หนังสือ The Power of Meaning : อะไรทำให้ชีวิตคนเรามีความหมาย ผู้เขียน Emily Esfahani Smith (เอมิลี่ เอสฟาฮานี สมิธ) ผู้แปล อรวรรณ คูหเจริญ นาวายุทธ สำนักพิมพ์ OMG books “เขียนได้อย่างงดงามและค้นคว้าอย่างจริงจัง อะไรทำให้ชีวิตคนเรามีความหมาย ชี้ถึงความโหยหาที่เราต่างมีร่วมกันถึงชีวิตที่มีความลึกและความสำคัญ ในวัฒนธรรมที่กรอกหูเราแต่เรื่องความสุข หนังสือที่เฉลียวฉลาดและอบอุ่นนี้นำทางเราสู่สิ่งสำคัญแท้จริง การอ่านหนังสือเล่มนี้คือประสบการณ์เปลี่ยนชีวิต” — SUSAN CAIN, author of Quiet “หนังสือที่ติดตรึงใจ ว่าด้วยการแสวงหาสิ่งหนึ่งซึ่งสำคัญกว่าความสุข ผู้เขียนเผยให้เห็นว่าทำไมความหมายจึงขาดหายไปจากชีวิตเรา และเราจะค้นพบมันได้อย่างไร; เขียนได้อย่างงดงาม อิงกับหลักฐานเชิงประจักษ์ อีกทั้งยังให้แรงบันดาลใจ นี่คือหนังสือที่ผมเฝ้ารอมานาน” — ADAM GRANT, author of Originals and Give and Take ; professor at the Wharton School . “คู่มือสู่การค้นพบความหมายในชีวิตที่ให้ความเข้าใจอย่างยิ่ง... ผู้เขียนเปลี่ยนความเข้าใจเราได้อย่างชวนคล้อยตามว่า ชีวิตที่ดีนั้นประกอบขึ้นจากอะไรบ้าง” — PUBLISHERS WEEKLY . “หนังสือที่มีพลังและเขียนอย่างงดงามเล่มนี้ ร้อยเรียงงานวิจัยทางจิตวิทยาที่ทันสมัย เรื่องเล่าชีวิตผู้คนที่กระทบใจ รวมถึงความเข้าใจอันลุ่มลึกจากงานวรรณกรรมที่ยิ่งใหญ่ เข้าเป็นเนื้อเดียวกัน เพื่อนำเสนอประเด็นที่มีน้ำหนักยิ่งว่า กุญแจสู่ชีวิตที่ดีคือการค้นพบและสร้างความหมายขึ้นในชีวิต” — BARRY SCHWARTZ, author of The Paradox of Choice ; emeritus professor of psychology, Swarthmore College . “อะไรทำให้ชีวิตคนเรามีความหมาย คือการเชื้อเชิญที่ทรงพลัง ให้เรามีชีวิตที่ไม่เพียงแต่มีความสุข หากยังเปี่ยมด้วยจุดมุ่งหมาย ความรู้สึกผูกพัน และการข้ามพ้นตัวตน ผู้เขียนผสมผสานงานวิจัยที่เป็นวิทยาศาสตร์และความเข้าใจทางปรัชญา เข้ากับเรื่องราวกระทบใจของคนธรรมดาที่ใช้ชีวิตอย่างมีความหมายลึกล้ำ เพื่อตอบคำถามเร่งด่วนที่สุดแห่งการดำรงอยู่ของคนเราได้อย่างน่ายินดี เชี่ยวชาญ และให้แรงบันดาลใจ” — EMMA SEPPÄLÄ, author of The Happiness Track ; Science Director, Stanford University’s Center for Compassion and Altruism . “เปี่ยมความเข้าใจและวางไม่ลง ในโลกที่ดูเหมือนติดข้องอยู่ระหว่างการหาความสุขแบบไม่อั้น กับการแบ่งแยกฝักฝ่ายแล้วตีกัน หนังสือเล่มนี้คือการท้าทายที่มาถูกเวลา” — PROSPECT (UK) “ระหว่างที่ฉันทำวิจัยเพื่อเขียนหนังสือเล่มนี้ แก่นเรื่อง (theme) สี่ประเภทได้ปรากฏขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า ระหว่างการพูดคุยกับบุคคลต่างๆ ทั้งผู้ที่ใช้ชีวิตอย่างมีความหมายและผู้ที่ยังแสวงหาความหมาย แก่น เหล่านั้นยังปรากฏในคำนิยาม ‘ชีวิตที่มีความหมาย’ ของทั้งอริสโตเติลและนักจิตวิทยาหลายท่านที่กล่าวถึงในบทนำ.... ฉันยังได้พบแก่นเหล่านั้นในการวิจัยด้านสังคมศาสตร์แนวใหม่เกี่ยวกับชีวิตที่มีความหมาย และเรื่องว่าเราจะเข้าถึงความหมายนั้นได้อย่างไร และฉันยังพบในผลงานด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นปรัชญา วรรณกรรม ศาสนา และวัฒนธรรมสมัยนิยม ทั้งในหลักธรรมคำสอนทางพุทธศาสนา ในคตินิยมข้ามพ้นตัวตนแบบอเมริกัน และในนวนิยายและภาพยนตร์” “แก่นหลัก (pillars) ของความหมายนั้นอาจแบ่งออกเป็นสี่ประเภท ได้แก่ ความรู้สึกผูกพันเป็นส่วนหนึ่งของกันและกัน (belonging) จุดมุ่งหมาย (purpose) การเล่าเรื่อง (storytelling) และการข้ามพ้นตัวตน (transcendence)” #หนังสือ #Waldorf #thepowerofmeaning #OMGBooks