริเวณแผ่นหลังมีขนาดใหญ่ ทำให้การอุดตันของสิ่งสกปรก น้ำมันส่วนเกิน แบคทีเรีย และเซลล์ผิวที่ตายแล้ว เกิดขึ้นได้ค่อนข้างง่ายและเร็วกว่า จึงอาจทำให้หลายคนรู้สึกกลุ้มใจเพราะเป็นสิวที่หลังมักหายช้าและเรื้อรัง จนทำให้ขาดความมั่นใจเวลาที่ต้องการใส่เสื้อเพื่อโชว์หลังของสาว ๆ เราจึงได้รวบรวมเคล็ดลับและวิธีการรักษาสิวที่หลังเพียงไม่กี่ขั้นตอน ที่จะสามารถทำให้สิวเหล่านั้นหายไป และแน่ใจได้ว่าสิวที่หลังของคุณจะไม่มีวันกลับมาอีกแน่นอน
สิวที่หลังรักษาอย่างไร ทำตามขั้นตอนเหล่านี้ไว้ สิวหายแน่นอน
1. วิธีรักษาสิวที่หลัง
1.1 รักษาสิวที่หลังด้วยยาทา
การใช้ยาเฉพาะที่กับผิวหนังโดยตรงเป็นตัวเลือกแรกในการรักษากรณีที่มีสิวหลังเล็กน้อยถึงปานกลาง แนะนำให้ใช้ผลิตภัณฑ์ที่มี Benzoyl Peroxide หรือกรดซาลิไซลิก เป็นส่วนผสมหลักทาที่หลังในบริเวณที่เป็นสิว จะสามารถลดการติดเชื้อแบคทีเรียระดับเล็กน้อยถึงปานกลางได้อย่างมีประสิทธิภาพภายในเวลาไม่กี่สัปดาห์หลังการใช้เป็นประจำ สำหรับคนที่มีความไวต่อสารเคมี ให้เลือกความเข้มข้น 10% ก็เพียงพอ นอกจากนี้ครีม Retinoid แบบยาทาทุกวันก่อนนอน ก็สามารถให้ผลลัพธ์ที่เห็นได้ภายใน 4-8 สัปดาห์ สำหรับผู้ที่เป็นสิวรุนแรง หรือมีสิวที่หลังเยอะมาก แต่อย่างไรก็ตามควรระวังในการออกแดดและสวมเสื้อผ้าที่เหมาะสมตลอดระยะเวลาการรักษา เนื่องจากเรตินอยด์จะเพิ่มความไวต่อรังสียูวีที่ผิวหนัง
1.2 ใช้ยาปฏิชีวนะ
ในคนที่เป็นสิวที่หลังแบบรุนแรง หรือเป็นสิวที่หลังเยอะมากรวมถึงซีสต์และก้อนสิว วิธีรักษาสิวที่หลังแพทย์จะใช้ยาปฏิชีวนะเพื่อฆ่าเชื้อแบคทีเรียและลดการอักเสบ และอาจต้องใช้เวลา 2 ถึง 6 เดือนในการรักษา อาจเป็นการเลือกใช้ยาคุมกำเนิดและยาอื่น ๆ ที่มีผลต่อฮอร์โมนสำหรับผู้หญิง เพราะยาเหล่านี้จะช่วยลดการผลิตน้ำมันโดยต่อมไขมันในผิวหนัง แต่ยาคุมจะไปขัดขวางการตกไข่จึงอาจไม่เหมาะหากคุณยังเป็นวัยรุ่น นอกจากนี้แพทย์ยังอาจเลือกใช้ยาปฏิชีวนะในช่องปากแทน เช่น เตตราไซคลีน ที่สามารถช่วยล้างการติดเชื้อที่ฝังรากลึกและไม่สามารถเข้าถึงได้ด้วยยาเฉพาะที่ โดยตัวยาชนิดนี้จะไปกำจัดแบคทีเรียที่ทำให้เกิดสิวจากภายใน ทำให้สิวหลังค่อย ๆ ดีขึ้นและหายในที่สุด
1.3 รักษาด้วยวิธีธรรมชาติ
อีกหนึ่งวิธีรักษาสิวที่หลัง คือ ใช้น้ำส้มสายชูแอปเปิ้ลไซเดอร์ (ACV) 1 ส่วนต่อน้ำ 2 ส่วน ผสมให้เข้ากันแล้วใส่ขวดสเปรย์ จากนั้นฉีดให้ทั่วบริเวณหลังที่เป็นสิว จะช่วยทำให้สิวแห้งและลดการเกิดสิวได้โดยการควบคุมค่า pH และแบคทีเรียของผิวหนัง หรือดื่ม ACV 2 ช้อนโต๊ะผสมกับน้ำหนึ่งแก้วทุกวันเพื่อทำความสะอาดภายในร่างกายก็ได้เช่นกัน
2. วิธีดูแลและป้องกันสิวที่หลัง
2.1 อาบน้ำทุกครั้งที่เหงื่อออก
การอาบน้ำหลังจากเหงื่อออกและใช้น้ำยาทำความสะอาดสูตรอ่อนโยนจะสามารถช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดสิวที่หลังได้ ยิ่งหากคุณคือคนรักสุขภาพที่ชอบออกกำลังกาย ควรอาบน้ำทันทีหลังออกกำลังกายทุกครั้งเพื่อหลีกเลี่ยงสิ่งสกปรกและเหงื่อที่สะสมจากการซึมผ่านผิวหนังและก่อให้เกิดสิว นอกจากนี้เรายังสามารถลดรูขุมขนที่อุดตันเซลล์ผิวที่ตายแล้ว ด้วยการขัดผิวอย่างอ่อนโยนสัปดาห์ละ 2-3 ครั้งขณะอาบน้ำ แต่ควรหลีกเลี่ยงการขัดถูแรง ๆ เพราะอาจทำให้ผิวที่เป็นสิวเกิดการอักเสบหรือระคายเคือง
2.2 เลือกเสื้อผ้าให้เหมาะสม
เสื้อผ้าบางประเภทสามารถกระตุ้นให้เกิดสิวได้ และชุดออกกำลังกายที่รัดรูปนั้นจะมีความเสี่ยงในการเกิดสิวหลัง เพราะเสื้อผ้าที่รัดรูปสามารถดันน้ำมันหรือแบคทีเรียให้ลึกเข้าไปในรูขุมขน และแรงเสียดทานจากชุดออกกำลังกายที่รัดรูป เช่น สปอร์ตบราหรือเลกกิ้ง อาจทำให้รูขุมขนระคายเคืองและทำให้เกิดรอยแดงได้ ควรเลือกสวมเสื้อผ้าหลวม ๆ เช่น ผ้าฝ้าย หรือผ้าที่มีการซับหรือระบายอากาศได้ดี และหลวมกว่าผ้าสแปนเด็กซ์ เนื่องจากผ้าใยสังเคราะห์อาจทำให้สิวรุนแรงขึ้นโดยการดักจับน้ำมันและความชื้นที่เกิดจากการขับเหงื่อระหว่างออกกำลังกาย
2.3 เปลี่ยนแชมพูและครีมนวดผม
หากคุณใช้แชมพูหรือครีมนวดผมที่มีส่วนผสมของซิลิโคน ลองเปลี่ยนมาใช้แชมพูและครีมนวดผมที่ไม่ก่อให้เกิดการอุดตันแทน และขณะสระผมควรดูแลอย่าให้แชมพูไหลลงมาด้านหลังขณะอาบน้ำ โดยการพลิกผมไปด้านหน้าหากคุณมีผมยาว แล้วก้มหัวเพื่อล้างออก เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้แชมพูและครีมนวดผมตกค้าง และล้างออกให้สะอาดทุกครั้งก่อนออกจากห้องน้ำ วิธีนี้จะช่วยลดการเป็นสิวที่หลังได้
2.4 เลือกใช้โลชั่นแทนการใช้ครีม
แม้ว่าครีมจะให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวของเราได้มากกว่า แต่ก็มีเนื้อสัมผัสที่หนักกว่าและมีปริมาณน้ำมันมากเช่นเดียวกัน หากเป็นในช่วงที่อากาศร้อนควรใช้โลชั่นมากกว่าครีมเพราะมีปริมาณน้ำมันน้อยกว่า จึงทำให้ผิวเกิดการอุดตันน้อยลง รวมถึงเลือกทาครีมกันแดดที่มีเนื้อบางเบา แห้งเร็ว เช่น เนื้อฟลูอิด เป็นต้น
2.5 ซักและเปลี่ยนผ้าปูที่นอนเป็นประจำ
หนึ่งในสาเหตุของการที่สิวขึ้นหลังนั้นมาจากผ้าปูที่นอนที่สกปรกและหมักหมมไปด้วยแบคทีเรีย เพื่อรักษาสิวที่หลังให้ได้ผล ควรซักและเปลี่ยนผ้าปูที่นอน ปลอกหมอน และผ้าขนหนูทุกสัปดาห์ เพื่อล้างน้ำมันที่สะสมและเซลล์ผิวที่ตายแล้วที่ออกมาจากร่างกายของเรา
2.6 กินอาหารที่เป็นมิตรกับผิว
อะไรที่ดีต่อใจก็ยังดีต่อผิวด้วยเช่นกัน ดังนั้น เพื่อการดูแลไม่ให้เกิดสิวที่หลัง ควรเลือกกินอาหารที่ดีและสร้างสมดุลให้กับผิว เช่น ผัก ผลไม้ เต้าหู้ ไข่ แซลมอน อโวคาโด อัลมอนด์ เป็นต้น และควรลดอาหารที่อาจเสี่ยงต่อการเกิดสิวได้ เช่น ผลิตภัณฑ์จากนม หรืออาหารที่มีไขมันสูงอย่างอาหารฟาสต์ฟู้ด และช็อกโกแลต
สิวที่หลังสามารถรักษาได้ง่ายและรักษาด้วยตนเองได้หากเป็นสิวเล็กน้อยถึงปานกลาง แต่ในกรณีที่สิวเกิดซ้ำและรุนแรงและไม่ตอบสนองต่อการรักษาและการดูแลตนเองข้างต้น แนะนำให้ปรึกษาแพทย์เพื่อรักษาด้วยการใช้ยาทาที่มีฤทธิ์แรงตามใบสั่งแพทย์หรือยาปฏิชีวนะชนิดกิน เพื่อจัดการกับสิวบนหลังได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น